ตอนที่ 172 ง้าวมังกรเขียว
ตอนที่ 172 ง้าวมังกรเขียว
“เปลี่ยนเป็นอาวุธอื่น” เฉินจี รู้สึกสับสน
มันเหมือนกับการเดินคนเดียวบนถนน เมื่อจู่ๆ มีสาวงามวิ่งเข้ามาถามว่าท่านมีภรรยาหรือยัง ข้าบอกนางไปว่าข้ามีภรรยาแล้ว แต่นางถามข้าว่าข้าคิดจะเปลี่ยนภรรยาไหม
เฉินจีรู้สึกเหมือนเงินตกลงมาจากท้องฟ้า
โหวแห่งหยูโจว, โจวชู มีชื่อเสียงมากในตอนนี้
เขาเพียงคนเดียวที่ครอบครองสามในสิบอันดับแรกของศิลาอันดับอาวุธระดับเหลือง
เขาหมายความว่าอย่างไรที่ถามว่าข้าต้องการเปลี่ยนอาวุธหรือไม่?
เขาวางแผนที่จะหลอมสร้างอาวุธให้ข้าหรือเปล่า?
นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด!
จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน?นั่นคือคำถาม.
เฉินจี กำลังคึด ข้าควรตอบกลับอย่างไร?
ถ้าข้าบอกว่าข้าเต็มใจ โหวโจว จะคิดว่าข้าเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ที่ละทิ้งสิ่งเก่าเพื่อสิ่งใหม่หรือไม่?
แต่ถ้าข้าบอกว่าข้าไม่เต็มใจ นี่ไม่ได้หมายความว่าข้ากำลังดูถูกความสามารถในการสร้างอาวุธของท่านโหวใช่หรือไม่
ปัญหาคือข้าต้องการมันจริงๆ
ข้าไม่เปลี่ยนแต่ขออีกอันแทนไม่ได้เหรอ?เฉินจี กำลังคึด
“แม่ทัพเฉิน?” โจว ชู กล่าว
เหมิงไป๋เคยแนะนำเฉินจี ให้เขารู้จักมาก่อน เขาเป็นหนึ่งในกระดูกสันหลังของกองทัพ และอนาคตของเขาก็สดใส
สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร
เขาเป็นคนงานที่ดี!
เขาจะมีโอกาสมากมายที่จะฆ่าศัตรูในอนาคต
ตั้งแต่เขาพบเฉินจี โจวชูย่อมไม่ยอมปล่อยเขาไปง่ายๆ
การให้อาวุธแก่เขา เขาจะสามารถทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อโจวชูในอนาคต ในอนาคต ยิ่งเขาต่อสู้มากเท่าใด โจวชูก็จะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น
เขาแค่ให้อาวุธไปเท่านั้น แล้วทำไมจะไม่ล่ะ?
“หมายความว่ายังไงท่านโหว” เฉินจี ถามอย่างระมัดระวัง
“อ๋อ เป็นแบบนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ข้าได้หลอมมีด มันค่อนข้างทรงพลัง” โจว ชู กล่าวอย่างสบายๆ
“ในเมื่อท่านเป็นผู้ใช้มีด ข้าคิดว่ามันคงจะดีหากมอบมีดนี้ให้กับท่าน แน่นอน. หากท่านคิดว่าอาวุธของท่านดีกว่า ก็แสร้งทำเป็นว่าข้าไม่ได้พูดอะไร” โจว ชูแสร้งทำเป็นออกไป
เฉินจี รีบพูดว่า “ท่านโหว โปรดรอสักครู่! ข้าเต็มใจ! ข้าเต็มใจ!” เขาไม่สามารถที่จะคิดเกี่ยวกับมันอีกต่อไป โอกาสแบบนี้จะไม่มีอีกแล้ว
ชื่อเสียงของ โหวโจว เป็นที่รู้จักกันดี
ไม่ว่าในกรณีใด หากอาวุธนั้นไม่ดีพอ มันก็ยังคงเป็นอาวุธระดับ อย่างน้อยที่สุด พลังของมันควรจะเทียบเท่ากับอาวุธในมือของเขา
เฉินจี ไม่สามารถถูกตำหนิได้ว่าถูกล่อลวง อาวุธระดับของเขาได้รับการหลอมสร้างโดยปรมาจารย์ช่างตีเหล็กโดยใช้รางวัลจากราชสำนัก เนื่องจากเขาได้มีส่วนร่วมอย่างมากในปีนั้น
ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กคนนั้นเทียบไม่ได้กับท่านโหวโจว
นับตั้งแต่ชื่อเสียงของ โหวโจว โด่งดัง อาวุธใดๆ ก็ตามที่เขาสร้างขึ้นจะธรรมดาได้อย่างไร?
