ตอนที่แล้วตอนที่ 742 ราชาเผ่าเก้าแสง ลำแสงอุทัย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 744 สิบวินาทีฆ่าหนึ่งคน?

ตอนที่ 743 จื้อจุนผู้ควบคุมกฎพื้นที่


เย่เซียวและจื่อกวงพอเมื่อราชาเก้าแสงผลักดวงอาทิตย์ใส่จื้อจุน  พวกเขาแสดงความกล้าหาญไม่คำนึงถึงความปลอดภัยตนเองสกัดทางถอยด้านหลังจื้อจุน

เหมือนกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ

พวกเขาบินลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วเพื่อสกัดทางหลบหนีและถ่วงเวลานางไว้เป็นการบังคับนางให้เผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์พลังงานของราชาเก้าแสงซึ่งเทียบได้กับพลังของดวงอาทิตย์  ดวงอาทิตย์พลังงานนี้สามารถทำลายได้ทั้งสวรรค์และโลก และแทบจะไม่มีจุดอ่อนข้อบกพร่อง  อาจยากจะพูดได้ว่าความเร็วในการโจมตีนั้นยังช้า แม้ว่าราชาเผ่าเก้าแสงจะกำหนดเป้าเอาไว้แล้วก็ตาม  แต่นักสู้ระดับจื้อจุนก็น่าจะหนีได้สำเร็จ

ความคิดในปัจจุบันของเย่เซียวและจื่อกวงก็คือพวกเขาต้องการถ่วงเวลาและบังคับให้จื้อจุนต้านรับพลังทำลายล้างที่ราชาเก้าแสงปล่อยออกมาใช่หรือไม่

คำตอบก็คือใช่

เมื่อเห็นเย่เซียวและจื่อกวงเอาชีวิตเข้าแลก  จ้าวปีศาจโบราณที่กำลังสู้กับเย่ว์หยางคำรามด้วยความเศร้า

นี่คือบริวารสองคนสุดท้ายที่จงรักภักดีที่สุดของเขาที่ยังเหลืออยู่  พวกเขาจะเสียสละชีวิตของตนเอง  เมื่อเห็นความพลัดพรากตายจากทั้งที่ยังมีชีวิต และทั้งที่ตายไป แม้ว่าจ้าวปีศาจโบราณจะโหดเหี้ยมและไร้ความรู้สึก ก็ยังอดรู้สึกปวดหัวใจไม่ได้

“อย่าไปคิดถึงมัน!”  สิ่งที่ทำให้จ้าวปีศาจโบราณเจ็บปวดมากขึ้นก็คือเขาไม่สามารถหยุดยั้งบริวารของเขาจากความตายได้    แต่เขายังจะต้องหยุดเย่ว์หยางเอาไว้  เย่ว์หยางยกวงจักรล้างโลกเตรียมจะเปิดทางช่วยจื้อจุน  จ้าวปีศาจโบราณไม่ยอมปล่อยให้เย่ว์หยางทำเช่นนั้นแน่  เขาฝืนใช้กรงเล็บจับวงจักรล้างโลกและประสานงานกับกรงเล็บปีศาจอีกข้างหนึ่งให้ใช้กรงเล็บกระดูกมรณะเพื่อจับเย่ว์หยาง

สื่งที่น่ากลัวก็คือเพียงวินาทีเดียวก็ผลักดันให้เย่ว์หยางศัตรูที่ทรงพลังเปลี่ยนสถานการณ์การสู้รบทั้งหมดได้

เย่ว์หยางควบคุมหงส์เพลิงอมฤตให้ตรงเข้าจับจ้าวปีศาจโบราณ

เขาไม่ได้ฉวยโอกาสทำร้ายแขนของจ้าวปีศาจโบราณ แต่ดึงวงจักรล้างโลกโดยตรงและโจมตีใส่เย่เซียวและจื่อกวง

นกเค้าหน้าคนและอสูรวงเวียนสองอสูรจากทะยานลงมาจากอากาศและขัดขวางเย่ว์หยางไว้  พวกมันพุ่งเข้าหาวงจักรล้างโลกและหงส์เพลิงอมฤตอย่างไม่เกรงกับดักมรณะ หวังจะถ่วงเวลาให้เจ้านายของพวกมันสักวินาที

จ้าวปีศาจโบราณที่ด้านหลังเร่งรีบตามมาทันและเหยียดแขนโอบคว้าตัวเย่ว์หยาง

บึ้ม!

