ตอนที่ 739 อสูรบดกระดูก
ไม่เพียงแต่จ้าวปีศาจโบราณเท่านั้น แม้แต่จักรพรรดิชื่อตี้และราชาเผ่าเก้าแสงก็ไม่เคยคิดเลยว่าเย่ว์หยางที่มีพลังระดับเตรียมปราณฟ้าจะเชี่ยวชาญพลังกฎสวรรค์
แม้จะควบคุมได้เพียงเล็กน้อย แต่ก็ทรงพลังเช่นกัน
ในตอนแรกเจ้าปีศาจโบราณคิดว่าพลังปราณฟ้าระดับหก และร่างแยกทั้งแปดเพียงเท่านี้คงจะลงมือได้สัมฤทธิ์ผล เมื่อเคลื่อนไหวจนตกไปอยู่ในสถานการณ์อันตราย ไม่ใช่ข้อผิดพลาดในเรื่องพลัง แต่เป็นการคำนวณที่ร้ายกาจของเย่ว์หยาง ถ้าว่ากันตามธรรมดาไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิชื่อตี้หรือราชาเผ่าเก้าแสงล้วนเห็นความจริงที่ว่าการควบคุมกฎสวรรค์ของเย่ว์หยางยังไม่เชี่ยวชาญพอจะฆ่าจ้าวปีศาจโบราณได้ การควบคุมพลังกฎสวรรค์มีพลังคงอยู่ได้เพียงหนึ่งนาทีเท่านั้น สำหรับจ้าวปีศาจโบราณนี้ แม้แต่ราชินีฟ้าที่มีระดับพลังเท่ากับจักรพรรดิแดนสวรรค์ที่อยู่ด้านหลังราชาเก้าแสงยังไม่กล้าพูดว่าภายในหนึ่งนาทีจะสามารถฆ่าจ้าวปีศาจโบราณได้ ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจ้าวปีศาจโบราณก็คือใช้ร่างมนุษย์สู้กับเย่ว์หยาง จึงทำให้ไม่มีโอกาสได้สำแดงพลังจ้าวปีศาจที่แท้จริงได้
ความผิดพลาดของเย่ว์หยางก็คือไม่ใช้ปราณราชันย์เมื่อเริ่มใช้กฎสวรรค์โจมตี นั่นจะทำให้จ้าวปีศาจโบราณได้รับบาดเจ็บสาหัส
ทั้งสองต่างก็มีข้อผิดพลาด
จักรพรรดิชื่อตี้และราชาเผ่าเก้าแสงก็คิดเช่นนั้น
“วิ้ววววว” เมื่อพลังกฎสวรรค์ของเย่ว์หยางหายไป พลังวิญญาณของเขาดูเหมือนถูกสูบไปทันทีได้แต่ยืนนิ่งเฉย จักรพรรดิชื่อตี้เริ่มมีกำลังใจดีขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าเจ้าเด็กนี่จะไม่ธรรมดา ทั้งยังมีความเข้าใจกฎสวรรค์ แต่ที่สำคัญเขายังไม่ถึงระดับที่เชี่ยวชาญเต็มที่ ถ้าเขาสามารถรองรับพลังกฎสวรรค์ได้สักสิบนาที จ้าวปีศาจโบราณจะต้องตายอย่างแน่นอน
“ฮึ่ม!” เทียบกับเย่ว์หยางที่ยังคงยืนนิ่งเพื่อฟื้นฟูพลัง จ้าวปีศาจโบราณเริ่มลงมือทันที
ร่างของเขาสั่นอย่างรุนแรงและเขากระแทกกระแทกเข่ากับพื้นหินอย่างหนักหน่วง
มือทั้งสองหงิกเกร็ง
พลังที่รุนแรงระเบิดออกมาจากร่างของจ้าวปีศาจโบราณ
ร่างมนุษย์ที่คล้ายกับเย่ว์หยางถูกพลังฉีกระเบิดทำลายอย่างรวดเร็ว เลือดเนื้อปลิวกระเด็นไปทุกทิศทาง ร่างมนุษย์ไม่สามารถรองรับพลังจ้าวปีศาจแท้ๆ ได้ พลังของจ้าวปีศาจซึ่งสะสมมาเป็นเวลาหลายหมื่นปี ร่างมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถรองรับได้ เว้นแต่เป็นร่างของจ้าวปีศาจหรือร่างเทพ แต่เพื่อเอาชนะใจแม่สี่ จ้าวปีศาจโบราณยอมซ่อนพลังของจ้าวปีศาจไว้เป็นเวลาหลายหมื่นปี ด้วยวิธีนี้จะเป็นการดีเมื่อได้ร่วมงานกับจักรพรรดิชื่อตี้ ราชาเก้าแสงและพันธมิตรอื่น ทั้งยังเป็นการถือไม้ตายลับไว้ในมือ ถ้าเย่ว์หยางไม่ใช้พลังกฎสวรรค์ เขาไม่ต้องการจะใช้พลังของจ้าวปีศาจนี้จริงๆ
เมื่อพลังของจ้าวปีศาจที่เก็บสะสมไว้หมื่นปีถูกใช้งาน ร่างของเขาเองก็ดูเหมือนแทบจะทนไม่ไหว ก่อนจะพบร่างพาหะที่เหมาะสม พลังงานนี้เมื่อถูกใช้ไปแล้วจะไม่ฟื้นฟูขึ้นใหม่อีกนาน
นอกจากนี้จ้าวปีศาจโบราณยังกังวลว่าราชาเก้าแสง จะเห็นผนึกวิญญาณของตัวเขา ซึ่งจะทำให้ตัวเขาเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบในภายหลัง
อย่างไรก็ตามเพราะเย่ว์หยางใช้พลังกฎสวรรค์ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น
บางทีจักรพรรดิชื่อตี้และราชาเก้าแสงอาจจะร่วมมือกันจัดการเรื่องนี้เองก็ได้ แต่จ้าวปีศาจโบราณไม่มีทางคิดเรื่องอย่างนั้น ขณะนั้นเขาต้องการฆ่าเย่ว์หยางซึ่งคุกคามชีวิตของเขาให้ได้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม คนผู้นี้เชี่ยวชาญพลังกฎสวรรค์ ไม่อาจปล่อยให้เขามีชีวิตต่อไปได้
“ร่างและสถานะของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ข้าไม่ต้องการมันอีกต่อไปแล้ว... ตราบเท่าที่เจ้าตายไป!” จ้าวปีศาจโบราณพูดด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง จากนั้นก้มศีรษะที่สั่นลง พลังจากมีเสียงระเบิดปัง ร่างเหมือนมนุษย์ของจ้าวปีศาจโบราณทั้งหมดมีเปลวไฟระเบิดออก เปลวไฟและพลังงานนับไม่ถ้วนฉีดพุ่งเข้าไปในหินแก้วผลึกเหมือนกับภูเขาไฟระเบิด
“เอ๊ะ?” จักรพรรดิชื่อตี้สังเกตเห็นผนึกอักษรรูนในใจกลางหินผนึกใสของจ้าวปีศาจโบราณ แม้ว่าเขาไม่สามารถเข้าใจได้ชั่วขณะ แต่เขาจดจำเอาไว้เป็นอย่างดี
“ผลึกหกวิญญาณ” ราชาเก้าแสงเห็นได้ไกล และรู้มากกว่าจักรพรรดิชื่อตี้
พลังงานและเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนระเบิดฉับพลันและชะงักในกลางอากาศทันที จากนั้นควบแน่นอย่างรวดเร็วกลายเป็นร่างของจ้าวปีศาจ ร่างนั้นประกอบด้วยเปลวลุกคำรามและพลังงานที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่า หัวของปีศาจดูน่ากลัว เขาโง้งสีดำสนิทมีเปลวไฟพ่นออกจากปลายแหลม ตาแดงเข้มเหมือนดวงอาทิตย์ ปีกทั้งสองมีเปลวเพลิงและควัน จ้าวปีศาจโบราณใช้พลังงานสร้างร่างขนาดมหึมา แขนของเขาแทบแตะถึงสวรรค์ จักรพรรดิชื่อตี้และคนอื่นประหลาดใจกับพลังที่ยิ่งใหญ่ของเขา
นอกจากนี้เขายังมีระดับพลังปราณฟ้าระดับหก แต่จักรพรรดิชื่อตี้เชื่อว่านักสู้ปราณฟ้าระดับหกถ้ามาอยู่ต่อหน้าเขา จะถูกฆ่าได้ทันทีเหมือนเชือดไก่
อย่างจ้าวปีศาจโบราณต้องมีพลังปราณราชันย์ระดับหกอย่างแท้จริง นักสู้ชั้นสูงมักจะมีปณิธานราชันย์
ความสูงร้อยเมตรกับพลังอีกหมื่นปี
ไม่ต้องพูดถึงเย่ว์หยาง แม้แต่จักรพรรดิชื่อตี้เมื่ออยู่ต่อหน้าจ้าวปีศาจโบราณก็ยังรู้สึกว่าตัวเล็กน้อยนิด แม้ว่าจักรพรรดิชื่อตี้จะหยิ่งยโส แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อกรของจ้าวปีศาจโบราณ แม้จะมีอาวุธวิเศษป้องกันตัว ก็ยังเป็นไปไม่ได้กับการใช้จัดการจ้าวปีศาจโบราณ จักรพรรดิชื่อตี้มีสีหน้าตกตะลึง ขณะที่ราชาเก้าแสงก็มีสีหน้าเคร่งขรึมพอกัน
ในใจของราชาเผ่าเก้าแสงรู้สึกดีใจเป็นครั้งแรกที่จ้าวปีศาจโบราณไม่ได้รับร่างเทพ
ถ้าปล่อยให้จ้าวปีศาจโบราณได้รับร่างเทพ พลังที่สะสมมาหลายหมื่นปีของจ้าวปีศาจโบราณคงจะใช้ออกได้อย่างดีที่สุด บางทีบรรพบุรุษของเขาคงไม่ปลื้ม มิน่าเล่าเจ้าผู้นี้ถึงต้องการปลอมตัวเป็นคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ถ้าเขาได้รับร่างเทพ ไม่เพียงแต่หอทงเทียนเท่านั้น แม้แต่แดนสวรรค์จะไม่มีวันสงบลงได้ เขาจะน่ากลัวยิ่งกว่าจักรพรรดิอวี้แน่นอน ต่อให้สามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ร่วมมือกันก็ยากจะปราบเขาลงได้ เมื่อไตร่ตรองถึงเรื่องนี้แล้วราชาเผ่าเก้าแสงมองอย่างผิวเผินยังสงบอยู่ได้ แต่ในใจของเขามีความตั้งใจจะฆ่า หลังจากศึกนี้แล้ว ไม่ว่าชัยชนะระหว่างจ้าวปีศาจโบราณจะตกอยู่กับผู้ใด เป็นไปไม่ได้ที่จ้าวปีศาจโบราณจะรอดอยู่ได้
สหายเก่าแก่จากตำหนักสวรรค์กลางพูดถูก ถ้านักสู้จากหอทงเทียนไม่ถูกปราบ และหอทงเทียนไม่ถูกผนึกเอาไว้ แดนสวรรค์จะไม่มีวันสงบ!
“เจ้ากับข้ามีพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเหมือน ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราก็คือการเป็นศัตรูกัน แผนยึดครองของข้ามีความผิดพลาด ถ้ามีโอกาสข้าคงไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้นแน่ และการปรากฏตัวของเจ้าก็เป็นความผิดพลาด และนี่เป็นเหมือนถูกชะตาเล่นกล เราทั้งสองสามารถอยู่ในช่วงเวลาที่ต่างกันและเปล่งประกายชีวิตและมีพรสวรรค์ได้เต็มที่ แต่กลับถูกบังคับให้ต้องมาสู้กันเอง เฮ้อ.. น่าเสียดาย ในอดีตข้าหลีกเลี่ยงจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ หลีกเลี่ยงนางพญาเฟ่ยเหวินหลี หลีกเลี่ยงจักรพรรดิอวี้ หลีกเลี่ยงได้แม้กระทั่งเทียนหลุน เชียนเย่ และอู๋เซ่อ เมื่อข้าคิดว่าจะสามารถปกครองยุคสมัยได้ แต่ใครจะคิดกันว่ากลับเจ้าปรากฏตัวออกมา” เสียงของจ้าวปีศาจโบราณดังสะท้อนไปทั้งหุบเขาแม่น้ำขาว “แต่น่าเสียดายที่เจ้ามาพบกับข้า ด้วยอัจฉริยภาพของเจ้า ความสำเร็จของเจ้าไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดิอวี้แน่นอน อาจจะไล่ๆ กับเฟ่ยเหวินหลีและผู้ไร้เทียมทานอื่น แต่วันนี้เจ้าก็ต้องมาสู้กับข้า”
“ในเมื่อเป็นลิขิตสวรรค์ ข้าจะทำอะไรได้?” เย่ว์หยางส่ายศีรษะ
“ต้องฆ่าเจ้า, แม้ว่าฆ่าเจ้าจะไม่สามารถเปลี่ยนชะตาของข้าได้ก็ตาม แต่ข้าก็ต้องทำเช่นนี้ นี่คือชะตา เจ้ามันน่ารังเกียจ!” จ้าวปีศาจโบราณคำรามเหมือนกับจะรังเกียจชะตาตนเอง
“ข้าเห็นด้วย ที่การต่อสู้แตกหักกับเจ้าเป็นความผิดพลาดของข้า” เย่ว์หยางชำเลืองมองดูจักรพรรดิชื่อตี้และราชาเผ่าเก้าแสงแล้วถอนหายใจ “แม้รู้ว่าผิดแต่ก็ต้องดำเนินการต่อ ใครให้เราเกิดมาเป็นศัตรูกันเล่า? เมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่งดงามของเจ้า ข้าเห็นใจจริงๆ เมื่อเจ้ากล้าแข็งในช่วงแรก ก็เผชิญหน้ากับจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อ ก็ย่อมต้องหดหู่แน่นอน หลังจากจักรพรรดิไร้เทียมทานจิ๋วซื่อแล้ว ก็ยังต้องมาถูกนางพญาเฟ่ยเหวินหลีพิชิต ข้าคิดว่าพวกที่หดหู่อดสูไม่ใช่แค่เจ้าคนเดียว แต่เป็นนักรบทั้งหมดในยุคของนาง และยังมีสุดยอดนักรบจากหอทงเทียนอย่างจักรพรรดิอวี้, เทียนหลุน เฉียนเย่, อู๋เส้อ ทั้งหมดเป็นสุดยอดนักรบที่แข็งแกร่งในหอทงเทียนในเวลานั้น เจ้าต้องการโดดเด่นสุดยอดในหอทงเทียนเวลานั้นเจ้าจะต้องแข็งแกร่งมากพอ ใครให้เจ้าไม่โดดเด่นที่สุด ไม่ทรงพลังที่สุดเล่า? ถ้าข้าตายด้วยฝีมือเจ้า ข้าจะไม่บ่นว่าอยู่ผิดที่ผิดเวลา แต่ถ้าเจ้าตายในเงื้อมมือข้า ก็ไม่ต้องโทษว่าชะตาฟ้าดิน, เพราะทุกคนต่างมีชะตาเป็นของตนเองเหมือนกัน”
“หากเจ้าไม่สามารถควบคุมชะตาตนเองได้ อย่างนั้นก็ปล่อยให้ชะตาควบคุมเจ้าเถอะ!” ในที่สุดเย่ว์หยางก็ทำใจรับได้
เมื่อประโยคนี้หลุดออกมาจากปากขอเงขา ทุกคนที่ได้ยินตกตะลึงอย่างหนัก
จักรพรรดิชื่อตี้ตกตะลึง
ราชาเผ่าเก้าแสงสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน
แม้แต่จื้อจุนก็ยังพยักหน้าเล็กน้อยพอใจกับสภาพจิตใจในปัจจุบันของเย่ว์หยาง
ชีวิตมักเป็นเช่นนี้ หากท่านไม่สามารถควบคุมโชคชะตาตนเองได้ อย่างนั้นท่านคงจะปล่อยให้ชะตาควบคุม! เพียงไม่กี่คำนี้มีความหมายว่าคนที่ไม่น่าเกรงขามได้แต่ปล่อยตัวไปตามกระแสโลก มีแต่นักสู้ที่น่าเกรงขามส่วนใหญ่จะควบคุมตนเอง สามารถทวนกระแสจนไปถึงต้นน้ำได้ ไต่ขึ้นไปถึงยอดเขาและมองลงมายังสิ่งมีชีวิตทั้งปวง!
“ดี! อย่างนั้นข้าจะท้าทายชะตาตนเองโดยไม่มียั้ง!” เจ้าปีศาจโบราณจ้องมองอยู่นาน จากนั้นแหงนหน้าคำรามและพ่นเปลวไฟขึ้นไปในท้องฟ้า เขาพ่นไฟครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อปลดปล่อยพลังจ้าวปีศาจที่เก็บงำมาหลายหมื่นปี เขาไม่ทราบว่าต่อให้เอาชนะเย่ว์หยางเขาก็ไม่สามารถรอดชีวิตได้ เพราะเขาอาจตายในเงื้อมมือของจื้อจุน ราชาเผ่าเก้าแสง หรือราชินีฟ้าก็ได้
เมื่อแผนล้มเหลวก็ต้องต่อสู้กับเย่ว์หยางอย่างเด็ดขาด
ถ้าสามารถย้อนกลับไปได้ เขาจะไม่ยอมทำผิดพลาดอย่างนี้อีก
เขาคงยินยอมหลับต่อไปเหมือนช่วงที่หลีกหนีจักรพรรดิไร้เทียมทาน, เฟ่ยเหวินหลี, จักรพรรดิอวี้และรอคอยโอกาสต่อไปเรื่อยๆ แต่บัดนี้ไม่มีทางที่จะกลับไปสู่วงจรเช่นนั้นได้ จักรพรรดิชื่อตี้กลับมาแล้ว ราชาเก้าแสงและราชินีฟ้าก็ยังมาด้วย ฝ่ายตรงข้ามแค่เย่ว์หยางคนเดียวก็ควบคุมกฎสวรรค์ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงจื้อจุน
การต่อสู้ครั้งนี้ จ้าวปีศาจโบราณไม่รู้ว่าในที่สุดเขาจะต้องตายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจอย่างหนึ่งได้
จะไม่มีการออมรั้งยั้งมือใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อพลังจ้าวปีศาจที่สะสมมาเป็นเวลาหลายหมื่นปีถูกใช้ต่อสู้หมด ต่อให้ต้องตายพวกเขาทุกคนจะพินาศตายตามไปด้วย!
“ล้างผลาญ!” จ้าวปีศาจโบราณกดฝ่ามือลงกับพื้นหุบเขาแม่น้ำขาว พลังจ้าวปีศาจหมื่นปีเผาผลาญหุบเขาทั้งหมด ความร้อนสูงปะทุออกมาจากใต้ดินทันที พื้นโลกสั่นสะเทือน แผ่นดินแยกออกเหมือนกับปากยักษ์ของอสูรร้ายมองเห็นลาวาแดงที่ร้อนแรง
แม็กมาลาวาปะทุขึ้นท้องฟ้า ควันเถ้าถ่านภูเขาไฟกลบคลุมเต็มทั้งพื้นฟ้าและแผ่นดิน
ทั่วทั้งหุบเขาแม่น้ำขาวโดยรอบหลายสิบกิโลเมตรปรากฏกลายเป็นภาพเหมือนขุมนรกที่น่ากลัว.. แม็กมาในหุบเขาไฟนรกจะติดตามผนังหุบเขา จ้าวปีศาจโบราณเหยียดแขนชี้มาทางเย่ว์หยางและปล่อยแสงสีแดงฉานทันที นี่คือไม้ตายทรงพลังที่สุดของจ้าวปีศาจโบราณ และอสูรพิทักษ์วิญญาณของเขา ‘เชื้อไฟ’ เป็นการเสริมพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในอดีตเคยทำร้ายจักรพรรดิไร้เทียมทานจนได้รับบาดเจ็บจากพลังดรรชนีนี้มาแล้ว
เย่ว์หยางไม่กล้ารับพลังดรรชนีและจำกัดการตรึงของจ้าวปีศาจโบราณไว้ทันที
เขาเทเลพอร์ตออกมา
พื้นผิวของแท่นบูชายัญที่ไม่มีอะไรทำให้เสียหายได้ แต่กลับถูกพลังดรรชนีโลหิตยิงทะลวงเป็นรูเท่ากำปั้นและมีควันคละคลุ้ง
พลังดรรชนีนี้ทำให้จักรพรรดิชื่อตี้ถึงกับหางตากระตุก เขารู้สึกว่าเกราะศักดิ์สิทธิ์บนร่างของเขาอาจไม่สามารถป้องกันพลังดรรชนีนี้ได้
หากไม่ระวังตัวให้ดี เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกจ้าวปีศาจโบราณฆ่าตายได้ทันที
ดรรชนีจ้าวปีศาจ ทรงพลังมากจนสามารถสังหารได้ในทันที!
เย่ว์หยางก็สะดุ้งตกใจเช่นกัน ขณะที่เพิ่งเทเลพอร์ตออกมา ทันใดนั้นจ้าวปีศาจโบราณทำท่าโอบมือซ้ายดักไว้ ขณะที่เย่ว์หยางเทเลพอร์ต เขาสามารถคาดคำนวณถึงจุดที่เย่ว์หยางจะปรากฏตัวได้
“ปีศาจบดกระดูก” เจ้าปีศาจโบราณเรียกอสูรศึกชั้นพิเศษที่แปลกประหลาดออกมาโดยเฉพาะ ตัวของมันเหมือนกับเครื่องโม่หินมีวงเวทอักษรรูนอยู่เหนือหัวของมัน มันเคลื่อนไหวได้เองโดยไม่มีการควบคุมจากภายนอก จ้าวปีศาจโบราณจับยึดตัวเย่ว์หยางได้ จากนั้นเอ่ยปากทันที “ปีศาจบดกระดูก” อสูรศึกที่มีรูปร่างเหมือนเครื่องโม่บดหินเหมือนกับต้องการจะบดขยี้เย่ว์หยางให้เป็นผุยผง
“น่ากลัวจริงๆ” จักรพรรดิชื่อตี้ตกใจอย่างหนัก อสูรศึกตัวนี้ทำให้เขาระลึกถึงอสูรร้ายในตำนานที่น่ากลัว มันคืออสูรดึกดำบรรพ์...