ตอนที่ 20-20 ผ่านไปพันปี ความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง
หลายปีมาแล้วมหาเทพบลัดริจได้ประหารชีวิตโมลด์ในเมืองลูซีฟ ในแคว้นสกายเมาท์
ความวุ่นวายดังกล่าวดึงดูดความสนใจจากเจ้าเมืองลูซีฟเป็นธรรมดา และเทพชั้นสูงหลายคนเช่นกัน แต่มหาเทพบลัดริจเพียงแต่ออกคำสั่งเจ้าเมืองไม่ต้องให้ความสนใจ นอกจากนี้มหาเทพบลัดริจกำจัดร่างของโมลด์ เนื่องจากว่ามหาเทพออกคำสั่ง..จึงไม่มีใครในเมืองลูซีฟกล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เป็นธรรมดา
ดังนั้นเรื่องนี้จึงจบลงได้
โมลด์กลัวว่าลินลี่ย์จะไล่ล่าตามฆ่าเขา ซึ่งเป็นเหตุผลให้เขาซ่อนตัวอยู่ในเมืองลูซีฟ เขาเช่าคฤหาสน์อยู่ที่นั่น แม้ว่าหลังจากเขาตายแล้ว ทหารของแคว้นสกายเมาท์ยังเชื่อว่าเขายังปลอดภัยและมีชีวิตเป็นปกติ
แคว้นสกายเมาท์ จวนอดีตเจ้าแคว้น ทหารหลายคนยืนประจำการอยู่ที่นี่
พระอาทิตย์สีเลือดลอยอยู่ในท้องฟ้า ทันใดนั้นมีสายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้า จากนั้นชะงักอยู่ในกลางอากาศเหนือคฤหาสน์เจ้าแคว้น กลายเป็นร่างมนุษย์คนหนึ่ง คนผู้นี้ยืนนิ่งอยู่ในกลางอากาศ เอวของเขาตั้งตรง แม้ว่าเขาจะค่อนข้างผอม แต่รัศมีคุกคามผู้คนแผ่ออกมาจากตัวเขา ศีรษะของเขาคลุมไปด้วยผมยาวสยาย ทิ้งตัวลงมาถึงเอวเขา
บนหลังของเขามีดาบศึกเล่มหนึ่ง
คนผู้นี้คือยอดฝีมือที่ลินลี่ย์เคยพบเจอในทะเลสตาร์มิสท์ - โรมิโอ ในอดีตโรมิโอมีพลังที่น่ากลัวใกล้เคียงกับยอดฝีมือระดับเทพอสูร
“นี่คือจวนเจ้าแคว้น รีบออกไปซะ” ทหารประจำแคว้นจำนวนหนึ่งบินเข้ามา คนที่เป็นนายกองตะโกนบอกโรมิโออย่างไม่พอใจ
โรมิโอแผ่รัศมีออกไปทันที และเขายังคงลอยตัวอยู่เหนือคฤหาสน์เจ้าแคว้น เขาแสดงออกชัดเจนว่าต้องการท้าทาย
โรมิโอกวาดตามองคนที่อยู่ด้านใต้ “จากวันนี้เป็นต้นไป ข้าโรมิโอ บอนเซนจะเป็นเจ้าแคว้นสกายเมาท์!” เสียงของเขากึกก้องเหมือนฟ้าผ่า สะท้อนอยู่ในอากาศ ทหารประจำการทั้งแสนคนที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินคำพูดของขาชัดเจน
“บังอาจ!” ชายชราผมขาวในชุดดำโกรธ “เจ้าแคว้นสกายเมาท์เราคือท่านโมลด์ ถ้าเจ้าต้องการเป็นเจ้าแคว้น อย่างนั้นก็ต้องทำตามกฎ ก่อนอื่นเป็นอสูรเจ็ดดาวให้ได้เสียก่อน จากนั้นค่อยมาท้าทาย”
ทหารประจำแคว้นข้างล่างต่างพากันโกรธไม่พอใจกันทุกคน
คนผู้หนึ่งจะกลายเป็นเจ้าแคว้นก็แค่เพราะเขาเอาแต่พูดแค่เพียงนั้นหรือ? การปรากฏตัวเหนือจวนเจ้าแคว้นและประกาศตัวเป็นเจ้าแคว้นก็ได้ด้วยหรือ? นี่น่าขันยิ่งนัก
“ครืน...”
