ตอนที่ 20-36 เก้าสุดยอดฝีมือ
ในที่เหนืออากาศเทือกเขาเพียสลินลี่ย์กับดันนิงตัน ไม่ลังเลแม้แต่น้อยกลายเป็นร่างเลือนรางรุกกระหนาบบาล์ม! พลังบีบของแดนโลกธาตุยังต่ำกว่าในแดนนรกมาก และลินลี่ย์กับดันนิงตันสามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเทเลพอร์ต
“โจมตีหรือ? ฮ่าฮ่า...”
บาล์มหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเสียงกึกก้องดังอยู่ในอากาศ ขณะที่ตลอดทั้งร่างของเขาเริ่มมีเปลวไฟลุกม้วนตัวอยู่รอบเขา ความร้อนรอบตัวเขาสูงจนพื้นที่โดยรอบแม้แต่มิติเองก็เริ่มแตกแยกจากความร้อน บาล์มไม่ให้ความสนใจดันนิงตัน แต่มุ่งตรงเข้าหาลินลี่ย์
“ระวัง” ดันนิงตนส่งสำนึกเตือน
ลินลี่ย์เพียงแต่หัวเราะและมองดูอย่างใจเย็น
“ควั่บ!” บาล์มกลายเป็นแนวไฟพุ่งผ่านตรงเข้าหาร่างลินลี่ย์โดยตรง จากนั้นร่างของบาล์มปรากฏชัดเจนขึ้นที่ด้านหลังลินลี่ย์
“วิชาเดียวกับที่บลูไฟร์ใช้” ลินลี่ย์หัวเราะและหันกลับ
“เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะไม่รู้ตัวอะไรเลย?” บาล์มตกใจ
พารากอนผู้ฝึกมาทางกฏธาตุไฟจะมีพลังโจมตีที่ทรงพลังมากที่สุดพลังโจมตีวัตถุและพลังโจมตีวิญญาณของพวกเขาล้วนแข็งแกร่งมหาศาลทั้งคู่
“พลังโจมตีวิญญาณ? อ่อนเกินไป” ลินลี่ย์หัวเราะขณะที่เขามองดูบาล์ม ในแง่พลังวิญญาณบาล์มจะเทียบได้กับวิญญาณกลายสภาพอย่างลินลี่ย์ได้อย่างไร? และลินลี่ย์ก็มีสมบัติมหาเทพประเภทปกป้องวิญญาณ!
“ตาข้าบ้าง” ลินลี่ย์เคลื่อนไหวทันที
กระบี่ประกายเทพเงาลวงในมือของเขาฟันใส่บาล์มอย่างสบายๆ มิติสั่นสะท้านเล็กน้อย กระบี่เงาลวงดูเหมือนกับเทเลพอร์ตไปปรากฏข้างหน้าบาล์มโดยตรง ความเร็วในการโจมตีของพารากอนยิ่งใหญ่กว่าความเร็วในการเคลื่อนไหว ไม่มีโอกาสที่บาล์มจะหลบได้แม้แต่น้อย
“ฮึ่ม” บาล์มไม่กลัว พลังโจมตีของพารากอนธาตุไฟ
“แคล้ง!”
ดาบเพลิงยักษ์และกระบี่เงาลวงปะทะกัน
“พลังแข็งแกร่ง” ลินลี่ย์รู้สึกมือสั่นสะท้าน แต่นั่นเป็นแค่ที่ฝ่ามือของเขา พลังที่เหลือสลายไป หลังจากหลอมรวมกับพลังเทพและมีการเปลี่ยนแปลงร่างกาย ร่างกายลินลี่ย์ในตอนนี้มีพลังมากเกินไป แม้ไม่ต้องแปลงร่างมังกร แต่พลังร่างกายของเขาก็มีระดับสูงที่สุดในจักรวาลทั้งสิ้น!
