ตอนที่ 745 อาบเลือดสู้จักรพรรดินีฟ้า
จักรพรรดินีฟ้ากำลังมา
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา
เร็วเกินกว่าจะอธิบายถึงความเร็ว และทันทีที่ไปถึงก็มีมือกดอยู่เหนือศีรษะของจื้อจุนแล้ว
เย่ว์หยางตกใจอย่างหนักที่เขาไม่มีเวลาพอจะหยุดได้ ตอนนี้เขาพบว่าเขาไม่ได้ช้าแม้แต่วินาที โชคดีที่เขามักใช้พลังวิญญาณไว้ที่สนามพลังสร้างโลกขณะที่อันตรายที่สุด สนามพลังสร้างโลกส่งจื้อจุนเทเลพอร์ตมาอยู่ด้านหลังเย่ว์หยางทันที ปล่อยภาพลวงตาไว้เพื่อจงใจทำให้จักรพรรดินีฟ้าสับสน
สิ่งที่เย่ว์หยางคาดไม่ถึงก็คือจักรพรรดินีฟ้าไม่ยอมให้ภาพลวงตาทำให้สับสนนางตรงเข้าหาเย่ว์หยาง
ลูกไม้อย่างเดิม
นางเหยียดมือซ้ายและกดลงบนศีรษะของเย่ว์หยาง
ขณะนี้เองเย่ว์หยางรู้สึกตกใจไม่ด้อยไปกว่าตอนที่ราชาเก้าแสงรู้สึกเหมือนตอนที่จื้อจุนเล็งล็อคเป้าไว้
เขามีความรู้สึกถึงเงาแห่งความตายลึกลับยากจะหยั่งถึงปรากฏในใจของเขา เขารู้สึกสะท้านใจ จักรพรรดิชื่อตี้และจ้าวปีศาจโบราณรู้ชัดเจนมาตั้งแต่เริ่มต้นว่าคนที่จักรพรรดินีฟ้าต้องการฆ่าไม่ใช่จื้อจุน แต่เป็นเย่ว์หยาง จื้อจุนนั้นทรงพลังมากกว่าเย่ว์หยาง จะฆ่านางนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เย่ว์หยางแตกต่างออกไป เขาเป็นคนสำคัญที่ไม่ธรรมดา แต่ระดับนักสู้ยังห่างไกลจากจักรพรรดินีฟ้า แต่นี่คืออัจฉริยะที่ไม่สามารถสร้างขึ้นได้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จักรพรรดินีฟ้าต้องการฆ่าเย่ว์หยาง จื้อจุนนางก็ต้องการจะหยุด นางแค่ต้องปล่อยจื้อจุนให้ราชาเก้าแสง เพื่อทำให้นางไม่สามารถช่วยเย่ว์หยาง และค่อยฆ่าเย่ว์หยางให้ตาย
“ยายแก่น่ากลัวจริงๆ!” จักรพรรดิชื่อตี้รำพึง
แม้ว่าเขาจะไม่ชอบเย่ว์หยาง แต่เขาก็ไม่ชอบราชาเก้าแสงและจักรพรรดินีฟ้า
ความเป็นพันธมิตรระหว่างทั้งสองไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากการใช้ประโยชน์กันและกัน สำหรับจักรพรรดินีฟ้า การใช้ราชาเก้าแสงเป็นตัวล่อให้จื้อจุนต่อสู้ และจากนั้นก็ฆ่าเย่ว์หยาง ความเคลื่อนไหวที่อำมหิตเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงหัวใจที่อำมหิตของนาง
ราชาเผ่าเก้าแสงสำหรับจักรพรรดินีฟ้าแล้ว เป็นแค่เหยื่อล่อ เขาจะคิดยังไง?
เขาคิดว่า “เย่ว์หยางในวันนี้ จะเป็นความหวังในอนาคตข้างหน้า ถ้าเจ้าคิดว่าจักรพรรดินีฟ้าและราชาเก้าแสงจะใจดีแบ่งปันผลประโยชน์ให้พันธมิตรของเขาหลังจากเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพได้ นั่นเป็นความคิดที่ไร้เดียงสา!” นับประสาอะไรหลังจากเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพได้ จักรพรรดินีฟ้าก็ยังจะฆ่าราชาเก้าแสงได้เหมือนกัน นั่นเป็นเรื่องที่ยากจะพูดออกมา ถ้าพวกเขายังคงทำอย่างนี้ น่ากลัวว่าพวกเขาคงจะเดินตามรอยเย่ว์หยางเป็นแน่
จ้าวปีศาจโบราณก็ยังไม่มองโลกในแง่ดี
ด้วยการลงมือที่หนักหน่วงไร้น้ำใจของจักรพรรดินีฟ้า ทำให้นางเป็นสุดยอดฝีมือที่พิเศษ
นี่เป็นความจริง แต่ก็กลายเป็นเรื่องสำคัญ ตัดสินใจฆ่าให้เรียบ จักรพรรดินีฟ้าทำเช่นนี้ นั่นคือเหตุผลธรรมดาที่สุด
แต่นี่จะทำให้หัวใจของมนุษย์เย็นชา จ้าวปีศาจโบราณมองอย่างสงบ ในสายตาของเขา จักรพรรดินีฟ้าไม่สนใจราชาเก้าแสงซึ่งถูกจื้อจุนตรึงไว้ในอากาศ และแม้ว่าฝ่ามือของจักรพรรดินีฟ้าไม่ใหญ่ แต่จ้าวปีศาจโบราณรู้สึกว่า ฝ่ามือนี้สามารถบดขยี้ภูเขาได้จนราบ สามารถกดใส่สมุทรและทำให้แผ่นดินแยก! ถ้าเปลี่ยนเป็นเขา เขาคงไม่สามารถรับได้ จ้าวปีศาจโบราณต้องการเห็นจริงๆ ว่าเย่ว์หยางศัตรูในชีวิตของเขาจะต้านรับฝ่ามือนี้ของจักรพรรดินีฟ้าได้หรือไม่?
ถ้าสามารถรับฝ่ามือนี้ได้ เจ้าเด็กนี่จะเป็นยังไง?
“อา!” เงาแห่งความตายครอบงำเย่ว์หยาง
สนามพลังสร้างโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งพลังงานและเจตจำนงทั้งหมดรวมเข้าเป็นวงแหวนเวทขนาดใหญ่ วงจักรนิรันดร
อย่างไรก็ตามฝ่ามือของจักรพรรดินีฟ้าทั้งที่ติดอยู่ภายใต้ขีดจำกัดของวงจักรนิรันดร แต่ก็ยังสามารถตอบโต้เจตจำนงของเย่ว์หยางได้ และกดลงพื้นช้าๆ และสัมผัสหน้าผากเย่ว์หยางเงียบๆ
เย่ว์หยางรู้สึกเจ็บปวดเหลือทนและรู้สึกเหมือนกับว่าศีรษะของเขาจะระเบิด
พลังน่ากลัวเหลือเกิน
ภายใต้พลังเจตจำนงของจักรพรรดินีฟ้า พลังป้องกันของวงจักรนิรันดร
สิ่งที่ทำให้จักรพรรดิชื่อตี้และจ้าวปีศาจโบราณประหลาดใจก็คือ เย่ว์หยางไม่หนีเหมือนอย่างที่เคยเป็น ต้องทราบไว้ก่อนว่าเย่ว์หยางผู้นี้เจ้าเล่ห์เป็นที่สุด ถ้าการต่อสู้มีความเสี่ยงเล็กน้อย เย่ว์หยางจะเผ่นหนีออกไปไกลทันที ตอนนี้เขาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของฝ่ามือจักรพรรดินีฟ้า ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางไม่ถอยเท่านั้น แต่เริ่มสู้ตอบโต้ด้วยตัวเอง แปลก! หรือว่าเจ้าเด็กนี่รู้ว่าชีวิตน้อยๆ ไม่มีความแน่นอน แล้วฝืนใจสู้?
เสี่ยวเหวินหลีที่อยู่ด้านหลังขยายขนาดกลายร่างเป็นปีศาจอสรพิษทองสูงหลายร้อยเมตรภายใต้แรงหนุนส่งของพลังกฎสวรรค์
ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น แม้แต่ตั่วตั่วและอิคคา ร่างของทุกคนมีการเปลี่ยนแปลงไปแตกต่างกัน
ตั่วตั่วกลายเป็นนางพญาดอกหนามมงกุฎทองสูงร้อยเมตร และสะบัดกลีบดอกหนามสีทองนับไม่ถ้วนบังคับไม่ให้ราชาเก้าแสงโจมตี ร่างของอิคคาไม่ได้ใหญ่ขึ้นมาก แต่มีขนาดสิบเมตรแต่เล็งปืนทองขนาดเท่าถังไปที่ราชาเก้าแสง
เสี่ยวเหวินหลีเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจอสรพิษ แต่นางยังไม่ได้โจมตี
นางหันกลับมา
ดวงตาสีทองกลมโตจ้องมองจักรพรรดินีฟ้า
พลังกฎสวรรค์ อสูรเทพและทักษะแฝงเร้นพันธนาการสามอย่างหลอมรวมกันคือสิ่งเดียวที่เย่ว์หยางใช้ต้านรับจักรพรรดินีฟ้า
บนพื้นมีวงจักรนิรันดร ในท้องฟ้ามีพลังพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลี”
ฝ่ามือของจักรพรรดินีฟ้าที่สามารถทลายภูผา
ก็หยุดนิ่งจนได้!
“พอแล้ว!” จื้อจุนกระโดดเข้ามาวางมือซ้ายบนไหล่ของเย่ว์หยาง และด้วยพลังกฎสวรรค์ในร่างของเขาและพลังสนับสนุนของปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ จื้อจุนใช้อาวุธเทพร่างมนุษย์ฟันตอบโต้จักรพรรดินีฟ้า เย่ว์หยางไม่เคยผนึกพลังร่วมกับนาง และก่อนนั้นเย่ว์หยางและจื้อจุนไม่รู้ว่าจักรพรรดินีฟ้าตั้งใจจะกำจัดพวกเขาทันที เป้าหมายการต่อสู้ของพวกเขาจึงเปลี่ยนไปชั่วคราว
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางกับจื้อจุนไม่เคยผสานร่วมสู้มาก่อน แต่ก็เหมือนซ้อมมือกันมาเป็นพันครั้ง
เหมือนกับเป็นคนๆ เดียวสู้ตอบโต้
เย่ว์หยางไม่เคยลองใช้ร่างคนอื่นถ่ายส่งผ่านปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ แม้แต่สองสาวพี่น้องอาเหยาอาหยูก็ยังต้องมีการปรับตัว แต่ตอนนี้เขาส่งพลังปราณผ่านร่างจื้อจุนผ่านไปให้อาวุธเทพร่างมนุษย์ในมือของจื้อจุน แต่การส่งผ่านพลังกลับทำได้สมบูรณ์
และยังมีส่วนคล้ายกับการฝึกผสานพลังคู่รักที่เขาฝึกกับเสวี่ยอู๋เสียได้สำเร็จ แต่ก็เข้ากับพลังและปณิธานของจื้อจุนได้
กระบี่ฟันใส่มือ
จักรพรรดินีฟ้าต้องเคลื่อนไหวหลีกเลี่ยงอย่างช่วยไม่ได้
อย่างไรก็ตามด้วยพลังกฎสวรรค์, อสูรเทพและทักษะแฝงเร้นพันธนาการ กลับตรึงจักรพรรดินีฟ้าไว้ในอากาศ ถ้าจักรพรรดินีฟ้าไม่เข้าไปในวงจักรนิรันดรและสนามพลังสร้างโลก บางทีนางอาจหลบได้...”
อ๊า..
เมื่อจักรพรรดินีฟ้ากรีดร้อง อาวุธเทพร่างมนุษย์ของจื้อจุนก็ฟันเข้าที่ไหล่ของจักรพรรดินีฟ้าเป็นบาดแผลยาวตั้งแต่ทรวงอกถึงท้องน้อย”
ในกระบี่เดียวจื้อจุนดูเหมือนอยู่ในสภาพอ่อนแรงและทรุดร่างลง
เย่ว์หยางเตรียมถอยพร้อมกับจื้อจุน แต่จักรพรรดินีฟ้าโจมตีตอบโต้ทันที
มีแถบผ้าสายหนึ่งพุ่งออกมาจากแขนเสื้อของจักรพรรดินีฟ้าซึ่งมีความคมยิ่งกว่าปราณกระบี่ แถบผ้าอ่อนหยุ่นเป็นอาวุธสังหารที่น่ากลัวที่สุดเมื่ออยู่ในมือของจักรพรรดินีฟ้าซึ่งเป็นนักสู้ระดับจักรพรรดิแดนสวรรค์ แถบผ้ายิงตรงใส่หน้าผากจื้อจุนตั้งใจจะทุ่มพลังโจมตีเต็มที่ เย่ว์หยางใช้สายแพรนักษัตรปลาคู่เพื่อยึดจับสายผ้าที่ยิงออกมาจากแขนเสื้อของจักรพรรดินีฟ้า นางไม่ยินยอมรามือใช้สายแพรม้วนตัวผ่านผ้าแพรปลาคู่โจมตีเข้าที่ใบหน้าด้านซ้ายของเย่ว์หยางสร้างบาดแผลที่น่ากลัวจนโลหิตไหล
สายผ้าแพรอ้อมคอของเย่ว์หยางและพุ่งตรงหาจื้อจุนที่ด้านหลังของเขา
จื้อจุนซึ่งอยู่ในสภาพหมดพลังไม่สามารถหลบหลีกพลังนี้ได้
นอกจากนี้ถ้านางแยกหนีไป สายผ้าจะถูกดึงกลับทันที ถึงตอนนี้คอเย่ว์หยางอาจถูกจักรพรรดินีฟ้ากระชากหักก็ได้ ต่อให้คอเย่ว์หยางไม่หัก แต่นางสามารถบีบรัดคอเขาจนตายได้สำเร็จ
จื้อจุนยื่นมือออกคว้าสายผ้าแพรไว้ ขณะที่สายผ้าแพรรัดคองามของนางผ่านเย่ว์หยาง จื้อจุนพุ่งไปข้างหน้าและชนที่หลังของเย่ว์หยาง อาวุธเทพร่างมนุษย์แทงผ่านช่องว่างแขนและหัวใจเย่ว์หยางอย่างหวาดเสียวและแทงเข้าที่ฝ่ามือของจักรพรรดินีฟ้า
เย่ว์หยางปล่อยให้จื้อจุนชนกระแทกหลังพุ่งและพุ่งเข้าหาจักรพรรดินีฟ้าราวกับกระสุนปืน
จักรพรรดินีฟ้าเงื้อมือเตรียมประทับฝ่ามือใส่หัวใจของเย่ว์หยาง แต่เย่ว์หยางใช้เลือดกลั่นกระบี่แดงเสี่ยวเลี่ยน กระบี่กุยจ้างกระบี่ยะเยือกในมือซ้ายและขวาแทงใส่ไหล่ หลังและแขนของจักรพรรดินีฟ้า
“บัดซบ!”
จักรพรรดินีฟ้ากรีดร้องอย่างเหลืออด
ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีทองเจิดจ้าอย่างรวดเร็วและใช้เนตรมหาประลัยยิงใส่เย่ว์หยาง
จื้อจุนดึงร่างที่บาดเจ็บสาหัสของเย่ว์หยางและเอาตัวเองบังข้างหน้าอย่างกล้าหาญ พลังสองสายที่คมกล้ามากกว่าธนูเป็นหมื่นเท่ายิงทะลุร่างนางได้อย่างง่ายดายจากนั้นแทงเข้าร่างเย่ว์หยางที่มีเกราะเพลิงอมฤตป้องกันและทะลุลงไปในพื้น บนพื้นแท่นบูชายัญสีเลือดปรากฏรูลึกไม่เห็นก้นสองรู โชคดีที่เพราะจื้อจุนระมัดระวังตัว เย่ว์หยางจึงไม่ยอมให้ธนูแสงแทงจุดอันตรายของชีวิต
เลือดของเย่ว์หยางและของจื้อจุนผสมเข้าด้วยกัน
เพลิงอมฤตที่กำลังลุกโหมแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ปกป้องทั้งเย่ว์หยางและจื้อจุนที่อยู่ในอ้อมแขนเย่ว์หยาง
“เจ้าทำให้ข้าแปลกใจได้มากเหมือนกัน ร่างของเราผู้เฒ่าไม่เคยมีใครทำอันตรายได้มาหลายพันปีแล้วแม้เป็นรอยแผลเท่ารอยขีดข่วนเส้นผม อย่าว่าแต่ทำร้ายจนบาดเจ็บได้” ชุดคลุมของจักรพรรดินีฟ้าถูกกระแทกขาดแสดงให้เห็นร่างของหญิงชราท่าทางใจดี อย่างไรก็ตามคำพูดของนางเย็นชาราวกับน้ำแข็ง “เด็กน้อยอย่างเจ้า ปล่อยให้เติบโตขึ้นไปจะกลายเป็นหายนะของแดนสวรรค์ที่มีความสงบสุขมานานหลายปี เราผู้เฒ่าจะต้องทำลายเจ้าเสียแต่เนิ่นๆ ในอดีตเฟ่ยเหวินหลีกวาดล้างแดนสวรรค์จนเรารู้สึกอดสู เราผู้เฒ่าจะไม่ยอมให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกแน่”
“ต้านนางได้ครบสิบวินาทีแล้ว” จื้อจุนผละออกจากอ้อมแขนเย่ว์หยาง และนางเช็ดเลือดที่มือนางซึ่งถืออาวุธเทพร่างมนุษย์
เลือดเย่ว์หยางซึ่งปนเปื้อนอยู่ที่มือ ถูกเขียนเป็นยันต์อักษรรูนบนอาวุธเทพร่างมนุษย์อย่างรวดเร็ว
เย่ว์หยางพยักหน้า
เขาค่อยๆ หลับตาและใช้มือวาด
สนามพลังสร้างโลกเปลี่ยนไปในทันที แม่น้ำระเบิดดวงดาว ทางช้างเผือกถือกำเนิด
จักรพรรดินีฟ้ามีความเร็วสูงมาก นางไม่รอให้เย่ว์หยางสร้างแม่น้ำระเบิดดวงดาวเสร็จ และโจมตีใส่อกเย่ว์หยางจนล้มลง และจื้อจุนกำลังเขียนยันต์เวทอักษรรูน ทำให้ทั้งสองล้มไปพร้อมกัน จักรพรรดินีฟ้าฉวยโอกาสเตรียมใช้ฝ่ามือที่สองกำจัดพวกเขา แต่มีพลังยิ่งใหญ่ขับไล่นาง เป็นร่างปีศาจอสรพิษทองคำร่างแปลงของเสี่ยวเหวินหลี
เมื่อตั่วตั่วและอิคคารีบเข้ามาช่วย จักรพรรดินีฟ้ารีบบินขึ้นไปในอากาศและใช้คัมภีร์อัญเชิญ อสูรแฝดอาวุโสสองคน
