ตอนที่ 755 กลับบ้านเถอะ!
ขณะที่จอมพลซื่อไห่เสียชีวิต ราชาเก้าแสงก็พบจุดจบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ต่อให้มารสัมฤทธิ์ฟ้าจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพไม่ได้มาสมทบจ้าวปีศาจโบราณผู้คลั่งแค้นก็คงไม่ยอมไว้ชีวิตชาวเผ่าเก้าแสงแน่นอน เพื่อฮุบเอาสมบัติและผลประโยชน์อื่นๆถึงกับทรยศหักหลังพันธมิตรเพื่อปกปิดความจริงปิดปากพยานรู้เห็นกรรมชั่วที่ตนก่อไว้ในอดีต เผ่าเก้าแสงทรยศต่อมังกรปีศาจทรยศต่อเฟ่ยเหวินหลี และในที่สุดก็ทรยศต่อจ้าวปีศาจโบราณ..นี่ไม่ใช่เพราะจ้าวปีศาจโบราณน่ากลัวกว่าสองคนแรก แต่โอกาสเวลาและฝ่ายตรงข้ามไม่แข็งแกร่งเหมือนสองคนก่อน ครั้งนี้เผ่าเก้าแสงเผชิญคู่ต่อสู้ที่ฝ่ายพวกเขามีฝีมือเหนือกว่าห่างไกลทั้งยังประมาทเย่ว์หยางอย่างร้ายแรง...
จักรพรรดินีฟ้าตายทันที ราชาเก้าแสงกำลังจะเดินตามรอยนางพบจุดจบอย่างน่าอนาถ
ถ้าผู้เฒ่าซื่อไห่เสาหลักของเผ่าเก้าแสงล้มลงเผ่าเก้าแสงจะไม่มีทางกลับมายังจุดนี้ได้อีก
“จงตายซะเถอะ”
จ้าวปีศาจโบราณโบกมือเรียกนาวามรณะที่ได้รับความเสียหายและมีพลแจวเรือเผ่ากระดูกที่ได้รับบาดเจ็บหนักพาโยวจินที่ได้รับบาดเจ็บหนักไปยังหลุมดำ
โยวจินพยายามดิ้นรนเพื่อหลบหนีจากหลุมดำอย่างสิ้นหวัง
ร่างของเขาถูกตรึงอยู่ในโลงศพที่ตอนนี้อยู่ใกล้หลุมดำและเขาปฏิเสธจะเข้าไป
นาวามรณะอับปางก่อนและสูญเสียพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัน ชั่วขณะหนึ่งไม่มีการรับประกันว่าโยวจินจะถูกส่งไปยังมิติหลุมดำมรณะหรือไม่
หลุมดำเริ่มหดขนาดเล็กลงๆและจ้าวปีศาจโบราณเอื้อมมือไปฉีกเพื่อขยายหลุมดำด้วยความโกรธและกระชากโลงศพและพยายามยัดเข้าไปในหลุมดำโยวจินจะแนบร่างกับโลงศพประหลาดและดีดหนีออกห่างจากหลุมดำไปหมื่นเมตร อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาหลุดเป็นอิสระจากอสูรกรงเล็บกระดูกมรณะหมัดของมารสัมฤทธิ์ฟ้าก็พุ่งมาถึง เขาต่อยกระแทกโลงประหลาดอย่างหนักหน่วงด้วยพลังของมารสัมฤทธิ์ฟ้าทำให้โลงเปิดออก
