ตอนที่ 750 นี่พลังใครกันแน่?
นานเท่าใดไม่มีใครรู้
ยักษ์ทองในท้องฟ้าคงอยู่ได้ชั่วโมงหนึ่ง
พลังกดดันกดจักรพรรดิชื่อตี้จนโงหัวไม่ขึ้นจ้าวปีศาจโบราณฟื้นคืนกำลังเหมือนเดิมได้แล้ว
จักรพรรดิชื่อตี้พยายามควบคุมตนเองไม่ให้สั่นแต่อดพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว “น่ากลัวเหลือเกิน...ข้า ข้าจะไม่กลับมาหอทงเทียนอีกแล้ว...”คำพูดเหล่านี้พรั่งพรูออกมา เขารู้สึกเหมือนกับนักโทษที่ได้รับการนิรโทษกรรมหลังจากพึมพำเสร็จ มือขวาของเขาถือผลึกเทเลพอร์ตด้วยอาการสั่นเทา พอเขาทุบผลึกได้ก็รีบเทเลพอร์ตจากไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะจากไปเขาอดหันไปมองยักษ์ทองที่กำลังจางหายไปจากท้องฟ้ามิได้
สายตาเต็มไปด้วยอาการหวาดกลัว
จ้าวปีศาจโบราณยังไม่จากไป
เมื่อเขาเห็นราชาเก้าแสงถูกตั่วตั่วและอิคคาไล่ล่าโจมตีและมีสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงและสาวกิเลนปิงหยินตามมาสมทบนัยน์ตาของเขาแวววาวด้วยความรู้สึกเกลียดและแค้นจนเข้ากระดูก
“เจ้าพวกบริวารโง่เขลาของข้า ข้าจะต้องทำลายราชาเก้าแสงเพื่อพวกเจ้าให้ได้!”
ด้วยความโกรธแค้นชิงชังอยู่เต็มอก จ้าวปีศาจโบราณไม่ได้ร่วมทำร้ายราชาเก้าแสง เขากลับไปที่ปากทางเข้าหุบเขาแม่น้ำขาวเพื่อเตรียมกำจัดคนของเผ่าเก้าแสงที่ปากทางเข้าหุบเขาแม่น้ำขาว เขารู้ว่าราชาเก้าแสงตกอยู่ภายใต้การผนึกกำลังโจมตีของสตรีทั้งสี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวกิเลนที่เป็นชาวเผ่าอมตะบูรพา นางคงทำหน้าที่ควบคุมจัดการด้วยตนเองและราชาเผ่าเก้าแสงจะไม่มีทางรอดชีวิตได้ และด้วยพลังคลุ้มคลั่งของยักษ์ทอง แน่ใจได้ว่าจักรพรรดินีฟ้าจะต้องตายแน่นอน ตอนนี้เมื่อเห็นว่าราชาเก้าแสงคงไม่รอดกลุ่มเผ่าเก้าแสงพวกเดียวที่ยังเหลือก็คือ ผู้เฒ่าซื่อไห่ โยวจิน หลี่ผาน
ถ้าจักรพรรดินีฟ้าไม่ได้ฆ่าเย่เซียวจื่อกวง อาเป่ยต่อหน้าจ้าวปีศาจโบราณ อย่างนั้นจ้าวปีศาจโบราณคงไม่แค้นถึงขนาดนั้นเป็นแน่
เมื่อเย่เซียวบริวารผู้ภักดีที่สุดถูกจักรพรรดินีฟ้าบังคับให้ระเบิดตัวเอง
เมื่อจื่อกวงผู้มีพรสวรรค์มากที่สุดถูกบังคับให้ต้องตายอย่างไร้ประโยชน์ต่อหน้าเขา จ้าวปีศาจโบราณไม่สามารถลืมการกระทำนี้ได้ เขาเกรงที่จะอยู่ในหุบเขาแม่น้ำขาวต่อไปเป็นไปได้ว่าเย่ว์หยางและจื้อจุนอาจจะโกรธและไม่ปล่อยให้เขารอดชีวิต อย่างไรก็ตามจ้าวปีศาจโบราณยอมถูกเย่ว์หยางฆ่าดีกว่าเห็นศัตรูหนีรอดชีวิตไปได้
ฆ่าล้างตระกูล!
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน!
นี่คือความคิดเดียวที่อยู่ในใจของจ้าวปีศาจโบราณในตอนนี้!
