ตอนที่ 20-21 หลอมรวมพลังเทพทั้งสี่
ความเจ็บปวดรุนแรงลามขยายไปทั่วร่างลินลี่ย์ มีความรู้สึกเหมือนกับว่ามีแมลงตัวน้อยกำลังกัดแทะตัวเขา ความเจ็บปวดกินลึกถึงกระดูกรุนแรงจนคนอย่างลินลี่ย์ไม่สามารถจะทนได้ ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือกดฟันอดทนสู้ ขณะเดียวกันสำนึกเทพของลินลี่ย์ส่งผ่านไปตามร่างของเขา
มืดสนิทไม่มีสีอื่นปะปนอยู่เลย
มวลพลังสีดำโคจรไปรอบตัวลินลี่ย์ไม่มีจังหวะหรือคำสั่ง คลื่นพลังสีดำเติมเข้าไปในกล้ามเนื้อทุกมัด เส้นเลือดทุกเส้น กระดูกทุกชิ้นจุดพลังสีดำเหล่านั้นดูเหมือนจะพบบ้าน และพวกมันฝังตัวเข้าไปในกระดูกกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในของเขาทำให้ทุกส่วนของร่างกายลินลี่ย์เกิดการเปลี่ยนแปลงสะท้านฟ้า
“เปรี๊ยะ...แครก...”
กระดูกของเขาทั้งหมดสั่นสะท้านจนเกิดเสียงแตกปะทุดังขึ้น
“การหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่รูปแบบเป็นผลให้เกิดสีดำสนิทนี้ พลังเทพสีดำสนิทนี้มีพลังมากกว่าพลังมหาเทพ!” ลินลี่ย์ก็คาดเรื่องนี้ไม่ถึงเหมือนกัน
ก่อนหน้านี้เพราะลินลี่ย์ใช้พลังเทพสามรูปแบบหลอมรวมกันจึงเทียบได้กับการใช้พลังมหาเทพ แต่ตามตัวอย่างแม้ว่าจะเทียบกับตอนเมื่อลินลี่ย์ใช้พลังมหาเทพสายทำลายล้าง แต่ก็ยังอ่อนกว่าอย่างเห็นได้ชัดเมื่อลินลี่ย์ใช้พลังมหาเทพสายธาตุดิน
ขณะที่ลินลี่ย์เห็นการหลอมรวมพลังสี่สายธาตุให้ผลทำให้พลังเพิ่มถึงสิบเท่า ทำให้เห็นว่าช่วยให้พลังแข็งแกร่งขึ้นมากถึงสองสามเท่าเมื่อตอนที่เขาใช้พลังมหาเทพธาตุดิน
แต่ตอนนี้ที่เขาหลอมรวมพลังเทพสี่รูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จึงเกิดขึ้น พลังเปลี่ยนไปเป็นสีดำสนิทได้อย่างน่าอัศจรรย์และลินลี่ย์สามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานสีดำนี้ทรงพลังมากขนาดไหน
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานนับปีไม่ถ้วน ไม่มีใครเคยครอบครองร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่างและประสบความสำเร็จในการกลายสภาพวิญญาณ!
ลินลี่ย์ทำได้สำเร็จ ดังนั้นเขาจึงสามารถหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่ได้
ดินไฟ น้ำ ลม การหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่รูปแบบนี้ทำให้เกิดพลังเทพสีดำ และทรงพลังมากจนทำให้ลินลี่ย์สั่นสะท้านได้
ทันใดนั้น...
เกล็ดสีทองฟ้าที่คลุมไปทั้งร่างของลินลี่ย์เริ่มคลุมไปด้วยเส้นสายพลังงานสีดำ แม้แต่หนามแหลมบนตัวเขา แนวเส้นสีดำพาดผ่านเกล็ดมังกร หนามแหลมหางมังกรของเขา และยังซึมลึกเข้าไปในร่างของเขา ใครก็ตามที่เห็นลินลี่ย์จะรู้สึกเหมือนกับว่าทั่วทั้งตัวลินลี่ย์คลุมไปด้วยอักษรรูนขนาดมหึมา
“ครืน....”
