ตอนที่ 732 กวงหมิงกรีฑาทัพลงใต้
“เจ้าพวกนี้ข้าสงสัยจริงว่าพวกเขาไปไหน ทิ้งแต่เรื่องยุ่งเหยิงไว้ให้ข้า ทำไมพวกเขาไม่รับผิดชอบเลยสักนิด? ในฐานะผู้นำ เขาล้มเหลวจริงๆ ดูเหมือนข้าล้มเหลวในการดูคน และนี่ถือเป็นการลงโทษตัวข้าเอง...”
ปิงพึมพำกับตนเองขณะที่เขาพ่นบุหรี่เป็นวงและบ่นกับตัวเอง เขากับถังเทียนมีการเชื่อมโยงที่เป็นเอกลักษณ์ และเขารู้ว่าถังเทียนยังไม่ตาย ดังนั้นเขาไม่กังวลใจ ‘ตราบใดที่เขาไม่ตายก็ดีไป แล้วข้าจะเรียกร้องมากกว่านี้ได้ยังไง? เจ้านั่นไม่น่าเชื่อถือเลย’
ต่อหน้าเขา ทุกคนยืนตรงไม่มีการส่งเสียง พวกเขาจะเต็มไปด้วยความเคารพปิง นอกจากนี้พวกเขารู้ว่า ถึงปิงจะบ่นหงุดหงิด แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับถังเทียนลึกซึ้งมาก ถ้าใครเห็นด้วยกับเขาในเวลานี้ ถือว่าพวกเขาไม่รู้จักเส้นแบ่งระหว่างความเป็นความตาย
อูหม่าเทียนรู้สึกผิดปกติ เป็นครั้งแรกของเขาที่เข้าร่วมประชุมทหารขนาดใหญ่แบบนั้น ข้างๆ เขาอายะยืนตัวตรง ตาของนางมองอยู่ที่ปลายจมูก
พูดถึงเรื่องอูหม่าเทียนเป็นอายะที่วิ่งแร่มาหาปิงและขอคน เมื่อเผชิญหน้ากับอายะที่มีความตั้งใจ ปิงคิดเล็กน้อยก่อนจะตกลง จากนั้นอูหม่าเทียนจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยกะโหลก และสิ่งที่ที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คืออายะตั้งเขาเป็นรองผู้บัญชาการทันที
อูหม่าเทียนเลื่อนขึ้นเป็นนายทหารอย่างรวดเร็วที่สุดทำให้หลายคนอิจฉา
คนส่งขาหมูหายไปแล้วทำให้ทหารหลายคนโห่ไม่พอใจ
“กองทัพใหญ่ของทวีปกวงหมิงอยู่ที่ไหนแล้ว?”
ปิงจดจ่อ เขาตื่นเต้นกับสงครามที่กำลังจะมีขึ้น
รับมือกับเหม่ยเฉินซิ่วและโจรสลัดเล็กน้อยไม่จำเป็นต้องให้เขาใช้กำลังอะไรมาก และทำให้ปิงผู้คุ้นเคยกับสงครามขนาดใหญ่ลดความสนใจลง มีแต่การยกทัพลงใต้ของทวีปกวงหมิงเท่านั้นที่ทำให้เขาตื่นเต้น
การยกทัพลงภูมิภาคใต้ของทวีปกวงหมิงถูกประกาศขึ้นในทันที เนื่องจากระดับสูงของทวีปกวงหมิงตัดสินใจในวินาทีสุดท้าย ดังนั้นแม้แต่ทวีปต่างๆของภูมิภาคใต้ก็ยังไม่ทันได้เตรียมตัว แม้จะระดมความคิดต่าง ทำให้ผู้คนรู้สึกกดดันและกระวนกระวาย แต่ส่วนใหญ่ในภูมิภาคใต้ก็ยังไม่เชื่อว่าทวีปกวงหมิงจะพยายามรุกรานลงใต้
สำหรับสองสามทวีปชายแดนของทวีปกวงหมิงพวกขุนทหารที่นั่นได้รับเชิญไปงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ค่ายทหารของทวีปกวงหมิง ซึ่งปกติเกิดขึ้นหลายครั้ง ความเข้มแข็งอิทธิพลของทวีปกวงหมิงทำให้โจรสลัดโดยรอบหายไปและชายแดนทวีปกวงหมิงมีธุรกิจมากมายซึ่งจะรักษาสัมพันธ์อันดีกับทวีปกวงหมิงไว้ได้ แต่พวกเขาต้องทำงานของพวกเขาเอง ทั้งสองฝ่ายรักษาสัมพันธ์ที่ดีของตนเองไว้ และสำหรับเจ้าครองทวีป ทั้งสองฝ่ายจะมีส่วนได้เสียร่วมกัน เนื่องจากพวกเขามีส่วนแบ่งจากผลกำไรทางธุรกิจ