จักรพรรดิมังกรใช้เท้าย่ำใส่โลงพิศวงของโยวจินจนโยวจินกระเด็นออกมาจากโลง
จักรพรรดิใต้พิภพใช้มือที่ใช้งานได้ข้างเดียวระดมโจมตีหนักหน่วง
โยวจินถูกไล่โจมตีหลบหนีจนเหนื่อยล้า
ในท้องฟ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรวมพลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่อยู่นานและบรรจุเข้าในดาบเทพจักรพรรดิอวี้และฟันลงในดาบเดียว
อีกด้านหนึ่งการต่อสู้ระหว่างหลี่ผานกับลี่เยี่ยนใกล้จะจบลงเต็มที
พลังนักรบในตอนแรกเมื่อเทียบกับเผ่าเก้าแสงหลี่ผานจะเหนือกว่าลี่เยี่ยนเล็กน้อย แต่ภายใต้สนามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียได้จำกัดขีดความสามารถของเขาไว้ เขาไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งใดจริงสิ่งใดเท็จไม่สามารถใช้พลังของเขาบุกฝ่าออกมาจากสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ได้ อย่าว่าแต่ยังมีละอองผงหลอนปราสาทของผีเสื้อเมามายและเสน่ห์กร่อนวิญญาณของนางพญาซัคคิวบัส
ยังไม่ต้องพูดถึงพลังกฎฟ้าของนางเซียนหงส์ฟ้าไม่ต้องพูดถึงทานตะวันอมฤตของเจ้าเมืองโล่วฮัว แค่พลังของอาหมันและพลังอสูรเทพของอาหงก็เพียงพอจัดการหลี่ผานได้
ฮุยไท่หลาง แมงป่องดาวและดาบเทาเถี้ย(ดาบที่แปลงร่างเป็นอสูรได้) ทั้งสามลอบโจมตีอย่างจับทางไม่ได้
รูปแบบการรบ นึกจะหยุดก็หยุด
ไม่มีพฤติกรรมที่จับทางได้
ในสายตาของพวกมันศัตรูที่ดีที่สุดก็คือศัตรูที่ตายแล้ว
ละอองมอมประสาทของผีเสื้อปีศาจของอี้หนาน,ทักษะเสน่ห์กร่อนวิญญาณของนางพญาซัคคิวบัส และทักษะธรรมชาติพิษของเย่ว์ปิงพิษของแมงป่องดาว พลังแสงฉายของทานตะวันอมฤต พลังกฎฟ้าของนางเซียนหงส์ฟ้าหลี่ผานนักรบยอดฝีมือของเผ่าเก้าแสงไม่สามารถทนรับได้ เขาซมซานหนีเข้าไปในสนามพลังศักดิ์สิทธิ์ของเสวี่ยอู๋เสียแต่เขาไม่สามารถหนีออกมาจากสนามพลังนั้นได้อีกต่อไป ภูตเพลิงฟ้า ตั๊กแตนมัจจุราชราชสีห์เพลิงทองซิมบ้าผลัดกันเข้าโจมตี ในที่สุดหลี่ผานบาดเจ็บจนไม่อาจตอบโต้ได้ ร่างเขาถึงขีดจำกัดจนไม่อาจทนต่อไปได้
“อะฮู้ววววว!”