เกล็ดมังกรบนร่างของลินลี่ย์กำลังสั่น เพราะความถี่ของการสั่นสะเทือนสูงมาก เกล็ดเหล่านั้นจึงเปล่งเสียงกึกก้องจนเกิดระลอกมิติกระเพื่อม
“เป็นไปได้ยังไงที่พลังเทพเหล่านี้ส่งผลได้ประหลาดขนาดนี้?” แม้ว่าทั้งร่างของเขาจะเจ็บปวดไปทั้งหมด แต่ลินลี่ย์ก็ยังยังคงฝึกยอดพลังต่อไป เขาสามารถรักษาสติได้อย่างสมบูรณ์ เขาส่งสำนึกเทพไปยังทุกส่วนของร่างกายที่กำลังเปลี่ยนแปลง กล้ามเนื้อของเขากำลังเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นในระดับที่น่าอัศจรรย์ และกระดูกของเขาก็มีความแข็งเพิ่มขึ้น
ระดับความก้าวหน้าที่น่ากลัวนี้ทำให้แม้แต่ลินลี่ย์ก็ยังรู้สึกกลัว
“ตามตำนาน บรรพบุรุษของเผ่ามังกรฟ้าของข้า มังกรฟ้าสามารถใช้พลังมหาเทพเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายได้จนเทียบได้กับสมบัติมหาเทพสำหรับปกป้อง เป็นไปได้ว่านี่เป็นเพราะพลังของมหาเทพธาตุน้ำและพลังอสูรศักดิ์สิทธิ์ธาตุน้ำส่งผลได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับการหลอมรวมพลังเทพทั้งสี่รูปแบบนี้ เมื่อใช้พลังเทพเพื่อหล่อเลี้ยงสมบัติเทพ”
ลินลี่ย์รู้วิธีซึ่งสามารถเสริมพลังร่างกายได้อยู่สองสามวิธี
การช่วยพื้นฐานในการเสริมพลังนักสู้จะทำให้ร่างนักสู้สามารถดูดซับพลังงานได้อย่างต่อเนื่องและเพิ่มความแข็งแรงได้ต่อเนื่อง แต่แม้ว่านี่อธิบายกันอย่างง่ายๆ แต่ปริมาณพลังงานที่ต้องการใช้มีจำนวนมหาศาล นักรบผู้นั้นจะดูดซับไปได้อย่างไร? นี่เป็นเรื่องที่ยาก นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสามารถโดยธรรมชาติ ตัวอย่างเช่นอสูรเทพอย่างหนูกินเทพและมังกรฟ้าทั้งหมดมีวิธีเสริมพลังเป็นของตนเอง
เห็นได้ชัดว่าพลังเทพสี่รูปแบบนี้ยังคงเป็นการเสริมพลังที่ส่งผลต่อร่างกายเป็นพิเศษ
เมื่อฝึกฝนกับสมบัติเทพสิ่งที่นักรบทำจริงๆ ก็คือดูดซับพลังเทพเข้าไว้ในสมบัติอย่างต่อเนื่องจะทำให้สมบัติค่อยๆ แข็งขึ้นและคมมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ฝึกฝนจะผสานกับพลังวิญญาณบางส่วนเข้าไว้ด้วย เพื่อให้มันเพิ่มความรู้สึกได้
“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพเข้าไปในร่างของเขา เขาพบว่าภายใต้ผิวหนังของเขามีการเปลี่ยนแปลงที่พิเศษเกิดขึ้น เช่นเดียวกับเกล็ดมังกรของเขา
“ดูเหมือนว่ากระบวนการเสริมพลังความแข็งแกร่งนี้จะต้องใช้เวลาที่ยาวนาน”
ลินลี่ย์เข้าใจว่าจริงๆแล้วกระบวนการเสริมพลังความแข็งแกร่งนี้จะถูกชักนำไปในแนวเหมือนเสริมพลังวิญญาณของเขา อย่างไรก็ตามถ้าเขาปล่อยให้พลังเทพหลอมรวมความแข็งแกร่งในร่างกายของเขาตามสะดวก...จะส่งผลเช่นไร?
“ท่านพ่อบรรลุระดับใหม่ ทำไมเขายังไม่ออกมาอีก?” เทย์เลอร์จ้องมองปลายทางที่อยู่ห่างออกไป
กล่าวโดยทั่วไปหลังจากบรรลุระดับใหม่แล้ว ลินลี่ย์จะออกมาจากห้องฝึกฝนเดินออกมาตามทางกว้างไปที่สนามหญ้าด้านนอก ถ้าเขาทำเช่นนั้น เขาจะต้องผ่านไปตามทางเดินนี้ ขณะนี้นอกจากเทย์เลอร์แล้ว คนอื่นเช่น บีบี เรย์โนลด์และเยลยังคงให้ความสนใจเส้นทางเดินนี้ แม้แต่เดเลียพร้อมกับซาชาธิดาของนางก็ยังมองดูเส้นทางนี้ขณะพูดคุยกัน
“ท่านแม่, หรือว่าท่านพ่อบรรลุระดับใหม่แล้วแต่ไม่เกี่ยวกับร่างแยกธาตุไฟของเขา?” ซาชาพูดเบาๆ
“น่าจะเป็นร่างแยกธาตุไฟของเขา ร่างแยกธาตุอื่นของพ่อเจ้าล้วนแต่ถึงระดับเทพชั้นสูงมานานแล้ว” เดเลียขมวดคิ้วเช่นกัน “แต่หลังจากบรรลุระดับใหม่แล้วเขาน่าจะออกมาแล้ว”
ขณะนั้นเอง...
“เดเลีย” เสียงดังก้องในใจของเดเลียอย่างชัดเจน
“ลินลี่ย์! เจ้าเป็นยังไงบ้าง?” เดเลียสงสัยและดีใจ และสนทนาผ่านสำนึกเทพ
“ข้าบรรลุระดับใหม่ได้จริงๆ แต่ในตอนนี้ข้าอยู่ในกระบวนการรู้แจ้งกระบวนการเสริมพลังร่างกายและตอนนี้ยังเป็นช่วงวิเคราะห์กระบวนการ ดังนั้น..ในตอนนี้ ข้าจะยังไม่ออกไป ไม่ต้องเป็นห่วง ขณะที่บรรลุระดับใหม่อาจต้องใช้เวลาปีหนึ่งถึงหลายสิบปี หรืออาจจะถึงร้อยปีก็ได้” ลินลี่ย์กังวลว่าสหายและครอบครัวของเขาจะห่วงใยเขาส่งข้อความผ่านสำนึกเทพบอก
“ทราบแล้ว เจ้าตั้งใจฝึกต่อเถอะ” เดเลียมีความสุขมากจริงๆ ที่สำคัญลินลี่ย์ไม่ได้ใช้เวลาพัฒนามากมายเหมือนในพันปีที่ผ่านมา
เดเลียหัวเราะขณะที่นางมองดูทุกคนในตอนนี้ “เอาล่ะทุกคน, พวกเจ้าทุกคนไปจัดการธุระของตนเองได้แล้ว ลินลี่ย์ยังคงฝึกต่อไป”
“เขายังอยู่ในการฝึกอีกหรือ?” บีบีพึมพำ
“ข้าหวังว่าน้องสามจะออกมาและไปเที่ยวเล่นกับเราเสียอีก” เยลบิดขี้เกียจจากนั้นกลับไปนั่งเอาขาพาดบนโต๊ะพูดตามปกติ
“เจ้าคิดว่าพี่สามจะเกียจคร้านเหมือนกับเจ้าหรือ?” เรย์โนลด์ล้อ
แต่สำหรับพวกเขาแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ลินลี่ย์อยู่ในห้องกำลังดูดซับกับกระบวนการเสริมพลังในร่างกายของเขา นอกจากนี้ด้วยพลังจิตที่ทรงอานุภาพของเขาเขาสามารถชักนำกระบวนการเสริมพลังนี้ได้โดยตรง ในเวลาเพียงวันแรกร่างกายของลินลี่ย์ก็เสริมพลังแข็งแกร่งในปริมาณที่น่าทึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปความเร็วในการเสริมพลังเริ่มช้าลง
แต่แม้ว่าจะช้าลง นั่นก็แค่เทียบกับวันแรกเท่านั้น ในความเป็นจริงแต่ละวันนั้นร่างของลินลี่ย์เพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น ถ้าคนอื่นรู้ว่าร่างของเขาเสริมพลังแข็งแกร่งมากขึ้นเพียงไหน เป็นไปได้ว่าอาจมองลินลี่ย์ด้วยสายตาตกตะลึงว่างเปล่า
เวลาผ่านไปอย่างเงียบสงบเกือบสิบปี ระหว่างช่วงเวลาที่ลินลี่ย์เพ่งสมาธิแน่วแน่ไม่หวั่นไหว เขายังคงเพ่งกับแนวทางควบคุมกระบวนการเสริมพลังและขณะที่เขาทำเช่นนั้น เขาพบวิธีการที่ดีกว่าเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตนเอง เนื่องจากเขาทดสอบวิธีการต่างๆ อย่างช้าๆ เขาควบคุมวิธีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายที่เหมาะเพื่อให้เหมาะกับการหลอมรวมพลังเทพและให้เหมาะกับร่างกายของเขา
ในโลกมนุษย์มีคัมภีร์การใช้ปราณยุทธทุกรูปแบบ
แต่ในโลกของเทพ พวกเทพเพียงแต่เพ่งพินิจกับการวิเคราะห์พื้นฐานรากฐานของกฎธาตุและวิถีธรรมชาติ สิ่งที่เรียกว่าคัมภีร์สำหรับพวกเขาไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องตลก ตัวอยางเช่นลินลี่ย์สามารถใช้คัมภีร์ยุทธได้เท่าที่เขาต้องการ!
ทุกคนเข้าใจเรื่องนี้!
แม้เมื่อมาถึงการเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าคัมภีร์ลับแบบนั้น มีแต่เพียงวิชาที่เหมาะกับตัวเอง มีแต่เฉพาะวิชาที่เหมาะกับตัวเองเป็นดีที่สุด ร่างกายและสายเลือดที่แตกต่างกัน พลังงานรูปแบบต่างกัน..สิ่งเหล่านั้นทั้งหมดเหมาะสมกับวิธีฝึกฝนที่เข้ากันได้
วิธีที่ส่งผลต่อมังกรฟ้าไม่จำเป็นต้องมีผลต่อลินลี่ย์ ที่สำคัญพลังภายในร่างของลินลี่ย์ก็คือพลังเทพสีดำนี้เกิดจากการหลอมรวมพลังเทพสี่รูปแบบซึ่งไม่เคยมีใครเห็นการสร้างรูปแบบนี้มาก่อนในเอกภพจักรวาล
“ข้าเชี่ยวชาญกระบวนการนี้เพิ่มขึ้นแล้ว
ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืน
ในเวลานี้ร่างของลินลี่ย์คลุมไปด้วยชั้นเกล็ดสีเขียวเข้ม ความจริงเนื่องจากกระบวนการเสริมพลังของพลังเทพสีดำ เกล็ดมังกรของลินลี่ย์ควรจะกลายเป็นสีดำ อย่างไรก็ตามเกล็ดมังกรเดิมของลินลี่ย์เป็นสีทองฟ้าและหลังจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เกล็ดจะกลายเป็นสีเขียวแก่ เกล็ดมังกรของลินลี่ย์ยังเกาะกลุ่มกันหนาแน่นมากยิ่งขึ้น
ถ้าเข้าไปใกล้ลินลี่ย์ ก็จะพบว่า..
บนผิวเกล็ดมังกรของลินลี่ย์จะมีพังผืดของกล้ามเนื้อใสที่บางมาก กล้ามเนื้อนี้ถูกสร้างโดยเนื้อใต้ผิวของลินลี่ย์ หลังจากเกล็ดมังกรของลินลี่ย์ได้รับการเสริมพลังโดยพลังเทพสีดำ อย่างไรก็ตามกล้ามเนื้อบางมากจนดูใส ถ้าใครค่อนข้างอยู่ห่าง เขาจะสังเกตไม่ออกเลย
ขณะที่หนามแหลบนหน้าผากสันหลัง ศอกและเข่าของลินลี่ย์... ต้องบอกว่าผ่านการเปลี่ยนแปลงไปมาก
นี่เป็นเพราะหนามแหลมเหล่านี้ทั้งคมและแข็งตั้งแต่แรกเริ่ม หลังจากผ่านกระบวนการเสริมพลัง ก็กลายเป็นสีดำสนิท นอกจากนี้หนามแหลมยังหดสั้นลงเล็กน้อย
กรงเล็บมังกรของลินลี่ย์เมื่อก่อนนั้น...เล็บของเขาจะทั้งยาวและคม แต่ในตอนนี้กรงเล็บนั้นรั้งกลับได้ มือในร่างแปลงมังกรของลินลี่ย์เป็นสีดำสนิทและกรงเล็บของเขาจะปรากฏคมออกมาเล็กน้อยนั่นคือลักษณะที่ปรากฏ
ผลของกระบวนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทำให้ลักษณะร่างแปลงมังกรที่ดูดุดันดูลดน้อยลงไป
อย่างไรก็ตามแม้ว่าลักษณะดุดันจะดูลดน้อยลงไป แต่พลังกลับเพิ่มขึ้นมากมาย พลังของร่างกายเขาเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแข็งแกร่งมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า หรืออาจจะถึงพันเท่าได้!
