ตอนที่ 20-18 เรื่องตลก
ภายในหอโถงใหญ่ คนภายนอกทั้งหมดแยกออกมา
มหาเทพสตาร์มิสท์นั่งอยู่บนบัลลังก์ดวงตาสีม่วงเข้มของเขามองที่ลินลี่ย์ “ลินลี่ย์! เท่าที่ข้าทราบมาเจ้าได้รับเครื่องรางจอมเทพมุกวิญญาณเก้าเม็ด และโองการจอมเทพซึ่งอธิบายถึงของทั้งสามนี้ เครื่องรางจอมเทพและโองการจอมเทพไม่มีประโยชน์ใดกับเจ้า ทางที่ดีที่สุดเจ้าส่งออกมาให้ข้าโดยตรงดีกว่า แน่นอนว่าข้าจะไม่รับมอบเปล่าๆ แน่นอน”
“อภัยให้ข้าด้วยเถิด มหาเทพ” ลินลี่ย์คำนับขณะกล่าว “ข้าไม่ได้ครอบครองเครื่องรางจอมเทพหรือโองการมหาเทพเลย”
“ครืนนน...”
รัศมีสีดำเยือกเย็นและน่ากลัวไม่มีแม้แต่แสงจางๆแผ่ขยายออกมาจากร่างมหาเทพสตาร์มิสท์ ในทันใดนั้นทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ ลินลี่ย์รู้สึกแต่เพียงว่าร่างของเขาหนาวเหน็บขึ้น และขาของเขาอ่อนแรง เขารู้สึกเหมือนกับเขากลับไปเป็นเด็กน้อยเมื่อตอนพบเห็นมังกรดำอสูรเวทระดับเก้าเป็นครั้งแรก
ความแตกต่างระหว่างเทพและมหาเทพกว้างใหญ่ไพศาลมาก!
“มหาเทพ” เบรุตที่อยู่ใกล้ๆ รีบกล่าว “เป็นไปได้ว่าท่านไม่รู้ว่ามหาเทพธาตุลมและมหาเทพบลัดริจก็ตามหาลินลี่ย์มาแล้ว? ลินลี่ย์ได้สาบานด้วยถ้อยคำสาบานต่อจอมเทพชะตา และมหาเทพบลัดริจเองก็ได้ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่ากับดักที่วางเอาไว้เพื่อทำร้ายลินลี่ย์”
“โบซันและคนอื่นก็มาด้วยหรือ?” สายตาของมหาเทพสตาร์มิสต์มองดูที่เบรุต
“ขอรับ, มหาเทพ” เบรุตรีบอธิบาย “ข่าวนี้ถูกส่งออกไปโดยเจ้าแคว้นสกายเมาท์ชื่อโมลด์ ก่อนหน้านี้ลินลี่ย์ได้ฆ่าร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดของเขา โมลด์ไม่สามารถตามล้างแค้นได้ ดังนั้นเขาจึงคิดแผนนี้ขึ้น มิฉะนั้นจะกลายเป็นเรื่องบังเอิญขนาดนั้นได้ยังไง หลังจากที่ลินลี่ย์ฆ่าร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้วเขาจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเครื่องรางจอมเทพนี่หรือ?”
“โมลด์...” มหาเทพสตาร์มิสท์รู้ว่าข้อมูลนี้มาจากคนชื่อโมลด์จริงๆ “เขาอยากตายหรือ?” เสียงทุ้มนั้นแฝงไปด้วยความโกรธ
“โมลด์ต้องการล้างแค้นลินลี่ย์ แม้ว่าจะต้องทุ่มเทด้วยชีวิตของเขาเองก็ตาม” เบรุตรีบกล่าว “หลังจากเสียร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดไป โมลด์ไม่มีค่าคู่ควรอีกต่อไป แต่ลินลี่ย์เป็นเทพพารากอน ความแตกต่างระหว่างทั้งสองยิ่งใหญ่นัก สำหรับโมลด์ยินดีใช้ชีวิตที่ไร้ค่าของเขาแลกกับชีวิตของลินลี่ย์..นั่นแหละคือเหตุผล”
“โมลด์อยู่ที่ไหน?” มหาเทพสตาร์พูดเย็นชา
“เขาถูกมหาเทพบลัดริจประหารชีวิตไปแล้ว” เบรุตอธิบาย “มหาเทพธาตุลม ลอร์ดเทเรเซียและมหาเทพบลัดริจโกรธเขา ลินลี่ย์ก็ต้องการไล่ล่าและฆ่าโมลด์ แต่โมลด์เป็นทูตของมหาเทพบลัดริจในที่สุดมหาเทพบลัดริจเป็นผู้ประหารชีวิตโมลด์เอง”
มหาเทพสตาร์มิสท์เงียบและเขาจ้องมองลินลี่ย์
ลินลี่ย์รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลจากดวงตาของมหาเทพนี้
ทันใดนั้น...