คลื่นพลังงานสีดำหนาทึบที่น่ากลัวลอยลงมาจากท้องฟ้า ทำให้ทหารประจำแคว้นข้างล่างประหลาดใจ หนึ่งในทหารโดยเฉพาะ ผู้อาวุโสชุดยาวดำจ้องมองจนสีหน้าเปลี่ยน “พลังมหาเทพผู้ทรงอำนาจ...”
และจากนั้นพลังมหาเทพที่เต็มท้องฟ้าเริ่มผสานกันจนเป็นรูปใบหน้าที่สูงสิบเมตร
“ควั่บ...”
พลังที่น่ากลัวของมหาเทพ
“มหาเทพ” ทหารประจำแคว้นทุกคนที่อยู่บนพื้นคุกเข่าและตัวสั่น
“มหาเทพ” โรมิโอลงมายืนบนพื้นและคุกเข่า
“โมลด์เจ้าแคว้นสกายเมาท์คนก่อนได้กระทำความผิดและถูกประหารชีวิตไปแล้ว จากวันนี้เป็นต้นไป ตำแหน่งเจ้าแคว้นสกายเมาท์จะตกเป็นของโรมิโอที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเจ้า” เสียงเหมือนฟ้าผ่าดังขึ้นในหูและในใจทุกคน รัศมีและลักษณะของมหาเทพกดลงที่ทหารประจำแคว้นอย่างน่ากลัว ไม่มีเลยสักคนที่กล้าเงยหน้าขึ้น
และจากนั้นใบหน้ายักษ์ขนาดสิบเมตรหายไปทันที โลกกลับคืนเป็นปกติอีกครั้ง
เพียงแต่ตอนนี้ทหารประจำแคว้นจึงค่อยกล้าเงยหน้า เมื่อเห็นว่ามหาเทพไปแล้ว พวกเขาจึงลุกขึ้นยืน
“คารวะท่านเจ้าแคว้น” คนที่มีความคิดว่องไวในพวกเขารีบหันไปคุกเข่าแสดงความเคารพโรมิโอ
“คารวะท่านเจ้าแคว้น!” ทันใดนั้นทหารอื่นอีกหลายแสนพากันคุกเข่าข้างหนึ่งและแสดงความคารวะเจ้าแคว้นพร้อมกัน
สายตาที่เยือกเย็นและแหลมคมกวาดมองพวกเขาทุกคน แต่รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าเขา หลังจากคร่ำเคร่งฝึกฝนมานานหลายปี เขากลายเป็นเจ้าแคว้นจนได้ ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในเทพอสูร 108 ของแดนนรกแล้ว
อย่างไรก็ตามโรมิโอได้รับมอบตำแหน่งนี้โดยมหาเทพแต่งตั้ง เขาไม่ได้รับตำแหน่งมาโดยวิธีเอาชนะเจ้าแคว้นคนเก่าตามปกติ แต่เป็นการแต่งตั้ง ดังนั้นเป็นธรรมดาที่คนหลายคนจึงไม่ค่อยเชื่อพลังของโรมิโอ ใครจะคิดกันเล่าว่าในอนาคตอาจจะมีอสูรเจ็ดดาวสองสามคนมาท้าประลองกับเขา
“อย่างนั้นก็มาเถอะ ยิ่งมากยิ่งดี” ตาของโรมิโอเป็นประกาย
แดนนรก ทวีปคาโรล อสูรโลหะรูปมังกรดำกำลังบินอยู่ในท้องฟ้า
“ท่านเจ้าแคว้นตายจริงๆ! การเดินทางของเราไร้ประโยชน์ไม่ใช่หรือ?” ภายในอสูรโลหะ มีเทพชั้นสูงสิบห้าคนรวมอยู่
พวกที่ไปส่งข่าวที่ทะเลสตาร์มิสท์ใช้เวลาเดินทางน้อย แต่ไม่ใช่กลุ่มนักรบเทพชั้นสูงที่ถูกส่งไปทวีปคาโรลแน่ พวกเขาเพิ่งมาถึง ความจริงเทพชั้นสูงร้อยคนในระหว่างร้อยปีที่ผ่านมามีเพียงราวสี่สิบคนที่ส่งข่าวได้สำเร็จ คนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่ได้รับมอบให้ไปไกลกว่าไม่สามารถไปได้ทันเวลา
