ตอนที่ 730 ข้าคือมารพิฆาต
นานเท่าใดแล้วที่หลูเทียนเหวินถูกบีบจนอยู่ในสภาพเช่นนั้น? เขาจำไม่ได้อีกต่อไป
เขาไม่ใส่ใจอีกแล้วปัจจุบันตาของเขาแดงก่ำขณะที่เขาจ้องมองถังเทียน มีความคิดเดียวอยู่ในใจคือ ฆ่าพวกเขา ฆ่าพวกเขาให้หมด
แครก แครก
เสียงไฟฟ้าดังออกมาไม่ห่างจากหลูเทียนเหวินแสงสายฟ้าสว่างวาบทันที
แครก แครก เสียงระเบิดดังเบาต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่า เส้นแสงสว่างเจิดจ้าในอากาศและในพริบตาพื้นที่รอบตัวหลูเทียนเหวินสว่างด้วยเส้นสายฟ้าสีเขียว สายลมพัดแรงขณะที่สายฟ้าแลบแปลบปลาบ
ระลอกพลังที่โปร่งแสงกวาดผ่านแสงสายฟ้า วิ้ว วิ้ว วิ้ว... เสียงลมหวีดหวิวและค่อยสร้างระลอกพลังโปร่งแสงโดยมีหลูเทียนเหวินเป็นจุดศูนย์กลาง
แม้แต่ในระยะไกลคนที่อยู่ที่กำแพงยังรู้สึกถึงความไม่มั่นคงทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยอาการตกใจ
ถังเทียนยังคงไม่แยแส เขาจำท่าดาบสองกระบวนท่าได้ แม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาใช้ แต่สองดาบนั้นทำให้เขาเลือดเดือดพลุ่งพล่าน เขารู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก นี่เป็นเพราะร่างกายของเขาแข็งแรง บวกกับการควบคุมร่างกายของเขาที่โดดเด่นซึ่งทำให้เขาสามารถใช้พลังได้ในครั้งแรกที่ลองดูและสร้างผลที่โดดเด่นเช่นนั้นออกมาได้
ดาบมารพิฆาตมีอยู่ห้าท่าดาบปีศาจแปลง, ตอบโต้ฟ้า,ข้าคือมารพิฆาต, เสียสละพิฆาต, มารฟ้าพิฆาต
ดาบปีศาจแปลงและตอบโต้ฟ้าสองท่านี้ทรงพลังมาก และแม้แต่ถังเทียนก็ยังรู้สึกว่าเขาเกือบไม่สามารถควบคุมได้ พลังต้นกำเนิดในร่างของเขามีมากมาย และก็ควรจะบอกได้ว่าเรื่องแบบนั้นไม่ควรจะเกิดขึ้น ในแง่ระดับความเด็ดขาดถังเทียนกล่าวได้ว่าสุดยอด และเขายังมีความก้าวหน้าต่อเนื่อง เขาสามารถทำได้โดยเสริมพลังผ่านแก่นต้นกำเนิดชีวิต ถังเทียนมั่นใจในร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาและเชื่อหนักแน่นว่าแม้แต่บรรพบุรุษตระกูลเซวียก็ยังไม่แข็งแกร่งกว่าเขาแน่นอน
‘ต้องมีความหมายที่ลึกล้ำซ่อนอยู่เบื้องหลัง’ ถังเทียนตระหนักว่าดาบมารพิฆาตดูแล้วไม่ง่ายเหมือนที่เขาคิด
ทันใดนั้นถังเทียนรู้สึกว่าคลื่นพลังที่แข็งแกร่งใกล้เข้ามาทำให้เขาดึงความคิดกลับมาทันที เนื่องจากเขาตระหนักว่าพื้นที่รอบๆตัวหลูเทียนเหวินมีสภาพแปลกประหลาด ทำให้เขาหรี่ตา
‘นั่นคือ...’
หลูเทียนเหวินอยู่ในทำเนียบผู้ทรงอำนาจแดนบาปอันดับที่39 และเป็นหนึ่งในสุดยอดนักสู้น้อยคนในแดนบาป เทียบกับหานปิงหนิงด้วยความสำเร็จในแง่กฎธรรมชาติผิวเผินของนางความเข้าใจในกฎธรรมชาติผิวเผินของเขาเองนับว่าสมบูรณ์แบบและระยะสำหรับการรู้แจ้งกฎสนามพลังยังแค่อีกก้าวใหญ่
กฎผิวเผินที่เป็นหลักสามารถฉายพลังอำนาจออกมาได้กว้างไกลเป็นเหมือนชั้นแสงที่อาบอยู่บนร่างของหลูเทียนเหวิน รังสีของหลูเทียนเหวินยังคงเพิ่มขึ้นขยายขึ้นจนดูสูงส่งมาก ปลายหอกเปล่งพลังปั่นป่วนออกมาแทรกอยู่ในอากาศรอบตัวเขาและขยายออกทำให้อากาศไม่มั่นคง
‘รังสีที่ทรงพลังจริงๆ...’
รังสีที่น่ากลัวตรึงถังเทียนไว้ทำให้เขาเข้าใจผิดว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
ร่างของถังเทียนสั่นเปรี๊ยะ.. ระลอกพลังกวาดผ่านร่างของเขาถูกทำลายทันทีทำให้เขาตัวเบาขึ้นแต่ระลอกที่มากกว่ายังคงทะลักต่อเนื่องทำให้อากาศมีความหนืดสูง
เมื่อนึกย้อนไปถึงวิชาดาบมารพิฆาตที่เขาใช้ ถังเทียนจำได้กระบวนท่าได้ เขาจับด้ามดาบไว้แน่น พลังในร่างของเขาพลุกพล่านเลือดและเนื้อในร่างของเขาเต้นด้วยความตื่นเต้น และรังสีก็เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
รังสีที่บดขยี้หินที่น่ากลัวดูเด่นสง่ามาก แต่ในตาของถังเทียนกลับไม่มีอะไร ในที่สุดเขาก็เข้าใจแก่นเคล็ดวิชาดาบมารพิฆาต
แม้ว่าเขาไม่เข้าใจเหตุผลที่เรียกว่ามาร แต่จากวิชาดาบ เขาสามารถรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่เหมือนมีมดกัดอยู่ทั่วร่างกาย และความมุ่งมั่นท้าทายฟ้า แม้แต่ฟ้าก็ไม่สามารถข่มเขาและทำให้เขายอมแพ้ได้
‘เป็นวิชาดาบที่เด็ดขาดและสิ้นหวัง!’
‘วิชาดาบที่ดี!’
ถังเทียนได้รับผลจากความรู้สึก ทันใดนั้นเขาเงยหน้าขึ้นฟ้าและคำราม ความตั้งใจสู้อย่างเด็ดขาดไม่คาดหวังลุกโชนเหมือนกับกองไฟที่เติมทำให้รู้สึกป่าเถื่อนและห้าวหาญ
เขาค่อยๆ เงื้อดาบในมือ
พลังต้นกำเนิดในร่างของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้น แต่ครั้งนี้แตกต่างจากท่าฟันสองครั้งก่อน พลังในร่างกายของเขาโคจรไปรอบตัวเขา โฉบเข้ามาในร่างด้านหลังของเขาและออกด้านหน้ากระแสที่รุนแรงของมันทำให้ทั่วทั้งร่างของถังเทียนสั่นเล็กน้อย
ถังเทียนไม่ขยับ เขาทนเจ็บปวดในร่างกาย แต่แสงในดวงตาของเขาเจิดจ้าขึ้น
ทำไมถึงเรียกว่ามารข้าน่ะหรือ? ทุกคนมักจะดิ้นรนระหว่างความปรารถนาชั่วและความคิดที่ดีในใจ การลังเลและสับสนมักจะเป็นส่วนหนึ่งในนิสัยของมนุษย์เสมอ ตราบใดที่คนเราสามารถทนได้ ตราบเท่าที่สามารถต้านทานได้ พวกเขาจะสามารถเห็นแสงสว่าง เห็นความตั้งใจที่แท้จริงอย่างกระจ่าง
ความขมขื่นและความพยายาม ความลังเลและความสับสนจะไม่มีทางหายไป เป็นเหมือนกับมารที่ล่อลวงอยู่ในใจของมนุษย์ ทุกครั้งที่คนเรามีประสบการณ์กับเรื่องนี้ พวกเขาจะสามารถเห็นได้ชัดเจนขึ้น ก้าวย่างของพวกเขาจะมั่นคงมากขึ้นและสภาพใจของเขาจะหนักแน่นมากขึ้น
เส้นทางมารมักจะถูกกำหนดให้ต่อต้านฟ้าเสมอ และทางนี้จะขมขื่นมากกว่า เจ็บปวดมากกว่า และรุนแรงมากกว่าด
ความปรารถนาของเขาเข้าไปอยู่ที่คมดาบต้องทนเจ็บปวดทุกอย่าง เขาปรารถนาจะกลืนกินมาร เขาต้องทนให้ได้
กล้ามเนื้อและเลือดเนื้อในร่างของเขาต่อสู้กับพลังคลื่นที่ทะลักเข้ามาไม่มีที่สิ้นสุด สายตาของถังเทียนกระจ่างขึ้นเรื่อยๆ ดาบในมือของเขามั่นคงขึ้น และแม้แต่เพลิงสุญญตาที่เปล่งออกมาจากทั่วร่างของเขาสงบและเชื่อฟังเขา เขารั้งแสงรัศมีของเขากลับและไม่มีการรั่วไหล
ระลอกคลื่นที่มองไม่เห็นเมื่อมาใกล้ตัวของเขาจะหายไปเงียบๆ
ตาของหลูเทียนเหวินแดงเหมือนเลือดสายตาของเขาดุดัน ความตั้งใจต่อสู้ในร่างของเขาทะยานสูงขึ้น เขาไม่เคยคาดเลยว่าบุรุษหน้ากากผี จะมีพลังมากขนาดนี้ ดาบยังไม่ปล่อยพลังออกมา แต่รังสีของมันก็ไม่ธรรมดาเสียแล้ว
‘น่าสนใจมาก!’
“ของนักสู้ที่ทรงพลังขนาดนั้นน่าลิ้มลองมากขึ้นจริงๆ’
เลือดในตาของหลูเทียนเหวินกลายเป็นสีแดงเข้มมากขึ้น เขาแกว่งหอกในมือเบาๆระลอกที่ไร้ลักษณ์ถอนกลับมาเหมือนกับตาข่าย แนวแสงที่หนาแน่นถูกดึงกลับมาเสียงลมที่พัดอื้ออึงน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
หลูเทียนเหวินแค่นเสียงและแทงหอก
ระลอกที่ถูกผสมกับสายลมและสายฟ้าระเบิดครอบคลุมปลายหอกทันทีทำให้พื้นที่ทุกแห่งกลายเป็นว่างเปล่า
ร่างเคลื่อนไปพร้อมกับหอก สีเขียวและเงินของรังสีหอกสายลมและสายฟ้าก่อให้เกิดเสียงแหลมหวีดหวิวเหมือนกับรังสีหอกได้กักสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนไว้ในนั้นและเหมือนกับดาวตก เขาพุ่งออกมาปรากฏอยู่ข้างหน้าถังเทียน
ในขณะนั้นเองพลังต้นกำเนิดในร่างของถังเทียนทะลักออกมาจากความสงบเดิมอย่างเข้มข้น รัศมีของถังเทียนปะทุออกมาเป็นหมอก แสงในดวงตาของเขาแผ่ประกายเจิดจ้าและเขาตวัดดาบฟันลงอย่างเงียบกริบทันที
แรงฟันไม่มีร่องรอยพลังแต่อย่างใด
เพราะเหตุผลบางอย่างตาของหลูเทียนเหวินหดลีบ เขาเคยเห็นนักดาบฝีมือดีมาก่อน และสามารถปล่อยดาบที่ไม่ปล่อยพลังใดออกมานั่นจะทำได้โดยจอมดาบที่มีสำนึกเพลงดาบที่บริสุทธิ์
‘กล่าวกันว่าบุรุษหน้ากากผีใช้หมัดของเขาไม่ใช่หรือ?’
‘ทำไมวิชาดาบของเขาถึงได้ทรงพลังนักเล่า?’
แต่เขาไม่รู้สึกกลัวแต่อย่างใดมีแต่ความตื่นเต้น ‘มาเลย มาเลย!’
การฟันอย่างแผ่วเบาตัดเข้ามาในรังสีหอกราวกับว่าทั้งสองเป็นแม่เหล็ก อาวุธทั้งสองปะทะกันอย่างสมบูรณ์
พลังทะลักออกมาจากดาบและในทันใดนั้นถังเทียนรู้สึกบางอย่างที่ผิดปกติ
พิ้งงงง!
ดาบในมือของเขาแหลกสลาย
ร่างของถังเทียนสามารถทนต่อพลังรุนแรงได้ แต่ดาบไม่สามารถทนได้ ทันทีที่เขาฟันดาบลงร่างเขาวูบวาบและทำลายมิติพื้นที่ หายไปจากตำแหน่งเดิม ท่ามารสังหารของถังเทียนไม่ธรรมดา ดูเหมือนเรียบง่ายแต่เมื่อพลังงานที่น่ากลัวส่งผ่านตัวหอกก็ระเบิดออกทันทีทำให้รังสีหอกบวมเหมือนลูกโป่ง กลายเป็นบอลลมและสายฟ้า
ปัง!
บอลระเบิด
เส้นสายลมและสายฟ้าที่แพรวพราวผสมกับระลอกรังสีดาบที่น่ากลัวทำให้มันดูเหมือนดาบที่คลุมด้วยสายฟ้าหมุนปั่นไปทั่วพื้นที่
ปัง ปัง ปัง!
ทุกๆดาบลมที่ปะทะลงพื้นจะปลดปล่อยพลังระเบิดเกิดเป็นหลุมลึก ภายใต้แรงระเบิดเศษฝุ่นจากพื้นจะปลิวกระจายไปทั่วทุกตำแหน่ง และในพริบตา พื้นเต็มไปด้วยรู
เลือดไหลออกจากมุมตาของถังเทียนและร่างกายด้านขวาของเขาไหม้เกรียม
หอกของหลูเทียนเหวินยังน่ากลัวมาก แม้เมื่อเขาถอยตั้งแต่วินาทีแรก เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บหนัก เขามองดูร่างของเขา เนื้อไหม้เกรียมดำกระดูกของเขาโผล่ สายลมและสายฟ้าที่ร้ายกาจกัดกร่อนร่างของเขาอย่างต่อเนื่อง
หลังจากใช้ดาบแล้ว ถังเทียนตกใจเมื่อตระหนักว่าพลังต้นกำเนิดในร่างของเขาเหลือน้อยกว่า30% เพราะพลังต้นกำเนิดมากมายถูกใช้โจมตีด้วยวิชาดาบมารพิฆาตถึงสามครั้งมันแสดงถึงความสูญเสียหนักที่ต้องใช้กับร่างกาย
ในที่สุดเขาก็เข้าใจเหตุผลที่บรรพบุรุษตระกูลเซวียสามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงของดาบมารพิฆาตนี่คือวิชาดาบที่สร้างขึ้นหลังจากใช้แก่นต้นกำเนิดวิญญาณไปนับไม่ถ้วน
พลังต้นกำเนิดของถังเทียนดังกึกก้องและโจมตีพลังสายลมและสายฟ้าได้ เพลิงสุญญตาคลุมรอบบาดแผลของเขา และร่างของเขาเริ่มฟื้นฟูในระดับที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ตลอดทั้งร่างของหลูเทียนเหวินไหม้เกรียม เขาจ้องมองถังเทียนอย่างว่างเปล่า เขาไม่เคยคาดเลยว่าดาบจะแปลกประหลาดมากขนาดนั้น มันชอนไชเข้ามาในรังสีหอกของเขาก่อนจะระเบิด! เขาไม่สามารถป้องกันได้ทันเวลา จึงต้องเจ็บตัวไปด้วย
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นก็คือบาดแผลของถังเทียนเริ่มฟื้นฟู
‘บัดซบ! นี่มันไร้สาระสิ้นดี...’
‘พวกเขาบอกว่าเขาฝึกมากับวิชาหมัดไม่ใช่หรือ! ทำไมเขาใช้วิชาดาบอย่างนั้นได้! ทั้งยังใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญขนาดนั้น แต่กฎที่เขาฝึกมานั้นคือกฎเป็นและตายจริงๆ ด้วย!’
‘ความสามารถฟื้นฟูตนเองที่ทรงพลังขนาดนั้น มีแต่เพียงคนที่ฝึกกฎธรรมชาติเป็นและตายมาเท่านั้น จึงจะทำได้’
หลูเทียนเหวินรู้สึกเจ็บและอารมณ์หงุดหงิดพล่านขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ ‘ดูเหมือนว่าเราจะเห็นด้วยกับกระประลองกำลังกัน แต่เจ้าเริ่มวิชา ก็ได้ ถ้าเจ้าต้องการใช้วิชา ข้าก็ทำได้ แต่ในที่สุดเจ้าตัดสินใจใช้วิชาอ่อนหยุ่น!’
พลังของถังเทียนไม่มีอะไรในสายตาของเขา วิชาหมัดตามที่เล่าลือยังไม่ปรากฏซึ่งหลูเทียนเหวินให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเขาได้ยินว่าหมัดนั้นมีความแปลกประหลาดมาก จากนั้นหลูเทียนเหวินคิดว่าถังเทียนใช้ดาบเพียงแค่กลบเกลื่อน และวิชาสังหารของเขาก็ยังเป็นวิชาหมัด
‘ของปลอมก็ยังเป็นของปลอมเสมอ ทุกคนฝึกฝนมาในวิทยายุทธหนึ่ง และนั่นยากจะเปลี่ยนแปลงได้แน่นอน’
และเขาแม้พบจุดอ่อนถังเทียนสังเกตได้ว่าดาบที่ถังเทียนใช้มีความธรรมดามาก ไม่สามารถทนต่อพลังงานได้มากกลับเป็นหอกคู่มือของเขา เป็นสมบัติระดับสุดยอด ตระกูลหลูใช้สมบัติมากมายจัดและสร้างหอกพายุสายฟ้าขึ้น
เขาคิดว่านั่นคือจุดอ่อน เขาจะชนะ
แต่ในที่สุด...
วิชาหมัดที่เล่าลือยังไม่ปรากฏ แต่เขากลับถูกบีบอยู่ในสภาพน่าอดสู เมื่อเห็นถังเทียนฟื้นฟูสภาพร่างกายได้ดี แต่ร่างของเขาเองยังคงไหม้เกรียมใจของเขาหงุดหงิด
‘รอก่อนเถอะ ข้าจะกลับมาแน่!’
หลูเทียนเหวินที่ตัวดำเกรียมทั้งร่างหนีไปอย่างหงุดหงิด