แท่นบูชายัญแตกร้าวเป็นรอยนิ้วเท้าของยักษ์ทองประทับเอาไว้มองเห็นได้ชัดและแท่นบูชายัญที่ไม่สามารถทำลายตอนนี้ได้ฉีกแยกจากแรงย่ำของยักษ์ทอง ยังโชคดีที่สิ่งมีชีวิตที่ฐานรอยแตกยังรอดชีวิตอยู่ได้ เย่ว์หยางนอนอยู่บนแท่นบูชายัญเพียงแต่ตอนนี้เขาหมดสติ ไม่รู้ตัวหลังจากที่ระเบิดพลังโกรธออกไป
หลังจากระเบิดพลังครั้งใหญ่เย่ว์หยางอาละวาดย่ำยีศัตรู ตอนนี้ร่างของเขาล้มลงและหลับโดยอัตโนมัติ
ในเหตุการณ์นี้ไม่ทราบว่าชุดของเขาสลายเป็นผุยผงไปเมื่อใดและตอนนี้เขานอนหลับเหมือนเด็กทารกที่ไม่รู้จักอาย จื้อจุนถึงกับเบือนหน้าหนีไปทางอื่นและดึงผ้าคลุมจากในแหวนเก็บของมาคลุมตัวเขา
จื้อจุนคิดว่าการต่อสู้เสร็จสิ้นแล้ว
ไม่มีใครคิดว่าเศียรราหูจะแตกทำลายเป็นเสี่ยงๆ อสูรพ่อมดทั้งสองมีควันสีดำออกตามตัว
พวกเขายังไม่ตายก็แสดงว่าจักรพรรดินีฟ้ายังไม่ตาย... พลังเจตจำนงราชันย์ยังไม่สามารถฆ่าจักรพรรดินีฟ้าหรือนี่?จักรพรรดินีฟ้าน่ากลัวและทรงพลังมากนางสามารถต้านทานพลังกฎสวรรค์ของยักษ์ทองได้อย่างไรคิดว่าจักรพรรดินีฟ้าคงมีสมบัติวิเศษอย่างอื่นอีก ที่มิด้อยไปกว่าเศียรราหู
อสูรพ่อมดทั้งสองได้รับบาดเจ็บหนักแทบตายพวกเขาพยายามข่มอาการบาดเจ็บ และใช้เล็บที่แหลมคมกรีดหน้าอกจนเลือดฉีดพุ่ง และใช้เลือดเขียนยันต์อักษรรูนบนพื้นด้วยกัน
“ฉัวะ!”
สายตาของจื้อจุนเย็นชาเล็กน้อย
นางกังวลว่าจักรพรรดินีฟ้าจะโจมตีเย่ว์หยางจึงยืนคุ้มกันอยู่ข้างๆ
นางเงื้อมือขวาที่ถืออาวุธเทพร่างมนุษย์ซึ่งเป็นร่างแปลงของนางฟ้าปีกโลหิตต่อหน้าอสูรพ่อมดทั้งสอง
เพื่อเป็นการตอบแทนยักษ์ทอง จื้อจุนใช้ปราณกระบี่ฉายพลังขึ้นสู่ท้องฟ้าแฝงไปด้วยพลังปณิธานราชันย์ไร้ต่อต้านและพลังทำลายล้างที่น่ากลัวในทันทีนั้นปราณกระบี่ตัดร่างอสูรพ่อมดจนขาดครึ่ง แม้ว่าพวกเขาจะน่ากลัว แต่บัดนี้จวนเจียนใกล้ตายเมื่อเผชิญกับจื้อจุนที่ไร้ต่อต้านพวกเขาไม่สามารถต้านรับได้ และร่วงลงกับพื้น
หือ?
จักรพรรดินีฟ้าอยู่ไหน?
อสูรพ่อมดทั้งสองถูกนางฆ่าทันทีแต่ทำไมนางถึงไม่ปรากฏ?
จื้อจุนมองหาจนทั่วพื้นที่ปรักหักพังในหุบเขาแม่น้ำขาวตั้งใจหาจักรพรรดินีฟ้าผู้เจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอก เพื่อจัดการนางในขณะที่ยังอ่อนแอ
นอกจากสามคนแล้วค้นเจอชิ้นส่วนเศียรราหูเล็กน้อยที่ยังมีร่องรอยพลังเวทชั่วร้ายเหลืออยู่ไม่กี่จุดทั่วทั้งหุบเขาแม่น้ำขาวไม่มีอะไรผิดปกติไม่มีสิ่งมีชีวิตที่สี่รอบแท่นบูชายกเว้นตัวนาง เย่ว์หยางและเสี่ยวเหวินหลี
อสูรพ่อมดถูกฟันร่างขาด จักรพรรดินีฟ้ายังไม่ตายแน่นอนนางไปซ่อนตัวอยู่ที่ใด
หรือว่านางฉวยโอกาสหลบหนี?
ไม่
เป็นไปไม่ได้ที่จักรพรรดินีฟ้าจะหลบหนีไปอย่างนี้ ยักษ์ทองทำร้ายวิญญาณนาง นางคงบาดเจ็บใกล้ตายอยู่แน่และจะต้องต่อสู้อย่างจนตรอก
ใจของจื้อจุนเหมือนกับมีกระแสไฟฟ้านางสามารถคาดเดาคำตอบคำตอบได้อย่างถูกต้อง แต่ไม่สามารถหาจักรพรรดินีฟ้ามายืนยันเหตุผล
ทันใดนั้นร่างของจื้อจุนสะท้านเล็กน้อย
นางมองดูบนท้องฟ้า
นางพบว่าในที่สูงลิบมีจุดสว่างอยู่จุดหนึ่ง
มองผิวเผินเหมือนกับเป็นดาวกระพริบที่ไม่มีอะไรพิเศษ แต่จื้อจุนถึงกับสีหน้าเปลี่ยน
หลายวินาทีต่อมาดูเหมือนดาวธรรมดานี้จะขยายขนาดใหญ่ขึ้นหลายวินาทีต่อมาจากดาวขนาดธรรมดากลายเป็นดาวที่สว่างเจิดจ้าขึ้นและกลายเป็นดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ที่สว่างเจิดจ้าราวกับกลางวัน
มองตรงขึ้นไปในท้องฟ้า
หงส์เพลิงอมฤตกำลังบินร่ายรำเป็นวงกลม
จื้อจุนพบว่าในพื้นที่สูงลิบ ดูเหมือนจะมีสิ่งมีชีวิตที่งดงามกำลังกางปีกบินร่ายรำด้วยลีลาที่งดงาม ผิวท้องฟ้าแตกออกกลายเป็นหลุมดำ อีกในไม่ช้าดาวหางนี้จะกระแทกชนกับบันไดสวรรค์ชั้นห้าและทำลายทุกอย่าง แต่พอเห็นมันหายไปในแรงดูดของหลุมดำ ฉากภาพที่เห็นแม้แต่จื้อจุนก็ยังอดรู้สึกตื่นตะลึงและถอนหายใจมิได้ พลังที่ทำลายโลก
เมื่อไหร่ข้าจะมีความสำเร็จระดับนี้ได้?
ไม่!
ทันใดนั้นจื้อจุนพบว่าดาวหางข้างหน้านั้นปล่อยให้หลุมดำดูดกลืน จื้อจุนพบว่าบนผิวดาวหางครอบคลุมไปด้วยรอยกระบี่นับไม่ถ้วน
หรือจะกล่าวอีกอย่างหนึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มีคนใช้ดาบฟันจนแตก และจากนั้นก็จับโยนใส่เข้าไว้ในหลุมดำ! จือจุนใช้ทักษะตาทิพย์มองดูตลอดหุบเขาแม่น้ำขาว นางเห็นภาพที่น่าตกใจอีกครั้ง ก่อนหน้านี้ดาวหางใหญ่มหึมาที่ทำให้ผู้เห็นรู้สึกจนใจดาวหางนั้นกำลังจะชนบันไดสวรรค์ชั้นห้าแต่ถูกกระบี่ตัดขาดกระจายเป็นชิ้น
นี่พลังอะไรกันแน่?
เกรงว่าจะมีแต่เทพเจ้าในตำนานจึงจะทำเช่นนี้ได้?
จื้อจุนตะลึงมองดูดาวหางทำลายล้างที่ค่อยๆถูกกัดกินหายเข้าไปในหลุมดำ เว้นแต่นางแล้วก็ไม่มีใครรู้ได้ แม้ถ้าไม่มีหลุมดำคอยสกัดดูดกลืน สิ่งนี้สามารถทำลายดาวหางได้ทั้งหมดก็จริงแต่เศษซากอุกกาบาตอาจแตกกระจายพุ่งชนพื้นและเผาผลาญทุกอย่าง
ลำแสงเพลิงอมฤตหายกลับเข้าไปในตัวเย่ว์หยางอย่างรวดเร็ว
เหมือนกับว่าไม่ได้ปรากฏขึ้นมา
จื้อจุนไม่สามารถสงบใจได้อยู่นานนางมองเย่ว์หยางพยายามมองหาคำตอบบนใบหน้าของเขา แต่เขาหลับสนิท ไม่มีคำตอบ
เวลาผ่านไปนานจื้อจุนจึงค่อยยิ้มออก “บางทีเจ้าเองก็คงไม่รู้ตัวว่าอสูรพิทักษ์ที่เจ้ามีเป็นแบบไหน ตอนแรกข้ายังคิดว่าแม่สาวกิเลนจะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์เสียอีก ใครจะคิดกันเล่าว่าเกินคาดคิดข้าไปมาก ต้องบอกว่าเจ้าเป็นเด็กโชคดีจริงๆจักรพรรดินีราตรีพูดถูก เจ้าเป็นผู้สืบทอดหอทงเทียนที่โชคชะตาลิขิตไว้แล้วจริงๆ... เมื่อมองไปข้างหน้าความรุ่งเรืองของบรรพบุรุษจะต้องกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งอืม..”
ที่ไกลออกไปจักรพรรดินีราตรียังคงหันกลับมาจ้องดูท้องฟ้า
เดิมทีดาวหางขนาดมหึมาใกล้จะชนพื้นพิภพและระเบิดทำลายล้างพื้นที่บริเวณนั้นทั้งหมด
ทุกคนหยุดต่อสู้
ในชั่วพริบตากลับมีหลุมดำปรากฏและกลืนดาวหางยักษ์หายไปการต่อสู้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาพบทั้งความสุขความเศร้าในเวลาไล่เลี่ยกัน
ตลอดทั้งร่างนางมีโล่รัศมีดารา และทางช้างเผือกเกิดขึ้นด้านบนเหนือศีรษะนางนางพูดด้วยเสียงดังไพเราะดังดนตรีทิพย์กับผู้เฒ่าซื่อไห่ “ผู้เฒ่าซื่อไห่! ท่านยังจะสู้ต่ออีกหรือ?ก่อนที่เผ่าเก้าแสงของท่านจะทำลายข้อห้ามผู้เยาว์จะขอใช้กฎสวรรค์โจมตีตัดสินผลแพ้ชนะกันในท่าเดียว!”
“ข้าแพ้แล้ว, ข้าจะฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้ ขอให้ปล่อยผู้เยาว์ของเผ่าเรา, โยวจิน! พาคนในเผ่ากลับไปได้ไหม?” ผู้เฒ่าซื่อไห่ค่อยๆ คุกเข่า
เขารู้ว่าจักรพรรดินีราตรีจะโอนอ่อนผ่อนตาม แต่ไม่ใช่เพราะเขาแข็งแกร่งกว่านางหรือว่าเขาก้าวหน้า
เมื่อการต่อสู้ดำเนินมาถึงที่สุด
แต่นางต้องการฉวยความได้เปรียบและไม่ต้องการสูญเสียความมั่นใจต่อไปนางจะยืนยันต่อสู้ในสงครามของนางเอง เขารู้ว่าเขาไม่สามารถอาศัยโชคหลบหนีได้เขาแค่ปรับตัวเข้าตามสถานการณ์ เขาเพียงแต่หวังว่าจักรพรรดินีราตรีจะเปิดทางให้เผ่าเก้าแสงได้หนีไป พวกเขาอาจถูกล้างตระกูล! แต่ความปรารถนาของเขาต้องพินาศเพราะความโกรธพิโรธของนักสู้อย่างจ้าวปีศาจโบราณมีมากเกินกว่าจะคลี่คลาย ความเกลียดและเพลิงแค้นของจ้าวปีศาจโบราณสามารถเผาผลาญโลกและสวรรค์ได้ จ้าวปีศาจโบราณคำรามลั่น “ซื่อไห่, โยวจิน, หลี่ผาน จงมอบชีวิตพวกเจ้ามาทุกคน... จักรพรรดินีฟ้าฆ่าบริวารผู้โง่เขลาของข้าข้าขอสาบานว่าถ้าไม่ทำลายเผ่าพวกเจ้าทุกคน ข้าไม่ขอเป็นปีศาจ!”