บทที่ 40 - ปลาย่าง
1/7
บทที่ 40 - ปลาย่าง
“แล้วเจ้าล่ะ จะไปเมืองหลงเฟยด้วยหรือไม่?”
ถังซิงเยว่มองหยางซือเล่ย ในหัวย้อนนึกไปถึงความหลังก่อนที่หยางซือเล่ยจะถูกขับไล่ออกมา เขาก็เคยเป็นสมาชิกตระกูลหยางแห่งเมืองหลงเฟยมาก่อน
“ถูกต้องแล้ว” เฉินซียิ้มและตอบแทนหยางซือเล่ย สำหรับประเด็นนี้ เขาไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องปกปิดมัน
นอกจากนี้ งานแข่งล่าสัตว์ในเมืองหลงเฟยกำลังจะจัดขึ้น อีกทั้งนายน้อยเองก็เป็นบุตรชายของตระกูลหยาง ฉะนั้นการเดินทางครั้งนี้เรียกได้ว่าสมเหตุสมผล ช่วยขจัดความสงสัยได้เป็นอย่างดี
กลยุทธ์นี้สมบูรณ์แบบมาก!
ถึงจุดนี้ ดวงตาของเฉินซีที่มองหยางซือเล่ยดูเลื่อมใสยิ่งกว่าเดิม เขานึกว่าฝ่ายหลังคงคิดแผนการนี้ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ไม่มีฉุกใจสักนิดว่าทุกอย่างเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
และหยางซือเล่ยก็ไม่ได้ปฏิเสธ ปล่อยให้เข้าใจไปแบบนั้น และในตอนนั้นเอง
【ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ท่านได้รับภารกิจแบบสุ่มจากระบบ ต้องการรับหรือไม่?】
เสียงสังเคราะห์อิเล็กทรอนิกส์ของระบบดังขึ้นในใจเขา
หัวใจของหยางซือเล่ยเต้นไม่เป็นจังวะ ‘ต้องรับอยู่แล้ว!’
วินาทีถัดมา แผงม่านแสงที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็นปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาของหยางซือเล่ย
【เริ่มภารกิจแบบสุ่ม: เข้าร่วมงานแข่งขันล่าสัตว์เมืองหลงเฟย】
【เป้าหมาย: ใช้ปืนเพื่อคว้าอันดับหนึ่งในงานแข่งขันล่าสัตว์ ถือโอกาสนี้โฆษณา เพิ่มความนิยมอาวุธปืน 】
【รางวัล: 50,000 แต้มเสริมพลัง , ปลดล็อกสิทธิ์การซื้อปืนทั้งหมด】
เห็นรางวัลจากในข้อมูลภารกิจ อารมณ์ของหยางซือเล่ยเริ่มปั่นป่วน
ตอนแรกเขาไม่มีความตั้งใจว่าจะแวะกลับไปยังตระกูลหยาง แต่ด้วยรางวัลมากมายเช่นนี้ ดูท่าว่าคราวนี้คงต้องไปเยี่ยมเยือนถิ่นเก่า ไปอาศัยอยู่กับตระกูลหยางสักพักเสียแล้ว
คิดถึงเรื่องนี้ หยางซือเล่ยไม่มีความตั้งใจที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป เร่งเร้าเฉินซี “เหล่าเฉิน ออกเดินทางกันต่อเถอะ”
“ขอรับ”
เนื่องจากหนุ่มคนขับรถม้าถูกโจรฆ่าตาย ตำแหน่งนี้จึงถูกแทนที่โดยเฉินซีไปโดยปริยาย
“คุณหนูถัง พวกเราขอนำท่านไปก่อน ย่า——!”
เฉินซีกล่าวอำลา จากนั้นหยิบแส้ม้าขึ้นฟาด และควบมันออกไป
“นี่ ......”
เห็นภาพนี้ ถังซิงเยว่ตะลึงจนพูดไม่ออก เหล่าทหารอารักขาก็เช่นกัน
ควรรู้นะว่าเฉินซีคือนักประเมินสมบัติอันดับต้นๆของสภาหอการค้าจินไห่ ทุกวันได้ทำแต่งานสบายๆ ได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม
แต่ไม่คาดเลยว่าในตอนนี้ เขาจะเต็มใจยอมเป็นคนขับรถม้าให้คนอื่น และบุคคลอื่นที่ว่าคือขยะฉาวโฉ่ผู้มีแต่ชื่อเสียแห่งเมืองชิงหยาง
นี่มันยังไงกันแน่? ฮ๊าาาา!
....
หุบเขาหยุนหวู่มีพื้นที่ขนาดใหญ่มาก ยิ่งลึกเข้าไป หมอกก็ยิ่งหนาขึ้นเรื่อยๆ
แล้วอีกอย่างนี่เป็นเวลากลางคืน เลยปิดกั้นการมองเห็นอย่างสิ้นเชิง ไม่ง่ายที่จะเดินทางบนท้องถนน
ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา หยางซือเล่ยกับพวกไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาพื้นที่โล่งๆจอดพัก
ในเวลานี้ หยางเฉินเฉินก็ตื่นขึ้นจากการหลับใหลพอดีเช่นกัน สองมือเล็กๆลูบพุงน้อยๆ เธอยิ้มให้หยางซือเล่ยแล้วพูดว่า “ท่านพ่อ ข้าหิว”
“ได้สิ งั้นพ่อจะย่างปลาให้เจ้า”
หยางซือเล่ยตามใจบุตรสาว เขาขอให้เฉินซีหาไม้มา แล้วก่อกองไฟแบบง่ายๆ
จากนั้นหยิบปลาวิญญาณที่ซื้อจากในเมืองตอนกลางวันออกจากแหวนมิติ แต่ละตัวอ้วนและเนื้อนุ่มมาก
ปลาชนิดนี้ไม่ใช่ปลาธรรมดา พวกมันถูกเลี้ยงโดยป้อนหญ้าวิญญาณให้โดยเฉพาะ เนื้อจึงสดและนุ่ม ในโรงเตี๊ยมชื่อดังหลายแห่ง เป็นอาหารจานอร่อยที่เหล่าขุนนางชื่นชอบ
ต้องขอบอกว่า แหวนมิติในโลกใบนี้ มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บที่ดีเยี่ยม ผลการรักษาความสดน่าประทับใจกว่าตู้เย็นในชีวิตก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ปลาวิญญาณพวกนี้ตายตั้งแต่ตอนซื้อแล้ว ทว่าแม้ถูกเก็บไว้ในแหวนมิติเป็นเวลานาน เมื่อนำออกมา กลับยังสดใหม่เหมือนเดิม
ในขณะที่หยางซือเล่ยแอบยกย่องในใจ เขาได้ใช้ 1 แต้มเสริมพลังซื้อถุงเครื่องปรุงซอสรถเผ็ดจากหมวดเสบียงกรังของร้านค้าระบบ
หลังจากละเลงเครื่องปรุงรส หยางซือเล่ยก็วางปลาวิญญาณสามตัวลงเหนือกองไฟ
ค่อยๆหมุนรมควันอย่างช้าๆ
เห็นแบบนี้ ลึกๆในใจเฉินซีเกิดความผิดหวัง ตอนแรกเขาคิดว่าหยางซือเล่ยจะนำอาหารจานแปลกใหม่ที่สามารถช่วยเสริมความแข็งแกร่งแก่ร่างกาย ไม่นึกว่าสุดท้ายจะเป็นแค่การทำอาหารเอง
ปลาวิญญาณที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปนี้ เฉินซีกินจนเบื่อแล้ว และกระบวนการทำก็ง่าย ไม่มีอะไรมากไปกว่าการย่างจนสุก
อย่างไรก็ตาม แม้กระบวนการย่างจะเหมือนกัน แต่ปลาย่างที่ผ่านการปรุงโดยซอสรสเผ็ดจากเสบียงกรังของหยางซือเล่ย ไม่ใช่รสชาติเดียวกับที่พ่อครัวตามโรงเตี๊ยมปรุงแน่นอน
ในชั่วระยะเวลาสั้นๆ กลิ่นหอมแรงก็เริ่มโชยไปตามอากาศ ....