อิคคาปรากฏตัวที่ด้านหลังเย่ว์หยาง

ปืนของนางยิงใส่หน้าของจ้าวปีศาจโบราณเต็มที่  ในท้องฟ้านกเค้าหน้าคนหลบเฉียดหงส์เพลิงอมฤต เมื่อมันเตรียมจะใช้กรงเล็บจับเย่ว์หยาง  อิคคาใช้ดาบนางฟ้าฟันแหวกอากาศมาแต่ไกล  อสูรวงเวียนที่ไม่กลัวพลังโจมตีถูกวงจักรล้างโลกตัดร่างขาดครึ่งและตรงเข้าหานกเค้าหน้าคนเหยียดกรงเล็บเตรียมจะจับให้ได้  มันไม่เคยล้มเหลวมาก่อน

แสงหลากสีสันกระพริบวาบอยู่ในท้องฟ้า

กลีบบุปผานับไม่ถ้วนลอยพลิ้วอยู่ในอากาศ

กลิ่นหอมที่แทบละลายหัวใจยากจะกล่าวลอยอบอวลทั่วแท่นบูชายัญ ทำให้ทุกคนอดเคลิบเคลิ้มไม่ได้

ใจกลางรัศมีที่สดใสที่สุด กำเนิดดอกไม้ที่งดงามที่สุดในโลก  มันดูเหมือนจะค่อยๆ เหี่ยวแห้ง แต่ขณะที่นกเค้าหน้าคนกางกรงเล็บอยู่เหนือศีรษะเย่ว์หยาง  มีภาพสตรีที่งดงามปรากฏอยู่ในดอกไม้ตูม ดูจากเงาร่างที่เห็นเลือนรางเป็นลักษณะของหญิงงามล่มเมืองงดงามราวกับภาพวาดของจิตรกรเอก  ผมของนางทิ้งตัวราวกับสายน้ำตกเป็นประกายสีรุ้ง  หน้าผากของนางงดงาม นางสวมมงกุฎร้อยบุปผา ผิวของนางขาวราวกับหิมะนุ่มนวลกว่าดอกไม้

หลังมงกุฎร้อยบุปผามีมงกุฎเล็กๆ ที่บอกให้ทราบถึงสถานะของนาง

นางพญาดอกหนามมงกุฏทอง

ราชันย์ที่ทรงพลังที่สุดในอสูรพฤกษา เป็นอสูรสายพฤกษาเพียงหนึ่งเดียวในโลก

เมื่อขนตางอนยาวของนางสั่นกระพือเล็กน้อย นางค่อยๆ ลืมตาขึ้น  ทั่วทั้งหุบเขาแม่น้ำขาวแม้ว่าจะกลายเป็นนรกหินเพลิงและชายขอบมีหินหลอมเหลว พื้นดินและผนังที่เผาไหม้เริ่มมีไม้ดอกนับไม่ถ้วนชอนไชงอกแตกกิ่งแตกใบและออกดอกบานสะพรั่งเหมือนเป็นการเฉลิมฉลองการกำเนิดของนางพญาอย่างเงียบสงบเปลี่ยนนรกหินเพลิงให้เป็นทุ่งทะเลดอกไม้

มือทั้งสองข้างขยับ

นี่คือการเติบโตอย่างเป็นทางการของนางพญาดอกหนามมงกุฎทองเลื่อนเป็นอสูรเทพตั่วตั่ว  นางรับมือนกเค้าหน้าคนและอสูรวงเวียน เพียงนางชี้นิ้วเท่านั้นดอกไม้ทั้งหมดกลายสภาพเป็นเหมือนน้ำวนขยายออกไปหมื่นเมตร

จ้าวปีศาจโบราณเร่งความเร็วแซงขึ้น  ตั่วตั่วเหยียดฝ่ามือดุจหยกของนาง

พลังเจตจำนงที่ทรงพลังไร้เทียมทานของอสูรเทพหยุดร่างของจ้าวปีศาจโบราณค้างอยู่ในกลางอากาศทำให้เขาไม่อาจไล่ตามเย่ว์หยางได้

