ตอนที่ 729 หอกพายุสายฟ้าหลูเทียนเหวิน
เมื่อถังเทียนวิ่งไปดู เขาเห็นหานปิงหนิงกำลังสู้กับศัตรู
หานปิงหนิงเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด พลังโจมตีของคู่ต่อสู้รุนแรงเป็นพิเศษร่างของเขาเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้า และทุกหอกจะแฝงด้วยสายฟ้าและสายลม ทุกครั้งที่กระบี่และหอกปะทะกัน รังสีกระบี่ของหานปิงหนิงจะแตกสลาย
หลังจากผ่านไปเจ็ดหรือแปดกระบวนท่ารัศมีของหานปิงหนิงก็ปั่นป่วน
“หลู...หลูเทียนเหวิน!”
เถี่ยเซียพูดเสียงสั่น เขาติดตามหลูหลิงหนาน และคุ้นเคยกับยอดฝีมือของตระกูลหลู เขาจำศัตรูที่มาถึงได้ทันที และหน้าของหม่นหมอง เถี่ยเซียไม่เพียงแต่รู้จักหลูเทียนเหวินเพราะเขาผูกอยู่กับตระกูลหลูเท่านั้น แต่คนโฉดทุกคนจะคุ้นเคยกับหลูเทียนเหวินมาก
ฝูเหรินไป่คนโฉดชั้นหนึ่งก็ยังพ่ายแพ้ในมือของเขาและสาบานว่าจะไม่ย่างเท้าเข้ามาในเมืองม้าบินอีกเลย
คนโฉดชั้นหนึ่งมีนิสัยดุร้ายมากทุกคนทุกรุ่น และพวกเขาไม่ด้อยไปกว่านักสู้ที่อยู่ในทำเนียบสุดยอดฝีมือ เพียงแต่ว่าพวกเขายืนหยัดตามลำพังโดยไม่มีใครสนับสนุน ไม่มีตระกูลคอยสนับสนุนพวกเขา พวกเขาไม่ใส่ใจการกระทำของพวกเขาเอง และได้รับขนานนามว่าคนโฉด ดังนั้นพวกเขาจึงจัดสร้างรายชื่อผู้ทรงพลังอำนาจของตัวเอง
แต่แม้อย่างนั้น ด้วยพลังของพวกเขา พวกเขาสามารถสู้ตามวิถีของพวกเขาจนติดสุดยอดทำเนียบนักสู้แดนบาป 50อันดับแรก แต่นักสู้อย่างนั้นก็ยังพ่ายแพ้ต่อหลูเทียนเหวิน
ทำเนียบสุดยอดนักสู้แดนบาป หลูเทียนเหวินอยู่ในลำดับที่ 39
วิชาหอกของเขามีเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยพลังพายุและสายฟ้าจึงขนานนามว่าหอกพายุสายฟ้า
คนที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองจื่อจวนก็คือฉินเจินตำแหน่งสุดยอดในทำเนียบนักสู้ของเขาก็คืออันดับที่ 43หลูเทียนเหวินไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหลู คนที่แกร่งที่สุดก็คือประมุขตระกูลหลูนามว่าหลูเซิงเซี่ยง ลำดับในสุดยอดทำเนียบนักสู้ของเขาคือ 15
อำนาจของตระกูลหลูเป็นที่ประจักษ์
สำหรับตระกูลหลูกล้าส่งหลูเทียนเหวินมาตามลำพัง แสดงถึงความมั่นใจในพลังของเขา ไม่มีฉินเจิ้นอยู่ด้วยถ้าตระกูลอื่นสร้างความเป็นพันธมิตรกันพวกเขาจะสามารถป้องกันหอกพายุสายฟ้าของหลูเทียนเหวินได้ ในสายตาของหลูเทียนเหวิน เมืองจื่อจวนเป็นแค่เมืองเล็กไม่ควรค่าแก่การพูดถึง มีเพียงคนเดียวที่ทำให้เขาสนใจก็คือฉินเจิ้น แต่เขายับยั้งความกลัวฉินเจิ้นผู้เจ้าเล่ห์แสนกล ถ้าเขาไม่ระวังให้ดี เขาคงจะตกลงไปในหลุมพรางของอีกฝ่ายหนึ่ง