มหาเทพสตาร์มิสท์ขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปที่ประตูโถงใหญ่ ร่างเลือนรางร่างหนึ่งปรากฏขี้นและกลายเป็นรูปร่างของมหาเทพบลัดริจ
“โบซัน! เจ้าก็มาด้วยหรือ?” มหาเทพสตาร์มิสท์กล่าว
มหาเทพบลัดริจยิ้ม จากนั้นคำนับเล็กน้อย เขาหัวเราะพลางเดินเข้ามาและกล่าว “ข้าย่อมมาแน่นอน ท่านมาถึงอาณาเขตของข้า ข้าจะไม่มารับท่านได้ยังไง? สตาร์!ดูเหมือนว่าเครื่องรางจอมเทพน่าหลงใหลดึงดูดใจจริงๆ ก่อนหน้านี้เทเรเซียก็ไล่ตามลินลี่ย์และต้องการจะบังคับให้ลินลี่ย์ส่งมอบให้ ลินลี่ย์ไม่มีทางเลือกได้แต่สาบานกับจอมเทพ”
และจากนั้นมหาเทพบลัดริจนั่งลงด้วยเช่นกัน
มหาเทพบลัดริจหัวเราะขณะที่เขามองดูลินลี่ย์และเบรุต “ไม่ต้องห่วง,มหาเทพสตาร์มิสท์ไม่เหมือนเจ้าบ้าเทเรเซียนั่น”
“พอเถอะ” มหาเทพสตาร์มิสท์อดชำเลืองมองมาทางมหาทพบลัดริจไม่ได้ “ในเมื่อลินลี่ย์สาบานกับจอมเทพไปแล้วและเจ้าก็เป็นพยานยืนยันพฤติกรรมของเขา..ข้าเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด แต่โบซัน..โมลด์ทูตของเจ้ากล้าสร้างข่าวแบบนี้จริงๆ หรือ? เมื่อมีคลื่นก็ต้องมีลมพัด ข้าคิดว่าจอมเทพผู้ทรงพลานุภาพอาจจะออกภารกิจมาอย่างแท้จริง”
มหาเทพบลัดริจพยักหน้า “ก็มีเหตุผล แต่ถ้ามีภารกิจอย่างนั้นจริงๆอย่างน้อยเราต้องเห็นหนึ่งในสามเครื่องรางจอมเทพใช่ไหม? สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือโองการจอมเทพ โองการจอมเทพจะอธิบายภารกิจ แต่ข้อมูลบนคำสั่งนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน นี่เป็นเหตุให้แม้จะมีภารกิจจอมเทพแต่ไม่มีทางที่โองการจอมเทพจะมีข้อมูลคนถือหนึ่งในเครื่องรางเป็นแน่”
มหาเทพสตาร์มิสท์พยักหน้า
ทันใดนั้น...
“ครืนน....” สำนึกเทพที่น่ากลัวของมหาเทพสตาร์มิสท์แผ่ออกไปทันที
“สตาร์,ทำไมเจ้าใช้สำนึกเทพคลุมทั่วแดนนรกเล่า?” มหาเทพบลัดริจพูดด้วยความสงสัย
เมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ลินลี่ย์รู้สึกกระวนกระวายใจ คลุมได้ทั้งแดนนรก? ระยะของสำนึกเทพของคนๆหนึ่งสามารถระบุได้ถึงพลังวิญญาณและพลังปณิธานของคนผู้นั้น ลินลี่ย์สามารถขยายสำนึกออกไปได้เพียงแปดล้านกิโลเมตร และนั่นเป็นเพราะพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่ง แต่มหาเทพเล่า? พวกเขาสามารถครอบคลุมได้ทั้งทั่วแดนนรก
ทุกคนสามารถคิดได้ว่าปณิธานของมหาเทพแข็งแกร่งขนาดไหนเมื่อเทียบกับพลังปณิธานเขาเอง
มิน่าเล่าเมื่อมหาเทพมาด้วยตนเองเพื่อจัดการกับพารากอน พารากอนนั้นจะต้องตาย เว้นแต่แน่นอนว่าพารากอนหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมหาเทพและหนีไปพิภพโลกธาตุแทน
“เป็นธรรมดาเราต้องพูดคุยเรื่องนี้กับมหาเทพอื่นในแดนนรก มิฉะนั้นทุกสิบปีหรือทุกร้อยปีมหาเทพอื่นก็จะมากันอีก และเราไม่แน่ใจว่าข่าวนี้จะจริงหรือไม่” มหาเทพสตาร์มิสท์พูดอย่างเยือกเย็น
ลินลี่ย์รำพึงในใจ “สนทนากันกับมหาเทพแดนนรกทุกคน?”
ทวีปเรดบุดที่อยู่ไกลทวีปเจดโฟลทตะวันออก ทะเลเชาติคที่กว้างใหญ่..
มหาเทพแยกย้ายกันอยู่ในแผ่นดินที่ห่างไกลตอนนี้ทุกคนติดต่อกันผ่านสำนึกเทพ
“สตาร์! ทำไมเจ้าถึงส่งสำนึกเทพถึงทุกคน?” ลึกลงไปในทะเลเชาติค เสียงพูดที่ทรงพลังเหลือเชื่อดังกึกก้องในใจของมหาเทพทุกคน
“ท่านประมุข,ข้าส่งสำนึกเทพถึงทุกคนเพราะมีข่าวแพร่กระจายไปในแดนนรกเรื่องเครื่องรางจอมเทพ ทันทีที่ข้าทราบข่าวนี้ จึงเป็นเหตุผลให้ข้าคิดว่าดีที่สุดคือส่งสำนึกเทพคุยกับทุกคนในเรื่องนี้โดยตรง” เสียงของมหาเทพสตาร์มิสท์ดังก้องในใจของมหาเทพทุกคนเช่นกัน
เหล่ามหาเทพสามารถใช้สำนึกเทพครอบคลุมทั้งดินแดนนรกไม่มีความจำเป็นที่พวกเขาต้องมาประชุมคุยพร้อมกันต่อหน้า
“เครื่องรางจอมเทพ?” เสียงร้องประหลาดใจและดีใจดังขึ้นนี่คือเสียงจากมหาเทพแห่งทวีปมูจา
“จอมเทพออกภารกิจมาอีกหรือ?”
“ภารกิจอะไร?”
หลายเสียงก้องสะท้อนดังออกมาต่อเนื่อง
แต่แน่นอนว่ามีแต่เพียงมหาเทพที่ได้ยินเสียงนี้เท่านั้น แม้แต่ลินลี่ย์และคนอื่นก็ไม่สามารถได้ยิน
“ฮึ่ม..ข่าวนี้เดิมทีมาจากทูตมหาเทพของโบซัน” เทเรเซียมหาเทพธาตุลมพูดออกมา สี่พิภพชั้นสูง รวมทั้งในแดนนรก กว้างใหญ่กว่าโลกธาตุศักดิ์สิทธิ์อื่นซึ่งเป็นเหตุให้มหาเทพอื่นหลายคนอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน
แดนนรกไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่มหาเทพวิถีทำลายล้างเท่านั้น
ตัวอย่างเช่นอาจมีมหาเทพธาตุลม ธาตุดิน หรือธาตุไฟที่นี่คนหรือสองคนดังนั้นมหาเทพที่ร่วมประชุมในตอนนี้รวมถึงมหาเทพในสิบเอ็ดสายด้วย
“ทุกท่าน” มหาเทพบลัดริจพูดขึ้นทันที “ข้าต้องขอโทษจริงๆ ข่าวนี้เดิมทีมาจากโมลด์ทูตที่อยู่ในการปกครองของข้า ตามที่ข้าตรวจสอบดู เขาต้องการล้างแค้นหลังจากสูญเสียร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดเนื่องจากถูกเทพพารากอนฆ่าตาย ดังนั้นจึงสร้างเรื่องโกหกนี้ขึ้น เทเรเซียและข้าติดตามเรื่องนี้ดูแล้วไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องตลก”
“เทพพารากอนคือใคร?” เสียงดังก้องขึ้นในใจของมหาเทพแต่ละคน
“เขาชื่อลินลี่ย์ เทพพารากอนของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์” เสียงของเทเรเซียดังขึ้น
“ลินลี่ย์?” เสียงปลาบปลื้มอ่อนโยนเสียงหนึ่งดังขึ้น เสียงนี้เดิมทีมาจากผู้ทรงพลังที่พำนักอยู่ภายในเทือกเขาอะเมทิสต์“ลินลี่ย์กับข้ามีความเกี่ยวข้องกันอยู่บ้าง เขาเพิ่งฝึกฝนมาเพียงสองสามพันปี แต่เขานับเป็นอัจฉริยะจริงๆนี่เขาเข้าถึงระดับพารากอนแล้ว”
“พารากอน?”
