ตอนที่ 733 ไม้เด็ดของเจ้าอ้วนไห่
“เจ้าต้องการจะหนีไม่ใช่หรือ?” ซุ่นเทียนแค่นเสียงใส่กลุ่มเจ้าอ้วนไห่
ซุ่นเทียนคิด “แม้ว่าเราจะปล่อยให้พวกเขาจากไป เย่คงและคนอื่นจะหนีพ้นจากการไล่ล่าของเราได้หรือไม่? นอกจากนี้ ถ้านักสู้ปราณก่อกำเนิดของฝ่ายเราหลายคนลงมือโจมตีเจ้าอ้วนไห่จนเกินความสามารถจะรับมือ ตราบใดที่เราไล่ตามกลุ่มของเย่คง อย่างนั้นเราจะสามารถฆ่ากลุ่มพวกเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม ถ้าเราปล่อยให้พวกเขาอยู่รอดและสู้ตายกับเรา เจ้าอ้วนไห่และเย่คงอาจจะฆ่าฝ่ายเราได้สักคนหรือสองคน
สำหรับการต่อสู้กันในวันนี้ สภาสูงของทวีปกวงหมิงได้ส่งนักสู้ของพวกเขามาทั้งหมด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าอ้วนไห่จะช่วยชีวิตพวกเขาทั้งหมดด้วยการเสียสละตนเองได้ หากเรื่องนี้เกิดขึ้น ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง!”
ยังดีที่ผู้เฒ่าหนานกงไปดูแลผนึกพื้นที่เพื่อขัดขวางแผนการที่จะเปิดผนึกนั้นทำให้นักรบระดับสูงจากแดนสวรรค์เข้ามาในสถานที่นั้น ถึงกระนั้นสุ่ยตงหลิว (อาจารย์จิ้งจอกเฒ่า)และราชินีมังกรเสริมกำลังคนแคระแดนสวรรค์ เผ่าภูตบูรพา เผ่ามนุษย์ทะเลและเผ่าใต้พิภพ ทั้งหมดถูกเผ่ามนุษย์วิหคและนักรบรับจ้างแดนสวรรค์ขัดขวาง
เพื่อให้ได้รับสมบัติโบราณในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพจ้าวปีศาจโบราณใช้เวลาหลายพันปีถักทอแผนการที่ซับซ้อน ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางโผล่ขึ้นมาอย่างฉับพลันและขัดขวางแผนการในอนาคตของเขา จ้าวปีศาจโบราณคงไม่ตัดสินใจลงมือโจมตีครั้งนี้ อย่าว่าแต่การใช้นักรบจากแดนสวรรค์เป็นเหมือนกับขี่หลังเสือไม่สามารถลงได้
การโดดเด่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วของเย่ว์หยางทำให้จ้าวปีศาจโบราณรู้สึกกดดันอย่างหนักหน่วง เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องร่วมมือกับศัตรูของเขา เขาตัดสินว่า ศัตรูของศัตรูก็คือสหายของเรา สำหรับจ้าวปีศาจโบราณไม่มีทางให้ถอยอยู่แล้ว
เทียบกับนักรบระดับสูงจากแดนสวรรค์ เย่ว์หยางนับเป็นผู้คุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผนของเขา
เพื่อกำจัดคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้จะทำลายแผนการหลายร้อยปีของเขาให้พินาศ จ้าวปีศาจโบราณตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ของเขา แม้ว่าจะเป็นการเปิดเผยแผนการที่เขาใช้เวลาสร้างมานานหลายปีแล้ว
ถ้าแผนการครั้งก่อนของเขาเป็นไปอย่างราบรื่น เขาคงเก็บเกี่ยวผลแห่งชัยชนะไปแล้ว
แต่การปรากฏตัวขึ้นมาของเย่ว์หยางทำลายแผนการณ์ของเขาอย่างสิ้นเชิง
ซุ่นเทียนซึ่งร่วมมือกับจ้าวปีศาจโบราณอยู่นานแล้วกำลังฝึกฝนเพื่อให้มีพลังระดับปราณราชันย์ ปัจจุบันนี้งานของซุ่นเทียนไม่ใช่ไปสู้กับเย่ว์หยาง แต่เป็นกำจัดสหายร่วมกลุ่มของเขา ในสถานการณ์เช่นนั้นซุ่นเทียนนึกภาพของความล้มเหลวไม่ออก