ฉินจื่อเจินที่เป็นผู้บัญชาการหน่วยพลธนูเป็นคนที่น่ากลัว แต่ก็ยังเล็กน้อย การโจมตีฉินจื่อเจินเป็นเรื่องยากมากจริงๆ ถ้าพวกเขาเคลื่อนไหวเป็นพัน หลูเทียนเหวินคงจะกังวลมากกว่า แต่ถ้ามีแค่ไม่กี่คนก็คงยากจะใช้พลธนูเล่นงานพวกเขา
เขาสามารถใช้ความเร็วเล่นงานกับหน่วยพลธนูได้ แน่นอนเขาไม่โง่พอจะโจมตีหน่วยพลธนูโดยตรง ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินวิธีที่บุรุษหน้ากากผีใช้เผชิญหน้ากับหน่วยพลธนู เขาถึงกับตกใจ รู้สึกว่าบุรุษหน้ากากผีเชี่ยวชาญในกฎประเภทป้องกัน
กระดองเต่าคลุมนักสู้ย่อมเป็นศัตรูตามธรรมชาติของหน่วยพลธนู
แต่ก็ไม่สำคัญ ไม่ว่ากระดองเต่าจะแข็งแรงยังไงหลูเทียนเหวินคิดว่าเขาสามารถทำให้มันแตกได้ง่าย
หลูเทียนเหวินปรากฎตัวและทำวางมาดอยู่ที่หน้าปราสาทเขาสะท้อน ปราสาทเล็กๆอย่างปราสาทเขาสะท้อนไม่มีอะไรในสายตาของเขา ตลอดเส้นทางเพื่อสร้างชื่อให้กับตระกูลหลู เขาช่วยตระกูลกวาดล้างป้อมค่ายปราสาทอื่นๆ ไปมากมาย และปราสาทเล็กแค่นั้นธรรมดามาก
เมื่อหานปิงหนิงปรากฏ แม้แต่เขาก็ยังมีเวลาชื่นชมความงามของนาง เขาลอบถอนหายใจที่คนงามขนาดนั้นต้องมาตายในเงื้อมมือของเขา แต่เขาไม่เหมือนกับหลานชายที่ไร้ค่าของเขาเขาไม่ให้ความสนใจกับความงามมากเกินไป
มีแต่เลือดและสงครามสามารถทำให้เขาตื่นเต้นได้
เมื่อหานปิงหนิงเคลื่อนไหว ตาของเขาเป็นประกาย เคล็ดยะเยือกพบเห็นได้ยาก เขาไม่ใส่ใจเรื่องกฎธรรมชาติที่เพิ่งได้เรียนรู้และก่อตัวอยู่ต่อหน้าของขา และสิ่งเดียวที่เขาสามารถยอมรับก็คือเคล็ดกระบี่ซึ่งบริสุทธิ์มาก และยากที่จะเห็นอีกด้วย
หลังจากปะทะฝีมือสองสามท่าแล้วหลูเทียนเหวินก็สูญเสียความสนใจ
‘ข้าน่าจะจบการต่อสู้ได้แล้ว คู่ต่อสู้ระดับนั้นไม่มีอะไรมาก’
แต่หลังจากผ่านไปสิบกระบวนท่า หานปิงหนิงก็ยังสามารถต้านรับได้อย่างยากลำบากซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับหลูเทียนเหวิน เขาไม่ได้พบคู่ต่อสู้ที่สามารถต้านรับเขาได้เกินสิบกระบวนท่าเป็นเวลานานขนาดนั้น หอกพายุสายฟ้าของเขาสามารถกระตุ้นสายลมและสายฟ้าเมื่อเขาเคลื่อนไหว ทุกการโจมตีของหอกบรรจุด้วยพลังนับพันชั่งสตรีที่น่ารักและงดงามนั้นยังป้องกันได้ แม้แต่บุรุษที่แข็งแกร่งและกำยำยังป้องกันสามถึงห้ากระบวนท่านี้ได้อย่างยากลำบาก
ในเวลาอันรวดเร็ว หลูเทียนเหวินก็เข้าใจ สตรีนางที่เพิ่งจะสำเร็จในกฎธรรมชาติของนาง แต่วิชากระบี่นางยอดเยี่ยม เพิ่มความสำเร็จในสำนึกกระบี่ นางจึงสามารถประคองตัวอยู่ได้
‘ท่ากระบี่ที่ยอดเยี่ยม!’
หลังจากมองดูอย่างระมัดระวัง หลูเทียนเหวินยิ่งสนใจมากขึ้น ตาของเขาเป็นประกายแหลมคมและตั้งใจ เขาบอกได้เลยว่าท่ากระบี่ของหานปิงหนิงไม่ใช่แนวทางของแดนบาป วิทยายุทธแดนบาปเดิมทีมาจากดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แต่ดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์เน้นเรื่องพลังงาน ขณะที่แดนบาปให้ความสำคัญกับกฎธรรมชาติมากกว่า แต่ระดับความซับซ้อนของการเคลื่อนตรงในระดับเดียวกัน
หลูเทียนเหวินยิ่งอยากรู้อยากเห็น และรังสีหอกในมือของเขาหนาแน่นขึ้น
ทุกหอกที่เขาใช้จะแฝงไปด้วยธาตุลมและสายฟ้า มีแสงแพรวพราวหุ้มรอบปลายหอกมันมีพลังหนาแน่นและทรงประสิทธิภาพมาก พลังแฝงในหอกของเขามีไม่สิ้นสุด แต่ละหอกหนักหน่วงขึ้นทุกที
ความกดดันบนตัวหานปิงหนิงเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ปอยผมที่นางรัดไว้ถูกสายลมตัดทำให้ผมของนางกระเซิงยุ่งเหยิง แต่นางไม่ยอมแพ้การตกอยู่ภายใต้แรงกดดันที่หนักหน่วง ทำให้นางตื่นเต้นกับการต่อสู้มากขึ้นและทุกกระบี่ของนางปลดปล่อยออกมาด้วยกำลังทั้งหมดของนาง
ถังเทียนห้ามอาโมรี่ที่ต้องการจะวิ่งเข้าไป เขาบอกได้ว่าแม้หานปิงหนิงจะรับมืออย่างกินแรงและตกอยู่ในอันตราย แต่สำนึกกระบี่ของนางไม่มีสัญญาณแตกกระจาย และประสบการณ์การต่อสู้เช่นนั้นเป็นสิ่งล้ำค่า
แคล้ง แคล้ง แคล้ง!
หลูเทียนเหวินโจมตีอีกเจ็ดหอก และประกายสายฟ้ากระทบกับกระบี่ของหานปิงหนิง
กระบี่ของนางแตกกระจายเหมือนขนมกรอบ หานปิงหนิงรู้สึกเหมือนว่านางถูกสายฟ้าหลายครั้งจนกระอักโลหิตตัวของนางเองถูกกระแทกถอยหลัง
หลูเทียนหวินผู้หาความเพลิดเพลินกับการฆ่าไม่คิดปราณีร่างของเขาพุ่งออกมาพร้อมกับหอกของเขาพายุสายฟ้าเคลื่อนไหวตามขณะที่เขาตรงเข้าหาหานปิงหนิง
ขณะที่หลูเทียนเหวินจะปะทะกับกระบี่ของหานปิงหนิง ถังเทียนก็เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว เขาฉวยดาบจากเถี่ยเซียด้วยความเร็วราวสายฟ้าและหายไปทันที วินาทีถัดมาเขาปรากฏอยู่ข้างตัวหานปิงหนิงเขาคว้านางไว้และใช้ดาบฟันทันที
ดาบกระทบกับหอกอย่างแม่นยำ
ถังเทียนรู้สึกได้ถึงพลังประหลาดมหาศาลจากฝ่ายตรงข้าม เขาแค่นเสียงและปรากฏตัวห่างออกไปสิบห้าเมตรทันทีและถอยหลังจากแรงปะทะสองสามก้าวก่อนจะยืนหยัดมั่นคง เขาเหวี่ยงหานปิงหนิงที่สลบไปแล้วให้อาโมรี่และหันไปเผชิญหน้ากับหลูเทียนเหวิน
หลังจากรู้แจ้งดาบมารพิฆาตได้แล้ว ถังเทียนอยากจะทดสอบใจจะขาด และหลังจากเห็นหานปิงหนิงถูกกดดันไล่ต้อน เขาไม่อาจอดกลั้นความโกรธไว้ในใจได้ต่อไป ถ้าไม่ใช่เพราะยอดฝีมือที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้เป็นเรื่องสำคัญต่อหานปิงหนิง เขาคงโดดเข้าไปปะทะนานแล้ว
เมื่อควบคุมตัวเองได้เล็กน้อยแล้วเขาหายไปและเริ่มโจมตีทันที ความตื่นเต้นจากการรู้แจ้งวิชาดาบมารพิฆาตบวกกับความโกรธที่เห็นหานปิงหนิงถูกไล่ต้อนทำให้ถังเทียนเดือดดาลอยู่ในใจ
หน้าของเขาแคร่งขรึมขณะชี้ดาบไปทางหลูเทียนเหวิน
“หน้ากากผีถังเทียนใช่ไหม?”
หลูเทียนเหวินหรี่ตา เขาเลียริมฝีปาก ขณะที่เขาเผชิญหน้ากับเหยื่อที่น่าสนใจ ดาบจากถังเทียนไม่มีความแปลกประหลาดอะไร แต่พลังของมันไม่อ่อนแอซึ่งทำให้เขาสะดุดใจ!
ถังเทียนไม่มีความคิดจะตอบคำถาม เถี่ยเซียบอกเขาเรื่องตระกูลหลูมาก่อน แต่สำหรับหลูเทียนเหวินเป็นใครมีพลังมากขนาดไหน ถังเทียนไม่สนใจแม้แต่น้อย ความต้องการต่อสู้ในอกปะทุขึ้น เขาแค่ต้องการกำจัดหลูเทียนเหวิน
ซี่... ร่างของถังเทียนหายไปทันที
หลูเทียนเหวินไม่ตื่นตกใจแม้แต่น้อย เขารู้ว่าคนที่ฝึกกฎธรรมชาติอวกาศชอบใช้ลูกเล่นนี้ หลูเทียนเหวินแค่นเสียงกฎอวกาศเดี๋ยวหายเดี๋ยวปรากฏมีแต่ใช้ลอบทำร้าย แต่ความผันผวนที่ก่อขึ้นเมื่อพื้นที่ได้รับผลไม่สามารถหลบพ้นความรู้สึกของเขาได้
สายตาของเขาพลันแหลมคม เขาบิดเอวและบิดตัวในกลางอากาศหอกของเขาคล้ายกับมังกรฉกออกจากถ้ำ
ปัง!
เสียงสายลมและสายฟ้าปะทุดังลั่น สายฟ้าคลุ้มคลั่งและแสงทำให้หอกเปล่งแสงเจิดจ้า
มีร่างหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้ารังสีหอกของเขาเหมือนกับว่าเขาเข้ามาหาปลายหอก
แต่หลูเทียนเหวินหรี่ตาทันที ท่าของถังเทียนแปลกประหลาดมากดาบชี้ตรงมาข้างหน้าขนานกับพื้น
‘นั่นวิชาอะไร?’
เมื่อเห็นว่าปลายหอกและดาบกำลังจะปะทะกัน ดาบที่ตรงเป็นเหมือนกับกิลโยตินฟันฉับข้างหน้าโดยเหมือนกับไม่มีพลังสะสมแต่แรงฟันนั้นดุร้ายรุนแรง
ดาบมารพิฆาต!
แคล้ง!
ดาบทำลายสายลมและสายฟ้าที่หุ้มรอบปลายหอกและปะทะเข้ากับปลายหอกอย่างหนักทันที
หลูเทียนเหวินรู้สึกถึงพลังน่ากลัวทะลักมาหาเขาผ่านหอกของเขา ฝ่ามือของเขาร้อนขึ้นจนแทบควบคุมหอกไม่ได้
‘นี่ชักน่าสนุก!’
‘แข็งแกร่งทรงพลัง!’
หลูเทียนเหวินจับตัวหอกไว้แน่นพลังที่ทะลักออกมาทำให้เขากระเด็นออกไปเหมือนลูกธนู
พลังจากหอกของหลูเทียนเหวินสะท้อนถังเทียนจนถอยกลับ แต่ขณะนั้น ความรู้สึกต้องการต่อสู้ของเขายิ่งเพิ่มสูงขึ้นพลังสะท้อนเล็กน้อยนี้ถูกมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง ร่างของเขากระพริบพุ่งวาบไปข้างหน้า เขาไม่ได้ใช้เคล็ดพรางตัว แต่เป็นก้าวย่างกลางอากาศ
ปัง ปัง ปัง!
เสียงระเบิดเป็นชุดดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า
แผ่นสุญญากาศเป็นชุดเกิดขึ้นใต้เท้าเขา จากนั้นก็แตกสลายไปเหมือนกับทุ่นลอยฟ้าร่างของเขากระพริบพุ่งไปข้างหน้าเหมือนกับพยัคฆ์กระโจนออกจากกรงพุ่งตรงเข้าหาหลูเทียนเหวิน
‘เร็วมาก’
ตาของหลูเทียนเหวินหรี่แคบกว่าเดิม เขาไม่เคยพบกับคนที่ใช้วิชากลางอากาศที่แปลกประหลาดแบบนั้นมาก่อน
ร่างของถังเทียนกลายเป็นภาพพร่าเลือนพุ่งไปข้างหน้า แต่หลูเหวินเทียนสามารถเห็นความเคลื่อนไหวของถังเทียนทุกอย่าง ทุกการทำงานของกล้ามเนื้อ หลูเทียนเหวินดูเหมือนจะสามารถมองเห็นกระแสพลังพุ่งออกมาจากทั่วร่างของถังเทียนเหมือนกับแม่น้ำสายย่อยร้อยสายไหลไปบรรจบที่ทะเล ครอบคลุมเต็มไหล่ขวาของถังเทียน
เป้าหมายของมันเห็นได้ชัดว่าอยู่ที่ดาบ
ดาบมารพิฆาต!
เส้นเลือดที่ขมับของหลูเทียนเหวินปูดเขารู้ได้โดยไม่ต้องคิดเลยว่าแรงฟันครั้งต่อไปจะเฉียบขาดและน่ากลัวกว่าครั้งแรก ในสภาพเร่งด่วนนั้น หลูเทียนเหวินคำรามตลอดทั้งร่างของเขาปลดปล่อยสายลมและสายฟ้าสีเขียวของสายลมผสมกับสีเงินของสายฟ้าเป็นเหมือนกับชุดเกราะงดงาม
เขาหยุดทันทีและเปลี่ยนแปลงท่าหอกอย่างรุนแรงและแทงหอกออกไป
หอกที่แปลงแปรเปลี่ยนเป็นเหมือนวังวนทำให้เกิดแรงดึงดูดอย่างน่าประหลาด แรงลมทั้งหมดและสายฟ้าทั้งหมดที่คลุมรอบตัวหลูเทียนเหวินถูกดูดซับเข้ามาจนไม่มีพลังเหลืออยู่ ลมและสายฟ้าที่หนาแน่นไหลเป็นกระแสอยู่บนตัวหอก ตอนนี้หอกนี้ปล่อยพลังทำลายล้างทันที
ร่างที่เหมือนสัตว์ป่าและภูตพรายฟันดาบลง
อีกคนที่มีความมั่นใจและสง่างามแทงหอกของเขาสวนออกมาทันที
ร่างทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง
ปัง!
ผลกระทบดังสนั่นจากแรงปะทะทำให้ทุกคนถึงกับหูอื้อ คลื่นพลังที่ปะทุออกผสมกับรังสีเขียวและแสงสายฟ้านับไม่ถ้วนปะทะใส่ยอดเขาใกล้ๆ
ปัง!
ยอดเขาดูเหมือนกับว่าถูกแส้หวดตัดใส่ ก้อนหินและดินร่วนปลิวกระจายซึ่งดูเหมือนเป็นลมบ้าหมูรอยฟันลึกปรากฏอยู่บนยอดเขา
ปัง ปัง ปัง!
ภูเขาไม่สามารถทนพลังโจมตีได้ และพื้นด้านใต้พังทลายทันที
ทั้งสองคนได้รับผลกระทบใหญ่จากพลังโจมตีเช่นกัน ถังเทียนรู้สึกเหมือนสัตว์ป่าขวิดปะทะใส่ เขาไม่สามารถควบคุมตนเองและกระเด็นถอยหลัง หลูเทียนเหวินก็ใช่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่ดี แรงฟันของถังเทียนเต็มไปด้วยพลังมหาศาลทำให้เขากระเด็นออกไปเหมือนกับลูกบอลไปที่ยอดเขาด้านหลังของเขาปรากฏเป็นรูที่ลึก
ทุกคนตกตะลึงกับผลกระทบภายหลังการปะทะ
การต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะทำสำเร็จได้ยังไง
แม่เฒ่าเซวียน้ำตานองหนา ‘สวรรค์ยังเห็นใจเรา ดาบมารพิฆาตของตระกูลเซวียเราได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง’
บึ้ม.. เสียงระเบิดดังมาจากภายในหลุมลึกทันที ฟิ้วววสายลมและสายฟ้าถูกปล่อยออก หลูเทียนหหวินปรากฏออกมาจากจุดที่ถูกฟันทันที
ทั่วทั้งร่างของเขาอยู่ในสภาพอนาถเหลือทน ชุดของเขาฉีกขาดรุ่งริ่ง ตาของเขาเต็มไปด้วยแววตาต้องการสู้ เขาเลียริมฝีปากและกล่าว “ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด”