ตอนที่ 731 ผิงเสี่ยวซานฝึกพิเศษ
ถังเทียนมองดูหลูเทียนเหวินหายลับตาไป เขาอ่อนแรงเกินกว่าจะไล่ตาม แม้ว่าหลูเทียนเหวินจะตัวไหม้เกรียม แต่ถังเทียนรู้ชัดว่าความเหนื่อยอ่อนของเขาจะไม่ดีต่อตัวเขาเอง หลูเทียนเหวินแสดงพลังจากผิวกฎธรรมชาติได้แข็งแกร่งมาก และเพราะเหตุนั้นเขาไม่ได้ใช้พลังมากเกินไป ถังเทียนไม่มีพลังกฎธรรมชาติใดๆ และเขาใช้แต่พลังต้นกำเนิดในร่างกายของเขาล้วนๆ
กฎธรรมชาติผิวเผินเหมือนกับฐานพลังส่วนบุคคลที่สามารถหล่อเลี้ยงและเติมเต็มได้นั่นคือเหตุผลให้นักสู้แดนบาปผู้ฝึกฝนในเรื่องกฎธรรมชาติยังมีพลังที่ห่างไกลจากนักสู้ผู้จุดไฟต้นกำเนิดขั้นแรกเริ่มได้
แน่นอนว่านักสู้ผู้จุดไฟต้นกำเนิดได้ยังคงได้เปรียบในตัวเอง ไม่ต้องคำนึงว่าพลังกฎธรรมชาติผิวเผินที่แสดงออกมาจะรุนแรงเพียงไหนท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ใช่พลังความแข็งแกร่งของนักสู้เอง เทียบกับการใช้พลังของเขาเอง การใช้พลังนั้นไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ พลังต้นกำเนิดถูกสร้างขึ้นมาโดยการแปลงพลังของร่างกาย และการควบคุมนั้นก็ทำได้ดังใจ
ถังเทียนกลับมาที่ปราสาทและได้รับการต้อนรับดุจวีรบุรุษทันที
หลูเทียนเหวินคือใคร? เขาคือคนน่ากลัวที่ติดทำเนียบสุดยอดนักสู้อันดับที่39 ของแดนบาป คนน่ากลัวขนาดนั้นกลับต้องเจ็บตัวภายใต้เงื้อมมือของถังเทียน ถ้าข่าวนี้กระจายไปทั่วเมืองจื่อจวนมีแนวโน้มว่าจะทำให้ทุกคนตกตะลึงเป็นแน่
สายตาที่เถี่ยเซียมองดูถังเทียนแสดงถึงความยำเกรงอย่างไม่ต้องสงสัย
คนที่สามารถสู้ได้เสมอกับหลูเทียนเหวินต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่แน่นอน!
‘สำหรับคนที่แข็งแกร่งขนาดนั้น อนาคตของข้าคงยากจะตกต่ำ ต่อให้อยากทำก็ตาม’
เมื่อถังเทียนลงมายืนกับพื้น เขาแข้งขาอ่อนและล้มลงทันที อาโมรี่ตกใจ และประคองเขาขึ้นทันที “ถังห้าว, เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ข้าสบายดี แค่อ่อนเพลียเท่านั้น” ถังเทียนฝืนหัวเราะ เขาไม่มีแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้ว การฟื้นฟูของบาดแผลบนร่างกายของเขาถูกสร้างมาจากกฎเป็นและตาย แต่ไม่เหมือนกับที่หลูเทียนเหวินคาด นี่ไม่ได้ทำผ่านการฝึกฝน แต่มาจากการดูดซับแก่นต้นกำเนิดชีวิตแบบแผนกฎธรรมชาติของชีวิตทำให้แผลของเขาสมานตัว และต้องดึงดูดพลังต้นกำเนิด 30% ที่เหลือในร่างกาย
“หมิงจูช่วยเตรียมกรวดเหล็กทองให้ข้าสักจำนวนหนึ่ง” ถังเทียนหน้ามืด ไม่เคยคิดเลยว่าต้องใช้พลังต้นกำเนิดของเขาไปมากมายเขาเพียงแต่หันไปทางผิงเสี่ยวซาน “เสี่ยวซาน! ข้ามีเรื่องรบกวนเจ้า”
ผิงเสี่ยวซานงุนงง “จะ..จะให้ข้าทำอะไร?”