ที่สำคัญเจ้าอ้วนไห่และเย่คงอ่อนแอมาก แม้ว่าจะมีความก้าวหน้ารวดเร็วก็ตาม แต่ก็ยังมีช่องว่างใหญ่ระหว่างพวกเขาและนักสู้ปราณก่อกำเนิดในกลุ่มพวกเขาเองหลายคน แม้ว่าเขาไม่ต้องร่วมมือกับองค์ชายดำและประมุขนิกายพันปีศาจ ซุ่นเทียนคิดว่าเขาสามารถทำงานนี้ให้สำเร็จได้ด้วยตัวเอง
“ไป!” เย่คงคำรามกึกก้องราวกับฟ้าร้อง
“รอพวกเราด้วย, ขาจะกลับมาพร้อมกับอาจารย์...” หลิวเย่ใจอ่อนเกินกว่าจะทนแยกจากกันในลักษณะนั้น แต่ในช่วงเวลารีบเร่งคับขันนั้นนางไม่ได้ทำตัวเย่อหยิ่งอย่างโง่เขลา ถ้านางไม่จากไปทันที เจ้าอ้วนไห่จะเสียสละอย่างว่างเปล่า ถ้าพวกเขาลังเลแม้แต่วินาทีเดียว พวกเขาอาจก่อให้เกิดอันตรายในฝ่ายของเขาจนยากจะกอบกู้แก้ไข ถ้าพวกเขาหนีไปเท่าที่เป็นไปได้ อย่างนั้นเจ้าอ้วนไห่อาจสามารถถอนตัวจากการต่อสู้กับซุ่นเทียนและหาโอกาสหลบจากการต่อสู้ได้
หลิวเย่คว้ามือน้อยๆ ของเป่าเอ๋อก่อนที่พวกนางจะผ่านอุปสรรคที่ศัตรูจัดเตรียมไว้ในระหว่างทาง ในไม่ช้าพวกนางก็มาถึงประตูเทเลพอร์ต นางเข้าไปอย่างรวดเร็วโดยมีกวางทะลุมิตินำทาง
ตั้งแต่หลิวเย่ผสานพลังเพื่อขนย้ายกับกวางทะลุมิติแล้ว ก็ไม่มีศัตรูใดที่สามารถหยุดยั้งการจากไปของนางได้ นางหลบหลีกการยิงพลังทำร้ายจากองค์ชายดำผู้น่ากลัวได้และหายเข้าไปในประตูเทเลพอร์ต
จากนั้นภายใต้การปกป้องของพี่น้องตระกูลหลี่ ลีนและแอนนาวิ่งเข้าไปในประตู ขณะที่พวกเขาทำเช่นนั้นเสวี่ยทันหลางต้านรับพลังโจมตีจากประมุขนิกายพันปีศาจช่วยปกป้องสองสามีภรรยา เหยียนพั่วจวินและฟงชิซาเตะผู้เฒ่าหนิงไห่เข้าไปในประตูมิติขณะที่พวกเขาบังคับให้เย่ว์ถิงประมุขตระกูลเย่ว์ในอนาคตออกไปกับพวกเขา
พลังงานขององค์ชายเทียนหลัวระเบิดออกมาขวางองค์ชายดำที่เคลื่อนไหวเข้าหาพวกเขาเร็วราวกับสายฟ้า
องค์ชายเทียนหลัวในปัจจุบันนี้เป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม และตัวเขาเองต้านรับพลังโจมตีจากองค์ชายดำและผู้อาวุโสเผ่ามนุษย์วิหค
ใกล้ๆ กันนั้นเองเย่คงเรียกจ้าวคิงคองปีศาจออกมาและบีบบังคับสื่อจินโหวให้ถอยไป
ขณะนั้นสื่อจินโหวยังไม่ได้ดูดซับพลังหัวใจปีศาจของราชันย์พันปีศาจได้อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามด้วยความสนับสนุนของจ้าวปีศาจโบราณ เขามีพลังปราณก่อกำเนิดระดับแปด นอกจากนี้เขายังมีคัมภีร์อัญเชิญและมีอสูรพิทักษ์ ดังนั้นโอกาสของเขาจึงสดใสกว่านักรบระดับสูงอีกสามคน ถ้าเขาเป็นฝ่ายชนะเมื่อสงครามจบลง เขาจะได้รับพลังบางส่วนที่หายไปกลับคืนมา และมีพลังระดับเดียวกับราชันย์พันปีศาจ
“รีบๆ หน่อย!” เจ้าอ้วนไห่อุทานขณะที่เขาเรียกแรดเพชร, ฮิปโปน้อย, แมมมอธสายฟ้าระดับเตรียมปราณฟ้าและนางนวลสายลมรวดเดียว เพราะเขาต้องการถ่วงเวลาศัตรูเหล่านี้ จากนั้นเขาต่อสู้ซุ่นเทียนยอดฝีมือวิชาห้าแปรเปลี่ยน เมื่อซุ่นเทียนโดนรุกไล่ถอยไปได้เล็กน้อย เจ้าอ้วนไห่คำรามใส่เย่คง “ไปได้แล้ว! ยังมีการลอบทำร้ายระหว่างทางอีก ไม่ต้องตามหาเย่ว์หยาง อย่ากลับไปฉางจิงหรือปราสาทตระกูลเย่ว์ อย่าไปหอทงเทียน ให้ออกไปจากที่นี่และไปหาที่อื่นพำนักตามปกติ ข้าจะอยู่ที่นี่! ข้าคนเดียวก็พอแล้ว!”
“อย่ามาทำไร้เดียงสาอีกเลย ไม่ว่าพวกเจ้าไปไหน พวกเจ้าก็ต้องตาย” ซุ่นเทียนพูดด้วยความภูมิใจ แต่นั่นก็เป็นแค่ผิวเผิน หลังจากได้ยินคำพูดของเจ้าอ้วนไห่ เขารู้สึกลำบากใจเล็กน้อย เพราะเขารู้ว่าไม่มีกับดักอะไรอยู่ในที่สำคัญ แต่มีสถานที่ซึ่งพวกเขาสามารถอยู่ได้อย่างปลอดภัยในหอทงเทียน ดูเหมือนว่าเป็นความจริงในทวีปมังกรทะยาน
ถ้าเย่คงพากลุ่มไปอยู่ในที่ลับสุดยอด คงไม่ง่ายที่จะตามหาพวกเขาเจอ
ซุ่นเทียนปรับเปลี่ยนแผนลอบฆ่าพวกเขาที่เขาได้เตรียมไว้ก่อนนั้น ซึ่งจัดให้องค์ชายดำและประมุขนิกายพันปีศาจเป็นผู้ลงมือ
ซุ่นเทียนเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย “ไป! และจงไล่ตามคนอื่นไป! ปล่อยเจ้าอ้วนนี่ให้ข้าเอง! ข้าจะทรมานมันจนตาย!”
หนึ่งในผู้อาวุโสมนุษย์วิหคก้าวออกมาและเรียกอสูรศึกร่างปลาสีขาวซึ่งลอยตัวอยู่ในอากาศ
อสูรศึกพ่นฟองออกมานับไม่ถ้วนเป็นสายยาวและมีตัวหนังสือปรากฎอยู่บนผิวฟองน้ำ ผู้อาวุโสเผ่าวิหคเพ่งมองสัญลักษณ์เหล่านี้ดูเหมือนจะได้รับข้อมูลลับบางอย่าง เขารายงานซุ่นเทียนทันที “พวกเขาเจ้าเล่ห์มาก พวกเขาไม่ได้มุ่งหน้าไปหุบเขาแม่น้ำขาวของบันไดสวรรค์ชั้นห้า, หอทงเทียนหรือปราสาทตระกูลเย่ว์ พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปยังเหวสิ้นหวัง!”
สื่อจินโหวเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด เขาคลี่ม้วนเวทเทเลพอร์ตและไล่ตามคนอื่นๆ ไปทันที เจ้าอ้วนไห่ตอบสนองได้ไม่เร็วพอจะหยุดเขามิให้ไปยังเหวสิ้นหวัง!
ตอนนี้ขึ้นอยู่เย่คงกับเสวี่ยทันหลาง พวกเขาจะต้องเผชิญกับประมุขนิกายพันปีศาจ ศัตรูสุดท้ายที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกเขาจำเป็นต้องกำจัด
เย่คงและเสวี่ยทันหลางพลาดพลั้งในการสกัดในการสกัดกั้นกลุ่มไล่ล่า เพราะพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีของประมุขนิกายพันปีศาจและผู้อาวุโสเผ่ามนุษย์วิหค เมื่อเวลาผ่านไปองค์ชายเทียนหลัวก็สามารถกดดันองค์ชายดำให้ถอยออกจากทางไปได้ ศัตรูของพวกเขาหลายคนก้าวผ่านประตูมิติไปได้แล้ว เย่คงและเสวี่ยทันหลางฉวยโอกาสนี้วิ่งเข้าประตูมิติทันที ติดตามผู้ไล่ล่าเพื่อช่วยปกป้องหลิวเย่และสหายอื่นๆ
ในไม่ช้าที่หัวหน้ามนุษย์หัววัวลีโอและฟ่านหลุนเถี่ยก็สามารถบีบให้ศัตรูซึ่งเข้าต่อสู้กับพวกเขาถอยกลับไปได้ พวกเขาผ่านเข้าประตูมิติไปเพื่อเป็นแรงสนับสนุนสหายของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าศัตรูก็มีการเตรียมตัวมาดีเช่นกัน แม้แต่สถานที่รวมตัวซึ่งเป็นที่ลับสุดยอดที่สุดของพวกเขาก็ยังถูกเปิดเผย สถานการณ์ย่ำแย่เกินกว่าจะพูดออกมา องค์ชายเทียนหลัวพยายามโจมตีใส่ผู้อาวุโสมนุษย์วิหคที่ใช้อสูรปลาสะกดรอยอยู่หลายครั้ง แต่ผู้อาวุโสนั้นหลบได้ทั้งหมด ที่แย่ยิ่งกว่าองค์ชายเงาดำและประธานผู้อาวุโสฉวยโอกาสเอาเปรียบโจมตีใส่องค์ชายเทียนหลัวหลายครั้ง เพราะเหตุนั้นเองจึงทำให้องค์ชายเทียนหลัวคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มของเจ้าอ้วนไห่ได้รับบาดเจ็บหนักในเวลาต่อมา
“องค์ชายเทียนหลัว, รีบไป! หนี้ที่ติดค้าง ข้าค่อยใช้คืนให้ชาติหน้า!” เจ้าอ้วนไห่รีบมาอยู่ข้างเขาและรับการโจมตีรุนแรงแทนเขา จากนั้นจับองค์ชายเทียนหลัวโยนเข้าไปในประตูมิติ
ต่อมาเจ้าอ้วนไห่วทำลายประตูมิติป้องกันไม่ให้ประธานผู้อาวุโสมนุษย์วิหคไล่ตามองค์ชายเทียนหลัว
ซุ่นเทียนเปิดใช้พลังมังกรและพลังแมมมอธและต่อยใส่เจ้าอ้วนไห่ เจ้าอ้วนไห่กระเด็นออกไปร้อยเมตร
องค์ชายดำเห็นว่าซุ่นเทียนฝีมือเหนือกว่าเจ้าอ้วนไห่มากมาย แต่ไม่ได้โอ้อวดเรื่องนั้นเลย เขารับม้วนเทเลพอร์ตจากซุ่นเทียนและจากไป
ซุ่นเทียนเยาะเย้ยเจ้าอ้วนไห่ขณะที่เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาจากพื้น “เจ้าฉลาดหรือโง่เขลากันแน่? บอกตามตรง ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนฉลาด แค่เพียงเพราะให้กลุ่มเจ้ารอด เจ้าถึงกับยินดีสละชีวิตตัวเองสู้เสี่ยงชีวิตเพื่อถ่วงเวลาเราไว้ ดูแล้วช่างเป็นการกระทำที่กล้าหาญ! แม้ว่าข้าจะคิดว่าทางเลือกของเจ้านั้นช่างโง่งม แต่ข้าก็พอจะฝืนใจถือเสียว่าเจ้าสร้างความประทับใจให้ข้าได้ ถ้าเราไม่มีมัจฉาสะกดรอย ข้าอาจจะถูกแผนการของเจ้าหลอกไปแล้วก็ได้ เจ้าจงใจบอกเราว่าเย่คงและเสวี่ยทันหลางจะไปตามหาเย่ว์หยาง ถ้าเราทั้งหมดอยู่ที่นี่ เพื่อฆ่าเจ้าก่อน คนอื่นๆ อาจจะหลบหนีไปได้ น่าเสียดาย ไม่ว่าสุนัขจิ้งจอกจะเจ้าเล่ห์เพียงไหน แต่ก็ไม่ใช่คู่มือของพรานฝีมือดี ไห่ต้าฟู่! เจ้ายังต้องการจะสู้กับข้าอีกหรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า! ดูสิ.. เจ้าปวกเปียกถึงเพียงนี้”
แม้จะมีเลือดเปรอะเต็มใบหน้า แต่เจ้าอ้วนไห่ก็ยังยิ้มกว้างจากนั้นสารภาพ “ข้ายอมรับว่าด้อยกว่าเจ้าในเรื่องการวางแผน ข้าเองยังเป็นเด็กน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับเจ้าในด้านการวางกลยุทธ์ ส่วนในเรื่องความแข็งแกร่ง ข้าเองยังนับว่าเยาว์วัย ซุ่นเทียน, แต่ถ้าเจ้านึกว่าจะฆ่าข้าได้ง่ายๆ เจ้าคิดผิดแล้ว”
“เจ้ายังคิดว่าเจ้าจะมีชีวิตได้เห็นวันพรุ่งนี้อีกหรือ?” ซุ่นเทียนส่ายหน้าหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า!” เหมือนกับว่าเขาเห็นมดพยายามจะเอาชนะช้าง
“วันนี้ ข้าอาจไม่รอด” เจ้าอ้วนไห่หัวเราะ จากนั้นเขายิ้มยั่วโทสะซุ่นเทียน “แต่เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือว่าทำไมเย่คงจึงยอมจากไปโดยทิ้งข้าไว้เบื้องหลัง?”
“เจ้ามีอสูรศึกที่แข็งแกร่งกว่าอีกหรือ? อสูรศึกระดับปราณฟ้าใช่ไหม?” ซุ่นเทียนตะลึง
“ผิด!” เจ้าอ้วนไห่อุทานอย่างเหยียดหยาม หลังจากเขาส่ายหน้าต่อเนื่อง “ถ้าอสูรศึกระดับปราณฟ้าถูกบังคับให้ทำสัญญากับเจ้าของ เมื่อเจ้านายตกอยู่ในอันตราย มันจะเผ่นหนีเอาชีวิตรอดก่อน ไม่ว่าข้าจะโง่ยังไงก็ตาม ข้าคงไม่ดื่มพิษดับกระหายเป็นแน่ เรามีอสูรศึกระดับปราณฟ้าหลายตัวก็จริง แต่ข้ารังเกียจที่จะทำเช่นนั้นกับพวกมัน แม้ว่าข้าจะไม่มีอสูรศึกระดับปราณฟ้า แต่มิใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าเอาชนะเจ้า จักรพรรดิแห่งจื่อเว่ย! เจ้าก็ควรรู้ ข้าไม่ได้มีพลังแค่อย่างที่เจ้าเห็นเท่านั้น! แต่ข้ายังมีพลังที่แทบยังไม่เคยใช้ออก”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ตาของซุ่นเทียนกลายเป็นเย็นชา และเขาเรียกอสูรพิทักษ์ชั้นเพชรระดับเก้า จักรพรรดิทองออกมา
เจ้าอ้วนไห่ปลดผนึกและปลดปล่อยพลังเร้นลับของเขา ทำให้ร่างของเขาสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ขณะที่แสงดำพวยพุ่งออกจากร่างของเขา
จักรพรรดิแห่งจื่อเว่ยมีฝีมือรบยอดเยี่ยม เขาปลดปล่อยพลังด้ายบางลอยไปในอากาศตกลงใส่ร่างของเจ้าอ้วนไห่ แต่ไม่มีบาดแผลบนร่างเขา เป็นเหมือนกับดินที่โยนใส่ทะเล
เมื่อเห็นเช่นนี้ซุ่นเทียนสีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง เขาเรียกอสูรศึกสองตัวออกมาช่วยสนับสนุนทันที ช้างยักษ์ขาว และมังกรทอง ขณะที่ซุ่นเทียนเสริมพลังเข้ากับอสูรศึกเหล่านี้ เขามังกรใหญ่สองข้างอกออกจากศีรษะ และปีกยาวงอกออกทางด้านหลัง นอกจากนี้ ซุ่นเทียนยังปลดปล่อยพลังสนามพลังเป็นรูปแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
ซุ่นเทียนเป็นคนที่รอบคอบอย่างนี้มาโดยตลอด ราชสีห์มักจะใช้กำลังเต็มที่ต่อให้ล่ากระต่ายตัวหนึ่งก็ตาม
ที่สำคัญเขาไม่ต้องการประสบความพ่ายแพ้ในเงื้อมมือคนต่ำค่าอย่างเจ้าอ้วนไห่
เขามองดูร่างของเจ้าอ้วนไห่ที่ขยายออกอย่างรวดเร็วกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวสูง 20 เมตร เขาเห็นเขี้ยวยาวและกรงเล็บงองุ้มแหลมคมที่น่าเกลียดงอกออกมาจากปาก มือและเท้า
ทันใดนั้นเจ้าอ้วนไห่ลืมตาขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและแดงฉานผิดธรรมชาติ
โฮกกกกกก!
สัตว์ประหลาดน่าเกลียดกู่ร้องโดยไม่หยุดเป็นเวลานาน
เมื่อซุ่นเทียนตระหนักว่าพลังของเจ้าอ้วนไห่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกร้อยเท่าหลังจากแปลงร่างเป็นอสุรกายน่าเกลียด เขาเริ่มนึกเสียใจที่ต้องต่อสู้กับเจ้าอ้วนไห่ตามลำพัง
หางตาของเขาเริ่มกระตุก