“โซ่ชีวิต...” เมื่อเห็นเย่ว์หยางฝ่าวงล้อมที่หนาแน่นออกมาได้เตรียมโจมตีเย่เซียวและจื่อกวง  จ้าวปีศาจโบราณยิงโซ่ชีวิตสีทองออกมาทันที  โซ่ชีวิตสีทองระดับศักดิ์สิทธิ์พุ่งรวบรัดข้อเท้าเย่ว์หยาง เขาใช้กำลังดึงเย่ว์หยางกลับมา เพื่อคุ้มกันเย่เซียวและจื่อกวง เป่ยด้วยร่างแยกของเขา  เขาเหวี่ยงวงจักรล้างโลกที่เย่ว์หยางยิงออกมา

ก่อนที่ร่างแยกจะหายไป เขารู้วิถีการเปลี่ยนมุมของวงจักรล้างโลก

วงจักรล้างโลกเฉียดหน้าจื่อกวง และตัดสิ่งที่ขวางหน้ามัน

ยอดเขาในหุบเขาแม่น้ำขาวสูงหนึ่งกิโลเมตรถูกวงจักรล้างโลกตัดขาดครึ่งหนึ่ง

ขณะนั้นเมื่อภูเขากำลังถล่ม เย่เซียวและจื่อกวงก็เริ่มโจมตีจื้อจุนแล้ว  เป้าหมายของเขาไม่ใช่ทำร้ายจื้อจุน  แต่ถ่วงเวลาให้ได้สักสองวินาที บังคับให้นางรับพลังโจมตีรูปดวงอาทิตย์ของราชาเผ่าเก้าแสง

“บังอาจ”

จุดสว่างเจิดจ้าในมือจื้อจุนไม่ได้ยิงใส่เย่เซียวหรือจื่อกวง นางสบถเบาๆ ที่ใต้เท้านางมีวงเวทอักษรรูนรูปล้อกระจกเงาแผ่ขยายออกไปอย่างแยบยลครอบคลุมพื้นที่ยืน วงล้อกระจกเทียบได้กับประตูภายใน และหยุดยั้งเย่เซียวและจื่อกวงไว้ในกลางอากาศพร้อมกัน  และจื้อจุนเพียงแต่ชี้นิ้วทั้งสองคนตกเข้าไปในโลกภายในกระจกทันที

การปรากฏตัวเข้ามาช่วยของเย่เซียวและจื่อกวงไม่ถึงกับไร้ประโยชน์เสียทีเดียว

เมื่อทั้งสองคนสกัดขัดขวางได้อย่างนั้น  พลังดวงอาทิตย์โจมตีของราชาเก้าแสงจึงทำงานได้เต็มที่

ดวงอาทิตย์พลังงานส่งผลตรงต่อวิญญาณและโจมตีใส่ศัตรูตามความต้องการของราชาเผ่าเก้าแสง จากเริ่มต้นช้าๆ ก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้น และเร็วมากขึ้นในที่สุด

ด้วยพลังโจมตีที่มีอานุภาพถล่มฟ้าทลายโลก จื้อจุนยังคงไม่ปล่อยจุดแสงสว่างที่นางควบแน่นไว้  นางไม่ได้ถอนพลังกลับแต่ต้านรับดวงอาทิตย์พลังงานของราชาเผ่าเก้าแสง  วงล้อรูปกระจกเงาหมุนอยู่ภายในร่างของนางและปกป้องคุ้มครองเจ้านายของมัน  จ้าวปีศาจโบราณ จักรพรรดิชื่อตี้และราชาเก้าแสงเมื่อเห็นเช่นนี้ต่างพากันตกตะลึง  ดวงอาทิตย์พลังงานนั้นเทียบได้กับดวงอาทิตย์จริงๆ พอสัมผัสวงล้อกระจกกลับไม่มีการระเบิดใหญ่แต่อย่างใด มันถูกวงล้อกระจกดูดกลืนเข้าไปอย่างน่าทึ่ง.. ราวกับถูกหมาป่าฟ้ากลืนกินดวงอาทิตย์และค่อยๆ หายเข้าไปในวงล้อกระจกซึ่งเล็กกว่าดวงอาทิตย์พลังงานนี้มาก ด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า

บางทีวงล้อกระจกไม่สามารถรองรับสิ่งที่แตกต่างกันสองอย่างได้ หรือบางทีพลังงานอาจถึงขีดจำกัด