ทั้งสองมีพลังเหนือกว่าราชาเก้าแสง เป็นอสูรพิทักษ์ของนาง อสูรพ่อมดแฝด
อสูรพ่อมดทั้งสองคอยขับไล่ตั่วตั่วและอิคคาไม่ให้ติดตามกวนใจจักรพรรดินีฟ้า
สามฝ่ามือตั้งใจจะฆ่าเย่ว์หยางและจื้อจุน
เพื่อกำจัดคนรุ่นหลังที่มีศักยภาพ พวกเขาไม่ใส่ใจสถานะ เกียรติยศชื่ออีกต่อไป
ในอดีตเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากนักสู้หอทงเทียน พวกเขายอมรับว่าครั้งหนึ่งพวกเขาจะไม่มีทางคิดฆ่าอนุชนที่มีศักยภาพรุ่นหลังของหอทงเทียน แต่ในรอบหลายปีเหล่านั้น พวกเขาเผชิญหน้ากับเฟ่ยเหวินหลี และนางเอาชนะราชินีพวกเขาได้ จนครั้งหนึ่งถึงกับปฏิญาณว่าจะไม่เป็นศัตรูกับผู้เยาว์รุ่นหลังของหอทงเทียน... แม้แต่สามจอมภพแดนสวรรค์สู้รบกับจักรพรรดิอวี้ พวกเขาก็ยังต้องการอยู่อย่างสงบสุข
แต่เพราะคนรุ่นหลังของหอทงเทียนตกต่ำ พวกเขาจึงทิ้งความคิดก่อนนั้นหมด
“กระบี่แห่งชีวิต” เพราะเลือดของนางและของเย่ว์หยางผสมกัน อาวุธเทพร่างมนุษย์ส่องประกายแสงเจ็ดสีเจิดจ้า เย่ว์หยางจับด้ามกระบี่เทพ จื้อจุนปล่อยกระบี่เหมือนธนูที่หลุดจากแล่งผ่านร่างเย่ว์หยางอย่างนุ่มนวล ในฝ่ามือทั้งสองของนางมีจุดแสงสว่างเจิดจ้า
“หาที่ตาย!” จักรพรรดินีฟ้ากรีดร้องลั่นและพลังโจมตีตอบโต้ที่รุนแรงของจื้อจุนทำให้นางรู้สึกถึงอันตรายเล็กน้อย
ฝ่ามือกระแทกใส่อกของจื้อจุนอย่างหนักหน่วง เย่ว์หยางรับกระบี่แห่งชีวิตมาถือไว้และแทงลอดแขนชุดจื้อจุน กระบี่แทงผ่านโดยไม่ทำอันตรายนางแม้แต่ขุมขน แต่กลับแทงใส่จักรพรรดินีฟ้า ฝ่ามือของนางถูกแทงทะลุลึกเข้าไปถึงไหล่
ร่างของจักรพรรดินีฟ้าซึ่งถูกกระบี่แทงมีการเปลี่ยนแปลง จื้อจุนฝืนอดทนอาการบาดเจ็บตั้งท่าฝ่ามือเป็นรูปดอกไม้ นางหมุนตัวอย่างงดงาม
จุดแสงเจิดจ้าในมือของนางพุ่งออกไป
และโจมตีที่หูข้างซ้ายและขวาของจักรพรรดินีฟ้าพร้อมกัน และหายเข้าไป..
“ตาย” อสูรพ่อมดทั้งสองและเจ้านายมีความรู้สึกเหมือนกัน พวกเขาตอบแทนเจ้านายโดยทุ่มพลังโจมตีเต็มหวังจะบดขยี้จื้อจุนและเย่ว์หยางให้เป็นผุยผง
“ไสหัวไป!” เงาร่างสองสายผุดออกมาจากร่างเย่ว์หยางพร้อมกัน ร่างหนึ่งเป็นสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงที่ระเบิดพลังเทพมังกรจนควบคุมไม่ได้ อีกร่างหนึ่งทะยานออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา เป็นสาวกิเลนปิงหยิน ทั้งสองเตะใส่อสูรพ่อมดทั้งสองพร้อมกันก่อนจะมีโอกาสโจมตีจื้อจุนและเย่ว์หยาง