“เขากลายเป็นเทพพารากอนหลังจากผ่านไปไม่กี่พันปีหรือนี่? เป็นไปไม่ได้!!!”
“อีกอย่างข้ารู้จักเทพที่ชื่อลินลี่ย์ซึ่งกลายเป็นเทพพารากอน ข้ามองเห็นระหว่างการสู้ศึกสุดท้ายของสงครามมหาพิภพ เขาเอาชนะแม็กนัสได้ แต่ข้าไม่รู้ว่าเขาฝึกได้ยังไงแค่ไม่กี่พันปี”
มีเสียงดังขึ้นมาจากแดนนรกในทิศทางต่างๆผ่านแดนนรกที่กว้างใหญ่ไพศาล มหาเทพต่างสนทนากันเอง ทุกคนค่อนข้างตกตะลึง
ที่สำคัญแม้แต่ในมหาเทพส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นพารากอน มหาเทพส่วนใหญ่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอำนาจถือกำเนิดโดยธรรมชาติหลังจากเอกภพก่อกำเนิดไม่นาน เหตุผลที่พวกเขากลายเป็นมหาเทพเป็นเรื่องของโชคและพลังอำนาจ แทบจะไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับพวกเขาไม่ว่าพวกเขาจะเคยเป็นเทพพารากอนหรือไม่
ในใจพวกเขามหาเทพโดยมากรู้สึกชื่นชมพวกที่สามารถกลายเป็นเทพพารากอนได้
ที่สำคัญการกลายเป็นเทพพารากอนเกี่ยวข้องกับความสามารถของผู้ฝึก ขณะที่การกลายเป็นมหาเทพเป็นเรื่องของโชคและวาสนามากกว่า
“ลินลี่ย์เพิ่งจะกลับมาจากสงครามมหาพิภพได้ไม่นานบางทีเขาคงจะมีเรื่องขัดใจกับคนชื่อโมลด์และสุดท้ายเขาฆ่าร่างแยกที่ทรงพลังที่สุดของโมลด์ โมลด์ไม่มีพลังพอจะแก้แค้นได้ ดังนั้นจึงคิดแผนนี้ขึ้นมา” นี่คือการตัดสินของมหาเทพเรดบุด “ลินลี่ย์ใช้เวลาเพียงไม่กี่พันปีจึงจะเป็นเทพพารากอนได้ และเครื่องรางจอมเทพไม่มีประโยชน์ต่อเขาข้าคิดว่าเขาคงไม่โง่พอพยายามซ่อนเครื่องรางจอมเทพไว้แน่”
“จริง” เสียงของมหาเทพบลัดริจดังขึ้น “ลินลี่ย์ อยู่ต่อหน้าเทเรเซียได้ใช้คำสาบานจอมเทพ เทเรเซีย! ข้าพูดถูกหรือเปล่า?”
เสียงของเทเรเซียไม่ได้ดังขึ้นรับทันที เพียงแต่หลังจากเวลาผ่านไปชั่วขณะ เขาจึงตอบรับ“ใช่แล้ว ลินลี่ย์กล่าวสาบานจอมเทพว่าก่อนที่ข้าจะบอกเขาเรื่องนี้เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องเครื่องรางจอมเทพแม้แต่น้อย”
“ข้าจำเป็นต้องบอกกับทุกท่านอีกเรื่องหนึ่ง” มหาเทพบลัดริจสรุป “ข่าวนี้มาจากกระดาษธรรมดา ไม่ใช่โองการจอมเทพ”
“ไม่ใช่โองการจอมเทพ? แล้วเราจะพูดเรื่องนี้ไปทำไม?”
“ไม่มีโองการจอมเทพปรากฏออกมา ต่อให้มีเครื่องรางจอมเทพวางอยู่ข้างหน้าเรา บางทีเราไม่สามารถตรวจสอบได้ว่านั่นคือเครื่องรางจอมเทพหรือไม่ โลกธาตุก็สามารถให้กำเนิดของบางอย่างที่ไม่เหมือนใครได้เหมือนกัน”
มหาเทพหลายคนพูดคุยเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องตลก
เสียงของเทเรเซียดังขึ้น “แต่กระดาษชิ้นนั้นอธิบายถึงของสามอย่าง”
“มีแต่คำอธิบายในโองการจอมเทพเท่านั้นที่เชื่อถือได้จริง เทเรเซีย...อะไรกัน ด้วยพลังของเจ้าเจ้าต้องการเข้ามาแข่งด้วยหรือ? ต่อให้จอมเทพออกภารกิจมาจริงๆ แต่ด้วยพลังของเจ้าข้าคิดว่าถ้าเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยผลสุดท้ายเจ้าก็จะล้มเหลว” เสียงทุ้มดังขึ้นมาจากร่างที่ทรงพลังในทวีปคาโรวที่อยู่ห่างไกล
เทเรเซียเงียบ
ทั้งนี้เป็นเพราะมหาเทพที่พูดมีพลังมากกว่าเขาห่างไกล
“โมลด์ผู้นั้นช่างกล้าจริงๆ” เสียงนี้ดังมาจากทะเลเชาติค “อย่างไรก็ตามเพราะเขากล้าอ้างเช่นนั้นก็หมายความว่าอาจจะเป็นความจริงก็ได้ที่เขาต้องการแก้แค้นลินลี่ย์ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต..เขาอาจจะได้รับข้อมูลบางอย่างมาจริงและอาจเคยเห็นโองการจอมเทพจริงๆ ช่างเถอะ, สำหรับตอนนี้ไม่ต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้อีก เพียงแต่เมื่อโองการจอมเทพปรากฏขึ้นในโลกจะต้องมีข้อพิสูจน์ว่าจอมเทพได้สั่งภารกิจมาจริงๆ”
คำพูดของประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้างได้ผล ทันทีที่คำพูดของเขาดังขึ้นมหาเทพอื่นไม่พูดอะไรต่อไป
ภายในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ลินลี่ย์ ลินลี่ย์เพียงแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ข้างหนึ่งเงียบๆ เขารู้ว่ามหาเทพกำลังสนทนาผ่านสำนึกเทพ
“พวกเขาอยู่กระจัดกระจายทั่วแดนนรกและสามารถสนทนากันผ่านสำนึกเทพได้ น่ากลัวอย่างแท้จริง” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
ทันใดนั้น...
มหาเทพสตาร์มิสท์ลุกขึ้นยืนและลินลี่ย์รีบหันหน้ามาทางเขา มหาเทพสตาร์มิสท์ชำเลืองมองลินลี่ย์มีรอยยิ้มที่ยากจะเห็นปรากฏบนใบหน้าของเขา “เจ้ากลายเป็นเทพพารากอนได้หลังจากใช้เวลาไม่กี่พันปีเองหรือ? ลินลี่ย์... นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ” หลังจากพูดจบมหาเทพสตาร์มิสท์ก็หายไป
มีแต่เพียงลินลี่ย์ถอนหายใจโล่งอก
“เขารู้ได้ยังไงว่าข้ากลายเป็นเทพพารากอนหลังจากผ่านไปไม่กี่พันปี?” ลินลี่ย์งง
มีน้อยคนมากในตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่รู้ว่าลินลี่ย์ฝึกมานานแค่ไหน มีน้อยคนที่ตกลงกันไว้อย่างเช่นรีสเจมก็รู้เรื่องนี้
“ฮ่าฮ่า, เทพพารากอนที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่พันปี” มหาเทพบลัดริจหัวเราะขณะที่เขามองลินลี่ย์ “ข่าวนี้มาจากมหาเทพเรดบุด ลินลี่ย์, ข้าคิดว่าภายในช่วงเวลาสั้นๆ มหาเทพของโลกธาตุต่างๆ จะรู้เรื่องนี้กันทั้งหมดตกลงว่าเรื่องของเจ้าได้บทสรุปไปแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลว่าจะมีมหาเทพมาตามหาตัวเจ้าเพิ่มอีก”
“ขอบคุณมหาเทพ” ลินลี่ย์คำนับและกล่าวด้วยความเคารพ
ลินลี่ย์รู้ว่ามหาเทพบลัดริจยืนยันเข้าข้างเขาอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวโน้มว่าเขาช่วยพูดเรื่องนี้แทนเขาในการพูดคุยกับมหาเทพอื่น ไม่ได้ความช่วยเหลือจากมหาเทพท่านนี้มหาเทพอื่นคงมาสร้างความยุ่งยากให้เขานานแล้ว
“ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว ข้ามีเรื่องจะพูดคุยกับเบรุตก่อน” มหาเทพบลัดริจกล่าว
“ขอรับ” ลินลี่ย์ถอยออกมาทันทีและปล่อยให้เบรุตกับมหาเทพบลัดริจสนทนากันต่อในห้องโถงใหญ่