เย่เซียวและจื่อกวงที่ถูกกลืนหายเข้าไปก่อนหน้านั้น ตอนนี้ถูกโยนออกมาจากภายในโลกกระจก

จื่อกวงปรากฏตัวในท้องฟ้าสูงและร่วงตกลงมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้

ต่อให้กระดูกแข็งกว่ามนุษย์เป็นร้อยเท่าก็ต้องแตกหัก

ต่อให้เป็นบุรุษเหล็กก็ยังอดครวญครางไม่ได้  แต่จื่อกวงแตกต่างจากเย่เซียว เขาปรากฏตัวบนพื้นแต่กลับกัน เขากระเด็นขึ้นไปในอากาศคล้ายกับถูกบางอย่างฟาดทำร้ายและกระแทกกับผนังหินร่วงลงมาอย่างหมดสภาพ

“นี่คือโลกภายใน  นางเชี่ยวชาญหลักการของโลกภายในแห่งประตูเป็นตายแน่นอน...”  จ้าวปีศาจโบราณรู้ว่าจื้อจุนทรงพลังมาก  แต่ไม่เคยคิดว่านางจะเชี่ยวชาญกฎภพภูมิด้วย  ต่างจากพลังกฎสวรรค์ของเย่ว์หยางซึ่งได้รับการเสริมส่งจากอสูรศึก  พลังกฎสวรรค์ของจื้อจุนคือการควบคุมภพภูมิ!  ด้วยพลังวงล้อกระจกที่เป็นโลกภายใน นางในฐานะผู้ควบคุมโลกภายในจะมีการควบคุมกฎพื้นที่ซึ่งแม่นยำและลึกซึ้งมากกว่าเย่ว์หยางที่ควบคุมกฎสวรรค์  มิน่าเล่าแม้เผชิญกับดวงอาทิตย์พลังงานของราชาเผ่าเก้าแสง แม้แต่สีหน้าของนางก็ยังไม่เปลี่ยน

“โลกภายในของวงล้อกระจกหรือ?  ข้าอยากรู้นักว่ามันสามารถกลืนกินดวงทิตย์พลังงานของข้าได้สักกี่ลูก!”

ราชาเผ่าเก้าแสงชักจะโกรธขึ้นมาบ้าง

ด้วยพลังของราชาแดนสวรรค์ ยังไม่อาจทำให้คู่ต่อสู้สนแต้มได้  แค่เพียงชี้นิ้วก็คลี่คลายปัญหาได้ ช่างน่าอับอายเสียจริง

พลังที่ยิ่งใหญ่ของจื้อจุนทำให้เขาเกิดความอำมหิต

ในแดนสวรรค์ นักสู้ที่เหนือกว่าระดับราชา มักจะมีคำกล่าวไว้ว่าคนที่สามารถควบคุมพลังได้สามอย่างคือมิติพื้นที่  กาลเวลาและโชคชะตานับเป็นศัตรูที่แข็งแกร่ง  เป็นศัตรูที่รับมือได้ยากที่สุด เมื่อมีบางคนเชี่ยวชาญในทักษะนี้ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอก็ตาม  ต้องรีบกำจัด มิฉะนั้นจะสร้างความลำบากในอนาคต

พลังควบคุมภพภูมิ  กาลเวลา และชะตาลิขิตทั้งสามนี้ ไม่ใช่เป็นพลังที่จะเข้าถึงได้ตามชอบใจ

นักรบปราณฟ้าที่ทรงพลังมาก สามารถจะเอาชนะศัตรูได้ สามารถทำลายสิ่งต่างๆ มากมายได้  แต่ไม่สามารถควบคุมภพภูมิ ไม่สามารถควบคุมกาลเวลา และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะฝืนสู้กับชะตาลิขิต  ความลึกลับของภพมิติ กาลเวลา และชะตาลิขิต ต่อให้เป็นเทพแดนสวรรค์ก็ยังไม่กล้าพูดว่าพวกเขาควบคุมสิ่งเหล่านี้ได้  อย่าว่าแต่เจ้าชีวิตเลย