หลังจากโรมิโอมาถึงแล้วจากนั้นเขาปล่อยร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกจับเป็นตัวประกันที่จวนเจ้าเมืองพวกทหารจึงรู้ว่าโมลด์ตายแล้ว
“โมลด์ตายแล้ว ไม่มีรางวัลสำหรับพวกเรา ต่อให้เราส่งข่าวเสร็จก็ตาม พี่น้องเรา, ไปกันเถอะ ได้เวลากลับบ้านแล้ว”
“เราเดินทางตั้งร้อยปี แต่ไม่ได้อะไรเลยแม้แต่น้อย”
เห็นได้ชัดว่าทหารเหล่านี้ไม่พอใจกันมาก
“เฮ้, เอาอย่างนี้เป็นไง เราจะขายข่าวทั้งหมดนี้ออกไป? ข้อมูลนี้ยังเป็นข้อมูลสำคัญมาก ถ้าเราขายให้หน่วยข่าวกรองของปราสาทอสูร เราจะได้รับรางวัลที่สูงเหมือนกัน โมลด์ตายไปแล้ว เขาไม่สามารถฆ่าเราได้ที่ปล่อยข้อมูลนี้ให้รั่วออกไป”
“ใช่แล้ว ข่าวนี้ต้องมีค่าอย่างแน่นอน”
“ข่าวนี้พูดถึงท่านลอร์ดลินลี่ย์ เท่าที่ข้าเห็น โมลด์ตั้งใจทำอันตรายลอร์ดลินลี่ย์” ทหารเหล่านี้ไม่เชื่อว่าข่าวนี้จะเป็นจริง
ทันทีที่ทหารเหล่านั้นเดินทางไปโดยไม่ได้อะไร และไม่มีหวังจะได้รับรางวัลจากโมลด์ตามที่สัญญา พวกเขาตัดสินใจ พวกเขาขายข้อมูลที่น่าทึ่งนี้ให้ปราสาทอสูร ปราสาทอสูรมีหลายแผนกแตกต่าง อาทิ คุ้มกัน ล่าสังหาร ล่าสมบัติ...และแน่นอน พวกเขาซื้อข้อมูลรายงานข่าวกรองจากหน่วยข่าวกรอง
หลังจากปราสาทอสูรจ่ายเงินซื้อข้อมูลนี้ ทหารเหล่านั้นผู้ไม่กลัวการตอบโต้ของโมลด์ได้แจ้งปราสาทอสูรว่าเป็นโมลด์ที่สั่งให้พวกเขาส่งข่าวนี้ให้เจ้าแคว้นและทูตมหาเทพต่างๆ
หลังจากได้รับข้อมูลนี้ ปราสาทอสูรจะต้องขายออกให้ยอดฝีมือผู้สนใจด้วยราคาที่สูง เป็นธรรมดาที่ข่าวนี้ได้รับรู้กันในหมู่ยอดฝีมือแดนนรก
ยอดฝีมือส่วนใหญ่เชื่อว่าโมลด์พยายามทำร้ายลินลี่ย์
แต่ก็มีส่วนน้อยที่เชื่อข่าว ดังนั้นพวกเขาจึงลงพื้นที่เพื่อค้นหาเครื่องรางทั้งสาม เพื่อที่ว่าจะได้นำมาเสนอให้มหาเทพเพื่อรับรางวัล
แน่นอนว่าข่าวนี้แพร่กระจายมาถึงหูมหาเทพอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่หลังจากมีการประชุมทางไกลแล้ว มหาเทพไม่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก และในขณะเดียวกันมหาเทพยังหงุดหงิด ข้อมูลเหล่านี้กระจายไปในที่ต่างๆ แบบนั้นได้ยังไง มหาเทพออกคำสั่งไม่ให้ปราสาทอสูรขายข้อมูลนี้อีกต่อไป
แต่ไม่..
เนื่องจากข้อมูลนี้กระจายออกไปทั่วไปแล้ว คำสั่งมหาเทพออกมาช้าเกินไป
เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบต่อลินลี่ย์ ชีวิตลินลี่ย์ยังคงเงียบสงบสุขเหมือนเคย อย่างไรก็ตามลูกหลานที่ลินลี่ย์พามาจากพิภพยูลานหลังจากใช้เวลาหลายร้อยปีในแดนนรก เริ่มจะกระสับกระส่าย
แดนนรกมียอดฝีมือมากเกินไป
ลูกหลานของตระกูลบาลุคเกือบทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นเซียน หลังจากผ่านพิธีชุบตัวก็กลายเป็นเทียมเทพ ในแดนนรกสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ก็คือถูกทำร้าย
เพียงอาศัยอำนาจของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ ลูกหลานของตระกูลบาลุคจากทวีปยูลานยังสามารถเที่ยวไปได้ไม่กี่เมืองของแดนนรก อย่างไรก็ตามพวกเขาพบว่าเป็นชีวิตน่าเบื่อ และหลายคนตัดสินใจกลับไปทวีปยูลาน ลินลี่ย์ไม่ห้ามพวกเขา แค่อาศัยเหรียญตรามหาเทพ เขาก็สามารถส่งกลุ่มลูกหลานกลับไปได้
ในพริบตาเดียวผ่านไปอีกพันปี นับตั้งแต่โมซีนำข้อมูลมาแจ้งให้ทราบ
พันปีสำหรับพวกเทพไม่ถือว่ามาก
ระหว่างช่วงพันปีนี้ ลินลี่ย์มีความก้าวหน้าในกฎทั้งสี่มาก เขาเริ่มหลอมรวมเคล็ดชีพจรโลกและเคล็ดพลังโจมตีมิติของกฎธาตุลมได้ ความจริงเขาหลอมรวมเคล็ดนี้ได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เขายังคงเริ่มหลอมรวมเคล็ดโจมตีมิติและเคล็ดวังวนอ่อนหยุ่นของธาตุน้ำเข้าด้วยกัน เพียงแต่เขายังไม่เชี่ยวชาญการหลอมรวมเคล็ดทั้งสองเหล่านี้
สำหรับร่างธาตุไฟ..
