ตอนที่ 740 สาวยักษ์ที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์
อสูรดึกดำบรรพ์
สมัยที่จักรพรรดิชื่อตี้ยังเยาว์วัยเคยได้ยินจากปากอาจารย์คนหนึ่ง
เนื่องจากยุคและประวัติศาสตร์ที่ผิดพลาด ความปั่นป่วนวุ่นวายที่เกิดจากสงครามทำให้อสูรโบราณหลากหลายสายพันธุ์ได้หายสาบสูญไปตลอดกาล บ้างก็หนีจากไป ทิ้งไว้แต่สภาพแวดล้อมและเหตุผลต่างๆ นานา เช่นอสูรยักษ์ใหญ่อย่างวาฬภูเขา เต่าเกาะเป็นต้น รุ่นลูกหลานของอสูรดึกดำบรรพ์ต่างๆ พวกมันแตกต่างจากอสูรยุคใหม่และพลังของอสูรยุคใหม่ไม่อาจเทียบกับมันได้เลย
กล่าวกันว่าในยุคโบราณกาล มีอสูรหลากหลายมากมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอสูรนักสู้โบราณชั้นพิเศษยังมีการใช้ประโยชน์ที่นึกไม่ถึงอีกมาก ไม่เหมือนกับนักรบยุคใหม่ที่ใช้อสูรสามสายหลักคือ อสูรสายธาตุ อสูรเสริมพลัง และอสูรสัตว์ร้าย ส่วนอสูรชั้นพิเศษจะใช้ในการช่วยเหลือ
ในบรรดาอสูรโบราณยังมีอสูรชนิดหนึ่งเรียกว่า “อสูรศักดิ์สิทธิ์ชั้นสอง”
อสูรศักดิ์สิทธิ์ชนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง สติปัญญา การแปลงร่างเป็นมนุษย์ ฯลฯ จะต่างจากอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่เคยพบเจอ เพราะชะตาของมันไม่เหมาะจะยกระดับเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่ประสิทธิภาพในการสู้รบไม่ด้อยไปกว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ ในบางกรณีก็ถือว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ยงคงกระพัน ดังนั้นคนจึงเรียกมันว่า อสูรศักดิ์สิทธิ์ชั้นสอง ลักษณะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอสูรศักดิ์สิทธิ์ชั้นสองคือมีขนาดที่พิเศษ มีความสามารถไม่เหมือนใคร เหมาะในการสู้บางด้าน แต่พวกมันไม่อาจสู้ได้ครอบคลุมเหมือนกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อสู้ในขอบเขตของพวกมันเอง นับว่าไม่เป็นรองอสูรศักดิ์สิทธิ์
จักรพรรดิชื่อตี้มองดูอสูรบดกระดูกที่อยู่ต่อหน้าเขา ปฏิกิริยาแรกในใจเขา
มันคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ชั้นสอง
จ้าวปีศาจโบราณคว้าอสูรบดกระดูกและกดใส่เย่ว์หยาง ความรู้สึกเหมือนยกโม่หินและกดลงบนร่าง
อย่างไรก็ตามหลังจากได้รับการเสริมพลังด้วยเงาปีศาจยักษ์ เย่ว์หยางที่สามารถสั่นสะเทือนภูผาได้ แต่กลับไม่สามารถสั่นคลอนเส้นผมของอสูรรบบดกระดูกได้ หากไม่ได้สนามพลังสร้างโลกช่วย อย่างนั้นเป็นไปได้ว่าเขาคงโดนอสูรโม่หินบดจนร่างกายแหลกเหลวไปแล้ว
หินยักษ์ก้อนหนึ่งปรากฏอยู่ข้างๆ เย่ว์หยาง
และหินแต่ละก้อนหนักหลายหมื่นตัน