ที่งานเลี้ยง เจ้าครองทวีปและนายพลในกองทัพรักษาการณ์ของกวงหมิงหัวเราะและหยอกล้อเรื่องที่จะมีสงคราม แต่พวกแม่ทัพนายกองจะหัวเราะและอธิบายว่านั่นจะนำไปสู่การก่อการจลาจลติดอาวุธภายในทวีปกวงหมิงดังนั้นจึงเชื่อใจเจ้าครองทวีป
ขณะที่พวกเขาหลงใหลอยู่กับชีวิตที่หรูหราภายใต้ความสุขและงานเลี้ยง การกรีฑาทัพใหญ่ลงใต้ฝ่าสายฝนและราตรีเหมือนกับกระแสน้ำหลากที่หยุดไม่ได้ พวกเขาปลอมเป็นคาราวานรุกเข้าทวีปทั้งหลายเหล่านี้
ข่าวของการเกิดสงครามเกิดขึ้นหลังจากผ่านวันที่สามไปแล้ว ประชาคมโลกจึงได้ตระหนัก
ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์อยู่ในความตื่นตระหนก
แม่ทัพห้าเสือแห่งทวีปกวงหมิง นอกจากมีมู่จือเสียที่อยู่คุ้มครองทวีปเว่ยเหย่กวนและเจียหยาอยู่ป้องกันศูนย์กลางแล้วม่อซิน, ชิวซิ่วหัวและโกวเฉิงเหวินเตาก็ออกไปในครั้งนี้ด้วย
กองกำลังของม่อซิน นอกจากบริวารที่ขึ้นตรงต่อกองทัพม่อซินแล้วหยวนเหว่ย, สุ่ยตงหลิว, ลู่กวงสามแม่ทัพที่มีชื่อเสียงบัญชาการสามกองทัพใหญ่
สำหรับกองทัพของชิวซิ่วหัวยังมีกองพลดอกไม้ฤดูใบไม้ร่วงเป็นทหารบริวารของเขาจื่อเชอเจียจิ้ง เว่ยเยี่ยฟงหวินม่าน สามแม่ทัพที่มีชื่อเสียงเป็นแม่ทัพนายกองของกองทัพตนเอง
สำหรับโกวเฉิงเหวินเตา มีกองพลตะขอฟ้าอยู่ใต้บัญชามีคลิฟ, เคนและซีเก้สามขุนพลผู้ยิ่งใหญ่คอยบัญชาการกองทัพพวกเขาเอง
นอกจากนั้นทุกคนในกองทัพใหญ่พวกเขาได้รับกองทัพมาตรฐานกวงหมิง15 กองพล แต่ละกองทัพสั่งการโดยแม่ทัพระดับเงินผู้มีประสบการณ์อย่างน้อยสิบปี
กองทัพส่วนตัวของห้าพยัคฆ์หมิงกวงมีจำนวนเกินแสน ขณะที่ชื่อของกองทัพของแม่ทัพที่ลือชื่อมีถึงแปดพันคน กองทัพมาตรฐานหมิงกวงทั้งหมดแต่ละกองพลมีทหารห้าพันนาย ทุกกองพลใหญ่มีกำลังรบได้ถึงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นคนได้ นอกจากนี้การเสริมกำลังบำรุงกำลังแต่ละกองทัพจะมีกำลังคนได้ถึงหนึ่งแสนห้าหมื่น รวมแล้วสี่แสนห้าหมื่นคนได้เลย
เป็นการเคลื่อนกำลังพลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์
เป็นเวลาครู่หนึ่ง ไม่มีใครรู้ว่าจะพูดอะไร
ทวีปต่างๆ ในภูมิภาคใต้แตกตื่น
สามกองทัพใหญ่ไร้ต่อต้านเดินทัพสามทางแตกต่างไม่มีใครสามารถหยุดยั้งพวกเขาได้
“ม่อซินมาถึงแนวหน้าใกล้ทวีปมังกรเหนือ ชิวซิ่วหัวมาถึงแนวหน้าทวีปเขาใหม่น้อย และโกวเฉิงเหวินเตามาถึงทวีปปีศาจ” นายทหารผู้ช่วยผู้ผิดชอบรายงานความเคลื่อนไหวของศัตรูพูดขึ้น “เพียงแค่ทวีปกวงหมิงเพิ่งจะประกาศเมื่อวานนี้เองเหตุผลที่พวกเขาเคลื่อนกองทัพของพวกเขาเนื่องมาจากทะเลาะกับทวีปซางโจว พวกเขาเพียงต้องการยึดทวีปซางโจว และถ้าทวีปอื่นยอมให้พวกเขาผ่านไป พวกเขาก็จะไม่ทำอันตรายเลย”
“หึหึ งั้นเราก็กลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งไปแล้ว” ปิงเลียริมฝีปากและกล่าว
“ใช่แล้ว เมื่อวานนี้เจ็ดตระกูลประกาศว่าพวกเขาจะออกจากพันธมิตรใต้ เมื่อโกวเฉิงเหวินเตาตีฝ่าทวีปกาทรายได้ พวกเขาพบกับการต่อต้านมากมายและพวกเขาค่อนข้างได้รับความลำบาก โกวเฉิงเหวินเตาดุร้าย เขาสั่งให้ประหารคนทั้งเมือง และไม่มีผู้ใดรอดชีวิต”
ขุนพลทุกคนแสดงท่าทางไม่พอใจ
ปิงเคาะบุหรี่ในมือและกล่าว “ถือว่าประมาทมาก”
ทุกคนรู้ว่าปิงโกรธ และเริ่มมีความเครียด
ปิงยืนขึ้นอย่างเฉยเมย “ตอนนี้ ข้าจะออกคำสั่งให้กองทัพต่างๆ”
เขามองดูเหล่าแม่ทัพโดยรอบมองดูหน้าของพวกเขา บางคนก็ยังเยาว์วัยและอายุน้อย แต่เขารู้ว่าขนาดของสงครามที่จะมาถึงจะทำให้พวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว พวกเขาทุกคนคือเมล็ดพันธุ์พิเศษที่เขาเลือกไว้ แต่ละคนมีศักยภาพที่โดดเด่น
‘นี่ชักจะตื่นเต้นเสียแล้ว’
********************
ในหุบเขา หลูเทียนเหวินรู้ว่าเขาประมาทศัตรู
เขาไม่ได้กลับไปเมืองจื่อจวน เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอายเกินไปที่จะให้หลานชายเขาเห็นสภาพไหม้เกรียมของตัวเขา เขาพบถ้ำภายในภูเขาและเริ่มฟื้นฟูตนเอง ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขาสะท้อนใจของการสู้รบ
ดาบสุดท้ายของถังเทียนแปลกประหลาดมาก มันผ่าเข้ามาในรัศมีหอกของเขาก่อนจะระเบิด
จากนั้นเขาคิดถึงเรื่องมือดาบกระบี่ผู้มีวิชาดาบที่งดงาม แต่รู้ว่านั่นไม่ใช่วิชากระบี่ที่เป็นของแดนบาป แต่เนื่องจากถังเทียนฟันไปสามดาบ หลูเทียนเหวินรู้ว่าเป็นวิชาจากแดนบาปร้อยเปอร์เซนต์
‘วิชาดาบจากแดนบาป มันทรงพลังมาก ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนได้ยังไง...’
ทันใดนั้นหลูเทียนเหวินคิดถึงวิชาดาบที่สาบสูญไปนาน วิชาดาบมารพิฆาต
‘ใช่แล้ว นั่นก็คือมรดกที่มีค่ามากที่สุดของตระกูลเซวียในอดีต ดาบมารพิฆาต
‘เพราะตระกูลเซวียอาศัยบุรุษหน้ากากผี วิชานั้นต้องสืบทอดมาจากพวกเขาแน่นอน บ้านตระกูลเซวียมีฝีมือที่ยอดเยี่ยมในอดีตซึ่งสั่นสะท้านแดนบาปทั้งหมด แต่น่าเสียดายที่ลูกหลานของพวกเขาแข็งแกร่งไม่พอ และพลังค่อยๆ ลดน้อยลง
หลูเทียนเหวินขมวดคิ้ว เขารู้ว่าพี่ชายของเขามักจะวางแผนฮุบตระกูลเซวีย แต่เขากลับยินดีแลกเปลี่ยนนักโทษ 200คนทำให้หลูเทียนเหวินพบว่าเป็นเรื่องแปลก เขากำลังคิด ‘เป็นไปได้ยังไงที่ตระกูลเซวียจะมีค่ามากขนาดนั้น? เงิน? ตระกูลหลูขาดแคลนเงิน? นั่นเป็นเรื่องตลก!’
‘สำหรับสายใยกรวดเหล็กทอง แม้ว่านั่นจะเป็นของดี แต่สินค้าที่คล้ายกันก็หาซื้อได้ในตลาด’
‘ดาบมารพิฆาต?’
‘หรือว่าพี่ข้าต้องการวิชาดาบมารพิฆาต?’ หลูเทียนเหวินผู้ประสบกับพลังของดาบมารพิฆาตมากับตัวเองรู้สึกว่าเป็นไปได้มาก
ความสนใจของหลูเทียนเหวินกลับไปที่บุรุษหนุ่มหน้ากากผี เขาไตร่ตรองเล็กน้อย ‘แม้ว่าเจ้าผู้นั้นจะแปลกประหลาด แต่พลังของเขายังอ่อนอยู่เมื่อเทียบกับข้า เขาเป็นคนที่ไม่ได้รู้แจ้งกฎธรรมชาติ ต่อให้เขาจุดไฟต้นกำเนิดได้ก็ตาม เขาก็ยังบุ่มบ่าม’
สุดยอดห้าสิบอันดับแรก มีเพียงคนเดียวที่จุดไฟต้นกำเนิดได้
‘แต่ข้ายังคงประมาทเกินไป!’
เขาสับสนว่าคู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาหมัดมวย แต่พอเริ่มการต่อสู้เขากลับใช้ดาบ เขารู้สึกว่าเป็นเพียงแค่อุบาย ‘เจ้าเล่ห์ร้ายกาจนัก!’ หลูเทียนเหวินกัดฟัน ดังนั้นที่บอกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชาหมัดมวยก็เป็นแค่เรื่องหลอกลวง
วิชาดาบมารพิฆาตสิ้นเปลืองพลังงานมาก เมื่อคิดดูแล้วทำไมบุรุษหน้ากากผีถึงไม่ไล่ตามเขาย่อมเนื่องมาจากเขาหมดเรี่ยวแรง หลูเทียนเหวินรู้สึกเสียดายมาก ตอนนั้นเขาดูน่าหวาดหวั่นเกินไป แต่ความเป็นจริงเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าเขาโจมตีต่อไป เขาจะสามารถฆ่าบุรุษหน้ากากผีได้
‘ครั้งต่อไปข้าจะไม่ยอมถูกหลอกอีกแน่!’
หลูเทียนเหวินกัดฟันและลอบสาบาน
********
ภายในปราสาทเขาสะท้อน
อาโมรี่และพวกที่เหลือทุ่มเทกำลังฝึกดาบมารพิฆาตเทียบกับฝึกสายใยกฎธรรมชาติแล้ว พลังทำลายล้างเหมาะกับรสนิยมของพวกเขามากกว่า
กล้ามเนื้อที่ตึงของพวกเขามีหยดเหงื่อเกาะพราวผิวสีทองแดงดูเหมือนกับว่าพวกเขาหล่อขึ้นจากบรอนซ์ ในขณะที่คำรามเสียงดัง เมื่อใดก็ตามที่หญิงสาวจากตระกูลเซวียผ่านมาดู พวกนางไม่อยากละสายตาไปจากบุรุษผู้มีร่างกายกำยำเหล่านั้น
ทุกคนที่ใช้ท่าฟันท่าแรกจะคำรามเกรี้ยวกราดและใช้พลังทั้งหมด
โดยการเกร็งพลังของพวกเขาเต็มที่และปล่อยให้กฎธรรมชาติขัดเกลาร่างกายของพวกเขา การสอนของถังเทียนได้ผลเต็มร้อย
“ชุดเหล็กทองของเรามีความสามารถในการป้องกันที่โดดเด่นด้านที่ทรงพลังมากที่สุดของมันก็คือความสามารถต่อต้านพลังและแรงกระแทกเพื่อสลายกระจายไปทั่วร่าง” หมิงจูพูดด้วยความภูมิใจ ชุดเหล็กทอง คือผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อที่สุดของบ้านตระกูลเซวีย เป็นที่รู้จักกันดีทั้งแดนบาป
ถังเทียนตาเป็นประกาย “ข้าอยากได้!”
เขารู้คุณค่าของชุดเหล็กทอง พลังที่มุ่งเน้นจุดแข็งแกร่งของพลังมากเกินไป แต่การกระจายพลังอ่อนแอ ถ้าพวกเขาสามารถกระจายสลายพลังโจมตีของศัตรูได้ผ่านร่างกายทั้งหมดของพวกเขา จะเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตพวกเขาเป็นอย่างมาก
“เราเตรียมไว้ให้พวกเจ้าแต่ละคนแล้ว” หมิงจูกล่าว “เราพบดาบบางส่วนตามที่คุณชายขอไว้ คุณชาย, ท่านมาดูเองเถอะว่าจะเหมาะใช้งานไหม”
หมิงจูพาถังเทียนไปที่ชั้นวางอาวุธที่แขวนดาบรูปร่างต่างๆ ดาบมารพิฆาตเป็นวิชาเฉพาะแบบซึ่งตกทอดในตระกูลเซวีย และโดยปกติจะเป็นดาบที่ใช้ในตระกูลเซวียเป็นส่วนใหญ่
ถังเทียนมองดูดาบเหล่านั้น และสะดุดสายตากับดาบที่มีขนาดเท่าบานประตู เขาเดินตรงไปและหยิบขึ้นมาดู
“นี่คือดาบหัวตัด”หมิงจูแนะนำ “มันคือดาบที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน มีน้ำหนักถึง 450 กิโลกรัมมันไม่มีคมเหมือนกับว่าเป็นดาบที่ไม่ใช้คมอีกต่อไปนี่เป็นดาบที่สร้างขึ้นมาจากหินเหล็กดำกับทรายดำ มีความคงทนมาก แต่คนที่ใช้ก็ต้องมีพลังที่สูงส่ง...”
“จะต้องเป็นดาบหัวตัดนี่แหละ!” ถังเทียนโดยไม่ลังเล
หมิงจูตะลึงชั่วครู่ ก่อนจะพูดช้าๆ “คุณชาย, เรามีเพียงสองเล่ม...”
ดาบหัวตัดเป็นดาบที่ไม่ค่อยมีการใช้งาน ตระกูลเซวียเป็นตระกูลเดียวที่ใช้งานดังนั้นจึงเตรียมไว้แค่สองเล่ม
“น้อยไปหรือเปล่า?” ถังเทียนขมวดคิ้ว “ข้าอยากให้ทุกคนได้คนละเล่ม”
หมิงจูหันไปดูบุรุษร่างกายกำยำที่กำลังฝึกฝนอย่างขะมักเขม้นและคิดถึงภาพที่ทุกคนควงดาบหัวตัดเล่มใหญ่ นางถึงกับสั่นสะท้านและพูด “ถ้าท่านต้องการ การผลิตดาบหัวตัดยักษ์นี้ทำได้ง่าย ทางปราสาทมีหินเหล็กดำและทรายดำมากพอ เราจะเริ่มผลิตกันทันที”
“ได้ได้ ได้!” ถังเทียนพยักหน้า “ข้าต้องการแค่นี้ ยิ่งไวยิ่งดีเราทุกคนต้องเตรียมพร้อมก่อนที่หลูเทียนเหวินจะกลับมาอีก”
เมื่อได้ยินว่าเขาต้องการดาบหัวตัดยักษ์เพื่อสู้กับหลูเทียนเหวิน หมิงจูตอบรับทันที “ข้าจะเริ่มเดี๋ยวนี้!”
นางวิ่งออกไปทันที
ลูกผู้ชายชาตรีก็ต้องควงดาบแบบลูกผู้ชาย!
ถังเทียนกำลังจินตนาการว่าหน่วยสุญญตาทุกคนถือดาบยักษ์ขึงขังมันดูสง่างามมาก ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้น
ถังเทียนควงดาบหัวตัดไปรอบๆ และลองโยน ‘นี่เหมาะกับอาโมรี่และพวก แต่ไม่เหมาะสำหรับข้า’ เขาไม่รู้สึกดีที่ได้ควงดาบ ขณะนั้นมีความคิดอย่างหนึ่งผ่านเข้ามาในใจของเขา
‘ข้าจะเปลี่ยนดาบมารพิฆาตให้เป็นวิชาดาบมือได้ไหม?’