ตอนที่ 20-31 ประมุขมหาเทพ
แคว้นอินดิโกเมืองอินดิโก เมืองที่สำคัญที่สุดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นี่คือสถานที่พำนักของเจ้าแคว้นนามว่าเบรุต เพราะเป็นภายในเมืองจึงไม่จำเป็นต้องมีทหารประจำแคว้นหลายคน แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีบ่าว สาวใช้และนักรบจำนวนหลายหมื่น ช่วงหลายวันมานี้ลินลี่ย์และบีบียังคงอยู่ภายในคฤหาสน์ของเบรุตคอยให้ความสนใจข่าวเรื่องเพชรกระจับแดงซึ่งมาจากแดนนรก
ที่พักของลินลี่ย์และบีบี ลินลี่ย์นั่งอยู่บนม้านั่งหินพลิกดูรายงานข่าวสาร
“พี่ใหญ่ได้ข่าวเกี่ยวกับเพชรกระจับแดงบ้างไหม?” บีบีเดินมาจากประตูถามพร้อมกับยิ้มให้
ลินลี่ย์อ่านรายงานเสร็จก็โยนไว้บนโต๊ะและส่ายหน้าหัวเราะ “ไม่มีข่าวอะไรเลย รายงานข่าวกรองเหล่านี้ไม่มีประโยชน์เหมือนกับไล่คว้าเงา ไม่มีแม้แต่รายงานเดียวที่ใกล้ความจริงเกี่ยวกับรายงานเรื่องของโบรดี น่าเสียดายทหารควบคุมวงเวทเทเลพอร์ตของทวีปมูจาเป็นคนของมหาเทพและไม่รับคำสั่งคนธรรมดา กองทัพมูจามีทหารนับไม่ถ้วน ความจริงเป็นเรื่องยากมากที่จะค้นหาสถานที่ซึ่งโบรดีอาจเทเลพอร์ตไปได้”
จนกระทั่งบัดนี้ ลินลี่ย์ก็ยังเชื่อว่า...
เพชรกระจับแดงที่โบรดีได้ไปอาจเป็นของจริง! ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่เขาทิ้งไว้ก็เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ไล่ล่า ส่วนร่างจริงของโบรดีไปที่ใดกันแน่? ลินลี่ย์ก็อยากรู้มากเช่นกัน
“มันเป็นอุบาย” บีบีนั่งลงจากนั้นคว้าผลไม้สีแดงบนโต๊ะ และเริ่มเคี้ยวกิน น้ำผลไม้ไหลออกจากมุมปาก “ทหารที่รับหน้าที่ดูแลวงเวทเทเลพอร์ตของทวีปมูจาผลัดเปลี่ยนกันอย่างต่อเนื่อง เดือนนี้หน่วยหนึ่งเข้าดูแลส่งคนออกจากแดนนรก เดือนต่อไปก็เป็นอีกหน่วยหนึ่ง จำนวนทหารที่มีคนต้องการพูดคุยเพื่อตรวจสอบหลายสิบหน่วยมีค่อนข้างมาก ถ้าท่านไปถามอย่างเปิดเผยก็อาจจะดึงดูดความสนใจของมหาเทพมูจาได้!”