ความเร็วในการฝึกฝนในธาตุไฟของเขาช้าจริงๆ และยิ่งเขาฝึกมาก ก็ยิ่งช้ามาก เขาใช้เวลาพันปีหลังจากเชี่ยวชาญห้ากฎธาตุลึกลับธาตุไฟ และใช้เวลาทั้งหมดฝึกเคล็ดพลังระเบิดแต่ก็ยังไม่เชี่ยวชาญเสียที
ภูเขาสกายไรท์ คฤหาสน์ลินลี่ย์
ใต้ต้นวิลโลว์ที่หนาทึบกิ่งบิดเกลียวภายในลานว่าง ต้นวิลโลว์เขียวมีชีวิตมานานมากกว่าแปดร้อยปี และกิ่งก้านของมันห้อยย้อยดูงดงาม
“เยล, แม้ว่าเจ้าจะกลายเป็นเทพผ่านการหลอมรวมประกายเทพ ก็อย่ายอมแพ้ บางทีบางคนที่หลอมรวมกับประกายเทพก็มีโอกาสหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ ดูอย่างข้าสิ ข้าไม่มั่นใจว่าความสามารถข้าเองจะหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ แต่ไม่ใช่..ข้า บีบียังหลอมรวมเคล็ดลึกลับได้ตั้งสองเคล็ด จริงไหม? ฮ่าฮ่า” บีบีหัวเราะลั่นได้ยินมาจากใต้ต้นวิลโลว์
ใต้ต้นวิลโลว์มีโต๊ะไม้สีดำบุรุษสามคนนั่งล้อมวงคุย สามคนนี้ได้แก่บีบี เยลและวอร์ตัน
“ข้าไม่ได้หวังอะไรสูงสุดสอยอย่างนั้น” เยลหัวเราะเบาๆ “ดูข้าสิ, ตอนนี้ข้าเป็นเทพชั้นสูงแล้ว แม้ว่าข้าจะมาถึงระดับนี้ได้โดยผ่านการหลอมรวมประกายเทพ แต่ความแตกต่างระหว่างจุดที่ข้าเป็นในตอนนี้และจุดที่ข้ายังอยู่ในสถาบันเอินส์ยิ่งใหญ่แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน นอกจากนี้ ข้ายังฟื้นฟูก่อตั้งหอการค้าดอว์สันได้แล้ว และเรามีกลุ่มลูกหลานจำนวนมาก ข้าพอใจแล้ว ฮ่าฮ่า สิ่งเดียวที่ข้าเหลือในตอนนี้คือสำราญกับชีวิต บางทีข้าอาจไปโลกธาตุอื่นแล้วผจญภัยบ้างก็ได้ ข้าเป็นแค่เทพชั้นสูงที่ผ่านการหลอมรวมประกายเทพ แต่ในโลกธาตุธรรมดา ข้าไม่มีอะไรต้องกลัว และ..ข้ายังมีหยดพลังมหาเทพที่น้องสามให้ข้าไว้”
หลังจากกลายเป็นเทพ เขากลับไปยังทวีปยูลานและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นสองร้อยปี
ระหว่างช่วงเวลาสองร้อยปี เยลมีบุตรธิดาสิบเก้าคน โดยอาศัยพลังอำนาจของจักรวรรดิบาลุค เขาก่อตั้งหอการค้าดอว์สันอีกครั้งโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมาก บุตรและธิดาสิบเก้าคนของเขารับภาระงานของเขา และหอการค้าดอว์สันกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง จากนั้นเยลรู้สึกเบื่อจึงพาภรรยาคนที่สามมาแดนนรกกับเขา
แต่แน่นอนว่าเวลานั้นเยลโชคไม่ดี ขณะที่ถือเหรียญตรามหาเทพ เขาต้องไปจากทวีปยูลานเข้าแดนนรกจากนั้นกลับแปดครั้งรวดก่อนจะมาถึงทวีปบลัดริจ
ประตูเทเลพอร์ตสำหรับผู้ถือเหรียญตรามหาเทพไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้
“เยล, บีบี..ข้าสงสัยว่าอีกนานเท่าใดกว่าข้าจะได้ไปโลกธาตุอื่นเพื่อเที่ยวชมบ้าง” วอร์ตันหัวเราะขณะที่รำพึงในใจตนเอง
เบรุตให้เหรียญตรามหาเทพกับลินลี่ย์ แต่ไม่ได้เอาคืน เนื่องจากลินลี่ย์ไม่ได้ใช้ เขาจึงให้บีบีและวอร์ตันยืมใช้บ่อยๆ
“จะใจร้อนไปทำไม? ต่อไปเราจะให้พี่ใหญ่พาเราไปด้วยกันก็สิ้นเรื่อง” บีบีกล่าว
ขณะที่พวกเขาคุยกัน...
“ครืน...” ระลอกพลังที่เกิดจากกฎธาตุธรรมชาติเริ่มชะลอตัวลงมา ทิศทางก็คือภายในที่อยู่ของลินลี่ย์
บีบี วอร์ตันและเยลลุกขึ้นยืนทันที
“นั่นมาจากที่ฝึกฝนของน้องสาม...” เยลรีบกล่าว
“ฮ่าฮ่า พี่ใหญ่บรรลุระดับใหม่แล้ว ในที่สุดร่างแยกธาตุไฟของพี่ใหญ่ก็บรรลุเคล็ดลึกลับใหม่ได้เช่นกัน” บีบีร้องเรียกฉลองยินดี
เป็นอย่างที่บีบีพูดแน่นอน ร่างแยกธาตุไฟของลินลี่ย์บรรลุระดับใหม่
แสงสีแดงอาบฉายไปทั้งห้องที่พำนัก
ลินลี่ย์ที่ตอนนี้มีผมสีน้ำตาลยาวนั่งขัดสมาธิ แต่ข้างๆ เขาเป็นลินลี่ย์ที่มีผมสีแดงลอยตัวอยู่ อัญมณีสีดำที่เปล่งประกายแสงสีแดงลอยอยู่เหนือศีรษะลินลี่ย์นี้ นั่นคือประกายเทพธาตุไฟของเขา มวลธาตุไฟหนาแน่นม้วนตัวอยู่รอบประกายเทพ ภายในนั้นแฝงไปด้วยกฎธรรมชาติของโลก
ขณะต่อมา
“ในที่สุด ก็สำเร็จ” ลินลี่ย์นั่งอยู่ในท่าสมาธิลืมตาขึ้น ร่างแยกธาตุไฟของเขาเข้าไปในร่างของเขา
“ร่างแยกธาตุไฟของข้าฝึกฝนได้ช้ากว่าร่างแยกอื่นมากจริงๆ โชคดีที่ตั้งแต่ร่างแยกธาตุไฟของข้าสามารถแบ่งพลังงานจากสี่วิญญาณร่างแยกอื่น จึงค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ทำให้ความเร็วในการฝึกฝนของข้ารวดเร็วขึ้นมาก มิฉะนั้นบางทีข้าคงไม่อาจบรรลุและเชี่ยวชาญเคล็ดที่หกนี้ได้อย่างรวดเร็ว” ลินลี่ย์ลุกขึ้นยืน หน้าของเขาประดับด้วยรอยยิ้ม “โดยการใช้พลังเทพสามรูปแบบธาตุ พลังของข้าเทียบได้กับตอนใช้พลังมหาเทพ อย่างนั้นด้วยพลังเทพสี่แบบ..?”
ในที่สุดลินลี่ย์ก็สามารถทดสอบความรู้สึกของการใช้พลังเทพสี่รูปแบบหลอมรวมกัน
หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น หน้าของเขามีรอยยิ้ม ลินลี่ย์หลอมรวมพลังของเขา และเมื่อเขาทำเช่นนั้น สีหน้าของเขาชะงักค้าง
“แครก...” เสียงประหลาดดังขึ้นในร่างของลินลี่ย์ และกล้ามเนื้อในร่างทั้งหมดของเขาเกร็ง
เกล็ดมังกรสีทองฟ้าของเขาผุดขึ้นมาทันที และหนามโผล่ออกมาจากหน้าผากและกระดูกสันหลัง หางมังกรผุดออกมาจากด้านหลัง และพลังที่น่ากลัวแผ่ไปทั่วตัวลินลี่ย์
“นี่...นี่ นี่มันเหลือเชื่อมาก” ตาของลินลี่ย์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