ตอนที่ 58 เจ้าเป็นปรมาจารย์จริงๆด้วย
ทู่หยุนยังไม่รู้ว่าซู่ซุนเอ๋อได้เข้าสู้ระดับศิษย์หลักของปรมาจารย์ผู้สอนศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นแล้ว ส่วนหยานฉีนั้นเขาคิดว่าเป็นเพียงผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ขั้นต้นเท่านั้น
เจ้าหน้าที่คนนั้นตกใจเล็กน้อย เขาเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ขององค์กรศิลปะการต่อสู้และไม่สามารถถูกยั่วยุจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้
“นายท่าน ช่วยไปกับข้าเพื่อทดสอบพลังต่อสู้ของท่านด้วย”
"ไปกันเถอะ."
น้ำเสียงของหยานฉียังคงสุขุมเยือกเย็น
เมื่อได้ยินที่หยานฉีพูด เจ้าหน้าที่ก็พาหยานฉีไปที่ห้องพลังต่อสู้ และซู่ซุนเอ๋อก็เดินตามเขาไป
ทู่หยุนยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าที่เหยียดหยามเช่นเดิม
"เมื่อเจ้าได้รับตราแล้ว ข้าขอดูหน่อยเถอะว่าเจ้าเป็นสุดยอดลูกศิษย์จริงๆหรือเปล่า!"
โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ชั้นนำ 100 แห่งในฐานหลินไห่มีลูกศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น ไม่เคยมีสุดยอดลูกศิษย์ปรากฎตัวมาก่อน ทู่หยุนนั้นเป็นคนหยิ่งยโสมาก หากหยานฉีเป็นเพียงผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ขั้นต้น หยานฉีก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเรียกตัวเองว่าสุดยอดลูกศิษย์ได้!
เจ้าหน้าที่พาหยานฉีและซู่ซูนเอ๋อไปที่เครื่องวัดพลังต่อสู้
“นายท่าน โปรดทดสอบพลังการต่อสู้ของท่านด้วย”
เจ้าหน้าที่พูดด้วยความเคารพ
เมื่อหยานฉีได้ยินคำพูดนั้นเขาจึงไปที่เครื่องมือทดสอบพลังต่อสู้และชูกำปั้นขึ้นขึ้น
ซู่ซุนเอ๋อและเจ้าหน้าที่ทุกคนลืมตาขึ้นกว่าปกติหลายเท่า พวกเขาต้องการดูว่าพลังการต่อสู้ของหยานฉีไปถึงระดับใด
หยานฉีหายใจเข้าลึกๆ
ก่อนจะต่อยหมัดหนึ่งพุ่งเข้าใส่เครื่องวัดพลังอย่างแรง
ปัง!
พลังต่อสู้ 75,000!
เป็นไปได้ไง!
ซู่ซุนเอ๋อและเจ้าหน้าที่ต่างพากันตกตะลึง
พลังต่อสู้ 75,000?!
นี่คือพลังต่อสู้ทั่วไปของระดับปรมาจารย์ขั้นต้น
หยานฉี นี่เจ้า...
เป็นปรมาจารย์ขั้นต้นจริงๆงั้นเหรอ!?
ดวงตาของซู่ซุนเอ๋อเบิกกว้าง และหัวใจของเขาก็เต้นอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่คนนี้ยืนตัวแข็งทื่อราวกับหินไปครู่หนึ่งก่อนที่จะดึงสติกลับมา
เป็นไปได้ยังไงเขาเป็นปรมาจารย์ขั้นต้น!
ปรมาจารย์ที่ทรงพลังขนาดนี้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาฃั้นหรือ?
“ข้าต้องการไปที่โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้พยัคฆ์ดำและฆ่าหลินเที่ยนเจียง หัวหน้าโรงเรียนศิลปะการต่อสู้พยัคฆ์ดำ”
นี่เป็นคำพูดของหยานฉีที่พูดกับซู่ซุนเอ๋อเมื่อตอนที่เขาอยู่นอกห้องปรมาจารย์ที่โรงเรียนศิลปะการต่อสู้อสรพิษสายฟ้า
แต่ซู่ซุนเอ๋อร์นั้นไม่เชื่อ เธอคิดว่าหยานฉีพูดเล่นกับเธอเท่านั้น
จนกระทั่งเธอได้เห็นพลังที่ปรากฎบนเครื่องวัดพลังนั้น ทำให้เธอเชื่อว่าสิ่งที่หยานฉีพูดนั้นเป็นความจริง
เจ้าหน้าที่ยังคงตกตะลึง เขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกราวกับเห็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตของเขา
“พาข้าไปรับตราของข้าที”
หยานฉีกล่าว
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ยินดังนั้นพวกเขาก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง
เขาไม่กล้าที่จะตอบโต้อะไรกับหยานฉี
เพราะคนระดับปรมาจารย์นั้นมักชอบทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลเสมอ!
เจ้าหน้าที่รีบพาหยานฉีไปรับตราของเขา
เมื่อหยานฉีและซู่ซุนเอ๋อเดินออกจากห้องวัดพลังการต่อสู้ ส่วนทู่หยุนนั้นก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม เมื่อพวกเขาออกมาทู่หยุนก็เย้ยหยันหยานฉีและซู่ซุนเอ๋อต่อ
เขารู้ว่าหยานฉีกำลังจะได้รับตรา
เขาต้องการที่จะรู้ว่าตราของหยานฉีนั้นคือตราของระดับอะไร
หยานฉีเดินตามเจ้าหน้าที่ไปที่ห้องรับตรา เจ้าหน้าที่ยื่นตรากระทิงที่ถูกกักขัง1ดาวให้หยานฉี
เขาหยิบตรานั้นไว้และใส่ไว้ในกระเป๋าของเขา
จากนั้นเขาและซู่ซุนเอ๋อก็เดินออกจากห้องรับตรา
หลังจากที่พวกเขาเดินออกจากห้องรับตรา เจ้าหน้าที่ก็นึกถึงเรื่องนี้และคิดว่ามีปรมาจารย์อีกคนอยู่ในฐานหลินไห่ ซึ่งเขาต้องรายงานให้เบื้องบนได้ทราบ
ทู่หยุนเห็นคนสองคนนั้นเดินออกมา เขาเห็นหน้าอกของหยานฉีที่ไม่ได้สวมตราเลยอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย
"สุดยอดลูกศิษย์ เจ้าเก็บตราของเจ้าไว้ที่ไหนกัน"?
เมื่อได้ยินเสียงที่กวนประสาทของทู่หยุนนั้น หยานฉีไม่ได้สนใจอะไรและเมินเสียงของเขาไป
ซู่ซุนเอ๋อจ้องมองทู่หยุนก่อนที่จะพูดออกไป "ทู่หยุน ต่อหน้าเจ้าคือระดับปรมาจารย์!"
"ปรมาจารย์? เจ้าไม่รู้งั้นหรือว่าคำนี้ไม่ควรเอามาพูดเล่นๆ"?......