สมบัติมหาเทพสำหรับป้องกันและร่างของเขาก็คล้ายกับสมบัติมหาเทพเหมือนกันนี่คือสองอย่างที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
มีพลังป้องกันจากมหาเทพก็หมายความว่าพลังป้องกันของเขาคงแข็งแกร่ง ไม่ได้หมายความว่านักสู้ผู้นั้นมีพลังเพิ่มขึ้น
แต่สำหรับบางคนที่มีร่างกายคล้ายกับสมบัติมหาเทพ ลำพังพลังของเขาอย่างเดียวเท่านั้นก็ยิ่งใหญ่น่ากลัว
ตัวอย่างเช่นเบรุตหรือแฮมเมอร์ ร่างกายของพวกเขาทรงพลังมาก พวกเขาแข็งแกร่งมากเกินไป แม้จะไม่ถึงระดับเทพพารากอน แต่พลังโจมตีวัตถุของพวกเขาก็เทียบได้กับเทพพารากอน
สำหรับลินลี่ย์พลังของเขาไม่ด้อยกว่าเบรุตหรือแฮมเมอร์ นอกจากนี้ เขายังมีพลังของปณิธาน!
ด้วยเหตุนี้เอง..
ในการปะทะนี้ฝ่ามือของลินลี่ย์แค่สั่นสะเทือนเล็กน้อย ขณะที่ทั้งตัวบาล์มกระเด็นถอยหลัง
“ปัง!”
ร่างของบาล์มปะทะกับภูเขาหินอย่างหนัก และพลังสะท้อนของแรงปะทะส่งผ่านไปทั่วภูเขา พลังที่สามารถทำให้เทพพารากอนกระเด็นกระดอนถอยหลังไปได้ไกลขนาดนั้น แล้วภูเขาในแดนโลกธาตุจะทนทานได้อย่างไร?” ครืน.....
ชั้นหินชั้นหนึ่งสลายกลายเป็นทราย แล้วคลื่นที่ทรงพลังกวาดผ่านภูเขาเหมือนกับคลื่นทะเลเปลี่ยนภูเขาให้กลายเป็นทราย เหมือนกับระลอกคลื่นที่กวาดออกไปเป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ทั้งยังกวาดผ่านอากาศจากภูเขาลูกหนึ่งไปยังภูเขาอีกลูกหนึ่ง
ยอดเขาทั้งหมดภายในระยะหลายร้อยกิโลเมตรดูเหมือนตัดโดยดาบยักษ์ที่มีขนาดยาวร้อยกิโลเมตร กลายเป็นที่ราบเรียบสม่ำเสมอ
ช่องเขาเทวทัณฑ์ที่อยู่ห่างจากจุดที่ลินลี่ย์ต่อสู้ออกไปไม่กี่สิบกิโลเมตรพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
นักรบหลายแสนที่อยู่ในช่องเขาเพียงแต่รู้สึกว่าพื้นที่สั่นสะท้านรุนแรง และจากนั้น..
“ครืนนน...”
ครึ่งหนึ่งของยอดเขาของแต่ละข้างช่องเขาถูกเปลี่ยนไปเป็นทราย และจากนั้นมีเสียงหวีดหวิว ทรายเริ่มไหลเทลงมา
“ถอยเร็วเข้า ถอย!”
ทหารทุกคนเริ่มตะโกน
ทรายปริมาณมหาศาลนับไม่ถ้วนไหลเทลงมา ถ้าพวกเขาถูกฝังอยู่ภายใต้ทรายถล่มนี้..ต่อให้เป็นนักรบที่แข็งแกร่งก็คงต้องตายอย่างทุกข์ทรมาน
ต่อมากองทรายขนาดมหึมาที่สูงหลายร้อยเมตรปรากฏภายในช่องเขา
“โอวสวรรค์, เนินทรายที่มีขนาดภูเขาย่อมๆ ถ้าใครติดอยู่ภายในจะต้องตายแน่นอน โชคดีที่ข้ารู้สึกตัวได้เร็วพอ” นักรบอีกมากจ้องมองภูเขาทรายและรู้สึกกลัว เนินทรายขนาดมหึมาที่น่ากลัวนี้ปิดกั้นใจกลางช่องเขาไว้”
“เกิดอะไรขึ้น? และทรายพวกนี้มาจากที่ไหน?”
“พระเจ้า! ยอดเขาหายไปหมด เขากลายเป็นดูราบเรียบ ราวกับว่ามีเทพยดาใช้ดาบฟันภูเขาใกล้ๆจนขาดราบเรียบ”
“ยอดเขาเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ยังมีอยู่เลย แล้วยอดเขาหายไปไหน?”
ทหารหลายคนแหงนหน้าจ้องมองด้วยท่าทีซึมเซา
นายทหารระดับสูงและยอดฝีมือที่มีพลังแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายตะลึง
“ปาฏิหาริย์!”
อีกหลายคนเบิกตากว้าง ขณะนั้นเองทหารทั้งสองกองทัพไม่ต้องการสู้กันต่อไปแม้แต่น้อย พวกเขามัวตกตะลึงกับปาฏิหาริย์นี้ ความจริงแม้ว่าพวกเขาต้องการจะสู้ แต่ไม่มีทางทำได้ เพราะทรายสูงเป็นร้อยๆ เมตรได้กั้นขวางทั้งสองฝ่ายอย่างสิ้นเชิง
“ขึ้นไปดูข้างบนกัน” ทหารในกองทัพหลายคนพากันขับขี่อสูรบินและขึ้นไปดูบนท้องฟ้า
มีนักเวทบางส่วนและแม้แต่เซียนซึ่งมีกันไม่กี่คนที่อาศัยกำลังของตนเองบินขึ้นไปในท้องฟ้าได้ พวกเขาทุกคนต้องการเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ยอดฝีมือระดับเซียนมากนัก” หลายคนจ้องมองตะลึงเมื่อเห็นเทพชั้นสูงจำนวนมากลอยตัวอยู่ในอากาศ
“ควั่บ!” ทันใดนั้นร่างหนึ่งพุ่งเข้าไปกระแทกกับผนังหินของช่องเขาขนาดใหญ่ “ครืน....” ทั่วทั้งช่องเขาสั่นสะเทือน และจากนั้นชั้นหินที่หนากกว่าสิบเมตรสลายกลายเป็นทรายและไหลเทลงมา
ร่างที่มีไฟคลุมตัวที่กระแทกเข้าไปในหุบเขาบินขึ้นมาในอากาศอีกครั้ง
“ลินลี่ย์! ข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าไม่ได้จับผู้ดูแลทางเข้าพิภพไป” ร่างสีแดงเพลิงเริ่มตะโกน
ทหารด้านล่างแตกตื่นกลัวพยายามหลบหลีกหาที่ซ่อนกันจ้าละหวั่น โชคดีที่ครั้งนี้ทรายที่ร่วงลงมาหนาเพียงไม่กี่เมตร ดังนั้นทหารจึงสามารถรักษาชีวิตรอดได้ นักรบมากมายโผล่ออกมาจากทรายและเงยหน้ามองร่างเพลิงนั้น “อะไร...พวกเขาเป็นคนแบบไหนกัน!?”
แรงปะทะเพียงพอทำให้เกิดหายนะอย่างนั้นเชียวหรือ?
“เจ้ายอมตายมากกว่าจะยอมรับใช่ไหม?” เสียงหนึ่งกึกก้องดังในท้องฟ้า
“เทพ..ทูตสวรรค์!”
ทหารเหล่านั้นถือเอาคำของผู้พูดว่าเป็นเทพเป็นเทวทูตสวรรค์ ทหารเหล่านี้ไม่รู้จักระดับที่สูงกว่าเซียน ขณะที่พวกเขาเห็น... ‘เทพ’ และ ‘เทวทูตสวรรค์’ ว่าเป็นสิ่งที่เหมือนกัน
ขณะนั้นเองมีสองร่างปรากฏอยู่เหนือช่องเขาจ้องมองร่างสีแดงเพลิง
“ลินลี่ย์! พลังโจมตีวัตถุของเจ้าน่ากลัวจริงๆ” ดันนิงตันถอนหายใจทึ่ง
“เผ่ามังกรฟ้าของข้ามักจะมีร่างกายที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษเสมอ ดังนั้นร่างของข้าจึงแข็งแกร่งแต่แรก ตอนนี้ข้ามีพลังของปณิธานและเชี่ยวชาญในเคล็ดลึกลับ แน่นอนว่าข้าก็ต้องแข็งแกร่งกว่าพารากอนทั้งหมดในแง่พลังโจมตีวัตถุ” ลินลี่ย์ยิ้ม
“แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย?” บาล์มเทพพารากอนแห่งไฟรู้สึกกล้ำกลืนอยู่ในใจ
นั่นไม่ใช่แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยนั่นแข็งแกร่งกว่ามาก! นี่เป็นการดูถูกกัน!
“โชคดี, แม้ว่าข้าไม่สามารถป้องกันพลังโจมตีแบบนี้ได้สิ้นเชิง แต่มันก็ยังไม่สามารถฆ่าข้าได้” บาล์มยังคงรู้สึกมั่นใจ สิ่งที่บาล์มไม่ตระหนักก็คือ...พลังที่ลินลี่ย์เปิดเผยออกมานั้น แม้จะล้ำหน้าพลังของบาล์มไปมาก แต่ก็ยังเป็นส่วนเล็กน้อยของพลังที่แท้จริงของลินลี่ย์ ไม้ตายที่แท้จริงของลินลี่ย์หลอมรวมพลังเทพสี่สายธาตุยังไม่ได้ถูกนำมาใช้
ถ้าเขาใช้พลังเทพหลอมรวม พลังโจมตีของเขาจะมากกว่านี้ถึงสิบเท่า
สิบเท่านั่นเป็นแนวคิดแบบไหน? เป็นการลำเอียงอย่างสิ้นเชิง
บาล์มมองลงไปที่สามัญชนผู้โง่เขลา เขารู้สึกโกรธอย่างช่วยไม่ได้ที่มนุษย์ธรรมดาเห็นเขาเสียหน้าอย่างนี้ นั่นทำให้เขาโกรธและอับอาย ‘กลุ่มมดแมลงนี้น่ารังเกียจนัก’ บาล์มโบกมือและเกิดพลังเปลวไฟกวาดครอบคลุมท้องฟ้าและก่อตัวเป็นทะเลเพลิงที่ไม่มีวันดับเหนือช่องเขา
ทะเลเพลิงนี้ยาวหลายร้อยกิโลเมตรคลุมไปทั้งช่องเขามันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไม่ให้คนที่อยู่ด้านล่างเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างบน และภายในช่องเขา..ต่อไปในอนาคตจะได้รับการขนานนามจากชาวพิภพโอคาลุนด์ว่า‘หุบเขาไฟล้างโลก’ เปลวเพลิงที่บาล์มสร้างขึ้นตามปกติเป็นเปลงไฟที่เทพชั้นสูงไม่กล้าสัมผัส
“ลินลี่ย์, ดันนิงตัน, เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าทั้งสองคนจะฆ่าข้าได้” บาล์มพูดด้วยความโมโห “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าผู้ดูแลทางเข้าพิภพไม่ได้อยู่ที่นี่”
“ฮ่าฮ่า, บาล์ม! เลิกปฏิเสธได้แล้ว” ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้นมีอีกร่างปรากฏขึ้น
“บาล์ม,พลังโจมตีวัตถุของเจ้ายังอ่อนกว่าลินลี่ย์มากนัก” มีอีกร่างหนึ่งปรากฏ
“เจ้า!” บาล์มขมวดคิ้ว มีพารากอนมากกว่าสองมาถึงแล้ว บาล์มขยายสำนึกเทพและเมื่อเขาทำเช่นนี้ เขาขมวดคิ้ว ไม่ใช่แค่พารากอนสองคนเท่านั้นที่มาถึง แต่ยังมีพารากอนอื่นเร่งรีบมาที่นี่เช่นกัน
บาล์มมีสีหน้าบิดเบี้ยวน่าเกลียดทันที
“บาล์ม! อย่าปฏิเสธเรื่องผู้ดูแลทางเข้าพิภพเลยส่งเขาออกมา” คนพูดนี้มีร่างคลุมไปด้วยแสงธาตุดิน กล้ามเนื้อปูดของเขาเป็นมัดๆและเส้นเลือดสีฟ้าของเขาเหมือนกิ่งก้านที่พันรอบตัว บุรุษผู้กำยำนี้มีส่วนสูงถึงสี่เมตร
“อนิจจา ถ้าเจ้ายืนยันปฏิเสธอีก เจ้ามีแต่จะเจ็บตัวมากขึ้น”เสียงแค่นดังขึ้น ผู้พูดคือไบเออร์
แต่ในพริบตาเดียวพารากอนอื่นทุกคนก็มาถึงเช่นกัน
“ฮ่าฮ่านี่ข้ามาปิดท้ายเป็นคนสุดท้ายหรือนี่ เงาร่างหนึ่งกระพริบวาบอยู่ข้างหน้า ผู้มาสายก็คือพารากอนแห่งแสงคลีเมนไทน์
รวมทั้งลินลี่ย์ด้วย มีคนปรากฏแปดคนแล้ว ทั้งแปดคนนี้จ้องมองบาล์ม
“ฮึ..พวกเจ้ามากันเลยสินะ” บาล์มมีสีหน้าสลดและเขาแค่นเสียงด้วยความโกรธ “ข้าบอกเจ้าแล้ว ผู้ดูแลทางเข้าพิภพไม่อยู่ที่นี่”
เปลวไฟไม่มีวันดับลุกโชนอยู่เหนือช่องเขาและเหนือเปลวเพลิงเป็นสุดยอดฝีมือระดับเทพยืนนิ่งอยู่กับที่ ทั้งแปดคนรายล้อมคนๆ เดียว! บาล์มอยู่ในตำแหน่งที่อ่อนแอ
“บาล์ม, ยังไม่ยอมรับอีกหรือ ดันนิงตัน,ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” พารากอนแห่งแสงคลีเมนไทน์ เม้มปากหัวเราะ
ดันนิงตันหลิ่วตาให้บาล์ม “บาล์ม, เป็นไปได้ไหมว่าเจ้ากำลังบังคับให้ข้าสะกดจิตและควบคุมเทพชั้นสูงของเจ้าสักคน?”
หน้าของบาล์มเปลี่ยนไปทันที
ในที่สุดเขาตระหนักได้ว่าจุดอ่อนของเขาคืออะไร!
เป็นเรื่องยากมากที่จะใช้การสะกดจิตควบคุมเทพชั้นสูง แต่ดันนิงตันสามารถทำได้ ‘เมล็ดวิญญาณ’ ‘สะกดจิต’การสร้างเศษวิญญาณ.. การกระทำเหล่านี้เป็นของวิถีมรณะ ถ้าใครไม่ได้ฝึกมาทางวิถีมรณะแต่ฝึกมาทางธาตุไฟหรือธาตุน้ำ ต่อให้เขากลายเป็นพารากอน ใครอื่นจะไม่สามรถใช้เมล็ดวิญญาณและการสะกดจิตหรือสร้างเศษวิญญาณจากการลอกเศษวิญญาณของคนได้
ทุกพื้นที่มีความพิเศษของตนเอง ถ้าใครไม่ฝึกในวิถีมรณะไม่ว่าจะทรงพลังขนาดไหน ก็ไม่สามารถใช้การสะกดจิตได้
“ผู้ดูแลทางเข้าพิภพไม่อยู่ที่นี่จริงๆ”บาล์มกล่าว
สีหน้าของยอดฝีมือทั้งแปดรวมทั้งลินลี่ย์บึ้งตึง เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ว่าบาล์มไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรชั่วสำหรับตัวเอง
“เขาตายแล้ว ข้าฆ่าเขาเอง” บาล์มพูดต่อ
ตาของยอดฝีมือทั้งแปดเป็นประกาย
บาล์มหัวเราะ “ตอนนี้ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่รู้เรื่องโบรดี อย่างไรก็ตาม ในเมื่อพวกเจ้าตัดสินใจบังคับข้ากันถึงขนาดนี้ ข้าก็คงไม่ฝืนทำจนพวกเจ้าไม่ได้อะไร ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ก็ได้ ที่สำคัญ.. ต่อให้พวกเจ้ารู้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก”
“เจ้าไม่ใช่คนตัดสินใจว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์หรือไม่” ไบเออร์หรี่ตามองคิ้วชี้ชันขณะเขาพูดอย่างเย็นชา
บาล์มพูดต่อ “โบรดีมาที่พิภพโอคาลุนด์จริงๆ แต่หนึ่งปีต่อมาเขาพาภรรยาออกไปจากทวีปโอคาลุนด์ไปดินแดนแห่งชีวิต! อย่างไรก็ตามเมื่อโบรดีไปจากพิภพโอคาลุนด์ เขาพูดอะไรบางอย่างกับผู้เฝ้าทางเข้าพิภพ...”
แปดยอดฝีมือจ้องมองบาล์ม
“โบรดีบอกว่า ‘ท่านเบน ถ้ามีเทพหลายคนมาในพิภพแห่งนี้เพื่อค้นหาบางอย่างที่เรียกว่าเพชรกระจับแดง โปรดบอกเทพเหล่านี้แทนข้า บอกพวกเขาว่าเพชรกระจับแดงอยู่ที่นี่ในพิภพโอคาลุนด์ อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเขาต้องการหา ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะโชคดีหรือเปล่าฮ่าฮ่า...” บาล์มพูดจบจากนั้นแค่นเสียงและมองทุกคนอย่างเย็นชา
สุดยอดฝีมือทั้งแปดคนเริ่มไตร่ตรอง
ทุกคนรู้สึกได้ชัดว่าคำพูดของโบรดีแฝงไว้ด้วยแววเยาะเย้ยพวกเขา
“ทุกท่าน, บอกข้าได้ไหมว่าเพชรกระจับแดงยังอยู่ในพิภพโอคาลุนด์ไหม?” บาล์มหัวเราะเย็นชา
นั่นคือสิ่งที่โบรดีอ้างถึง! แต่ความจริงเล่า? นั่นยังไม่ชัดเจน
มีความเป็นไปได้สองประการ ประการแรกเพชรกระจับแดงอยู่ในพิภพโอคาลุนด์อย่างแท้จริง เพียงแต่ถูกซ่อนไว้เช่นกัน ดังนั้นจึงค้นหาได้ยาก
ประการที่สองก็คือเพชรถูกนำติดตัวไปยังพิภพอื่นพร้อมกับโบรดี
“ฮ่าฮ่า...หาเวลาคิดเอาเองก็แล้วกัน ไม่ว่าพวกเจ้าจะตัดสินใจยกเลิกกลับไปหรือตัดสินใจค้นหาต่อ ก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้า ข้าให้ข้อมูลพวกเจ้าไปแล้ว” บาล์มหัวเราะและบินจากไป ขณะที่เขาทำเช่นนั้นบาล์มชำเลืองมองลินลี่ย์ที่ด้านข้างตลอดเขาเพิ่งสู้กับลินลี่ย์เมื่อครู่ที่ผ่านมา เขาเสียเปรียบอย่างสิ้นเชิง
“ดูเหมือนว่าลินลี่ย์ไม่ใช่โชคดีเมื่อเขาขับแม็กนัสเข้าไปในมิติปั่นป่วนและเมื่อครู่นี้เขาไม่ได้แปลงร่างมังกรอีกด้วย” ในใจของบาล์มเริ่มจะหวาดกลัวต่อลินลี่ย์