บทที่ 42 - ยิงงูพิษ
3/7
บทที่ 42 - ยิงงูพิษ
ถังซิงเยว่มองไปยังหยางซือเล่ย เอ่ยถามอย่างยิ้มแย้มว่า “ครั้งนี้เจ้าไปเมืองหลงเฟย อย่าบอกนะว่าเพราะต้องการเข้าร่วมงานแข่งล่าสัตว์?”
“เจ้าเดาได้ถูกแล้ว” หยางซือเล่ยตอบด้วยรอยยิ้ม เขาหยุดเล็กน้อยก่อนพูดต่อว่า “แต่ข้าไม่ได้รับเชิญ ไม่รู้ว่าทางตระกูลจะให้เข้าร่วมหรือไม่”
ได้ยินแบบนั้น ร่องรอยของความประหลาดใจฉายแววในดวงตาของถังซิงเยว่ ดูเหมือนว่าสถานะของหยางซือเล่ยในตระกูลหยางจะต่ำกว่าที่คิด ต่ำเสียจนไม่มีกระทั่งคุณสมบัติเข้าร่วมงานแข่งล่าสัตว์
“นี่มัน......เป็นไปได้ยังไง?!”
จู่ๆ เฉินซีที่อยู่ข้างๆเขาโพล่งขึ้นด้วยท่าทีไม่อยากเชื่อ
จากเหตุการณ์ทั้งสองวันที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่าเขาคือคนที่รู้ซึ้งถึงพลังรบของหยางซือเล่ยดีที่สุด
ไม่ว่าจะเย่หานจากทำเนียบยุทธชางเฉียง หรือโจรภูเขานับร้อยเมื่อครู่ ทั้งหมดล้วนถูกหยางซือเล่ยสังหารอย่างง่ายดาย
แล้วบุคคลที่ทรงพลังเช่นนี้ จะไม่ได้รับการยอมรับจากตระกูลหยางได้อย่างไร?
เมื่อคิดถึงเรื่องที่เจ้านายตัวเองถูกเมิน เฉินซีก็เริ่มขุ่นเคืองใจ “ด้วยความสามารถของนายน้อยหยาง แค่งานแข่งขันล่าสัตว์เมืองหลงเฟย ยังไงเขาก็ชนะเลิศได้”
เมื่อได้ยินแบบนี้ มุมปากของผู้อารักขาทั้งสี่ที่อยู่ใกล้ๆกระตุกเล็กน้อย พยายามเม้มปากไม่ให้หลุดหัวเราะ
แม้พวกเขาจะยอมรับว่าทักษะการทำอาหารของหยางซือเล่ยนั้นยอดเยี่ยม แต่ก็ไม่คิดว่าพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ของหยางซือเล่ยจะน่าประทับใจขนาดนั้น มิฉะนั้นคงไม่ถูกตัดสิทธิ์ว่าไม่มีคุณสมบัติเข้าร่วมงานแข่งล่าสัตว์หรอก
ที่ไม่หลุดขำออกมา เพราะเห็นแก่หนี้บุญคุณเล็กๆน้อยๆที่ได้กินปลาย่างหรอกนะ!
ถังซิงเยว่แอบส่ายหัว ดูท่าว่าเฉินซีผู้นี้น่าจะถูกหยางซือเล่ยล้างสมองไปเสียแล้ว
ไม่เพียงเต็มใจทำหน้าที่เป็นคนขับรถม้าเท่านั้น แต่ยังกล้าเอ่ยคำโง่ๆออกมา สงสัยจะป่วย
“ท่านพ่อ มีงู!”
อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นเอง หยางเฉินเฉินตะโกนขึ้น
หยางซือเล่ยลุกพรวด สายตาเพ่งมองเล็กน้อย แล้วก็เห็นงูหางเงินตัวหนึ่งสะท้อนกับแสงจากกองไฟ มันกำลังเลื้อยไปยังทิศทางของหยางเฉินเฉิน
งูหางเงินคือสัตว์ดุร้ายขั้น 1 แม้ระดับจะไม่สูงมาก แต่มีพิษร้ายแรง หากคนธรรมดาโดนกัด ไม่เกินหนึ่งก้านธูปไปเฝ้ายมบาลแน่นอน
ท่ามกลางช่วงเวลาฉุกละหุก หยางซือเล่ยเปิดใช้งานจิตวรยุทธปืนกล
ปัง ปัง ปัง ปัง !!!!!!
พริบตาที่จิตวรยุทธก่อตัวขึ้น ปากกระบอกปืนจ่อไปทางงูหางเงิน และเริ่มยิงอย่างบ้าคลั่ง เกิดเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง
เดิมจิตวรยุทธในขั้น 3 ก็มีพลังสังหารรุนแรงมากอยู่แล้ว ในพริบตา งูหางเงินตัวขาดเป็นท่อนๆจากการถูกยิงด้วยกระสุนพลังวิญญาณ
เห็นฉากนี้
ถังซิงเยว่และผู้อารักขาทั้งสี่ตัวแข็งทื่อ พวกเขาตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
ไม่นึกเลยว่าบุตรที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลที่พวกเขาดูแคลนในตอนแรก แท้จริงแล้วเป็นยอดฝีมือขอบเขตกระตุ้นชีพจร อีกทั้งยังครอบครองจิตวรยุทธอันแปลกประหลาด
นั่นมันจิตวรยุทธรูปแบบใดกัน?
“มีพ่ออยู่ด้วย เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
หยางซือเล่ยลูบหัวบุตรสาวที่กระโดดเข้ามาในอ้อมแขนของเขาอย่างอ่อนโยน
แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าจริงๆแล้วหยางเฉินเฉินไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด เด็กสาวมองไปยังงูหางเงินที่ถูกฆ่า กระพริบตาโตน่ารักของเธอ ร้องเบาๆว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่เคยกินเนื้องูมาก่อน ปรุงมันให้ข้าหน่อยได้ไหม?”
“เอ๋ ...?”
ได้ยินแบบนั้น หยางซือเล่ยอึ้งไปเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าเจ้าหนูน้อยคนนี้จะมีใจกล้าไม่เลว กระทั่งเนื้องูก็กล้ากิน
หยางซือเล่ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ตกลง พ่อจะทำพวงเนื้องูย่างให้เจ้า”
“เจ๋ง!!”
หยางเฉินเฉินปรบมืออย่างมีความสุข นั่งลงอย่างเชื่อฟัง รอด้วยความคาดหวัง
‘นี่เขาคือผู้ฉาวโฉ่ไร้ค่าจริงๆน่ะหรือ?’ มองไปยังหยางซือเล่ยที่กำลังใช้กริชลอกหนังงูหางเงิน ดวงตาที่สวยงามของถังซิงเยว่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