ตอนที่แล้วCD บทที่ 311 พัวพันยุ่งเหยิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปCD บทที่ 313 เหยื่อรายที่เจ็ด?

CD บทที่ 312 อย่ามายุ่งกับลูกชายของฉัน


หลังจากพูดคุยกับเหลียวจิงซาน ในที่สุด จ้าวหยู่ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เห็นได้ชัดว่าทีมสอบสวนพิเศษที่รับผิดชอบคดีฆาตกรรมคูปิงได้รับรู้ถึงความผิดปกติของร้านเบเกอรี่เค้กมานานแล้ว

ในตอนที่พวกเขารับคดีนี้มา พวกเขาได้ดูวิดีโอของจ้าวหยู่ที่ไล่ล่าจ้าวฉิง เพื่อที่จะไล่ตามเบาะแสจากจ้าวฉิง เจ้าหน้าที่ได้ไปที่ร้านเบเกอรี่หนึ่งครั้งเพื่อพยายามดึงภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้าน เมื่อถึงเวลาที่พวกเขามาถึง ร้านเบเกอรี่ได้ปิดกิจการไปแล้วและผู้จัดการก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ดังนั้นผู้ตรวจสอบจึงหันเหความสนใจทั้งหมดไปที่ร้านนี้ทันที

หลังจากการสอบสวนเพิ่มเติม พวกเขารู้สึกว่าร้านเบเกอรี่แห่งนี้น่าจะเป็นสำนักงานใหญ่ขององค์กรใต้ดิน แต่พวกเขาก็มาช้าเกินไป ร้านเบเกอรี่ได้ชิงปิดหนีพวกเขาไปแล้ว

ถึงแม้องค์กรใต้ดินจะเปลี่ยนสถานที่ แต่พวกตำรวจก็ไม่ปล่อยร้านนี้ไป พวกเขาส่งคนสอดแนมทั้งกลางวันและกลางคืน เผื่อว่าพวกอาชญากรจะกลับมา แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าจ้าวหยู่จะสังเกตเห็นสถานที่แห่งนี้ นี่คือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาคุยกับจ้าวหยู่

เมื่อจ้าวหยู่รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว เขาก็รู้สึกโล่งอก ดูเหมือนว่าทีมสืบสวนพิเศษที่รับผิดชอบในการสืบสวนคดีฆาตกรรมคูปิงจะมีความสามารถมาก เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการสอบสวนเลย

แต่เนื่องจากเหลียวจิงซานได้ตำหนิเขาไปแล้ว ถ้าจ้าวหยู่ไม่หยอกล้ออีกฝ่ายกลับไป มันก็คงไม่ใช่ตัวเขา

จ้าวหยู่จึงบอกเหลียวจิงซานผ่านจอภาพว่าเหตุผลที่เขาอยู่ที่นั่นก็เพื่อซื้อเค้ก ไม่ได้มาสืบสวนคดีใด ๆ เขาไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย นอกจากนี้ ที่เขาโทรหาเหลียวจิงซาน เนื่องจากเขาตั้งใจจะชวนเหลียวจิงซานไปทานอาหารเย็น และไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคดีนี้!

เมื่อเผชิญกับการกระทำอันเสแสร้งเช่นนี้ เหลียวจิงซานก็ไม่สามารถทำอะไรจ้าวหยู่ได้เช่นกัน เขาทำได้เพียงเตือนให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ จากนั้นเขาก็วางสายไป

เมื่อเขาแยกทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกคนแล้ว จ้าวหยู่ก็ลงจากรถตำรวจคนเดียวและมุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟ

‘ไม่นึกว่าเรื่องทั้งหมดมันจะลงเอยอย่างนี้!’

จ้าวหยู่ดึงจำความทรงจำของเขาในตอนที่เขาไล่ล่าจ้าวฉิง ในช่วงเวลานั้น เขามุ่งเน้นไปที่การจับจ้าวฉิงโดยไม่ทันคิดเรื่องอื่นเลย ตอนนี้เขาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว เขาตระหนักว่าหากเขาให้ความสนใจกับร้านเบเกอรี่มากกว่านี้ เขาอาจจยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวก็ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่จ้าวหยู่เพิ่งได้ยินมา เขายังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ราวกับนอกจากร้านเบเกอรี่แล้ว มันอาจจะมีหลักฐานชิ้นอื่น ๆ อีก เพราะเขาไม่คิดว่าองค์กรใต้ดินจะยอมถอยจริง ๆ ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะก่อทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่กว่าเดิมอีก

นอกจากนี้… การหายตัวไปของจินหยวนหยวน มีความเป็นไปได้ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับคดีธุรกรรมอำพราง

เมื่อเขาคิดไปไกลกว่านี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า หากข้อสันนิษฐานถูกต้อง มันก็หมายความว่าจินหยวนหยวนตกอยู่ในอันตรายแล้วใช่หรือไม่?