ฮุยไท่หลางเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าปีศาจล้างโลกขนาดยักษ์ตวัดกรงเล็บใส่หลี่ผานอย่างรุนแรงจนหลี่ผานไม่สามารถทรงตัวอยู่
เมื่อหลี่ผานล้มลงมันก้มลงและงับเขาไว้ในปากยักษ์เตรียมจะกลืนเขาทั้งเป็น
หลี่ผานรู้สึกว่าความตายกรายมาถึงเขาดิ้นรนด้วยพลังอึดสุดท้าย
ง้างปากฮุยไท่หลาง
ความเจ็บปวดค่อยหายไปจากภายในร่าง
เย่ว์หยางที่อยู่ด้านข้างไม่สามารถคงสภาพร่างแปลงของฮุยไท่หลางได้นานมันใช้หางเคียวปีศาจตวัดฟันใส่หลี่ผานอย่างดุดัน อาหมันที่อยู่ห่างออกไปใช้ค้อนสายฟ้าทลายเมฆอาวุธชั้นศักดิ์สิทธิ์ร่วมประสานโจมตีหวดร่างหลี่ผานร่วงลงพื้น
หลี่ผานกระเด็นห่างออกไปหลายร้อยเมตร
เมื่อเขาไม่สามารถดิ้นรนต่อสู้ได้ทานตะวันอมฤตปั่นหมุนและฟันร่างหลีผาน
หลี่ผานนักรบฝีมือดีของเผ่าเก้าแสงร่างขาดกลางตั้งแต่ศีรษะจนถึงเท้า
หลี่ผานตายเขาเป็นนักรบคนสุดท้ายของเผ่าเก้าแสง
เพราะก่อนที่เขาจะตายโยวจินที่ดูเหมือนจะรอดถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตัดศีรษะไปก่อน หลี่ผานจึงเป็นคนสุดท้าย
ฮุยไท่หลาง เทาเถี้ย ซิมบ้าแมงป่องดาวฟ้า ภูตเพลิงฟ้า ตั๊กแตนมัจจุราชและอสูรอื่นรุมแยกสังขารของหลี่ผานอย่างโกรธเกรี้ยว ใช้เวลากินนาทีเดียวหลี่ผานก็แทบไม่เหลืออะไรมีแต่แขนทองที่ดาบเทพจักรพรรดิอวี้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตัดไว้
“แขนทั้งสองนี้ไม่เลวเอาไว้ให้ปีศาจดอกหนามคลุ้มคลั่ง และปีศาจดอกหนามควันบริวารของตั่วตั่วไว้หลอมรวมทั้งสองถ้าได้รับพลังจากแขนทั้งสองนี้พวกเขาคงไม่ยอมให้ศัตรูฉีกกระชากพวกเขาเป็นชิ้นได้ง่ายๆ แน่ เสวี่ยอู๋เสียรู้สึกว่าปีศาจดอกหนามทั้งสองบริวารของตั่วตั่วยังขาดพลังต่อสู้ไปบ้าง ในการต่อสู้ก็ไม่สามารถช่วยบดบังป้องกันได้ ตอนแรกเริ่มต่อสู้ศัตรูรวมพลังเล่นงานพวกมันก่อนจนแตกหัก โชคดีที่พวกมันเป็นส่วนขยายมาจากร่างอสูรพิทักษ์ ตราบเท่าที่มีเวลาฟื้นฟูตัวเอง มันสามารถฟื้นฟูตัวเองจนมีสภาพเหมือนตอนเริ่มสู้ได้
“เมี้ยววว!” ฮุยไท่หลางถือว่าตัวเองเป็นลูกพี่ใหญ่ มันยกนิ้ว (กรงเล็บเท้า) สนับสนุนเห็นพ้องด้วย
มันไม่ขอรับหน้าที่ใช้ตัวเป็นโล่บังแน่แม้ว่าการกลืนกินหลอมรวมกับแขนทั้งสองจะมีประโยชน์ก็ตาม แต่มันชอบวิธีสู้แบบฉาบฉวย
ก่อนหน้านี้เหมือนว่ามันชอบเคียงบ่าไหล่ออกไปสู้ต่อหน้าทุกคนคอยต้านทานเป็นโล่เนื้อที่น่าสงสารให้กับทุกคน ดาบเทาเถี้ยไม่มีเงื่อนไขความคิดอะไรทั้งนั้นเจ้านายตัดสินยังไงมันก็ทำตามนั้น แมงป่องดาวฟ้ามันรู้สึกเสียดายแขนทั้งสองอยู่บ้าง แขนนั้นสามารถต้านรับดาบเทพที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนฟันใส่ได้ แม้ว่าจะเป็นพลังปราณกระบี่ก็ตาม แต่แขนนั้นก็สามารถบอกได้ว่าเป็นสมบัติที่เหลือเชื่อจริงๆ
แมงป่องดาวฟ้าเพิ่งเข้าร่วมเป็นสมาชิก มันยังไม่มีสถานะสำคัญ
เมื่อฮุยไท่หลางลูกพี่ใหญ่เห็นด้วย มันก็คงไม่มีอะไรจะคัดค้านได้
นอกจากนี้แมงป่องดาวฟ้าไม่ต้องการเปลี่ยนไปทำหน้าที่คอยเอาตัวบังเป็นโล่มันไม่มีความสามารถด้านนี้ มันไม่ยอมทำหน้าที่เจ็บตัวแทนคนอื่นแน่ มันไม่ใช่ปีศาจดอกหนามที่ไม่มีวันตาย..