ในสนามพลังสร้างโลกร่างมายานับสิบของเย่ว์หยางขว้างก้อนหินยักษ์บนพื้นใส่เจ้าอสูรบดหินตั้งใจจะฆ่าอสูรบดกระดูก และเย่ว์หยางฉวยโอกาสช่วงที่ศิลาอัดกระแทกใส่อสูรบดกระดูกหลบหลีกอันตราย เขาต้องการจะออกห่างอสูรบดกระดูก แต่พบว่าไม่สามารถเทเลพอร์ตออกไปได้ เหมือนกับว่ามีเครื่องมือศักดิ์สิทธิ์กันไว้ทำให้ออกไปไม่ได้
อสูรบดกระดูกได้แต่ฟาดกระแทกหินยักษ์ให้ป่นเป็นผุยผง... น่าเสียดายที่อสูรศักดิ์สิทธิ์ชั้นสองนี้ไร้ประโยชน์สำหรับเย่ว์หยางผู้เจ้าเล่ห์
เศษหินศิลาตกลงพื้นใส่ร่างลวงตาของเย่ว์หยาง ส่วนร่างจริงของเขาสามารถหลบหลีกอันตรายไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยได้ ในตัวอสูรบดหินมักจะมีแนวพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งไม่ใช่จุดบกพร่อง เพียงแต่เย่ว์หยางสามารถหาจุดบกพร่องได้ในเสี้ยววินาทีอาศัยจังหวะเวลาที่เหมาะสมหนีไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัยได้
ไม่ว่าการหมุนของปีศาจเครื่องบดหินจะหมุนเร็วแค่ไหน แต่ก็ยังช้าเกินไปไม่สามารถฆ่าเย่ว์หยางได้
จ้าวปีศาจโบราณพ่นเลือดใส่หินเม็กม่าที่ปากทาง ทำให้มันรับรู้ว่าเย่ว์หยางเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด
จักรพรรดิชื่อตี้หลั่งเหงื่อกาฬ
ถ้ามีคนอยู่ภายในแทนเขา เขามีวิธีเดียวที่จะรอดนั่นคือร่างที่แข็งพอๆ กับสมบัติเทพ นอกจากนี้แล้วไม่มีวิธีใดดีกว่า
จ้าวปีศาจโบราณทุ่มหินใส่แม็กม่า จนกลายเป็นลาวาเหลว เย่ว์หยางตกใจแต่ไม่ถึงกับเป็นอันตราย ทั้งสองนี้ไม่ธรรมดา ก้อนหินขนาดเท่าเนินเขาที่ถูกโยนเข้าไปในอสูรบดกระดูกถูกบดกลายเป็นผุยผง อสูรบดกระดูกถ้าไม่ใช่พบกับคู่ต่อสู้อย่างเย่ว์หยาง มันยังไม่สามารถทำอะไรได้ จักรพรรดิชื่อตี้ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าเด็กเย่ว์หยางยังรอดเงื้อมมือของเครื่องโม่หินยักษ์นี้อยู่ได้ เขารู้แต่เพียงว่าไม่ว่าจะเป็นจ้าวปีศาจโบราณ ไม่ว่าจะเป็นเย่ว์หยางต่างก็ทุ่มเทฝีมือและกลยุทธ์เข้าต่อสู้กัน
“กรงเล็บกระดูกมรณะ” จ้าวปีศาจโบราณพบว่าอสูรบดกระดูกไม่สามารถเล่นงานให้เย่ว์หยางตายได้ ดังนั้นเขาเรียกอสูรโบราณอีกตัวหนึ่งออกมา
นี่คือปีศาจรูปกรงเล็บกระดูกขนาดมหึมาคู่หนึ่ง
ที่ด้านบนมีพลังงานคล้ายกับอสูรเทพ
เมื่อเทียบกับอสูรบดกระดูกแล้ว มันยังมีพลังมากกว่าหลายเท่า มันนับว่าเป็นภัยคุกคามและสามารถจับเย่ว์หยางออกมาจากอสูรบดกระดูกได้ทันที อสูรที่มีรูปเป็นกระดูกมือนี้ตรึงร่างของเย่ว์หยางไว้กับพื้นเหมือนไม้กางเขน
เย่ว์หยางดิ้นรน และใช้ดาบจันทร์เสี้ยวฟัน แต่กรงเล็บกระดูกไม่ได้รับความเสียหาย
จุดที่ดาบฟันใส่เกิดประกายไฟรุนแรง
จื้อจุนสีหน้าเปลี่ยน หรือว่าแม้แต่เย่ว์หยางก็ยังสู้กรงเล็บกระดูกไม่ได้? ที่น่าทึ่งที่สุดก็คือโครงกระดูกทั้งคู่นี้เป็นเพียงอสูรทองระดับสิบ ซึ่งเทียบเท่ากับพลังอสูรปราณฟ้าระดับสาม มันเปลี่ยนกับอสูรอื่นแต่เย่ว์หยางไม่สามารถสร้างความเสียหายได้ และที่ย่ำแย่ก็คืออสูรกระดูกคู่นี้สามารถจับเย่ว์หยางที่มีจุดเด่นในเรื่องการเคลื่อนไหวสู้รบ
“สุสานหมื่นคชสาร”
จ้าวปีศาจโบราณถือคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และชี้มาทางเย่ว์หยาง
สิ่งนี้ไม่ได้หมายถึงพลังดรรชนีของจ้าวปีศาจ แต่เป็นการอัญเชิญอสูรศึก เหมือนกับว่ามีหัวช้างแมมม็อธหมื่นหัวพุ่งเข้ามาหาเย่ว์หยาง และพลังของพวกมันแต่ละตัวไม่ต่างกันเลย
ไม่ต้องพูดถึงเย่ว์หยางที่ถูกอสูรกระดูกกรงเล็บตรึงไว้เท่านั้น แม้แต่ทุกคนที่ดูอยู่ในพื้นที่นั้นก็ยังรู้สึกกดดันราวกับมีช้างแมมมอธหมื่นตัววิ่งอยู่บนศีรษะ
โลกสั่นสะเทือนวุ่นวาย
เย่ว์หยางที่ไม่เคยปล่อยให้ศัตรูเล่นงานตนเองได้ถึงกับมึนงง สูญเสียปฏิกิริยาตอบโต้ไปชั่วเวลาหนึ่ง เขารู้สึกเบาในหัวเหมือนกำลังจะหมดสติ
จักรพรรดิชื่อตี้คิดว่าจ้าวปีศาจโบราณจะฉวยโอกาสจับเย่ว์หยางโยนเข้าไปในอสูรบดกระดูก อย่างไรก็ตามจ้าวปีศาจโบราณไม่ทำเช่นนั้น
เขาใช้คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และอัญเชิญอสูรศึกตัวที่ห้าหลังจากใช้พญาแร้งมังกร, อสูรบดกระดูก, กรงกระดูกมรณะและสุสานหมื่นคชสาร นาวามรณะ! มีเรือลำหนึ่งหนึ่งปรากฏอยู่ในท้องฟ้า คนแจวเรือเป็นมนุษย์เผ่ากระดูกมีพลังปราณฟ้าระดับหนึ่ง นั่นยังไม่น่าทึ่งเท่าใดนัก ที่ไม่ธรรมดาก็คืออสูรนาวามรณะนี้คือตัวลำเรือมีพลังปราณฟ้าระดับห้า มันคืออสูรที่ทรงพลังที่สุดที่จ้าวปีศาจโบราณมีอยู่
กรงเล็บกระดูกมรณะเหวี่ยงเย่ว์หยางที่ดูเหมือนจะมึนงงเข้าไปในนาวามรณะ
มนุษย์เผ่ากระดูกนั้นใช้ถ่อกระดูกค้ำทันที
ในท้องฟ้าปรากฏหลุมดำขึ้นจุดหนึ่ง
นาวามรณะนำร่างเย่ว์หยางเลื่อนเข้าไปในหลุมดำนั้นโดยตรงเพื่อนำไปสู่ความตายนิรันดร์ ขณะที่นาวามรณะกำลังจะจมลงนั้นเอง จู่ๆ ดวงตาของเย่ว์หยางทอประกายดุร้าย เพลิงอมฤตนับไม่ถ้วนลุกพรึ่บทั้งร่างกลายเป็นนกหงส์เพลิง หงส์เพลิงที่เกิดจากเพลิงอมฤตบินขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะเดียวกันเย่ว์หยางก็หลุดออกมาจากนาวามรณะ
มนุษย์เผ่ากระดูกใช้ถ่อที่ทำจากกระดูกเพื่อใช้ยึดจับ แต่หงส์เพลิงนั้นมีความเร็วมากกว่า แม้แต่กรงเล็บกระดูกมรณะก็ถูกดึงติดมาด้วย
นาวามรณะที่ทรงพลังมากที่สุดเลื่อนเข้าไปในหลุมดำและไม่ส่งผลต่อเย่ว์หยางอีกต่อไป
“ไปลงนรกซะ!”
จ้าวปีศาจโบราณลงมือจนแม้แต่ผู้ชมดูรู้สึกอายแทน เขารีบยกแขนจ้าวปีศาจและฉีกเปิดหลุมดำที่กำลังจะปิดตัว หลุมดำที่มีคุณสมบัติดูดกลืนสรรพสิ่งดูดกลืนพลังที่แขนของจ้าวปีศาจอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาเหมือนกับตาบอดไปแล้ว
เขายกเท้าขนาดใหญ่ถีบยันเย่ว์หยางที่มีร่างคลุมไปด้วยหงส์เพลิงให้กลับเข้าไปในหลุมดำ
แต่การเหยียบยันอย่างไร้ยางอายเช่นนี้กลับทำให้เย่ว์หยางฉวยโอกาสได้
เย่ว์หยางหลุดจากอสูรกรงเล็บมรณะ และจับยืดนิ้วเท้าของจ้าวปีศาจโบราณไว้
เด็กสาวยักษ์กระโดดออกมาจากคัมภีร์เพื่อช่วยเงาปีศาจยักษ์และคว้าจับเขาบนศีรษะของจ้าวปีศาจโบราณไว้แน่น ใช้หมัดอีกหนึ่งระดมทุบใส่จ้าวปีศาจโบราณไม่ยั้ง นางใช้เข่ายันหลังจ้าวปีศาจโบราณเพราะโกรธเจ้าศัตรูผู้นี้ซึ่งต้องการจะฆ่าพี่ชายนางด้วยการฉีกมิติหลุมดำ
สถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดเกิดขึ้นกะทันหัน
ตอนนี้ทุกคนตกตะลึงกันหมด
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
จ้าวปีศาจโบราณวางแผนสังหารเย่ว์หยางแต่ไม่สำเร็จ นาวามรณะและการสร้างมิติหลุมดำจะกลายเป็นที่ฝังศพของเขาอย่างนั้นหรือ?
“ข้าจะทุบๆๆๆ!” เด็กสาวยักษ์พบว่าจ้าวปีศาจโบราณพยายามแข็งขืนยันตัวไว้อยู่ที่ปากขอบหลุมดำ ไม่ว่ายังไงเขาไม่ยอมตกเข้าไปในหลุมดำแน่ ขณะที่เพลิงคลุมตัวเขาสั่นไหวเพราะถูกหมัดเด็กสาวยักษ์ระดมทุบใส่ไม่ยั้ง และเพราะนางถือกำเนิดจากเผ่าพญาไตตันมีพลังเรี่ยวแรงเหนือธรรมดา จ้าวปีศาจโบราณแม้จะพยายามรับมือนางอย่างดีที่สุด แต่น่าเสียดายที่เขายังไม่สามารถหลบหนีได้
“กรรรร!” จ้าวปีศาจโบราณถูกทุบถูกต่อยหลายสิบหมัด ในขณะไม่สามารถใช้แขนตอบโต้ได้ แผนการใช้นาวามรณะและหลุมดำใช้ไปได้เพียงครึ่งก็หายไปในที่สุด
“น้องพี่!” เย่ว์หยางใช้เพลิงอมฤตเผาอสูรกรงเล็บมรณะและกลับมาสมทบผนึกพลังสู้
ฝ่ายจ้าวปีศาจโบราณกลิ้งร่างขนาดใหญ่หลบไปด้านข้างเพื่อหลบหลีกพลังโจมตีของวงจักรล้างโลกของเย่ว์หยาง เด็กสาวยักษ์ย่ำใส่หลังของเขาอีกสามครั้งสร้างความเจ็บปวดให้เขาจนแทบไม่อยากมีชีวิต จนต้องยอมรับชะตากรรมโดยปริยาย ทำให้เด็กสาวยักษ์มีความสุข ที่จะช่วยให้เย่ว์หยางใช้วงจักรล้างโลกตัดศีรษะจ้าวปีศาจโบราณได้ง่ายขึ้น แต่จ้าวปีศาจโบราณดำดินหนีไปก่อน ปล่อยให้อสูรกรงเล็บมรณะจับเด็กสาวยักษ์ไว้ ขณะที่เขาเตรียมเรียกอสูรศึกตัวใหม่ออกมา
เพียงแต่เมื่อครู่นี้อสูรกรงเล็บกระดูกมรณะสามารถจับเย่ว์หยางได้ง่าย แต่สำหรับเด็กสาวยักษ์ ความสามารถมันยังไม่พอ
ขีดจำกัดของมันทำได้เพียงคว้าขาของเด็กสาวยักษ์ไว้ได้ข้างเดียวเท่านั้น
พลังของไตตันโบราณนั้นเหนือกว่านั้นมาก
อสูรกรงเล็บกระดูกมรณะใหญ่พอจะพันธนาการมนุษย์ แต่สำหรับไตตันโบราณ มันแค่ใหญ่กว่ากับดักหนูเล็กน้อย
เด็กสาวยักษ์คิดว่านางเมื่อยขา จึงยื่นมือคว้าด้วยความรำคาญ และใช้มือทั้งสองฉีกอสูรรูปกรงเล็บออกทีละนิ้วๆ และใช้เข่ากระแทก ใช้แขนฟาดจนแหลก
อสูรกรงเล็บกระดูกมรณะ..อสูรศักดิ์สิทธิ์ชั้นสองถูกกระแทกทำลายเสียงดังสะเทือนไปทั้งภูเขาและแม่น้ำ
เมื่อเห็นฉากภาพเช่นนี้ ไม่เพียงแต่จักรพรรดิชื่อตี้เท่านั้น แม้แต่ราชาเผ่าเก้าแสงก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาบ้าง
ไตตันโบราณ?
นี่เป็นตระกูลพญาไตตันหรือเปล่านี่
โชคดีที่สาวน้อยนี้ยังไม่เติบโตเต็มที่ ถ้านางเป็นไตตันเต็มวัย นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่นอน
ยักษ์ภูเขาแดนสวรรค์สูงถึง 500 เมตร อสูรปราณฟ้าระดับห้าถูกจ้าวปีศาจโบราณอัญเชิญออกมา ลักษณะของมันเหมือนกับภูเขาก้อนเนื้อที่ไร้ต้นไม้ ยักษ์ปีศาจนี้พุ่งเข้าหาเด็กสาวยักษ์ แต่ละย่างก้าวของมันทำให้เกิดแผ่นดินไหว
“ตายซะเถอะเจ้ายักษ์อ้วน!” เด็กสาวยักษ์ในวันนี้ ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนอีกต่อไป นางได้รับการชี้แนะจากเย่ว์หยาง ทำให้พลังความแข็งแกร่งของนางก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้เด็กสาวยักษ์ยังได้รับการส่งเสริมแบบไม่ธรรมดา ยักษ์ภูเขาแดนสวรรค์จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คู่ควรของนาง นางใช้ไหล่กระแทกและใช้แขนทรงพลังยกยักษ์ภูเขาขึ้นทุ่มเหวี่ยงลงพื้น
“ครืน ครืน.. ครืน..”
ยักษ์ภูเขาถูกทุ่มเหวี่ยงไปไกลถึงสามกิโลเมตรและกระแทกกับยอดเขา
ยอดเขาพังทลายใส่มันโดยตรง
พังถล่มทลาย
ภูเขาและแม่น้ำแตกแยกเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ พวกที่สังเกตการณ์ชมดูถึงกับเหงื่อกาฬหลั่งไหล เด็กสาวยักษ์พลังมหาศาลจริงๆ! บางทีนางอาจเป็นเด็กสาวยักษ์ที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์กระมัง?