ตามวิธีการของฆาตกร เขาจะขังจินหยวนหยวนไว้ที่ไหนสักแห่งก่อน โดยไม่มีอาหารหรือน้ำ และรอให้เธออดตาย

จินหยวนหยวนหายตัวไปเมื่อสองวันก่อน มันก็เป็นเวลานานแล้ว เธอจะทนได้ไหม? แล้วจะหาตัวเธอได้อย่างไร?

ด้วยความสับสนและความปั่นป่วนในใจของเขา ทำให้เขาต้องการจบการนัดบอดแบบกลุ่มให้เร็วที่สุด เพื่อที่เขาจะกลับไปที่สถานีตำรวจและเริ่มสืบสวนคดีนี้

แต่เขารู้จักนิสัยของแม่ดี

เนื่องจากแม่ของเขาใช้เงินไปกับการนัดบอดแล้ว เธอจึงไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าจ้าวหยู่จะพบเป้าหมายเป็นอย่างน้อย ตอนนี้หญิงชราคงจะเป็นบ้าไปแล้วกับการหายตัวไปของเขา!

จ้าวหยู่คิดมากจนลืมบางสิ่งที่สำคัญไป เขาลืมหญิงสาวที่เขาเคยเห็นในห้องน้ำหญิงไปเสียสนิท!

เมื่อเขาเข้าไปในร้านกาแฟ เขาเห็นคนตะโกนอะไรบางอย่างในขณะที่ล้อมรอบด้วยคนจำนวนมาก แม่ของจ้าวหยู่ก็อยู่ที่นั่นด้วย โดยพยายามสร้างความมั่นใจให้อีกฝ่ายว่า

"ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งโวยวายไป ในเมื่อคนโรคจิตอยู่แถวนี้ เขาควรจะถูกจับไปแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง ลูกชายของฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเมื่อลูกชายของฉันกลับมา เขาจะช่วยพวกคุณจับพวกถ้ำมองให้เอง!”

เมื่อได้ยินคำว่า ‘พวกถ้ำมอง’ จ้าวหยู่ก็ตระหนักได้ทันที

"เวรเอ๊ย! ลืมไปซะสนิทเลย!" เขาพูดกับตัวเอง จากนั้น เขาหันหลังและเดินออกไปทันที แต่เขายังไม่ทันจะก้าวออกไปก็มีคนโพล่งขึ้นมาว่า

"นี่ไง! ตำรวจมาถึงแล้ว! สงสัยเขาต้องมาจับคนร้ายอย่างแน่นอน"

จ้าวหยู่อยากจะก้มหัวลงและรีบออกไป แต่ก็ไม่ทันการหญิงชราเห็นจ้าวหยู่และดึงเขาเข้าไปในฝูงชนทันที

"ลูกแม่ มาได้จังหวะพอดีเลย เร็วเข้า มีพวกถ้ำมองแอบอยู่ในห้องน้ำหญิง ลูกรีบมาช่วยจับมันหน่อย!”

"นั่นเขา เขานั่นแหละที่มาถ้ำมองฉัน!" ภายใต้การจ้องมองของทุกคน หญิงสาวจำจ้าวหยู่ได้แล้ว เธอก้าวไปข้างหน้าและชี้ไปที่จ้าวหยู่ "ฉันจำไม่ผิดแน่นอน คนที่มาถ้ำมองฉันใส่ชุดตำรวจและฉันก็เห็นหน้าเขาเต็ม ๆ"

“เดี๋ยว! มันเกิดอะไรขึ้น!? ลูกฉันเป็นตำรวจนะ!” หญิงชราไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์

“พี่คะ!” ขณะที่เธอพูด หญิงสาวดึงชายร่างเทอะทะเข้ามาหาเธอและชี้ไปที่จ้าวหยู่ "เขาเป็นพวกถ้ำมอง เมื่อกี้เขาเห็นฉันกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าและแอบมองจากนอกห้องน้ำขณะที่ยืนอยู่บนท่อ! อย่างเขาน่ะเหรอเป็นตำรวจ น่าจะเป็นพวกโรคจิตมากกว่า!”