ภูตเพลิงฟ้าไม่มีความสนใจในแขนทองสำหรับนางแล้วแขนเหล่านี้ยังไม่บริสุทธิ์เท่าหินผลึกเพลิง ตั๊กแตนมัจจุราชไม่สนใจของที่ฟันของมันกัดแทะไม่เข้า ทั้งสองไม่เคยแม้แต่จะแลแขนทอง หน้าที่ส่งแขนทองเป็นหน้าที่ของซิมบ้าน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่ม
ซิมบ้าพานางราชสีห์ทองเมียของมันมาช่วยขนย้ายแขนกลับไป
นอกจากนี้มันยังให้เด็กหญิงแพนดาขี่หลังขณะบินผ่านไปปรากฏในที่ไกล
เย่ว์หยางคือผู้ชนะอย่างแท้จริง
จ้าวปีศาจโบราณลอบถอนหายใจเบาๆ และทุบผลึกเทเลพอร์ตจากไปอย่างหงอยเหงา เหมือนผู้กล้าที่กลับบ้านมือเปล่าเมื่อราชาของพวกเขาตาย เสวี่ยอู๋เสียไม่ได้ขัดขวางจ้าวปีศาจโบราณไม่ให้จากไป แม้แต่มารฟ้าสัมฤทธิ์ จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพจับตามองนักสู้หอทงเทียนเมื่อหลายหมื่นปีแล้วผู้จากออกไปเงียบๆ
บางทีจ้าวปีศาจโบราณคงจะถอนตัว และจะตื่นขึ้นมาในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคตข้างหน้า
ไล่ตามหาร่างของเขา หรือร่างเทพไล่ตามหาพลังที่ยิ่งหญ่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แน่นอนก็คือ
ในยุคของเย่ว์หยาง เขาจะไม่มีวันปรากฏตัวอีก
เหมือนเมื่อตอนที่เขาหลับลึกเพื่อหลีกเลี่ยงจักรพรรดิไร้เทียนทานจิ๋วซื่อเหมือนตอนที่เขาหลีกเลี่ยงนางพญาผู้พิชิต นางพญาเฟ่ยเหวินหลี เหมือนกับที่หนีจักรพรรดิอวี้.. จ้าวปีศาจโบราณจะหลับอีกครั้งหนึ่ง เพราะนี่คือยุคของเย่ว์หยาง!
เทียบกับในอดีต ครั้งนี้จ้าวปีศาจโบราณถอนตัวและเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเดียวดายตามลำพัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรุ่นหลังอย่างเย่ว์หยางอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ในประวัติศาสตร์ และมีแนวโน้มว่าจะเปิดแดนล่มสลายอแห่งทวยเทพได้สำเร็จ แต่ยังคงพังสลายความหวังในใจของจ้าวปีศาจโบราณด้วยเช่นกัน
จักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อถูกผนึกไว้ ขณะที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีก็เหมือนกันและจักรพรรดิอวี้ตายในการต่อสู้
อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นกับเย่ว์หยาง
มีสัญญาณบ่งบอกว่าเขาคือเมล็ดพันธุ์ที่เผ่าอมตะบูรพาหว่านเอาไว้ในหอทงเทียนเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีอะไรสามารถหยุดได้หลังจากงอกแล้ว และจะต้องเติบโตขึ้นเป็นต้นไม้ใหญ่! ไม่มีใครพูดอย่างนี้ แต่จ้าวปีศาจโบราณรู้ว่ายุคสมัยของเขาผ่านไปแล้ว เทียบกับจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสงสิ่งที่โชคดีก็คือบนเส้นทางต่อสู้กับเย่ว์หยาง เขาไม่ถึงจุดจบและไม่ต้องตายในที่สุด ก่อนที่เย่ว์หยางจะเติบโตเป็นไม้ใหญ่ เขายังมีโอกาสถอนตัวแทนที่จะอยู่เป็นหินหยั่งเท้าให้เย่ว์หยางก้าวหน้าเหมือนอย่างจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสง
ไปดีกว่า
ไปจากหอทงเทียน
บางทีนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้มองย้อนกลับ เพราะเวลาของเขาผ่านไปแล้ว...
ก่อนจะเข้าประตูมิติเทเลพอร์ต จ้าวปีศาจโบราณหันกลับมามองกลุ่มคนที่สวมกอดกันหัวเราะร่าเริงดีใจเขาลากเท้าจากไปอย่างเดียวดาย
เมื่อเขาจากไป มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพและคนอื่นลอบถอนหายใจ เจ้าปีศาจโบราณแม้ตัวเขาจะบาดเจ็บหนักแต่เขาก็ยังเป็นนักสู้รุ่นอาวุโส เพียงแต่ไม่น่านับถือ ถ้าไม่มีเย่ว์หยาง แม้แต่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีก็คงยากจะเอาชนะนักสู้รุ่นอาวุโสผู้มีชื่อเสียงและความอดทนนี้ได้
เมื่อถึงตอนนี้การต่อสู้จบลงอย่างแท้จริง
คัมภีร์อัญเชิญของแต่ละคนลอยขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
แสงเลื่อนระดับพลังและความก้าวหน้าฉายรวมกันนับสิบๆสายพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า
เสวี่ยอู๋เสียถือคัมภีร์แห่งสัจธรรมยืนอยู่ในกลางสนามรบ จนถึงตอนนี้นางค่อยๆ หลับตาผ่อนคลายได้ปล่อยให้พลังตนเองพุ่งขึ้นเกินขีดจำกัดและลดลงมา
ตุ้บ
คัมภีร์แห่งสัจจะร่วงลงบนพื้นมีเพียงเปล่งพลังงานมันมีพลังแค่ด้อยกว่าสมบัติชั้นเทพเท่านั้น
และเสวี่ยอู๋เสียถูกคนผู้หนึ่งกอดประคองไว้
เป็นเย่ว์หยางนั่นเอง
เขามองดูเสวี่ยอู๋เสียผู้มีสายตาอ่อนล้าฝืนยิ้มให้เย่ว์หยางก่อนที่นางจะหมดสติไป
“นี่, ขอยืมไหล่เจ้าอิงหน่อยได้ไหม” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็อ่อนล้าเช่นกัน นางอาศัยดาบเทพจักรพรรดิอวี้ช่วยพยุงตัวก่อนจะเดินมาถึงที่ข้างตัวเย่ว์หยางและโอบไหล่เย่ว์หยาง ไม่รอให้เย่ว์หยางได้พูดนางก็ล้มหมดสติต่อหน้าเขา เย่ว์หยางรีบยื่นมือประคองร่างที่อ่อนนุ่มของนาง อดฉวยโอกาสไม่ได้ที่จะใช้มือลูบบั้นท้ายนางใบหน้านางแม้จะหมดสติไปแล้วแต่คงไม่ได้ยินคำพูดที่เด็ดเดี่ยวและแฝงไปด้วยความรัก “แม่เสือสาว! ดูเจ้าเหนื่อยไม่น้อยเลย, งั้นกลับบ้านกันเถอะ!”