นอกเหนือจากอาวุธมาตรฐานแล้ว แม้แต่ มีดเพลิงอาทิตย์อัสดง ที่แย่ที่สุดก็ยังติดอันดับ 100 อันดับแรกของศิลาอันดับอาวุธระดับเหลือง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าอาวุธของเขาจะไม่เลวร้ายเกินไป
“ท่านโหว ข้าไม่เคยใช้ดาบใหญ่…” เฉินจี พูดอย่างลังเล
สายตาของเขาจับจ้องไปที่หลังของ โจวชู
โจวชู ถือดาบไว้บนหลังของเขา มันควรจะเป็นดาบใหญ่พิพากษาในตำนานที่ติดอันดับหนึ่งในศิลาอันดับอาวุธระดับเหลือง นอกเหนือจากนั้น เขาไม่มีอาวุธอื่นใดติดตัวมา
"ข้ารู้. ข้าไม่ได้นำมีดมาด้วย ไปกับข้า” โจวชูพูดอย่างสบาย ๆ
“ท่านโหว ราคา—” เฉินจี พูดหลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง
“ข้าไม่ได้พูดว่าเปลี่ยนรึ” โจวชูกล่าว “ส่งอาวุธปัจจุบันของท่านมาให้ข้า แล้วข้าจะให้อาวุธแก่ท่าน เราแลกเปลี่ยนกัน”
เฉินจี : “…”
ในตอนแรก เขาเพ้อฝันว่าเขาจะสามารถครอบครองอาวุธระดับได้สองอัน
เขาไม่คิดว่าท่านโหวจะต้องการแลกเปลี่ยนจริงๆ
การใช้อาวุธของเขาเพื่อแลกกับอาวุธระดับอันดับดีกว่าในศิลาอันดับอาวุธระดับเหลืองนั้นเป็นสิ่งที่ได้รับ
“แม่ทัพเฉิน ไปรับมีดกันเถอะ” โจว ชู กล่าว
เฉินจี หยุดชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะตอบ โจว ชูก็หันหลังกลับและเดินจากไป
“หลังจากนั้น มอบอาวุธระดับของท่านให้กับผู้พิทักษ์ที่ยังไม่มี ด้วยวิธีนี้ เรายังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของทหารคุ้มกันได้อีกด้วย” โจว ชู กล่าวอย่างสบายๆ ขณะเดิน
ดวงตาของเฉินจี เบิกกว้าง ให้ใคร?
นี่คืออาวุธระดับ!
ข้าได้ยินผิดหรือเปล่า?
“แม่ทัพเฉิน ไปกันเถอะ” เสียงของ โจวชู ดังมาจากระยะไกล “มันสายไปแล้ว ท่านยังคงต้องกลับมาหลังจากได้รับอาวุธแล้ว คณะทูตของเรากำลังจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้”
เฉินจี ติดตาม โจวชู และ ลู่ เหวินซวง ไปที่จวนโหวแห่งหยูโจว
ระหว่างทางเขาคิดซ้ำไปซ้ำมา โหวแห่งหยูโจว ทำทั้งหมดนี้เพียงเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทหารคุ้มกัน ดูเหมือนว่าเขาจะจริงจังกับภารกิจนี้มาก
ไม่แปลกใจเลยที่แม่ทัพใหญ่ยังต้องติดตามไปด้วย ดูเหมือนภารกิจนี้จะสำคัญกว่าที่คิด
ข้าต้องแน่ใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคณะทูต!
ในขณะที่ เฉินจี กำลังคิดอยู่นั้น โจวชู ก็ได้เอาอาวุธมาจากห้องตีเหล็กแล้วและกลับไปที่ห้องโถงด้านหน้า
“นี่…” ทันทีที่ เฉินจี เห็นอาวุธในมือของ โจวชู ดวงตาของเขาก็ดึงดูดไปที่มันทันทีและเขาก็ไม่สามารถละสายตาไปได้
ความคิดสุ่มทั้งหมดในใจของเขาหายไป สิ่งที่เขาคิดได้ก็คือมีดในมือของโจว ชู
เฉินจี ไม่ใช่นักวิชาการ เขาอยู่ในสนามรบมาโดยตลอด
อาจกล่าวได้ว่าการฝึกฝนและสถานะปัจจุบันของเขาเป็นสิ่งที่เขาได้รับจากการต่อสู้และสังหารด้วยมีดของเขา
เมื่อเขาเห็นมีดในมือของ โจวชู เขาสามารถบอกได้แล้วว่าหากเขาใช้มีดนี้ในสนามรบ มันจะมีพลังมหาศาลอย่างแน่นอน!
เฉินจี เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้มีด เขาไม่จำเป็นต้องใช้มือจับยืนยันว่ามีดที่โจวชูหยิบออกมานั้นแข็งแกร่งกว่าอาวุธปัจจุบันของเขาอย่างแน่นอน!
นี่เป็นสัญชาตญาณของนักสู้ ไม่ใช่มาตรฐานของ ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก ในการตัดสินคุณภาพของอาวุธ
เฉินจี ดีใจมากที่เขายอมเปลี่ยนอาวุธ
มิฉะนั้นเขาจะต้องเสียใจไปอีกร้อยปี!
“นี่คือ ง้าวมังกรเขียว (Green Dragon Crescent Bladeอันนี้ผมก็งงแต่ที่ไปหาดูมามันแปลว่าง้าวมังกรเขียวจริงๆไม่ใช้มีด)” โจวชู กล่าวอย่างสบายๆ “ข้าเพิ่งหลอมสร้างมันเมื่อวานนี้”
“มันไม่มีบันทึกการต่อสู้และอยู่ในอันดับยี่สิบแปดในศิลาอันดับอาวุธระดับเหลือง มันไม่น่าพอใจเลย” โจว ชู พูดอย่างไม่พอใจ
“แม่ทัพเฉิน ข้าหวังว่าท่านจะสามารถปรับปรุงอันดับเพื่อให้เข้าสู่ยี่สิบอันดับแรกเป็นอย่างน้อย”
เฉินจี : “…”
อันดับที่ 28 ในศิลาอันดับอาวุธระดับเหลือง?ไม่น่าพอใจ?
มีดเพลิงอาทิตย์อัสดง แทบไม่ได้เข้าสู่ร้อยอันดับแรก
อาวุธดั้งเดิมของเขาไม่สามารถเข้าสู่ร้อยอันดับแรกได้ด้วยซ้ำ!