ทันใดนั้นทั้งบรรยากาศภายห้องก็อึดอัดขึ้น ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกลายเป็นพวกถ้ำมองภายในไม่กี่วินาที

"อะไรนะ?“หญิงชราก็สับสนเช่นกัน เธอดึงจ้าวหยู่”ลูกฉันเป็นตำรวจ ไม่ใช่พวกโรคจิต! คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง!?”

“ฉันจำไม่ผิดแน่นอน ถึงแม้เขาจะเป็นเถ้าถ่าน ฉันก็จำได้อย่างแน่นอน!” หญิงสาวพูดอย่างเดิอดดาล "พี่ คนที่แอบมองฉันคือผู้ชายคนนี้แน่นอน ฉันมั่นใจ!"

“ไอ้หนู นี่แกปลอมตัวเป็นตำรวจนั้นเหรอ!?” พี่ชายของหญิงสาวเดินเข้ามาและยกมือขึ้นเกาคออย่างไม่พอใจ

ทว่าแม่ของจ้าวหยู่ไม่เกรงกลัวและก้าวไปข้างหน้าทันที “พวกแกกำลังโกหกหน้าด้าน ๆ! ลูกฉันเป็นตำรวจ เขาจะแอบดูน้องสาวแกทำไม!? ฉันไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด!”

“แม่…” จ้าวหยู่ไม่มีใจจะจัดการกับเรื่องนี้ เขาดึงศอกของหญิงชรา "แม่... แม่ช่วยถอยไปก่อนได้ไหม?"

"ไม่มีทาง!" หญิงชราหันกลับมา สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล “ลูกแม่ รีบหนีไปก่อน แม่จะหยุดพวกมันเอง! ฉันคลอดลูกมากับมือ แม่จะไม่รู้จักลูกได้อย่างไร? ลูกเป็นคนขี้อายมาตลอด ไม่กล้าทำเรื่องผิดศีลธรรมแน่นอน ไม่ต้องห่วง แม่จะอยู่ที่นี่เพื่อลูก!”

สิ่งที่หญิงชราพูดมานั้นไม่ผิด จ้าวหยู่คนก่อนขี้อายจริง ๆ แต่หญิงชราไม่รู้ว่าจ้าวหยู่คนปัจจุบันนั้นไม่เหมือนกับจ้าวหยู่คนก่อนอีกแล้ว

“เฮ้! ออกไปให้พ้น!” ชายร่างเทอะทะรีบวิ่งไปข้างหน้าโดยยังคงตะโกนว่า "ไอ้หนู ถ้าไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย ก็ชดใช้พวกเรามา! ขอบอกไว้ก่อนนะเครื่องแบบตำรวจของแก มันไม่ได้ช่วยอะไรแกเลย!”

"ออกไปนะ!" หญิงชราเข้าไปจับตัวชายคนนั้นแล้วดันเขากลับไป แต่ในขณะที่จ้าวหยู่กำลังจะดึงหญิงชรากลับมาหาเขา พี่ชายของหญิงสาวได้ผลักหญิงชราด้วยความปั่นป่วนและทำให้เธอเซ

จ้าวหยู่ตกตะลึงในขณะที่เขาคว้าแม่ของเขาพร้อมกับจ้องอีกฝ่ายด้วยความเดือดดาล

เดิมที เขาอยากจะให้เหตุผลกับอีกฝ่าย แต่เขากล้าลงมือกับแม่ของเขา เขาจะทนต่อไปได้อย่างไร!?

*พลัวะ!*

ความโกรธของจ้าวหยู่ปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว และผลที่ตามมาก็เป็นไปตามคาด ชายคนนั้นไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยและเดินเข้าไปหาเขาโดยตั้งใจจะคว้าคอเสื้อของจ้าวหยู่ แต่ทว่าจ้าวหยู่ได้สวนไปด้วยกำปั้นของเขา มันเป็นกำปั้นที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อซึ่งพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของชายคนนั้นอย่างเต็มแรง เลือดกำเดาพุ่งกระฉูดไปทุกที่!

"อ๊าก!!!" ชายคนนั้นลงไปกองบนพื้นทันที เขาร้องคร่ำครวญเหมือนสัตว์บาดเจ็บ

จ้าวหยู่ยังคงชกอีกฝ่ายต่อไปอย่างดุเดือด ชายผู้นี้ไม่มีทางป้องกันตัวเองได้ ทำได้เพียงแค่ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด

"นี่แก... นอกจากจะโรคจิตแล้วยังทำร้ายคนอื่นอีก!" หญิงสาวตะโกนและก้าวไปข้างหน้า ต้องการที่จะช่วยพี่ชายของเธอ แต่จ้าวหยู่ก็คำรามออกมา

“ย๊าก!”

เสียงคำรามสั่นสะเทือนทั้งห้องและความดุร้ายของจ้าวหยู่ ทำให้สาวใจกล้ากลายเป็นสาวขี้ขลาด เส้นผมของเธอพองฟูด้วยความตกใจ

จ้าวหยู่เตะไปที่ใบหน้าของชายคนนั้นทำให้เขารู้สึกวิงเวียนศีรษะ จากนั้นเขาก็ยกคอเสื้อของชายคนนั้นขึ้น แล้วดึงกุญแจมือชุดหนึ่งออกมาและใส่กุญแจมือของชายคนนั้นด้วยกัน

“ฉันเป็นตำรวจจริง ๆ ถ้าไม่เชื่อก็ดูนี่!” จ้าวหยู่แสดงตราตำรวจของเขาออกมาต่อหน้าฝูงชน "ฉันเป็นนักสืบในแผนกสืบสวน ตอนนี้ฉันกำลังสืบสวนคดีสองพี่น้องต้มตุ๋นอยู่ มีพี่น้องคู่หนึ่งเป็นนักแสดงที่เชี่ยวชาญ โดยน้องสาวกล่าวหาว่ามีคนแอบดูเธอ ส่วนพี่ชายทำการหลอกลวงและขู่กรรโชกทรัพย์ ในที่สุดฉันก็เจอพวกแกแล้ว! ถ้ามีอะไรจะแก้ตัวก็ไปแก้ตัวที่สถานีตำรวจกับฉัน!"

เมื่อได้ยินดังนั้นฝูงชนทั้งหมดก็แตกตื่น

"อย่างนี้นี่เอง คุณเจ้าหน้าที่ คุณทำได้ดีมาก!" พนักงานเซิร์ฟของร้านกาแฟก้าวไปข้างหน้า "สองคนนี้กำลังจะหลอกลวงร้าน พวกเขาพูดทำนองว่าร้านของเรามีปัญหาด้านความปลอดภัยโดยปล่อยให้พวกโรคจิตเข้ามาถ้ำมองได้! เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี้เอง!"

ด้วยคำพูดของพนักงานเซิร์ฟ ความจริงดูเหมือนจะชัดเจน ผู้หญิงทุกคนที่กำลังมองหาคู่เดทเริ่มมองไปที่จ้าวหยู่ทันที

"ไม่ ไม่จริง! ผู้ชายคนนี้เป็นพวกโรคจิตจริง ๆ! เขาถ้ำมองฉัน! ฉันไม่ได้โกหก ฉันไม่ได้โกหก!!" หญิงสาวถึงกับน้ำตาไหล

"เอาล่ะ!" จ้าวหยู่กล่าว "ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฉันจึงต้องบังคับใช้กฎหมาย! เอาหลักฐานของคุณออกมา! มีบันทึกหรือภาพถ่ายใด ๆ ที่พิสูจน์ว่าฉันแอบดูหรือไม่?”

“ไม่มี…” น้ำตาแห่งความผิดหวังของหญิงสาวไหลอาบแก้ม

เมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาว จ้าวหยู่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย ไม่ว่าอย่างไร เขาก็เป็นฝ่ายผิด ถึงแม้ว่าเขาจะต้องการเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ แต่เขาก็ไม่ควรจะทำรุนแรงเกินไป

หลังจากครุ่นคิด จ้าวหยู่ก็ปลดล็อคกุญแจมือของชายคนนั้นและหันไปหาหญิงสาว "ก็ได้ ในเมื่อพวกคุณไม่มีประวัติ ฉันจะปล่อยพวกคุณไป แต่จำไว้คราวหน้าอย่าทำอย่างนี้อีก!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ พี่ชายก็ขอบคุณจ้าวหยู่ทันทีและดึงน้องสาวของเขาไปทางอื่น

แต่พอที่พวกเขาก้าวไปสองสามก้าว แม่ของจ้าวหยู่ก็ล้มลงกับพื้น

“โอ๊ย! อย่าปล่อยพวกเขาไป โรคหัวใจฉันกำเริบวาย! มันเป็นความผิดของพวกเขาทั้งหมด! เร็วเข้า… รีบพาฉันไปโรงพยาบาล โอ๊ย…”

ในช่วงเวลานั้น จ้าวหยู่ไม่รู้สึกอะไรนอกจากความอึดอัด เขาลูบไหล่หญิงชราทันทีและเอนตัวลงไป

“พอได้แล้วแม่ เรื่องมันจบแล้ว แม่ลุกขึ้นมาเถอะ”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด