บทที่ 43 - ซองปรุงรส
4/7
บทที่ 43 - ซองปรุงรส
เห็นท่าทีประหลาดใจของถังซิงเยว่กับพวก เฉินซีดูพึงพอใจมาก
ฮึ่ม! เจ้าพวกวิสัยทัศน์สั้น ตอนนี้รู้ซึ่งถึงพลังอันแข็งแกร่งของเจ้านายข้าแล้วหรือยัง!
เฉินซีถึงกับจิตนาการไปไกล ว่าหากจิตวรยุทธขั้นเก้าของหยางเฉินเฉิน ‘หงสาเยือกแข็ง' ถูกเปิดเผย เกรงว่าพวกเขาจะตกใจยิ่งกว่านี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่ได้รับอนุญาตจากหยางซือเล่ย เขาทำได้เพียงปิดปากไว้
รอไม่นาน หยางซือเล่ยก็ชำแหละงูหางเงินเสร็จ
สัตว์ตัวนี้มีเนื้อไม่มาก เลยแยกได้เพียงห้าพวงไม้เท่านั้น
หยางซือเล่ยยืนอยู่ข้างกองไฟ สีหน้าท่าทีสงบไม่เร่งรีบ แต่นิ้วมือทั้งสิบของเขากำลังหมุนพวงเนื้องูอย่างช่ำชอง
ใช้เวลาไม่นาน ผิวชั้นนอกของเนื้องูที่เคลือบไปด้วยซอส ภายใต้เปลวไฟ มันค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง ความร้อนเริ่มส่งกลิ่นฉุนของเนื้อย่าง
ไม่ว่าจะเป็นการย่างปลาหรือเนื้อสัตว์อื่นๆ นอกจากการควบคุมอุณหภูมิแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเครื่องปรุงรส และหยางซือเล่ยมีซองบรรจุซอสเผ็ดจากเสบียงกรัง ดังนั้นช่วยให้รสชาติดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
โครก คราก~!
เฉินซีและผู้อารักขาทั้งสี่ไม่แม้จะกระพริบตา มองไปยังพวงเนื้อย่างเสียบไม้ที่กำลังหมุน ลูกกระเดือกในคอขยับขึ้นลงตามเสียงกลืนน้ำลาย
กลิ่นหอมของซอสเนื้อย่าง ทำให้ใบหน้าของถังซิงเยว่เริ่มแดง อยากชิมแทบขาดใจ
อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุด หยางซือเล่ยไม่สนใจพวกเขา มอบเนื้องูเสียบไม้เหล่านี้ให้เฉินเฉินบุตรสาวแต่เพียงผู้เดียว
เห็นอย่างนี้ ถังซิงเยว่ เฉินซี และคนอื่นๆ รู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่การแย่งอาหารจากเด็ก พวกเขาทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้จริงๆ
“อร่อยจัง! ที่แท้เนื้องูก็มีรสชาติเช่นนี้!”
หยางเฉินเฉินพูดทั้งๆที่กำลังเคี้ยวพวงเนื้องูย่าง เธอดูมีความสุขมาก แต่เมื่อเนื้อเหลือสองไม้ เด็กสาวก็นึกอะไรบางอย่างออก
“ท่านพ่อ นี่สำหรับท่าน”
เธอมอบพวงเนื้อเสียบไม้หนึ่งแก่หยางซือเล่ย แล้วเดินไปด้านหน้าถังซิงเยว่ ยิ้มแล้วพูดว่า “พี่สาวคนสวย ส่วนไม้นี้ให้ท่าน”
ถังซิงเยว่น้อมรับด้วยความยินดี “เฉินเฉินเจ้าช่างน่ารักจริงๆ”
สารภาพตามตรง เธอเป็นนักชิมอยู่แล้ว เริ่มกัดมันโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ใดๆ
ทันทีที่พวงเนื้อเข้าปาก หญิงสาวรู้สึกได้ถึงรสเผ็ดร้อนแรงที่ไม่อาจอธิบายได้พุ่งจี๊ดตรงไปยังสมอง
ดวงตาของถังซิงเยว่เป็นประกาย เธอรู้สึกว่าในขณะนี้ กระเพาะของตัวเองเป็นหลุมดำ สามารถกินอาหารได้อย่างไม่มีวันหมดสิ้น
หยางซือเล่ยกัดสองสามคำ พวงเนื้อก็หมดไม้
ในชีวิตก่อนเขาเคยผ่านการฝึกทหารภาคสนาม มีหลายครั้งที่จับงูได้และมาย่างกินกับพรรคพวก รสชาตินี้เขาเคยชินแล้ว จึงไม่มีท่าทีดูเอร็ดอร่อยเท่าถังซิงเยว่
“ข้าขอดูซองเครื่องปรุงที่เจ้าใช้ย่างเนื้อจะได้ไหม? เจ้าทำมันเองใช่หรือเปล่า?”
ดวงตาที่สวยงามของถังซิงเยว่หันมาเบาๆ มองไปยังหยางซือเล่ย อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “หากเป็นเช่นนั้น เจ้าช่วยขายสูตรปรุงรสนี้ให้ข้าได้หรือไม่?”
ในฐานะทายาทขอสมาคมการค้าว่านจิง ถังซิงเยว่ถูกปลูกฝังโอกาสทางธุรกิจที่เฉียบแหลมมาตั้งแต่เด็ก ในไม่ช้าก็พบถึงสาเหตุที่ว่าทำไมเนื้องูย่างและปลาย่างของหยางซือเล่ยถึงอร่อยกว่าที่เคยกินมา
“มันไม่มีสูตร แต่ถ้าเจ้าอยากซื้อ ข้าสามารถเตรียมซองปรุงรสให้ได้ เรื่องราคายินดีต่อรอง”
หยางซือเล่ยยิ้มอย่างมีเลศนัย เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าถังซิงเยว่กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ซองเครื่องปรุงรสสามารถแลกเปลี่ยนได้จากในร้านค้าของระบบเท่านั้น ฉะนั้นเรื่องไม่มีสูตร เขาไม่ได้โกหกจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของถังซิงเยว่ เธอคิดว่าหยางซือเล่ยจงใจเก็บงำสูตร เพราะสุดท้ายหากไม่มีสูตร แล้วจะผลิตมันได้อย่างไร?
เป็นไปได้ไหมว่าเขาอาจหามันมาจากแหล่งอื่น?
หยางซือเล่ยต้องการสร้างรายได้จากการเป็นคนกลางสินะ?
การคาดเดานี้ ยิ่งคิดถังซิงเยว่ก็ยิ่งพบว่ามีแนวโน้มมากขึ้น ลอบยิ้มในใจ “ด้วยความสามารถของสมาคมการค้าว่านจิง ข้าไม่กลัวหรอกว่าจะหาแหล่งที่มาของมันไม่เจอ!”