ตอนที่ 20-33 เทพมาเยือน
โลกธาตุแสงศักดิ์สิทธิ์ ลึกเข้าไปในทะเลก็อดโกลที่กว้างขวางไร้ขอบเขต มีเกาะน้อยเงียบสงบอยู่แห่งหนึ่งนามว่าเกาะดอกหยก
เกาะแห่งนี้มีพื้นที่ไม่กี่สิบกิโลเมตร แต่เป็นเวลานานนับปีไม่ถ้วนโจรสลัดที่อยู่โดยรอบทั้งหมดจะเข้าใจโดยปริยายว่า..ไม่ว่ายังไงก็ห้ามพวกเขาเฉียดเข้าไปใกล้เกาะน้อยแห่งนี้! เพราะในช่วงเวลานานนับปีไม่ถ้วนนี้ คนที่บังอาจเฉียดเข้าไปใกล้เกาะดอกหยกนอกจากสหายเก่าของเจ้าเกาะแล้วล้วนพบกับหายนะหมดสิ้น
“ครืน....”
ในอากาศเหนือเกาะดอกหยกสายลมพัดและเมฆรวมตัว กระแสพลังไหลเวียนเกิดขึ้นเหนือเกาะและมีร่างหลายสิบร่างบินออกมาจากเกาะ ผู้นำเป็นบุรุษคนหนึ่ง ขณะที่คนอื่นๆ ล้วนแต่เป็นสตรีทั้งสิ้น บุรุษผู้นำสวมชุดยาวสีขาวปล่อยผมสยายและมีหนวดสั้นโค้งลงคล้ายกับคิ้ว อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาลึกล้ำและเยือกเย็นยากจะหยั่ง
พลังงานในท้องฟ้าควบแน่นกลายเป็นร่างมนุษย์ เป็นประมุขมหาเทพแห่งแสง!
“คารวะท่านประมุขมหาเทพ” บุรุษผมทองชุดขาวคำนับเล็กน้อย
“คารวะท่านประมุขมหาเทพ” สตรียังคงคุกเข่าเช่นกัน
ประมุขมหาเทพแห่งแสงมีรอยยิ้มบนใบหน้า จากนั้นเดินเข้ามาหาบุรุษชุดขาว “คลีเมนไทน์! ที่ข้ามาในวันนี้เพราะมีเรื่องสำคัญบางเรื่องอยากจะขอให้เจ้าช่วยทำ”
บุรุษชุดขาวเลิกคิ้วประหลาดใจ “ประมุขมหาเทพ ถ้ามีอะไรที่ท่านไม่สามารถทำได้ แล้วข้าที่เป็นเทพชั้นสูงจะทำให้สำเร็จได้ยังไง?”
“ฟังข้าพูดก่อน” ประมุขมหาเทพแห่งแสงยิ้ม ในใจของประมุขมหาเทพแห่งแสงค่อนข้างไม่พอใจ “เทพชั้นสูงพารากอนเหล่านี้ล้วนแต่หยิ่งยโสทั้งนั้น พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ยินดีเป็นทูตมหาเทพ และถ้าพวกเขาเป็น พวกเขาก็ไม่ยอมถูกกดดันให้รับภารกิจง่ายๆ ลินลี่ย์ก็โอหังเกินไป คลีเมนไทน์นี้แม้จะเป็นทูตของข้าแต่จะส่งเขาไปรับภารกิจไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!”
เทพชั้นสูงพารากอนยังคงเป็นสุดยอดฝีมือในหมู่เทพ
ลึกๆในใจของพวกเขารู้สึกเหยียดหยามพวกมหาเทพ เป็นมหาเทพยอดเยี่ยมตรงไหน? พวกเขาก็แค่โชคดีได้รับประกายมหาเทพเท่านั้น!
ดังนั้นพวกเทพพารากอนจึงยากจะยอมฟังหรือเชื่อมหาเทพ เมื่อลินลี่ย์เผชิญหน้ากับการคุกคามของประมุขมหาเทพแห่งแสงจากนั้นในที่สุดก็โกรธและเริ่มโต้เถียง ไม่มีมหาเทพคนใดที่อยู่รอบๆประหลาดใจแม้แต่น้อย... เนื่องจากลินลี่ย์เป็นเทพพารากอน ถ้าเขาเอาแต่หดหัวไม่กล้าโต้เถียงแม้แต่น้อย มหาเทพอื่นก็คงจะดูถูกเขา
ประมุขมหาเทพแห่งแสงเริ่มอธิบายเรื่องเครื่องรางจอมเทพให้คลีเมนไทน์ฟังอย่างระมัดระวัง
“ตอนนี้เจ้าเข้าใจชัดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่แล้ว” ประมุขมหาเทพแห่งแสงยิ้ม “ตอนนี้เพชรกระจับแดงอาจจะอยู่ในพิภพโอคาลุนด์ เรามหาเทพต่างถิ่นไม่สามารถเข้าไปในพิภพโลกธาตุธรรมดาได้ ดังนั้นการต่อสู้แย่งชิงเพชรกระจับแดงในพิภพโอคาลุนด์ขึ้นอยู่เทพพารากอนอย่างพวกเจ้า! เจ้าน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดีใช่ไหม?”
“เข้าใจแล้ว”
คลีเมนไทน์พยักหน้า..แต่เขาไม่ได้อาสาเอง
ประมุขมหาเทพแห่งแสงแค่นเสียงในใจ แต่ยังคงรักษารอยยิ้มเอาไว้ “ถ้าเจ้าทำภารกิจได้สำเร็จ นี่จะถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีทางที่ข้าจะให้สมบัติมหาเทพอื่นกับเจ้าได้แล้ว แต่ข้าสามารถให้หยดพลังมหาเทพกับเจ้าได้อีกหมื่นหยด...” สีหน้าของคลีเมนไทน์ไม่เปลี่ยน เห็นได้ชัดว่า เขาไม่ได้ขาดแคลนพลังมหาเทพ
แต่ไม่มีทางที่ประมุขมหาเทพแห่งแสงจะมอบสมบัติมหาเทพอื่นให้เขาได้
“ข้าสามารถให้หยดพลังมหาเทพหมื่นหยดแก่เจ้าในตอนนี้ล่วงหน้าได้ ถ้าเจ้าล้มเหลว อย่างนั้นก็ช่างเถอะ..ถ้าเจ้าเอาเพชรกระจับแดงมาได้สำเร็จ เมื่อเจ้านำมามอบให้ข้าอย่างนั้นข้าจะมอบหยดพลังมหาเทพอีกรูปแบบหนึ่งให้เจ้าอีกหมื่นหยด เจ้าจะว่ายังไง?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงยิ้ม
“ไม่ต้องห่วง, ท่านประมุขมหาเทพ ข้าจะทุ่มแรงกายแรงใจนำเพชรกระจับแดงมาให้ท่านจนได้” คลีเมนไทน์คำนับเล็กน้อย
“อืม” ถึงตอนนี้ประมุขมหาเทพแห่งแสงหัวเราะด้วยความพอใจ “ไปเถอะ ไปพิภพโอคาลุนด์ ถ้าเจ้ามีบริวารไม่พอ จงไปที่ประตูเทเลพอร์ตและเรียกทหารเทพชั้นสูงพันนายให้ตามเจ้าไปด้วย”
“ขอรับ!” คลีเมนไทน์พูดด้วยความเคารพ “อย่างนั้นข้าจะออกเดินทางทันที”
เหล่ามหาเทพเป็นคนนอกไม่สามารถเข้าพิภพโลกธาตุได้ แม้ว่ามหาเทพหลายคนจะถูกกีดกัน แต่พวกเขาสามารถไปขอเทพพารากอนให้พวกเขามุ่งหน้าสู่พิภพโอคาลุนด์ การสู้รบในพิภพโลกธาตุต้องอาศัยพวกเทพ! มหาเทพทำได้แต่รอข่าวอยู่ข้างนอกเท่านั้น
พิภพโอคาลุนด์ ขนาดของพื้นที่ทั้งหมดเทียบได้กับพิภพยูลาน
อย่างไรก็ตาม99% ของพื้นที่ทวีปยูลานปกคลุมไปด้วยน้ำ! โดยเฉพาะในทะเลใต้กินพื้นที่ใหญ่กว่าทวีปยูลานเป็นพันเท่าหมื่นเท่า! แต่พิภพโอคาลุนด์แตกต่างออกไป พื้นที่ส่วนใหญ่ของพิภพโอคาลุนด์คลุมไปด้วยแผ่นดิน!
ทวีปโอคาลุนด์ประกอบไปด้วยสองทวีปใหญ่
สองทวีปได้แก่ทวีปฟ็อกดีพ และทวีปบีสต์ก็อด! สองทวีปใหญ่นี้มีพื้นที่มากกว่าร้อยล้านกิโลเมตร นอกจากสองทวีปแล้ว ยังมีทะเลไร้ขอบเขต
ทวีปฟ็อกดีพของพิภพโอคาลุนด์ปกครองโดยมนุษย์ ขณะที่ทวีปบีสท์ก็อด ปกครองโดยมนุษย์อสูร
ภายในทวีปฟ็อกดีพ มีป่าที่น่ากลัวแห่งหนึ่งซึ่งกินพื้นที่มากกว่าหมื่นกิโลเมตร... ป่าฟ็อกดีพ!
ป่าฟ็อกดีพคงอยู่มานานนับปีไม่ถ้วนแล้วอายุของป่านั้นไม่อาจคำนวณนับได้ ทั้งยังมีขนาดกว้างใหญ่ไพศาลทำให้คนที่ผจญภัยลึกเข้าไปไม่สามารถผ่านไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้แม้จะใช้เวลาพยายามทั้งชีวิต ตามตำนานในป่าฟ็อกดีพนอกจากมีอสูรเวทมากมายแล้ว ยังคงมีเผ่าพันธุ์ที่สำคัญอีกมากมายเช่นภูตเอลฟ์ คนแคระ ยักษ์ภูเขา และอื่นๆ
ลึกเข้าไปในป่าฟ็อกดีพ ภูเขาไวเซิลเป็นภูเขาอันดับหนึ่งของป่าฟ็อกดีพ และมีความสูงมากกว่าร้อยกิโลเมตร
ยอดเขาไวเซิลมีวงเวทเทเลพอร์ตขนาดใหญ่โต นอกจากวงเวทเทเลพอร์ตเหล่านี้แล้ว ยังมีโขดหินธรรมดาซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับบ้าน ผู้ดูแลประตูพิภพโอคาลุนด์ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
“อีกเก้าร้อยปีก่อนที่หน้าที่ดูแลประตูภพโอคาลุนจะสิ้นสุด” บุรุษผู้มีสองเขาผอมสูงยืนอยู่บนยอดเขาจ้องมองป่าฟ็อกดีพที่กว้างใหญ่ เขาสามารถเห็นในที่ไกลออกไป มีอสูรเวทสองตัวกำลังขู่คำรามและต่อสู้กัน
ก้อนหินแตกกระจาย ต้นไม้สั่นสะเทือนและจากนั้นก็แตกขาดจากกัน อสูรเวทที่ทรงพลังทั้งสองดูเหมือนจะบ้าคลั่งไปแล้ว
เหยี่ยวฟ้าปากเหล็กกำลังเกาะอยู่บนยอดไม้ดึกดำบรรพ์ที่มีอายุเกินหมื่นปีจ้องมองดูการต่อสู้ที่อยู่ห่างไกลเขม็ง ดูเหมือนว่ามันกำลังรอโอกาสโจมตีหลังจากอสูรเวททั้งสองได้รับบาดเจ็บ
“เป็นเวลาสามปีแล้ว ข้าไม่คาดเลยว่าเจ้าเด็กนั่นจะหลอมรวมกับผลึกเวทของอสูรเวทระดับแปดอย่างเหยี่ยวฟ้าปีกเหล็กได้ ดูเหมือนว่าเขากลายเป็นดรูอิดระดับแปดและน่าจะกลายเป็นสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์ภายในเผ่าของเขาได้” คนผอมสูงยิ้มขณะที่เขามองดู
นอกจากความเบื่อหน่ายแล้วผู้ดูแลประตูพิภพยังคงคุ้นเคยกับเผ่าเอลฟ์ทั้งแปดในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย
มีเอลฟ์ที่สามารถกลายเป็นดรูอิด(จอมเวทที่แปลงร่างได้)
แม้แต่สำหรับพวกเทพดรูอิคถือว่ามีความพิเศษเฉพาะตัว หลังจากหลอมรวมแก่นเวท พวกเขาสามารถแปลงร่างเป็นอสูรเวทได้ แม้แต่พวกเทพก็ยังยากจะค้นพบความแตกต่างระหว่างดรูอิดกับอสูรเวท นี่เป็นเพราะหลังจากแปลงร่างแล้วดรูอิดจะกลายเป็นอสูรเวทจริงๆ!
ผู้เฝ้าประตูพิภพนี้คุ้นเคยกับรัศมีวิญญาณของอัจฉริยะเอลฟ์นี้ซึ่งเป็นเหตุให้เขาเมื่อเห็นเหยี่ยวฟ้าปีกเหล็ก เขารู้ว่ามันคือเด็กหนุ่มเอลฟ์ที่แปลงร่างได้
“ข้าสงสัยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะกลายเป็นเทพได้ในช่วงที่ข้ายังเฝ้าประตูพิภพหรือไม่ และจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังพิภพชั้นสูงต่อ” บุรุษร่างผอมสูงรำพึงกับตนเอง
ขณะนั้นเองหนึ่งในวงเวทเทเลพอร์ตสิบเอ็ดวงเปล่งแสงขึ้นทันที
“เอ๊ะ?” บุรุษผอมสูงหันไปมอง “มาจากพิภพไฟศักดิ์สิทธิ์!”
วงเวทเทเลพอร์ตสิบเอ็ดวงเหล่านี้จะเชื่อมกับสี่พิภพชั้นสูงและเจ็ดโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์
“เดินทางมาจากโลกธาตุไฟศักดิ์สิทธิ์...ราคาสูงมากเมื่อไม่กี่สิบปีที่แล้ว มีสามีภรรยามาจากแดนนรก เวลานี้มีคนอื่นมาจากโลกธาตุไฟศักดิ์สิทธิ์” บุรุษผอมสูงเดินตรงไปที่วงเวทเทเลพอร์ตทันทีและที่วงเวทนั้นฉายแสงสว่างเจิดจ้าและเริ่มปรากฏเงาร่างคนช้าๆ
สีหน้าของบุรุษผอมสูงเปลี่ยนไป
เขาเห็นคนกลุ่มใหญ่อยู่ภายในวงเวทเทเลพอร์ตมีผู้นำที่ดูน่ากลัวสวมชุดยาวสีฟ้า แต่ผมสีแดงเพลิงของเขายาวประบ่า
“มีคนมากมายนัก มีจำนวนมากกว่าร้อยคน! และพลังของคนเหล่านี้..ข้าไม่สามารถมองเห็นได้” บุรุษร่างผอมสูงตกใจอย่างหนัก เขาเป็นแค่เทพแท้ สำหรับเขาเมื่อไม่สามารถมองพลังของคนเหล่านี้ออก ก็หมายความว่าคนเหล่านี้ทั้งหมดเป็นเทพชั้นสูง!
“สำหรับเทพชั้นสูงแต่ละคนที่จะผ่านเข้าไปยังโลกธาตุธรรมดามีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และยิ่งเทพชั้นสูงมากมายหลายคน...” บุรุษร่างผอมสูงสูดหายใจลึก ไม่ว่าพวกเขาจะมาหลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมสูงล้ำหรือว่ามาฟรีในนามมหาเทพพวกเขาไม่ใช่คนที่เขาผู้เฝ้าประตูพิภพผู้ต้อยต่ำจะเทียบได้
“คารวะใต้เท้า” บุรุษร่างผอมสูงรีบคำนับ
สายตาของบุรุษผมแดงเพลิงเหมือนสายฟ้า ผู้เฝ้าประตูพิภพแทบจะรู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของเขาถูกค้อนหนักหวดกระแทก
บุรุษผมสีแดงเพลิงไม่ใส่ใจกับเทพแท้นี้ เทพชั้นสูงร้อยคนภายในบังคับบัญชาของเขากระจายกำลังและประตูเทเลพอร์ตสว่างวาบอีกครั้ง!
“มีคนมาจากโลกธาตุไฟศักดิ์สิทธิ์อีกหรือ?” บุรุษร่างผอมสูงตกใจ
ความจริงมีกลุ่มคนมากกว่าร้อยคนมาถึงแล้ว
เพราะวงเวทเทเลพอร์ตแต่ละวงมีขนาดที่จำกัดแต่ละครั้งรับส่งคนได้ครั้งละร้อยคน ต่อให้เบียดเสียดกันสองร้อยคนเป็นขีดจำกัดมากสุด! แต่เห็นได้ชัดว่าหลายคนคนมาจากโลกธาตุเพลิงศักดิ์สิทธิ์! คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า วงเวทเทเลพอร์ตสว่างวาบครั้งหนึ่งก็มีคนถูกส่งผ่านเข้ามา...
“มีเท่าไหร่กันแน่?” บุรุษผอมสูงตะลึง
ทำไมเทพชั้นสูงมากมายต้องมาพิภพโอคาลุนด์? พวกเขามาเพื่อต้องการอะไร?
เมื่อเวลาผ่านไปอีกนานวงเวทเทเลพอร์ตสุดท้ายก็หยุด เทพชั้นสูงมากกว่าสองพันคนมาจากโลกธาตุไฟศักดิ์สิทธิ์! แม้ว่าสำหรับโลกธาตุไฟศักดิ์สิทธิ์ เทพชั้นสูงสองพันคนถือว่าไม่มากแต่โลกธาตุธรรมดา เทพชั้นสูงสองพันคนนับว่ามากจนน่ากลัว
“ในโลกธาตุนี้มีคนมากมายเช่นกัน อย่างไรก็ตาม...นอกจากผู้ดูแลประตูพิภพแล้วมีเทพแท้เพียงสองคนและคนหนึ่งเป็นสตรี ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นบุรุษคล้ายมนุษย์อสูร” บุรุษผมแดงเพลิงแค่นเสียงเย็นชา
บุรุษร่างผอมสูงตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เขารู้ว่าสองคนที่บุรุษผมแดงเพลิงพูดถึงเป็นใคร คนหนึ่งเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของทวีปฟ็อกดีพเทพธิดาเจิดจรัส ขณะที่อีกคนเป็นเทพสัตว์ป่าแห่งทวีปบีสท์ก็อด แต่สองทวีปนี้อยู่ห่างจากกัน แม้เทพชั้นสูงในดินแดนโลกธาตุก็เพียงแผ่ขยายสำนึกเทพไปได้ล้านกิโลเมตร เป็นการยากที่จะขยายให้ครอบคลุมทวีปฟ็อกดีพ
สามารถขยายและตรวจสอบสองทวีปได้พร้อมกัน...นี่เป็นพลังวิญญาณแบบไหน?!
“ดูเหมือนว่าโบรดีจะซ่อนตัวไว้ลึกทีเดียว” บุรุษผมแดงเพลิงชำเลืองมองดูบุรุษร่างผอมสูง “เจ้าชื่ออะไร?”
“เรียนใต้เท้า ข้าชื่อเบน เป็นผู้ดูแลประตูเข้าพิภพของโลกธาตุโอคาลุนด์” บุรุษผอมสูงพูดด้วยความเคารพ
“ผู้ดูแลประตูพิภพ..อย่างนั้นเจ้าก็ต้องรู้เรื่องการมาถึงของโบรดี” บุรุษผมแดงเพลิงขมวดคิ้วทันที แต่วงเวทเทเลพอร์ตอีกวงเริ่มฉายแสง
“พวกเขามากันเร็วนัก”
บุรุษผมแดงเพลิงออกคำสั่งผ่านสำนึกเทพกับเทพชั้นสูงรอบๆ“ไปกันเดี๋ยวนี้!” ขณะเดียวกันเขาปล่อยร่องรอยพลังไฟสีแดง และคว้าตัวผู้ดูแลประตูพิภพไปกับเขาด้วย เทพชั้นสูงสองพันคนด้านหลังพวกเขาบินติดตามพวกเขาไปด้วยความเร็วสูง
ขณะที่พวกเขาบินออกไปเทพชั้นสูงอีกกลุ่มก็มาถึงพอดี จากวงเวทเทเลพอร์ตดูเหมือนว่าพวกเขามาจากแดนนรก
เป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนคนเกินร้อย มีผู้นำเป็นบุรุษหนุ่มผมดำหยักศกในชุดสีดำ ดวงตาของเขาเยือกเย็นเหมือนกับดวงตาของอสรพิษ ถ้าลินลี่ย์อยู่ที่นี่ เขาคงจะจำได้ทันทีว่า...บุรุษชุดดำที่ดูน่ากลัวนี้ก็คือคนที่เคยช่วยลินลี่ย์ไว้ครั้งหนึ่ง ดันนิงตัน!
“ฮึ่ม...ข้าคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนมาเร็วกว่าเราเสียอีก” ดันนิงตันกวาดสายตามองดูระยะไกล “เป็นพารากอนนำคนกลุ่มนั้นมาจริงๆ”
วงเวทเทเลพอร์ตสว่างวาบอีกครั้งขณะที่คนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเดินออกมา
ดันนิงตันไม่ได้นำคนหลายคนนั้นมาที่นี่ มีคนแค่ราวๆ แปดร้อยคน ความจริงการต่อสู้เพื่อแย่งชิงเพชรกระจับแดงขึ้นอยู่กับเทพพารากอน
“ไปกันเถอะ” ดันนิงตันออกคำสั่ง และกลุ่มคนกลุ่มใหญ่นี้บินออกไปเช่นกัน
ทหารของโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์และพิภพชั้นสูงมีพารากอนนำพวกเขาเป็นส่วนใหญ่ แสงเทเลพอร์ตกระพริบวาบไม่หยุด!
มนุษย์อสูร,เอลฟ์ ปีศาจและเผ่าพันธุ์อื่นของป่าฟ็อกดีพเมื่อเห็นคนเป็นพันเหล่านี้บินผ่านท้องฟ้าล้วนแต่กลัวจนทำอะไรไม่ถูก
“เซียนมากมายนัก! พวกเซียนมากกว่าพันคน นี่มันพลังแบบไหนกัน? ใครกันที่มีพลังน่ากลัวขนาดนี้?” มีคนหลายคนที่เห็นฉากภาพนี้แล้วเชื่อว่าคนพวกนั้นเป็นเซียน มีแต่เซียนกับเทพของพิภพโอคาลุนด์รู้ว่าพวกเขาน่ากลัวเพียงไหน...
พวกเขาไม่สามารถรู้สึกถึงระดับพลังของคนพวกที่บินอยู่ในอากาศเต็มไปทั้งท้องฟ้าที่กว้างใหญ่
ยอดฝีมือของพิภพโอคาลุนด์ล้วนรู้แก่ใจดี..
“พวกเทพลงมาเยือนแล้ว!