ลินลี่ย์พยักหน้าเล็กน้อย
ครั้งล่าสุดเขามีข้ออ้างมากมายถึงสาเหตุให้เขาตามตัวโบรดีเขาแค่พูดว่าเขาสนใจสมบัตินี้และต้องการเห็นด้วยตนเอง ที่สำคัญแม้แต่เจ้าแคว้นและอสูรเจ็ดดาวธรรมดาผู้เห็นรายงานข่าวกรองและผลึกบันทึกต่างพากันไปค้นหา ความจริงหลายๆคนค้นหาเพชรกระจับแดงไม่ใช่เพราะเชื่อว่าเป็นเครื่องรางจอมเทพ
พวกเขาร่วมค้นหาเพราะความสามารถไม่ธรรมดาที่เพชรนั้นสำแดงออกมา
แต่ตอนนี้พอเรื่องหยุดชั่วคราว ถ้าลินลี่ย์ยังตามไปสืบสวนอย่างนั้นที่ทวีปมูจาอย่างเปิดเผย คนอื่นคงรู้สึกสงสัย! ที่สำคัญเนื่องจากสถานะของเทพพารากอน เพชรกระจับแดงไม่น่าจะมีประโยชน์มากนัก ถ้ามีคนตามสืบอย่างต่อเนื่องและตรวจสอบอย่างใดอย่างหนึ่งก็จะพบข้อสงสัยอย่างต่อเนื่องแน่นอน
บีบีเม้มริมฝีปากและแค่นเสียง “โบรดีโลภไปหน่อยจริงๆ”
“เทพชั้นสูงผู้หลอมรวมกับประกายเทพและสมบัติที่ทำให้เขาเอาชนะอสูรหกดาวได้ง่าย เขารู้ว่ามันสำคัญยังไง” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างใจเย็น “นอกจากนี้ข้าคิดว่าหลังจากผ่านประตูเทเลพอร์ตไปแล้ว เขาต้องจ่ายทรัพย์สินอีกมากมายและเทเลพอร์ตไปอีกหลายดินแดนใครจะรู้ว่าเขาไปหยุดลงในที่ดินแดนแห่งไหน?”
บีบีพยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
“อย่างนั้นเราก็ไม่สามารถได้มาสินะ?” บีบีพูดอย่างไม่สบายใจ
“สักวันเราจะต้องได้มา” ลินลี่ย์พูดและหัวเราะอย่างใจเย็น แต่คำพูดของเขาขาดความมั่นใจ
ลินลี่ย์ส่งร่างแยกสามร่างของเขาออกไปและพาครอบครัวและสหายกลับไปยังทวีปยูลาน ลินลี่ย์ยังคงรั้งอยู่ที่นี่เพราะเขาต้องการได้เพชรกระจับแดงไม่ว่าต้องทุ่มเทยังไงก็ตาม! สำหรับลินลี่ย์เพชรกระจับแดงคือโอกาสเดียวที่จะช่วยให้ปู่เดลินกลับมามีชีวิตได้! ไม่มีทางที่ลินลี่ย์จะยอมแพ้!
บีบีเมื่อเห็นสีหน้าของลินลี่ย์แล้วก็พยักหน้าเช่นกัน “หลังจากโบรดีได้รับเพชรกระจับแดง เขาคงไม่ยินดีกลายเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอน จะต้องมีสักวันที่ข่าวของเขาจะแพร่กระจายไปอีกครั้ง”
ลินลี่ย์หัวเราะและพยักหน้าเห็นด้วย
“ควั่บ...”สายลมเย็นของแดนนรกพัดผ่านต้นฟอสฟอรัสขาวในลานว่าง ใบไม้สีเหลืองอยู่แล้วร่วงตามสายลมและปกคลุมพื้นไว้ชั้นหนึ่ง
“เอ๊ะ?”
หน้าของลินลี่ย์และบีบีซีดพวกเขาอดแหงนหน้ามองดูข้างบนมิได้ และเมื่อทำเช่นนั้นลินลี่ย์อดหรี่ตามิได้ “แสงสว่างแสบตายิ่งนัก” ร่างที่ลอยอยู่ในกลางอากาศดูเหมือนดวงอาทิตย์เจิดจ้าที่ร้อนแผดเผา แสงที่เปล่งออกมาจากร่างของเขาสว่างเจิดจ้าเกินไปจนผู้คนต้องหรี่ตามอง
รัศมีที่ทรงพลังแผ่ออกมาจากดวงอาทิตย์เจิดจ้านั้น
ลินลี่ย์มองดูอย่างพิจารณา จากนั้นเขาสามารถบอกได้ว่ามีร่างมนุษย์ภายในดวงอาทิตย์นั้นมนุษย์ผู้นี้มีผมสีทองยาว มีคิ้วสีทองและใบหน้าขาวไม่มีไฝฝ้าไม่มีผมปรกหน้าผากนอกจากคิ้วสีทองยาวถึงจอนหู ชุดยาวสีทองลายปักคลุมไปทั้งร่างกาย แต่นั่นเป็นร่างที่ดูทรงพลังแข็งแรง
ตาของบุรุษผู้นั้นมองดูเหมือนดวงอาทิตย์สองดวง แววตาของเขาเจิดจ้าจนไม่มีใครสบตาเขาได้โดยตรง
“มหาเทพ?” ลินลี่ย์สรุปได้ทันที “รัศมีแห่งแสง ดูเหมือนนี่จะเป็นมหาเทพแห่งแสง ทำไมมหาเทพแห่งแสงถึงมาได้?” ลินลี่ย์ไม่เข้าใจ
“คารวะท่านมหาเทพ” ลินลี่ย์คำนับกล่าว
“คารวะท่านมหาเทพ” บีบีคำนับทันทีเช่นกัน
ประมุขมหาเทพแห่งแสงชำเลืองมองดูลินลี่ย์และบีบีอย่างเย็นชา สายตาของเขาเยือกเย็นเหมือนกับจักรพรรดิจ้องมองดูสิ่งมีชีวิตผู้มีระดับต่ำกว่า หลังจากเวลาผ่านไป ประมุขมหาเทพแห่งแสงจึงค่อยพูด“เจ้าคือลินลี่ย์ใช่ไหม?”
“ขอรับ” ลินลี่ย์มีท่าทีเคารพ แต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดสับสน
ทำไมมหาเทพจึงมาที่นี่? เป็นไปได้ไหมว่าเพราะเครื่องรางจอมเทพ? หรือว่าเป็นเพราะเพื่อเชกวิน? เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ ลินลี่ย์เริ่มคิดความเป็นไปได้หลายอย่าง แม้ว่าเขาจะเกิดความคิดมากมาย แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกกระวนกระวายไม่สบายใจ ที่สำคัญ มหาเทพมาที่นี่เป็นการส่วนตัวถ้ามหาเทพต้องการให้เขาตาย เขาแค่เพียงโบกมือเท่านั้น
หลังจากมาถึงแล้ว ประมุขมหาเทพแห่งแสงกางสนามพลังเทพทำให้ลินลี่ย์และบีบีตกอยู่ในพื้นที่ตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีใครภายนอกที่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่
“นี่..มหาเทพมาหรือ?”
เบรุตเจ้าแคว้นหันไปมองดูในอากาศเหนือลินลี่ย์และบีบี หน้าของเขาเปลี่ยนไป ทำไมมหาเทพแห่งแสงถึงมาที่ของข้า?” เบรุตลังเลเล็กน้อยจากนั้นกัดฟันบินไปหาลินลี่ย์บีบีอย่างรวดเร็ว เขากลัวมหาเทพแห่งแสง แต่ลึกๆแล้วเขาใส่ใจลินลี่ย์และบีบีมาก เขาจะอยู่เฉยๆ ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้!
ตอนนี้ลินลี่ย์กำลังสนทนากับประมุขมหาเทพแห่งแสงที่ลอยตัวอยู่ในอากาศ
“เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง! เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมหาเทพหลายคนในแดนนรกต่างก็ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าข้อมูลนี้เป็นเท็จ ข้าไม่มีมุกวิญญาณ ไม่มีทั้งโองการจอมเทพ” ลินลี่ย์เงยหน้ามองประมุขมหาเทพแห่งแสงขณะที่เขาพูดอย่างใจเย็น
แววตาเจิดจ้าของประมุขมหาเทพแห่งแสงทำให้ลินลี่ย์รู้สึกปวดตาขณะเขาจ้องมอง
“ลินลี่ย์! ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งเดียวมอบมุกวิญญาณเก้าเม็ดออกมา ไม่อย่างนั้นตาย!” ประมุขมหาเทพแห่งแสงพูดอย่างเยือกเย็น
ลินลี่ย์ตกใจ “ทำไมประมุขมหาเทพแห่งแสงถึงแน่ใจนักว่าข้ามีมุกวิญญาณทั้งเก้า? ไม่, มีแต่เพียงบีบี, ครอบครัวโอลิเวอร์ และโมลด์ที่รู้เรื่องนี้เท่านั้น โมลด์ตายไปนานแล้ว และโอลิเวอร์กลับทวีปยูลาน ไม่ควรมีปัญหาใดๆ อีก”
“มหาเทพ, ข้าไม่เข้าใจจริงๆ” ลินลี่ย์เงยหน้าแสร้งพูดด้วยความโมโห “ครั้งสุดท้ายก็เป็นมหาเทพแห่งลมที่สงสัยในตัวข้าแบบนี้ แต่ผลก็ออกมาชัดแล้วว่าข่าวนั้นโกหก เป็นไปได้ว่าอาจมีภารกิจจอมเทพอย่างหนึ่งแต่ทำไมท่านมหาเทพ! ทำไมท่านถึงยืนยันว่าข้ามีมุกวิญญาณ?”
ขณะนั้นเองมีระลอกพลังสีม่วงแผ่ออกมาจากพื้นที่รอบด้าน มีคนผ่านสนามพลังมหาเทพเข้ามาภายในได้
“หืม?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงหันไปมอง
“ควั่บ!” มีร่างหนึ่งบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง เมื่อลินลี่ย์เพ่งมองดู เขาจึงเห็นว่าเป็นเบรุต!
“ปู่” บีบีดีใจ
ประมุขมหาเทพแห่งแสงมองดูคนที่อยู่ต่อหน้าเขา เมื่อเห็นว่าเป็นเบรุต หน้าของเขาบึ้งทันทีเขาแค่นเสียงเย็นชากล่าว “เบรุต! เจ้ายังมีหน้ากล้าออกมาเจอข้าอีกหรือ?”
เบรุตเมื่อได้ยินเสียงนี้รู้สึกตกใจ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าของเขาเปลี่ยนไปและเขาร้องเรียกด้วยความตกใจ “ประมุขมหาเทพแห่งแสง!”
“ประมุขมหาเทพแห่งแสง?” ลินลี่ย์ลอบตกใจ
ด้วยข้อมูลที่ลินลี่ย์มีอยู่มีประมุขมหาเทพอยู่สิบเอ็ดคน คือประมุขมหาเทพของสี่วิถีจะทรงพลังมากที่สุดที่รองลงมาจากสี่ประมหาเทพสี่วิถีก็เป็นประมุขมหาเทพแห่งแสง!
“มหาเทพแห่งแสง! ท่านมาที่พำนักของข้าทำไม?” เบรุตถามเบาๆ
“ทำไมน่ะหรือ?” สายตาของประมุขมหาเทพแห่งแสงพลันเย็นชาเมื่อมองดูเบรุต “สหายลินลี่ย์ของเจ้าผู้นี้อ้างว่าเขาไม่มีมุกวิญญาณทั้งเก้าและว่าข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจจอมเทพเป็นของปลอมเช่นกันน่าเสียดายที่ตอนนี้ข้ารู้ว่าสหายของเจ้ากำลังโกหก!”
เบรุตยืนอยู่ข้างลินลี่ย์
“โกหก?” ลินลี่ย์พูดจริงจัง “ประมุขมหาเทพ! แม้ว่าท่านจะเป็นประมุขมหาเทพผู้มีศักดิ์ศรีสูงส่ง แต่ท่านไม่อาจป้ายสีทำลายชื่อเสียงของข้าได้”
“ป้ายสี?”
ประมุขมหาเทพโบกมือและชิ้นกระดาษสีเขียวปรากฏขึ้นในมือของเขา หลังจากนั้นประมุขมหาเทพแสงใช้พลังเทพทำให้แสงรังสียิงฉายใส่กระดาษเขียวและปรากฏลายเส้นและภาพในกลางอากาศนั่นเป็นพลังที่คล้ายกับผลึกบันทึก นี่เป็นแค่การใช้งานอย่างเรียบง่าย
ลินลี่ย์ บีบีและเบรุตทุกคนมองดูคำและภาพที่ปรากฏอยู่ในกลางอากาศ
“โองการจอมเทพ?” เบรุตตะลึง
“นั่น..นั่นคือโองการจอมเทพหรือ?” ลินลี่ย์ตกใจ
เมื่อดูคำอธิบายภารกิจอย่างระมัดระวังและเนื้อหาก็เหมือนกับเนื้อหาในกระดาษที่โมลด์แจกจ่ายออกไป
“ลินลี่ย์, ข้าได้รับโองการจอมเทพ ซึ่งนี่ก็พิสูจน์ว่าข้อมูลเป็นความจริง ดูเหมือนว่าข้อมูลไม่ใช่แค่สร้างขึ้นมาอย่างสุ่มๆ เท่าที่ข้าเห็นดีที่สุดแล้วเจ้าอย่ารวบรวมอีกต่อไปเลย แค่ส่งมอบมา” ประมุขมหาเทพแห่งแสงมองลงมาที่คนทั้งสามขณะที่เสียงของเขาเย็นชา
“พี่ใหญ่, นั่นคือโองการจอมเทพ เรื่องนี้ชักจะยุ่งแล้ว” บีบีพูดทางใจอย่างแตกตื่น
ลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นกล่าว “ประมุขมหาเทพ! ข้าขอแสดงความยินดีกับท่านอย่างจริงใจที่ท่านได้รับโองการมหาเทพ! ดูเหมือนว่าภารกิจจอมเทพจะเป็นเรื่องจริง แต่ข้าต้องบอกไว้ก่อนว่า..แค่เพราะภารกิจจอมเทพเป็นของจริงนั่นไม่ได้หมายความว่ามุกวิญญาณทั้งเก้าและโองการจอมเทพจะอยู่ในมือข้าจริงๆหรือไม่? แต่เห็นได้ชัดว่าโองการจอมเทพอยู่ในมือของท่านประมุขมหาเทพ”
“เลิกโกหกได้แล้ว ข้าไม่สนใจฟังคำโกหกของเจ้า เจ้าจะไม่มอบออกมาใช่ไหม? ถ้าเจ้าไม่มอบออกมาอย่างนั้นอย่าตำหนิว่าข้าลงมือกับเจ้าก็แล้วกัน” ประมุขมหาเทพแห่งแสงเตือนเขาเป็นครั้งสุดท้าย
“ท่านออกุสตา” เสียงหนึ่งดังขึ้น
ประมุขมหาเทพแห่งแสงกวาดสายตามองดู ภายในสนามพลังของเขา มีร่างหนึ่งค่อยๆปรากฏขึ้นช้าๆ คนผู้นี้มีผมยาวสีแดง และสวมชุดม่วง ลินลี่ย์เมื่อเห็นเช่นนี้รู้สึกยินดีในใจ “ท่านมหาเทพบลัดริจ!”
“โบซัน?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงขมวดคิ้ว
“ท่านออกุสตา” มหาเทพบลัดลิจยิ้ม “ข้าได้ทราบข่าวมาแล้ว ทุกอย่างเป็นเพราะข้อมูลปลอม แต่ไม่นานมานี้ก็มีการพิจารณาว่าภารกิจจอมเทพไม่ใช่เรื่องจริง และว่าข่าวที่ลินลี่ย์ครอบครองมุกวิญญาณทั้งเก้าก็เป็นเท็จ”
ประมุขมหาเทพแห่งแสงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นโบกมือแสดงกระดาษเขียวต่อหน้ามหาเทพบลัดริจ
มหาเทพบลัดริจชำเลืองมอง เมื่อเห็นคำในนั้นเขารู้สึกตกใจ “นี่คือโองการจอมเทพหรือ?”
“ยังจะเป็นของปลอมอีกหรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าเป็นของจริง ข้าคิดว่าข่าวแบบนี้คงไม่สร้างกันอย่างส่งเดช ลินลี่ย์มีมุกวิญญาณทั้งเก้าอยู่แน่นอน” ประมุขมหาเทพแห่งแสงจ้องมองลินลี่ย์อย่างเย็นชา “ลินลี่ย์,ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าเจ้ามีทางเลือกสองทาง จะมอบของออกมาหรือตายเจ้าเลือกเอา”
ประมุขมหาเทพแห่งแสงไม่สนใจการปรากฏตัวของมหาเทพบลัดริจ
“ท่านประมุขมหาเทพ”
ลินลี่ย์เงยหน้าขึ้นพูด “ข้าบอกท่านแล้วว่าข้าไม่มีมุกวิญญาณเก้าเม็ด แต่ท่านก็ยังไม่เชื่อข้า และท่านยังจะฆ่าข้าอีกหรือ? แต่ข้าต้องบอกอะไรบางอย่างท่าน ข้ามีร่างแยกอื่นอยู่อีกที่หนึ่ง ต่อให้ท่านฆ่าข้าท่านก็ไม่สามารถเปิดแหวนเก็บสมบัติของข้าได้ ดังนั้นต่อให้ข้ามีมุกวิญญาณและท่านฆ่าข้าตายไป ท่านก็ยังรับไปไม่ได้อยู่ดีอย่าว่าแต่ข้าไม่มีด้วยซ้ำ!”
“ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์?” ประมุขมหาเทพแห่งแสงขมวดคิ้ว “ที่ไหน?”
“พิภพโลกธาตุ” ลินลี่ย์พูดตามตรง
“พิภพยูลานของข้า” เบรุตยิ้ม
“ฮึ่ม” ประมุขมหาเทพแห่งแสงมองเบรุตอย่างเย็นชา
“วิเศษ,เจ้าซ่อนร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ไว้ในพิภพโลกธาตุ เจ้าฉลาดมาก” ประมุขมหาเทพแห่งแสงพูดเย็นชา “เจ้าอ้างว่าเจ้าไม่มีมุกวิญญาณทั้งเก้าจงถอนสัญญาในแหวนเก็บสมบัติของเจ้าและให้ข้าตรวจสอบดูก่อน เจ้ากล้าหรือเปล่า?”
“ถ้าท่านตรวจสอบแล้วไม่พบท่านจะจากไปหรือเปล่า ประมุขมหาเทพ?” ลินลี่ย์ถาม
“อย่าถ่วงเวลาข้า” ประมุขมหาเทพแห่งแสงหน้าบึ้ง
“ก็ได้ในเมื่อท่านประมุขมหาเทพแห่งแสงยืนยันจะตรวจสอบแหวนของข้าเพียงเพราะท่านสงสัยอย่างนั้นวันนี้ข้าลินลี่ย์จะให้ท่านตรวจสอบดู” แค่เพียงคิดลินลี่ย์แยกร่างเป็นสองและถอนสัญญาแหวนมิติเก็บสมบัติทั้งสองวง หลังจากถอนสัญญาแล้ว ลินลี่ย์เงยหน้ามองดูประมุขมหาเทพ จากนั้นหัวเราระเยือกเย็น“ข้าคิดว่าท่านประมุขมหาเทพ ท่านคงจะรู้ว่าข้ามีเพียงร่างแยกเพียงสองร่างปรากฏอยู่ที่นี่ เชิญท่านตรวจแหวนมิติเก็บของเหล่านี้ได้เลย”
จากนั้นลินลี่ย์โยนแหวนขึ้นไปในอากาศตรงไปยังหัวหน้ามหาเทพแห่งแสง