บทที่ 35 - ออกจากเมืองชิงหยาง
2/6
บทที่ 35 - ออกจากเมืองชิงหยาง
เฉินซีตื่นเต้นมาก ความไม่สบายใจในใจเมื่อครู่ถูกโยนทิ้งไปสิ้น
“นายน้อยหยาง ข้าขอถามได้ไหมว่าท่านวางแผนจะไปที่ไหนต่อ?”
หลังจากเก็บบัตรทองอนันต์ เฉินซีถามขึ้น
หยางซือเล่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนมีแสงสว่างวาบเข้ามาในหัวเขา เกิดนึกถึงตระกูลเดิมของเจ้าของร่างขึ้นมา เอ่ยปากว่า “พวกเราจะไปเมืองหลงเฟย”
ว่าจบ หยางซือเล่ยก็ไม่คิดตอบคำถามใดๆของเฉินซีอีก พาเฉินเฉินบุตรสาวเดินไปยังบันไดทางออก
“เมืองหลงเฟย?”
เฉินซีแสดงสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย มองตามแผ่นหลังของหยางซือเล่ย
เขารู้ดี ตระกูลหยางมีต้นกำเนิดที่เมืองหลงเฟย และเมื่อสองปีก่อนหยางซือเล่ยถูกเนรเทศจากที่นั่น
สาเหตุก็เพราะเขามักก่อปัญหา ประพฤติตัวไม่ดี ในที่สุดเขาถูกตระกูลไล่ต้อน โดนเนรเทศมายังเมืองเล็กๆอย่างเมืองชิงหยาง กลายเป็นตระกูลสาขาไป
“หรือว่านายน้อยหยางต้องการกลับไปหาตระกูลหยางของเขา?”
พอได้ข้อสรุป เฉินซีก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าจะตามหยางซือเล่ยไป
ยังไงซะเขาก็ตัวลำพัง ไม่มีญาติมิตรหรือครอบครัวอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อได้เป็นตัวแทนของหยางซือเล่ย อนาคตไร้ขีดจำกัด ธุรกิจนักประเมินเล็กๆในเมืองชิงหยาง ไม่คุ้มค่าให้กล่าวถึง
เดินออกจากโรงเตี๊ยม อย่างแรกที่หยางซือเล่ยทำ คือกว้านซื้อเหล็กจากร้านขายอาวุธสองสามร้าน นำมาแปลงเป็นแต้มเสริมพลัง จากนั้นซื้อของใช้จำเป็นและพวกเสื้อผ้าแก่บุตรสาวหยางเฉินเฉิน
ด้านเฉินซี เขาแยกตัวไปจ้างรถม้าหรู แล้วมาเจอกันกลางทาง จากนั้นมุ่งหน้าออกจากเมือง
“ท่านพ่อ พวกเราจะไปที่ไหน?”
บนรถม้า หยางเฉินเฉินนอนอยู่ข้างหน้าต่าง เฝ้ามองทิวทัศน์ภายนอก เอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“พวกเราจะไปเที่ยวที่ๆน่าสนุกกัน”
หยางซือเล่ยยิ้มอ่อนโยน เอื้อมมือไปลูบหัวบุตรสาว
นับแต่หยางเฉินเฉินเริ่มโตพอจะรู้เรื่องรู้ราว นี่เป็นครั้งแรกที่นางเดินทางออกจากเมือง
“จริงหรือ นั่นฟังดูเยี่ยมไปเลย!”
ใบหน้าบอบบางรูปไข่ของหยางเฉินเฉินเผยรอยยิ้มแห่งความสุข
เฉินซีนั่งอยู่ข้างๆ มองหยางซือเล่ยด้วยแววตาซับซ้อน นึกไม่ถึงว่าตั้งแต่ได้ทำความรู้จักกับหยางซือเล่ยเพียงวันเดียว จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายเช่นนี้
และตอนนี้เขากำลังออกจากสถานที่ที่ตนอาศัยอยู่มานานหลายปี จึงอดไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกโหวงๆในใจ
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเปลี่ยนใจ!
รถม้าค่อยๆเคลื่อนออกไป เดินทางจนตะวันลับขอบฟ้า
....
ตกดึก
ณ เมืองชิงหยาง ภายในห้องรับแขกชั้นสูงที่ตั้งอยู่บริเวณลานด้านทิศเหนือของคฤหาสน์เจ้าเมือง
เอี๊ยดด~!
ประตูห้องถูกผลักเปิดออก ชายวัยกลางคนร่างเตี้ยเดินเข้ามา
เขาสวมเสื้อผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของทำเนียบยุทธชางเฉียง เห็นได้ชัดว่าเป็นนักบู๊ขอบเขตกระตุ้นจิตวิญญาณที่ถูกส่งมาตรวจสอบเรื่องการตายของเย่หาน
“เย่เฉียง พี่ชายของเย่หานถูกฆ่าตายในห้องใต้ดินบ่อนเทียนเทียนเล่อ เขาจึงมาที่นี่เพื่อแก้แค้น”
“แต่เมื่อคืน เล่ยเหลาหูแห่งบ่อนเทียนเทียนเล่อกับลูกน้องทั้งหมดถูกฆ่าตายในตรอก กระทั่งศิษย์น้องเย่ก็ถูกสังหารด้วยอาวุธพิสดาร”
“ว่ากันว่าในการประมูลของสภาหอการค้าจินไห่ พบวัตถุที่สามารถสร้างบาดแผลคล้ายกันกับศพในตรอกนั้น ผู้นำมันเข้าประมูลคือผู้ประเมินสมบัติที่ชื่อเฉินซี แต่ชายผู้นั้นได้เดินทางออกจากเมืองชิงหยางเมื่อไม่กี่ชั่วยามก่อน”
“ดูท่าคงได้แต่ไปพบเฉินซี จึงจะหาผู้ขายที่อยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงฆาตกรที่ฆ่าศิษย์น้องเย่ได้ ...”
ชายร่างเตี้ยนั่งอยู่บนเก้าอี้ เริ่มคัดแยกเบาะแสที่ได้จากการสืบสวนวันนี้ และต้องขอบอกว่าเขามาถูกทางจริงๆ กระนั้น ..
ปุ——!!
ขณะที่ชายร่างเตี้ยกำลังครุ่นคิด กระสุนที่ผสานพลังวิญญาณถูกยิงออกมาอย่างกะทันหัน ปราณคุ้มภัยที่แผ่ออกมารอบตัวเพื่อใช้ป้องกันพังทลายในพริบตา เจาะเข้าไปในกะโหลกของเขา
ร่างของชายร่างเตี้ยสั่นสะท้าน ล้มฟุบลงกับพื้น ตายคาที่โดยไม่ทันได้เปล่งเสียงร้องใดๆ