“อย่างไรก็ตามพลังที่เพิ่มมากขึ้นที่สุดก็ยังประมาณเท่านี้...”
ลินลี่ย์ยิ้มเหยียดมือขวาออกกระบี่ยาวสีดำจู่ก็ปรากฏออกมา นี่คืออาวุธประกายเทพ เงาลวง!
พลังเทพสามารถใช้หล่อเลี้ยงอาวุธเทพได้ ตามตำนานอาวุธมหาเทพสร้างโดยมหาเทพใช้พลังมหาเทพหล่อเลี้ยงสมบัติชิ้นนั้นๆ แต่แน่นอน การสร้างสมบัติมหาเทพ มหาเทพจำเป็นต้องผสานปณิธานของมหาเทพหลอมรวมเข้าไว้ด้วย ซึ่งเป็นเหตุให้สมบัติเหล่านั้นมีระดับพลังที่น่ากลัว
สำหรับอาวุธประกายเทพ‘เงาลวง’นี้ถูกสร้างขึ้นจากวัสดุที่ทรงพลังเหลือเชื่อตั้งแต่เริ่มแรก
ส่วนใหญ่แม้สมบัติมหาเทพทั้งหมดในแง่คุณภาพของวัตถุยังด้อยกว่าอาวุธประกายเทพนี้ เกินกว่าสิบปีมานี้กระบี่เงาลวงถูกหล่อเลี้ยงด้วยพลังเทพสีดำต่อเนื่องและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจำนวนเวลาที่อาวุธเทพจำเป็นต้องใช้พลังหล่อเลี้ยงนั้นยังอีกยาวนาน
“กระบี่เงาลวงมาถึงขีดจำกัดเสียแล้ว อย่างไรก็ตามแม้แต่ตอนนี้ข้าคาดว่ากระบี่เงาลวงไม่ได้อ่อนแอกว่าสมบัติมหาเทพแม้แต่น้อย” ลินลี่ย์เคยเห็นสมบัติมหาเทพมาก่อน ซึ่งเป็นเหตุผลให้เขาสามารถตัดสินได้เช่นนั้น
อย่าว่าแต่กระบี่เงาลวงเลย ลินลี่ย์ยังรู้สึกว่าร่างแปลงมังกรของเขาน่าจะใกล้เคียงกับพลังของสมบัติมหาเทพ
“ข้านึกไม่ถึงเลยว่าการหลอมรวมพลังเทพสี่แบบจะให้ผลเช่นนี้” ลินลี่ย์ต้องการให้เกล็ดมังกรของเขาหายเข้าไปในร่างกาย และจากนั้นสร้างชุดยาวสีหยกเข้มที่เกิดจากพลังงาน ความจริงหลังจากผ่านกระบวนการเสริมสร้างพลังครั้งนี้ ผิวและกล้ามเนื้อของลินลี่ย์อย่างเดียวก็แข็งแกร่งมากกว่าเกล็ดมังกรที่เป็นมาในอดีต ไม่ต้องพูดถึงร่างแปลงมังกรในปัจจุบันของเขา
“ดังนั้นพลังเทพสี่รูปแบบเมื่อหลอมรวมกันก็ได้ผลแบบนี้ ค่อยสมเหตุผล....เทพมังกรฟ้าบรรพบุรุษของเราสามารถทำเช่นนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ข้าสามารถเสริมพลังของข้าได้”
ลินลี่ย์เหยียดมือขวาแต่แล้วพร้อมกับความคิดหนึ่ง...
“ควั่บ!” มือขวาของเขาเปลี่ยนเป็นดาบและด้วยการฟันเหมือนดาบ ลินลี่ย์วาดแขนฟันไปข้างหน้าด้วยหลักการดาบผ่ามิติ’
“ครืน...” เกิดการฉีกขาดของมิติ
“หลังจากกระบวนการเสริมพลังครั้งนี้ พลังของร่างของข้าเพิ่มขึ้นในระดับน่ากลัว แม้ว่าข้าใช้แค่เคล็ดลึกลับอย่างง่าย พลังโจมตีของข้าก็ยังมหาศาล” ในที่สุดลินลี่ย์ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความก้าวหน้าของเบรุตสำหรับตัวเขาเองได้! พลังพื้นฐานของเขานับว่าน่ากลัวมาก แม้ไม่ต้องใช้เคล็ดลึกลับหลายอย่าง เขาก็ยังทรงพลังพอยืนหยัดไร้เทียมทานได้
ลินลี่ย์ยิ้มและผลักเปิดประตูออกไปที่ห้องโถง
ภายในคฤหาสน์ของลินลี่ย์
ลินลี่ย์เดินออกมาตามทางเดิน จากนั้นจ้องมองโลกด้านนอกที่ว่างเปล่ามีคนอยู่ข้างนอกราวๆ สิบคน
วอร์ตันกำลังคุยกับคนอื่นตามปกติบังเอิญเหลือบตาสังเกตเห็นลินลี่ย์พอดี เขารีบร้องเรียกด้วยความประหลาดใจและดีใจ “พี่ใหญ่..” ขณะเดียวกันเขารีบวิ่งเข้ามาหา เสียงเรียกของวอร์ตันเรียกความสนใจจากอีกหลายคน และพวกเขาทุกคนต่างวิ่งออกมาดู ขณะเดียวกันก็ออกมาชุมนุมและร้องเรียกอย่างตื่นเต้น นี่ทำให้คนที่อยู่ในห้องอื่นหรือแม้แต่พวกที่อยู่ข้างนอกพลอยให้ความสนใจไปด้วย
“ลินลี่ย์” เดเลียเดินเข้ามาหาอย่างดีใจ
“ฮ่าฮ่า,ตอนนี้คงไม่ต้องให้ร่างแยกของข้าทั้งหมดรั้งฝึกฝนต่อทั้งหมดแน่แท้” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น กระบวนการเสริมพลังครั้งนี้ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อร่างหลักของลินลี่ย์เท่านั้น แม้แต่ร่างแยกศักดิ์สิทธิ์สี่ร่างก็ได้รับการเสริมพลังทั้งหมด ความจริง แม้ว่าร่างแยกสี่ร่างของเขาจะไม่สามารถแปลงเป็นมังกรได้ แต่ร่างของพวกเขาในตอนนี้ก็ทรงพลังเหลือเชื่อ
ตาของเดเลียทอประกายวูบ ถ้าลินลี่ย์ไม่ต้องอยู่ฝึกสมาธิ นั่นหมายความว่าเขาจะมีเวลาอยู่กับนาง
“น้องสาม! ข้าต้องการจะออกไปเที่ยวข้างนอกสักหน่อย เรารอเจ้าอยู่คนเดียว” เยลหัวเราะขณะที่เขากอดภรรยา
“ใช่แล้ว แต่พี่ใหญ่มักจะเอาแต่ฝึกอยู่เสมอ” บีบีจงใจล้อเช่นกัน
ลินลี่ย์เริ่มหัวเราะ “ฮ่าฮ่า, ก็ได้, อย่างนั้นข้าจะไปเที่ยวกับพวกเจ้าทุกคน อย่างไรก็ตาม บอกตามตรงมีหลายที่ในแดนนรกที่ไม่เคยไป แดนนรกมีสถานที่อยู่มากมาย เราไปเที่ยวแดนนรก และจากนั้นไปเยี่ยมชมพิภพโลกธาตุอื่นทีละแห่ง”
หลังจากถึงสุดยอดพลังระดับเทพแล้ว ลินลี่ย์ไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไป เขามีความสุขมากที่ได้อยู่กับครอบครัวเดินทางท่องเที่ยวแดนนรกและพิภพโลกธาตุต่างๆ