มีอาวุธระดับเหลืองนับหมื่นชิ้นในโลก เฉินจี ไม่กล้าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับอาวุธที่อยู่ในสามสิบอันดับแรกของศิลาอันดับอาวุธระดับเหลือง
“แม่ทัพเฉิน ลองดูก่อน” โจว ชู พูดอย่างสบายๆ “ง้าวมังกรเขียวนี้หนักไปหน่อย ดูว่าจะชินไหม”
โจวชู มอบ ง้าวมังกรเขียว เฉินจี เอื้อมมือไปจับ ง้าวมังกรเขียว ด้วยมือทั้งสองข้าง แขนของเขาสั่นเล็กน้อยมันเป็นเพราะความตื่นเต้น
“ดียิ่งนัก!” เฉินจี อุทาน
เขาลดแขนลง และในวินาทีต่อมา พลังวิญญาณในร่างกายของเขาก็ไหลเวียนในขณะที่เขายกง้าวมังกรเขียวขึ้น
ง้าวมังกรเขียว นี้ค่อนข้างหนักทีเดียวแต่สำหรับ เฉินจี จอมยุทธ์ระดับห้า น้ำหนักนี้กำลังพอดี!
เฉินจี กวัดแกว่ง ง้าวมังกรเขียว เขาสามารถจินตนาการได้ว่ามันอันตรายแค่ไหนเมื่อเขาใช้มันบนหลังม้า!
ลู่เหวินซวงยืนอยู่ที่ด้านข้างเฝ้าดูเฉินจี ลองอาวุธ
ดวงตาของนางเป็นประกายด้วยความประหลาดใจ แต่นางไม่ได้พูดอะไรเลย ถ้ามันเป็นดาบ นางคงอยากจะลองมัน
นางเป็นเหมือนสาวใช้ถ้าใครไม่ใส่ใจ พวกเขาอาจจะลืมถึงการมีอยู่ของนาง
เฉินจี รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก เขาขอบคุณโจวชู จากนั้นเดินเข้าไปในลานบ้านและแสดงวิชา
โจวชู มองดูด้วยความสนใจ เมื่อเทียบกับวิชามีด วิชาดาบของเขาแข็งแกร่งกว่า
โดยร่วมแล้ว เขาสามารถบอกได้ว่าทักษะมีดของ เฉินจี นั้นไม่ได้ยอดเยี่ยม ทุกการเคลื่อนไหวของเขามุ่งเป้าไปที่การทำลายล้างอย่างสุดขีด แต่มีเงาจาง ๆ ของ วิชาดาบสวรรค์
เฉินจี เข้าใจเจตจำนงแห่งดาบในถ้ำดาบของเมืองหลวงด้วย
โจว ชูมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิชาดาบสวรรค์ และวิชาดาบสวรรค์มุ่งเน้นไปที่เจตจำนงแห่งดาบ มันไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหว หากโจว ชูเต็มใจ เขาก็สามารถใช้วิชามีดสวรรค์กับง้าวมังกรเขียวได้ เขายังสามารถสร้างท่วงท่าที่เหมาะสมสำหรับ ง้าวมังกรเขียว
เขาลูบคางและพูดว่า “แม่ทัพเฉิน ท่านควรลดมือลงเล็กน้อยสำหรับการเคลื่อนไหวนี้”
เฉินจี ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาทำตามที่เขาบอกและรู้สึกว่าการเคลื่อนไหวของเขาราบรื่นขึ้นมาก
เขามองไปที่ โจวชู ด้วยความประหลาดใจ
การฝึกฝนของ โหวโจว ควรอยู่ระดับเจ็ด เขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับดาบ?
ใช่ ข้าจำได้แล้ว ตอนเขาเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบในถ้ำดาบ ท่านโหวโจวก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
ในเวลานั้น โหวโจว ยังไม่ได้เป็นจอมยุทธ์ระดับด้วยซ้ำ
โจวชู ไม่รู้ว่า เฉินจี เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เขาไปในถ้ำดาบในตอนนั้น
ในตอนนั้น โจวชู และ เฉินจี ยังไม่รู้จักกัน เขาไม่สนใจว่าใครอยู่ในถ้ำด้วย
หลู่เหวินซวงก็ชำเลืองมองโจวชูด้วยความประหลาดใจ ทุกคนรู้ว่าความเชี่ยวชาญของ โจวชู คือการตีดาบ
ก่อนที่เขาจะกลายเป็น ปรมาจารย์ช่างตีเหล็ก เขามีชื่อเสียงในการตีดาบ
ดาบพยัคฆ์, ดาบแหวน, ดาบสังหารม้า, และแม้แต่ดาบมังกรฟีนิกซ์แห่งต้าเซี่ย…
ในแง่ของความเข้าใจดาบ หากโจว ชูอ้างว่าเป็นที่สอง จะไม่มีใครกล้าอ้างตนว่าเป็นที่หนึ่ง!
ไม่น่าแปลกใจที่เขารู้วิชาดาบเป็นอย่างดี
ดังนั้น เขาจึงเก่งเรื่องดาบ ลู่ เหวินซวง คิด เขามีความชำนาญในวิชาดาบ แต่วิชาดาบของเขาก็น่าประทับใจเช่นกัน
นางเชื่อเสมอว่าไม่ว่านางจะฝึกฝนอาวุธใด นางต้องตั้งใจแน่วแน่ หากนางต้องการฝึกฝนวิชาดาบของนาง นางต้องละทิ้งสิ่งอื่นทั้งหมด
หากฝึกฝนอาวุธหลายอย่าง ความเข้าใจของพวกเขาจะตื้นเขิน
แต่ตอนนี้ โจวชู ดูเหมือนจะพลิกการรับรู้ของนาง
โจวชู ไม่ได้สังเกตการแสดงออกของ ลู่ เหวินซวง เขาพูดคุยอีกสองสามท่ากับ เฉินจี ก่อนที่จะพูดด้วยรอยยิ้ม
“ด้วยง้าวมังกรเขียวอยู่ในมือของท่าน แม่ทัพเฉิน มันน่าจะมีประโยชน์มาก”
“ท่านยกยอข้า ท่านโหว” เฉินจีอายเล็กน้อย
“ท่านโหว ง้าวมังกรเขียว นี้ดีเกินไปจริงๆ ข้าไม่สามารถ-”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ โจว ชูก็ขัดจังหวะเขา “แม่ทัพเฉิน ท่านไม่ชอบมันเหรอ?”
“ข้าชอบมัน… แต่มันมีค่าเกินไป อาวุธดั้งเดิมของข้าไม่มีค่า…” เฉินจีพูดตะกุกตะกัก
เขาถือ ง้าวมังกรเขียว เขาทนไม่ได้ที่จะแยกทางกับมันแต่เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ได้
อาวุธดั้งเดิมของเขานั้นไร้ค่าเมื่อเทียบกับ ง้าวมังกรเขียว!
มันยังไม่เพียงพอสำหรับการแลกเปลี่ยนด้ามง้าวมังกรเขียวเลยด้วยซ้ำ!
“ตราบเท่าที่ท่านชอบ” โจว ชู กล่าว “ในฐานะผู้ชาย อย่าเกรงใจจนเกินไป ถ้าชอบก็เอาเลย หากท่านรู้สึกอายจริงๆ ให้ใช้ ง้าวมังกรเขียว เพื่อสังหารศัตรูที่ทรงพลังมากขึ้นเพื่อให้อันดับของมันเพิ่มขึ้นโดยเร็วที่สุด ถ้ามันสามารถขึ้นสู่สิบอันดับแรกของศิลาอันดับอาวุธระดับเหลืองได้ ท่านก็จะช่วยข้าแล้ว”
โจวชู โบกมืออย่างสบายๆ
เฉินจี : “…”
“ไม่ต้องห่วง ท่านโหว! ข้าจะไม่ทำให้ ง้าวมังกรเขียว เสื่อมเสียอย่างแน่นอน!”
ภายในพระราชวัง จักรพรรดิหยวนเฟิง มองข้อความของขันทีจ้าว ด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
“เด็กเหลือขอแซ่ โจว หลอมสร้างง้าวมังกรเขียว อันดับที่ 28 ในศิลาอันดับอาวุธระดับเหลืองและมอบให้กับ เฉินจี?” จักรพรรดิหยวนเฟิงกล่าวด้วยเสียงทุ้ม
“ใช่ ฝ่าบาท” ขันทีจ้าวตอบ
เขาค่อนข้างประหลาดใจเช่นกัน ผ่านไปเพียงหนึ่งเดือนนับตั้งแต่ขบวนทหารสิ้นสุดลง เขาได้ยินมาว่า โหวโจว ปิดด่านตีเหล็ก แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าในเวลาเพียง1เดือนสั้นๆ เขาจะสร้างอาวุธระดับอีกชิ้นขึ้นมาจริงๆ!และอยู่ในอันดับที่ 28 ในศิลาอันดับอาวุธระดับเหลือง!
เขาเป็นอัจฉริยะจริงๆ!
จักรพรรดิหยวนเฟิงมีการแสดงออกที่ซับซ้อน เด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง! “สหาย เจ้าคิดว่าการตัดสินใจของข้ารีบร้อนไปหน่อยไหม” จักรพรรดิหยวนเฟิงพูด
ขันทีจ้าว รับใช้จักรพรรดิหยวนเฟิง มาหลายปีและเข้าใจสิ่งที่เขาถาม
เขาส่ายหัว “แม้ว่าข้าจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการตีเหล็ก แต่ข้าก็รู้ว่าการมีประสบการณ์และความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตีเหล็กจะเป็นประโยชน์ ด้วยความคุ้มครองของ ท่านหญิงลู่ ความปลอดภัยของท่านโหวก็ไม่น่าจะมีปัญหา”
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้า อาณาจักรต้าฉิน คลั่งและฆ่า ลู่ เหวินซวง และเจ้าสารเลวแซ่ โจวนั้น” จู่ๆ จักรพรรดิหยวนเฟิงก็พูดขึ้น
หนึ่งคืออัจฉริยะการต่อสู้อันดับหนึ่งของ อาณาจักรต้าเซี่ย และอีกคนหนึ่งคืออัจฉริยะการตีเหล็กอันดับหนึ่งของ อาณาจักรต้าเซี่ย หากเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา มันจะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของ อาณาจักรต้าเซี่ย มิใช่หรือ?
“บ่าวชราไม่คิดอย่างนั้น” ขันทีจ้าว พูดอย่างลังเล
“มีผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งคอยปกป้องพวกเขาอย่างลับๆ และแม่ทัพใหญ่เหมิงเป็นผู้นำพวกเขาเป็นการส่วนตัว หากอาณาจักรต้าฉินต้องการฆ่าพวกเขา พวกเขาจะต้องระดมกองทัพ…”
จักรพรรดิหยวนเฟิงขมวดคิ้ว เขารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของเขาเล็กน้อย แต่พระราชโองการได้ออกมาแล้ว มันสายเกินไปที่จะเสียใจในตอนนี้
“จัดให้มียอดฝีมือเพิ่มอีกสองสามคนเพื่อติดตามพวกเขาอย่างลับๆ นอกจากนี้ ให้ มี่ จื่อเหวิน เป็นผู้นำกองทัพและเตรียมพร้อมทุกเมื่อ!” จักรพรรดิหยวนเฟิงกล่าวด้วยเสียงทุ้ม
"รับบัญชาฝ่าบาท" ขันทีจ้าวคิด ถ้าท่านรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ทำไมท่านถึงตัดสินใจเช่นนั้นตั้งแต่แรก?
“สหาย เด็กแซ่ โจว มาจากแผนกหลอมอาวุธ และเขาได้สร้าง ง้าวมังกรเขียว เขาได้ลงทะเบียนมันกับแผนกหลอมอาวุธและส่งมอบส่วนแบ่งหรือไม่?” จู่ๆ จักรพรรดิหยวนเฟิงก็พูดขึ้น
ขันทีจ้าว: “…”