ก็เหมือนกับเถี่ยเซีย การต่อสู้ของถังเทียนและหลูเทียนเหวินสั่นสะท้านผิงเสี่ยวซานอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขาคิดว่าท่านหน้ากากผีทรงพลัง แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าบุรุษหน้ากากผีจะสามารถต่อสู้กับนักสู้ที่เล่าลือว่าอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นระดับที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้
เมื่อเขาได้ยินถังเทียนพูดกับเขา เขาตะลึงไปหมด
เมื่อได้ยินคำว่ากรวดเหล็กทอง หมิงจูรีบออกไปทันทีและไม่นานต่อมานางนำกรวดเหล็กทองกลับมาเต็มกระสอบ
ในท่ามกลางสายตาที่ตะลึงของถังเทียน หมิงจูโยนกระสอบลงกับพื้นและถามอย่างกังวล “แค่นี้พอไหม? เราไม่เคยขายกรวดเหล็กทองออกไป นั่นคือผลิตภัณฑ์ในไม่กี่ปีมานี้ ทุกอย่างอยู่ที่นี่ ถ้ายังไม่พอ ข้าจะไปหาคนที่เคยซื้อในอดีตและดูว่าจะขอซื้อคืนได้หรือไม่”
“พอแล้ว พอแล้ว” ถังเทียนพยักหน้าทันที ตอนนี้เขาเข้าใจเหตุผลที่บรรพบุรุษตระกูลเซวียสามารถเชี่ยวชาญดาบมารพิฆาต เมื่อคิดถึงเรื่องที่หมิงจูพูด ช่วงไม่กี่ปีมานี้กรวดเหล็กทองไม่เคยขายออกไป แต่เอามาให้เขาใช้ดูดซับ
เมื่อเห็นกระสอบเต็มไปด้วยกรวดเหล็กทอง ถังเทียนแน่ใจว่าเขาต้องใช้แก่นพลังต้นกำเนิดสำหรับการฝึก
‘ร่างกายจะเปลี่ยนไปโดยการดูดซับแก่นพลังต้นกำเนิดมากได้อย่างไร?’ ถังเทียนเคยมั่นใจมากว่าร่างกายของเขาเฉียบขาดมั่นคงกว่าคนอื่น แต่เมื่อเห็นกระสอบที่เต็มไปด้วยกรวดเหล็กทองแล้ว เขาชักหวั่นเกรง
‘เขาจะดูดซับพลังเท่าใดดี...’
‘รอเดี๋ยว เจ้าต้องทะเยอทะยานเข้าไว้ เจ้าจะทำตัวมักน้อยได้ยังไงเมื่อเทียบกับปริมาณตั้งกระสอบ? เราต้องเทียบกับสัดส่วนที่เหมาะสม!’
ถังเทียนยังคงนิ่งสงบ เขาจินตนาการเงียบๆถึงลักษณะของบรรพบุรุษที่แก่ขึ้น เขาให้อาโมรี่ประคองเขาเข้าไปในปราสาท ผิงเสี่ยวซานตามเข้ามาเงียบๆ เขาไม่รู้ว่าเขาต้องทำอะไร ตรงกันข้ามเถี่ยเซียที่ยืนอยู่ด้านข้างรู้สึกอิจฉาเมื่อคิดถึงว่าเจ้านายสามารถรบกวนเขาแม้สักเล็กน้อยก็ยังดีเขาต้องการให้รู้สึกว่าเป็นคนสำคัญ
หลังจากวางถังเทียนลงแล้ว อาโมรี่และพวกที่เหลือก็ถูกไล่ออกไปเหลือแต่เพียงผิงเสี่ยวซานอยู่คนเดียว
เมื่อเห็นผิงเสี่ยวซานมองดูอยู่หน้าเขา ถังเทียนกระแอมเบาๆ “เสี่ยวซาน! ให้ข้าดูสายใยกฎธรรมชาติของเจ้า”
ผิงเสี่ยวซานเงยหน้าดวงตาทอประกายยินดี “นายท่าน,ท่านต้องการจะสอนวิชาพรางให้ข้างั้นหรือ?”
เหตุผลที่เขาเลือกติดตามถังเทียนเป็นเพราะเขาตั้งความหวังไว้ว่าจะประสบความสำเร็จกับวิชาพรางตัวของตระกูลผิง จากวิชาพรางตัวของตระกูลผิงให้เป็นมรดกที่สามารถโจมตีได้ป้องกันตัวได้ การต่อสู้ระหว่างถังเทียนและเบนสันทำให้เขามีความหวังนั้น และการต่อสู้ที่ถนนสายนั้นแสดงให้เขาเห็นสายใยกฎธรรมชาติอวกาศซึ่งสามารถกลายเป็นเครื่องจักรฆ่าได้
“ถูกแล้ว!” ถังเทียนพูดอย่างมีเหตุผล สีหน้าจริงจัง
ผิงเสี่ยวซานกระโดดผางด้วยความตกใจ ‘นายท่านกำลังจะตายหรือ? เวลานี้,เขาต้องการถ่ายทอดบางอย่างให้ข้างั้นหรือ? ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมนายท่านถึงเลือกสอนข้าตอนที่เขาอ่อนแอนักเล่า?’
‘ใช่แล้วคนที่เขาสู้ด้วยคือหอกสายฟ้าหลูเทียนเหวิน!’ นายท่านสู้กับเขาเป็นเวลานานมาก และเป็นไปได้ว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อจะปกป้องทุกคน เขาสามารถขู่ขวัญจนหลูเทียนเหวินจนเตลิดหนีไป แต่ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพอ่อนแอที่สุดแล้ว!’
ผิงเสี่ยวซานเริ่มคิดฟุ้งซ่านและเริ่มรู้สึกเศร้า จากนั้นเขาอุทานขึ้น “นายท่านท่านต้องพักผ่อนให้ดีก่อน รอจนอาการบาดเจ็บของท่านหายแล้วค่อยสอนเสี่ยวซานก็ยังไม่สาย”
“เราต้องใช้เวลาทั้งหมดที่เรามี”
ผิงเสี่ยวซานยิ่งเศร้าหนักกว่าเดิมและรู้สึกว่าตนเองเดาถูก ‘สวรรค์อิจฉาเขาจริงๆ นายท่านคือวีรบุรุษและเป็นชายชาตรีที่แข็งแกร่งชะตาของเขาช่างไม่ยุติธรรมเลย! แม้แต่ในเวลานี้ นายท่านก็ยังไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับข้า’ ความรู้สึกตื่นเต้นและเศร้าทำให้น้ำตาของเขาเริ่มไหล
ถังเทียนสับสน ทำไมผิงเสี่ยวซานถึงร้องไห้
ผิงเสี่ยวซานเช็ดน้ำตา ‘ข้าต้องทุ่มเทสุดความสามารถไม่ให้นายท่านผิดหวัง’
เขารักษาความสงบจิตใจไว้ได้ดวงตามีแววมุ่งมั่นไม่หวั่นไหว เขากระตุ้นสายใยกฎธรรมชาติของเขาและสายใยกฎอวกาศเบาบางปรากฏที่ปลายนิ้วของเขา
ถังเทียนชี้ไปที่กระสอบกรวดเหล็กทองและบอก “พยายามใช้สายใยกฎของเจ้าตัดกรวดเหล็กทองจำเอาไว้ ตัดพอเป็นรูเล็กที่ผิวกรวดด้านนอกเท่านั้นถ้าทุ่มเทแรงเกินไปและสัมผัสกับวังวนภายในกรวด มันจะอันตรายมาก!”
ถังเทียนพบว่าตราบเท่าที่สายใยกฎธรรมชาติไม่สัมผัสวังวนภายในกรวดเหล็กทอง ก็จะไม่มีปัญหาขณะที่มีพื้นที่เล็กน้อยระหว่างวังวนและกรวดเหล็กทอง
‘เป็นไปตามคาด การฝึกฝนของนายท่านไม่ธรรมดา และภายในนี้ ต้องมีเคล็ดลับแน่นอน
ผิงเสี่ยวซานหยิบกรวดเหล็กทองออกมาจากกระสอบอย่างจริงจัง เขาสูดหายใจลึกและคีบกรวดไว้ในมือขวาอย่างระมัดระวัง และสายใยกฎธรรมชาติอยู่ในมืออีกข้าง เขาตัดกรวดเหล็กทองอย่างระมัดระวัง
‘ แค่ทำลายเปลือก แต่อย่าสัมผัสวังวน’ ผิงเสี่ยวซานเตือนใจตนเองอย่างต่อเนื่อง
ผิงเสี่ยวซานควบคุมสายกฎธรรมชาติของเขาได้โดดเด่นกว่าถังเทียนมาก แต่เขาไม่เคยใช้ใยกฎธรรมชาติทำงานพิถีพิถันอย่างนั้นมาก่อน กรวดเหล็กทองมีขนาดที่เล็กวังวนภายในก็ยังเล็กกว่า และจะตัดเกิดให้มีรอยแยกเล็กที่เปลือกโดยไม่สัมผัสวังวนเป็นเรื่องยากมาก
หลังจากใช้เวลาเกือบสิบนาที เขาก็ทำได้สำเร็จ
เมื่อเขาปล่อยปล่อยสายใยกฎธรรมชาติ เขารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างบอกไม่ถูก
“นายท่าน ข้าทำได้แล้ว
ถังเทียนหยิบกรวดเหล็กทองขึ้นมาดูและพยักหน้าด้วยความพอใจ เขาโยนกรวดเหล็กทองใส่ปากและดูดแก่นต้นกำเนิดชีวิตออก ร่างกายปัจจุบันของเขาเหมือนกับแม่น้ำที่แห้งขอด และสายใยแก่นต้นกำเนิดชีวิตซึมซาบเข้าไปในกล้ามเนื้อของร่างกายเขาอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนต้องการมากกว่านี้เขาปากยื่นและคายกรวดเหล็กทองออกและมองดูอย่างระมัดระวัง เขาสังเกตว่าเปลือกนั้นยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์และรอยแยกบางเบาพอมองเห็นได้ ถังเทียนมีความคิดหนึ่งทันที ‘บางทีเปลือกกรวดนี้ยังใช้ทำอะไรอย่างอื่นได้’
เมื่อเห็นผิงเสี่ยวซานเหงื่อท่วมตัว ถังเทียนยิ้ม “ยากไหม?”
ผิงเสี่ยวซานหอบหายใจและตอบตามตรง “ถูกแล้ว นายท่าน”
“ก็ถูกแล้วมันต้องยากอยู่แล้วกับการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ของสายใยกฎธรรมชาติ” ถังเทียนตีหน้าตายและวางมาดพูดด้วยน้ำเสียงของคนที่มีประสบการณ์ “ในอดีต เมื่อข้าฝึกฝนวิชากรงเล็บ เพียงเพื่อให้เชี่ยวชาญข้าต้องฝนแท่งโลหะเกินกว่าสามหมื่นก้อน เหงื่อไม่เคยโกหก”
‘ข้าไม่เคยคาดเลยว่านายท่านฝึกฝนมาหนักหน่วงจริงๆแต่ก็ควรเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เขาถึงได้มีพลังที่แปลกประหลาดในวันนี้’
ผิงเสี่ยวซานรู้สึกมีกำลังใจอย่างมากเขานั่งหลังตรงทันทีและกล่าว “นายท่านพูดถูก! เสี่ยวซานจะจดจำคำสอนนี้ไว้ในใจ!”
พูดเพียงแค่นั้นเขาหยิบกรวดเหล็กทองอีกเม็ดหนึ่งและตั้งใจตัดมัน
ถังเทียนมีสีหน้าเต็มไปด้วยความพอใจ
‘ในที่สุดข้าก็ได้พบกับแรงงานที่เหมาะสมจนได้!’
หลังจากกลืนแก่นต้นกำเนิดชีวิตแล้วถังเทียนรู้สึกว่าร่างกายที่อ่อนแรงไร้พลังของเขารับการบำรุงเป็นอย่างดี แต่กระบวนการช้ามาก แต่เนื่องจากพลังต้นกำเนิดของเขาหมดไปไม่เหลือ แก่นพลังต้นกำเนิดจึงยังไม่กลายเป็นพลังต้นกำเนิดของเขา
แม้ว่าจำเป็นต้องใช้พลังต้นกำเนิด แต่การฟื้นฟูสภาพร่างกายของกฎเป็นก็ยังมีประโยชน์และส่งผลอย่างมาก
ถังเทียนนอนลงพักผ่อนโดยไม่รู้ตัว มีเปลือกกรวดเหล็กทองมากกว่าสิบกองอยู่ข้างหน้าเขา
ผิงเสี่ยวซานยังคงจดจ่อโดยไม่สนใจความเหนื่อยล้า เขายังคงตัดกรวดเหล็กทองต่อและความเร็วในการตัดของเขาค่อยๆ เพิ่มขึ้น
ในวันที่สองถังเทียนลืมตา ผ่านไปหนึ่งคืนเขากลืนแก่นพลังต้นกำเนิดจากกรวดเหล็กทองเกินกว่าร้อย พลังนั้นค่อยๆ หล่อเลี้ยงบำรุงร่างของเขา พลังในตัวของเขากลับฟื้นคืนมา
พลังต้นกำเนิดในตัวถังเทียนฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว
ถังเทียนตบไหล่ของผิงเสี่ยวซานที่ปราสาทมึนชา “เสี่ยวซาน! การฝึกพิเศษจบลงเท่านี้ ไปพักเถอะ”
ผิงเสี่ยวซานอุทาน‘โอว’ ขณะที่ตอบ เขาทำงานเกินกว่าสิบชั่วโมง ใจของเขาทำงานอย่างสับสน เขาลุกขึ้นและเดินกลับไปที่ห้อง
เมื่อเห็นเสี่ยวซานเดินโซเซกลับไปที่ห้อง ถังเทียนรู้สึกชื่นชม ‘ไว้เราค่อยทำอีก!’
เขาตัดสินใจแล้ว เมื่อร่างกายของทุกคนได้รับการปรับแต่งเพียงพอจะดูดซับแก่นพลังต้นกำเนิดได้ จากนั้นเขาจะมีการฝึกฝนพิเศษขนานใหญ่
เขายืดตัวตรงรู้ว่าเขายังไม่ฟื้นฟูเต็มที่ แต่พลังต้นกำเนิดของเขาเพิ่มถึงระดับที่สำคัญแล้ว ขั้นตอนที่ยากที่สุดจบลงแล้ว และการฟื้นฟูหลังจากนั้นจะเป็นเรื่องง่ายมาก เมื่อคิดถึงแรงโต้ตอบสุดท้ายของหลูเทียนเหวิน ถังเทียนรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งยังไม่สามารถฟื้นฟูได้ง่ายๆ
‘แต่ ข้าควรจะสอนดาบมารพิฆาตให้กับอาโมรี่และพวกที่เหลือเสียก่อน’
ถังเทียนคาดว่าด้วยพลังกายของอาโมรี่ เขาสามารถเรียนได้สองท่า ขณะที่คนอื่นอาจได้สักท่าหนึ่ง
แต่เมื่อคิดถึงฉากภาพที่พวกเขาคำรามลั่นและฟันออกด้วยท่าดาบมารเปลี่ยนแปลง ถังเทียนอดสั่นไม่ได้ ‘แม้แต่บรรพบุรุษตระกูลเซวียก็คงไม่คิดว่าจะมีคนสามารถสร้างกลุ่มที่มีร่างกายแข็งแรง’
‘น่ากลัวเกินไป!’
‘ข้าต้องจัดหาดาบใหญ่ให้พวกเขา!’
และถังเทียนเชื่อแน่นอนว่าด้วยปัญญาของเนี่ยชิว แม้ว่าทุกคนสามารถเรียนรู้ท่าแรกได้ พวกเขาก็คงสามารถแสดงศักยภาพในการฟันได้
‘โอวดีเลย ถ้าพวกเขายังไม่สามารถทำให้มีคุณภาพดีได้ เราจะใช้วิธีรุมกินโต๊ะ’ ถังเทียนคิดอย่างมีความสุข
ทันใดนั้นเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าจะเผชิญกับการโจมตีครั้งที่สองของหลูเทียนเหวิน