ราชาเผ่าเก้าแสงมีความมั่นใจในขณะนั้น ประการแรกพลังของจื้อจุนยังด้อยอยู่  พลังกฎมิติที่นางใช้ยังอยู่ในระดับเริ่มต้น  เป็นไปไม่ได้ที่จะถึงระดับสมบูรณ์แบบ  ราชาเผ่าเก้าแสงมีความคิดว่าพลังงานสนับสนุนโลกภายในกับวงล้อกระจกเงาใช้ออกเต็มที่แล้ว  จื้อจุนจะไม่สามารถใช้พลังกฎมิตินี้เพื่อป้องกันได้อีกต่อไป  ประการที่สองเบื้องหลังของเขายังมีจักรพรรดินีฟ้าซึ่งมีศักดิ์เป็นบรรพบุรุษของเขา  และนางคือสุดยอดนักสู้  ต่อให้เขาไม่สามารถจะเอาชนะได้ แต่จักรพรรดินีฟ้าจะกำจัดจื้อจุนชาวมนุษย์และเจ้าเด็กเย่ว์หยางได้อย่างไม่มีปัญหา นางไม่จำเป็นต้องกังวลถึงความถูกต้อง

“เก้าแสงสามผสาน น้ำ, โลหะ, อัคคี!”

ราชาเผ่าเก้าแสงชูมือขึ้นในท้องฟ้าสร้างลูกบอลพลังสามลูก สีน้ำเงินและสีทองตามลำดับ

ใต้เท้าของเขามีบอลพลังงานลูกที่สาม

เป็นสีมีลักษณะเหมือนไฟ

คล้ายกับบอลพลังงานก่อนนั้นแต่เล็กกว่าเล็กน้อย

บอลพลังงานสามสีแตกต่างกันลอยคว้างและหมุนรอบตัวราชาเก้าแสง  เขาใช้เท้าเตะ  บอลพลังงานพุ่งเข้าหาจื้อจุนราวกับดาวตก

แม้ว่าขนาดและปริมาตรของบอลพลังงานทั้งสามนี้จะเล็กกว่าพลังงานดวงอาทิตย์ก่อนนั้น แต่พลังของบอลทั้งสามตอนนี้ไม่ด้อยไปกว่าพลังดวงอาทิตย์ก่อนนั้น แม้จะเล็กกว่าก็ตาม บอลพลังธาตุน้ำสีน้ำเงินและบอลพลังธาตุโลหะสีเหลือง  และที่เหลืออีกลูกยิงเข้าหาตรงกลางตัวจื้อจุน บอลพลังธาตุไฟเหมือนดวงอาทิตย์ขนาดเล็กตรงดิ่งเข้าหาจื้อจุน

วงล้อกระจกเงาหมุนอย่างรวดเร็ว

จื้อจุนดูเหมือนเตรียมดูดซับพลังโจมตีสามธาตุผสานของฝ่ายตรงข้ามด้วยวงล้อกระจกเงา

แต่ราชาเก้าแสงเทเลพอร์ตมาอยู่ด้านหลังจื้อจุนใช้ฝ่ามือทั้งสองกดใส่หลังจื้อจุน “ธาตุไม้ผสานธาตุดิน ทำลาย!”

ขณะที่พลังผสานธาตุไม้กับธาตุดินกำลังจะระเบิดใส่หลังจื้อจุนและผสาน พลังสามธาตุผสานธาตุน้ำทองไฟ  จื้อจุนหายวับจากการตรึงวิญญาณของราชาเผ่าเก้าแสงทันที

“หืม..”  ราชาเผ่าเก้าแสงพบว่าตนเองตกอยู่ในศูนย์กลางพลังโดยคู่ต่อสู้ไม่อยู่ และเขาจะต้านรับพลังระเบิดของห้าธาตุได้หรือไม่?

“คืนให้เจ้า!”  ขณะที่ราชาเผ่าเก้าแสงเตรียมหายตัวออกมา  จื้อจุนปล่อยจุดแสงสว่างเจิดจ้าที่นางประคองไว้ตลอดเวลา มันพุ่งออกไปและมีวงเวทอักษรรูนฉาย  วงล้อกระจกเงาหยุดนิ่งและเปลี่ยนไปเป็นดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ทันที ลูกบอลพลังงานที่จื้อจุนปล่อยออกไประเบิดที่ด้านหลังราชาเผ่าเก้าแสงพร้อมกับพลังห้าธาตุผสานที่อยู่ข้างหน้า   ราชาเผ่าเก้าตกตะลึงหน้าซีดเผือด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด