ตอนที่ 728 ดาบมารพิฆาต
หลูเทียนเหวินเหาะไปตามสันเขา
เขาตกใจอย่างหนักเมื่อได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับบุรุษหน้ากากผีในระหว่างทางสามารถฆ่าสองในสี่ขุนพลตระกูลฉินได้ไม่มีอะไรมาก แต่สามารถทำลายหน่วยพลธนูของฉินจื่อเจินได้ราบคาบ นั่นทำให้เขาสั่นสะเทือน
หน่วยพลธนูของเฉินจื่อเจินไม่ได้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างเนื่องจากพวกเขามักเก็บตัวทำตัวไม่โดดเด่น แต่ทุกตระกูลมีความกลัวต่อหน่วยพลธนูในระดับหนึ่งซึ่งรองลงมาจากฉินเจิ้น พวกเขาคือนักสู้ฝีมือดีซึ่งผ่านการฝึกฝนการใช้อาวุธคู่มือมาอย่างหนัก แม้แต่หลูเทียนเหวินก็ยังไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถเดินหน้ารับมือหน่วยพลธนูได้
‘บุรุษหน้ากากผีนี้แข็งแกร่งมากขนาดไหน?’
ใจของหลูเทียนเหวินสั่นสะท้านเมื่อได้รับข่าวจากหลูหลิงหนาน ตระกูลหลูส่งหลูเทียนเหวินออกไปโดยไม่ลังเลใจทันที ตระกูลหลูมีทรัพยากรที่แข็งแกร่งมากกว่าตระกูลฉินมากแม้ตระกูลฉินจะได้รับการส่งเสริมจากฉินเจิ้นและยังเรียกสี่ขุนพลมาจากที่อื่นด้วยก็ตาม แต่ตระกูลหลูรุ่นนี้ก็ยังมียอดฝีมือที่ประสบความสำเร็จอยู่ด้วยและหลูเทียนเหวินเป็นหนึ่งในนั้น
เจตนาของตระกูลหลูต้องการให้เขาใช้ความเร็วนำตระกูลเซวียกลับมาอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด ตระกูลหลูใช้ความอดทนไปหมดแล้ว
ตามเส้นทางหลูเทียนเหวินได้รับรู้ว่าตระกูลเซวียเข้าร่วมกับฝ่ายบุรุษหน้ากากผีแล้วและตระกูลฉินได้รับความพ่ายแพ้หนักหน่วง
เขารู้สึกว่าเรื่องกลับกลายเป็นยุ่งยากมากขึ้น และมีหนทางเดียวคือฆ่าบุรุษหน้ากากผี แต่เมื่อคิดถึงฉินเจิ้นแล้ว เขาอดสะใจกับความลำบากของฉินเจิ้นไม่ได้ ฉินเจิ้นเป็นบุรุษที่มีความทะเยอทะยานเมื่อเขามาถึงเมืองม้าบิน เขาเริ่มวางแผนการต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มว่าข่าวนี้ควรไปถึงหูของฉินเจิ้นแล้ว และเขาคงโกรธจนถึงชั้นฟ้าเป็นแน่
‘แต่ใช้ข้าไปฆ่าบุรุษหน้ากากผี ถือว่าเขาลงทุนถูกๆ ได้เลย’
หลูเทียนเหวินไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อฉินเจิ้น สำหรับเขาแล้วฉินเจิ้นเป็นคนที่ฉลาดเป็นกรดมีพลังยากจะหยั่งถึง เขาแค่เชี่ยวชาญในการทำให้คนอื่นไม่ชอบเขา ‘โอว..ดีเลย ข้าก็แค่ทำในฐานะเป็นสินค้าที่ดีเท่านั้น’ หลูเทียนเหวินปลอบใจตนเอง
ข้อมูลที่ส่งมาโดยหลูหลิงหนานรวมทั้งที่ตั้งของปราสาทเขาสะท้อน
หลูเทียนเหวินคร้านจะเข้าเมืองไปพบกับหลูหลิงหนาน เขาฝึกคิดง่ายๆ เข้าไว้เพื่อให้ภารกิจบรรลุผลสำเร็จโดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ตราบใดที่ข้าฆ่าบุรุษหน้ากากผีเรื่องที่เหลือทั้งหมดปล่อยให้หลูหลิงหนานจัดการ
ในถิ่นทุรกันดารขึ้นสู่ยอดเขา ปราสาทหินสามารถเห็นได้ชัดเจน
***********************
ถังเทียนมองดูรอบๆตัวเขา ในช่วงเวลาสั้นๆ สองสามวันนี้ ทั่วสถานที่ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงไม่มีหยากไย่และฝุ่นให้เห็นตามมุมห้องอีกแล้ว ตู้หนังสือจัดวางอยู่ในห้องเต็มไปด้วยหนังสือ
ถังเทียนเดินเข้าไป เขาต้องเดินอย่างแผ่วเบาอย่างช่วยไม่ได้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคารพยำเกรง แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนขยันเรียนหนังสือนัก แต่ถังเทียนยังให้ความเคารพในการศึกษา
“ตระกูลเซวียมีประวัติศาสตร์เกินกว่าสองร้อยปี แม้ว่าจะไม่นับว่ามากในดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็นับว่ามั่นคง” น้ำเสียงของแม่เฒ่าตระกูลเซวียเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ แต่แฝงด้วยความเจ็บปวด “ตระกูลเซวียเป็นตระกูลชาวเขาเล็กๆ และเป็นบรรพบุรุษของเราที่ได้รับมรดกมาโดยบังเอิญทำให้เราเริ่มเจริญขึ้น ตอนนั้นตระกูลเซวียยังไม่มีอิทธิพลมากนักด้วยประมุขตระกูลของเรานี้ผู้ตระหนักถึงการสั่งสมความมั่งคั่งให้ตระกูล เขาไม่ยอมให้ให้ตระกูลใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า แต่กลับทุ่มเทจิตวิญญาณมองหามรดกต่างๆ ขณะนั้นตระกูลเซวียของเราสร้างห้องสมุดเรียกว่าห้องสืบค้นตระกูลเซวียมีบันทึกมรดกที่อยู่ภายใน สำหรับศิษย์ของตระกูลเซวียได้ค้นหาข้อมูล เนื่องจากความสามารถในการมองการณ์ไกลของเขา อัจฉริยะและผู้มีพรสวรรค์มากมายเกิดขึ้นในตระกูลเซวีย เพื่อการขยายตระกูลเซวียในอนาคต
ถังเทียนฟังอย่างรวดเร็ว เขาไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของตระกูลใหญ่อย่างนั้น แต่เขาสามารถแยกแยะความทรงจำของแม่เฒ่าผู้ใช้ชีวิตผ่านกาลเวลา
หมิงจูนั่งอยู่ข้างๆฟังอย่างตั้งใจ แม้ว่านางจะจำประวัติศาสตร์นี้ได้นานแล้ว แต่เมื่อฟังหญิงชราเล่าเรื่องนี้ทำให้นางตั้งใจฟังอย่างหลงใหล
“บันทึกที่นี่คือบันทึกทั้งหมดที่ทำโดยบรรพบุรุษรุ่นแรกที่ถูกเนรเทศเข้ามาในแดนบาป เนื่องจากบันทึกหลายอย่างนึกเอาจากความทรงจำจึงยากจะหลีกเลี่ยงส่วนที่ผิดพลาดได้ บันทึกส่วนใหญ่นั้นจะไม่มีค่ามากแต่ใช้อ้างอิงในการทำงานได้”
หน้าของแม่เฒ่าตระกูลเซวียไม่รู้สึกสงสารแต่อย่างใด
“นี่ไม่เพียงแต่เราเท่านั้นตระกูลอื่นก็เหมือนกัน มรดกที่มีชื่อเสียงที่สุดของบ้านตระกูลเซวียก็คือคลื่นเมฆาไม่มีประโยชน์อีกต่อไป บรรพบุรุษทั้งหลายของเราหมดพลังวิญญาณและพลังใจไม่สามารถสร้างขึ้นมาในแดนบาปอีก ภายใต้ความจนใจนั้น บรรพบุรุษของเราได้แต่มองหาวิธีอื่นจากมรดกอย่างอื่น มันเรียกว่า ‘ร่างปีศาจสามสาย’ มีมากมายในมรดกตกทอดหลายอย่างซึ่งตระกูลเซวียรวบรวมไว้แต่ก็ถือว่าเป็นวิชาระดับต่ำ แต่บรรพบุรุษของเราพบว่า แม้ว่า ‘ร่างปีศาจสามสาย’ ถูกมองว่าเป็นวิชาระดับต่ำในสวรรค์วิถีแต่วิชาเปลี่ยนแปลงที่ร่างกายได้นั้นเป็นเรื่องประณีต” หลังจากนั้นถังเทียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ข้าจะเรียนรู้อย่างดีที่สุด!”
แม่เฒ่าเซวียพอใจแต่ทันใดนั้น นางได้ยินถังเทียนพูดอย่างเขินอาย “แต่..ข้าจะอ่านหนังสือทั้งหมดนี้ได้ยังไง...”
นั่นคือข้อพิสูจน์ว่าคนโง่ที่ไม่พยายามเรียนรู้ให้มากย่อมอ่านหนังสือได้ลำบาก หนังสือกองพะเนินทำให้ถังเทียนตาลาย โชคดีสำหรับเขาที่หมิงจูได้เรียนวิชานี้มาก่อนและถ่ายทอดได้ไม่มีปัญหา หมิงจูแสดงลำดับทั้งหมดรวดเดียว และจากนั้นเริ่มอธิบายเกี่ยวกับเนื้อความในหนังสือ แต่นางก็ต้องตกใจเมื่อตระหนักว่าถังเทียนเริ่มฝึกฝนแล้ว”
‘วิชาดาบมารพิฆาตมีความชัดเจนมาก และง่ายต่อการเอาไปใช้ฝึกฝน
หมิงจูเพียงแต่อธิบายเบาๆ แต่เขาเข้าใจเนื้อความได้ ดาบมารพิฆาตเป็นวิชาที่ใช้โดยคนที่เดินตามเส้นทางการใช้พลังบริสุทธิ์ ไม่ได้มีหลายรูปแบบเกินไปมีเพียงห้ากระบวนท่า และทั้งหมดใช้ออกง่ายมากพลังของมันทั้งหมดมาจากพลังต้นกำเนิด โดยดำเนินการจากพลังภายนอก
อาจทำให้ในช่วงเวลาสั้นๆทำให้พลังของร่างกายมารวมกันที่จุดหนึ่ง และพลังของมันก็น่ากลัวตามธรรมชาติด้วย
ถังเทียนหมกมุ่นอยู่กับวิชาดาบมารพิฆาต เขาไม่ใช้อาวุธใดๆ เลยแต่มือของเขาเหมือนกับดาบฟันใส่อากาศข้างหน้าเขา ดาบมารพิฆาตจำเป็นต้องใช้การประสานงานทั้งร่างกายกระตุ้นพลังภายนอกเต็มที่ ทุกๆดาบที่ฟันใส่แฝงไว้ด้วยเคล็ดย่างเท้าและกล้ามเนื้อในร่างทั้งหมดจะถูกใช้เต็มที่
หนึ่งก้าว ฟันหนึ่งครั้งห้าก้าวต้องฆ่าได้แน่!
หน้าของถังเทียนเคร่งขรึมสีหน้าจริงจัง กฎของดาบมารพิฆาตเป็นกฎสันดาปเฉพาะตัวมาก เป็นการสันดาปพลังกายหยาบ
‘รู้สึกเหมือนมีแหล่งพลังที่ไม่สมบูรณ์...’
ทันใดนั้นถังเทียนจำได้ว่าหานปิงหนิงและพวกฝึกเพลิงสุญญตาน้อยซึ่งมีเคล็ดที่คล้ายกัน ‘นี่เหมาะกับหน่วยสุญญตาจริงๆ’ ถังเทียนตระหนักรู้ พลังของเพลิงสุญญตาน้อยแข็งแกร่งมาก และหลังจากสันดาปแล้วก็จะแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และเสริมวิชาดาบมารพิฆาต การฟันก็จะแฝงไว้ด้วยพลังร่างกายที่เต็มที่
‘พลังฟันนั้นทำให้แผ่นดินถล่มทลาย!’
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อน แต่การออกแบบของมันอยู่ในระดับวิชาชั้นยอด ส่วนของเพลิงสุญญตาของหน่วยสุญญตาทำให้พวกเขาหยุดนิ่งไม่ก้าวหน้า ขณะที่ดาบมารพิฆาตสามารถก้าวหน้าได้โดยผสานใช้ด้วยกัน และจะทำให้มันไร้เทียมทาน
จากนั้นถังเทียนเข้าใจเหตุผลที่ตระกูลเซวียค่อยๆตกต่ำ วิถีของการใช้พลังบริสุทธิ์จำเป็นต้องใช้พลังกายมากบรรพบุรุษของตระกูลเซวียมีพรสวรรค์และดูดซับแก่นพลังต้นกำเนิดจากกรวดเหล็กทองจึงจะสามารถปลดปล่อยพลังของดาบมารพิฆาตได้แต่อนุชนรุ่นหลังของเขาไม่มีพรสวรรค์เทียบเท่าเขาได้ และหลังจากสูญเสียความลับกรวดเหล็กทองพวกเขายิ่งยากจะกลับมาให้ความสำคัญได้
มันคือวิทยายุทธที่เด็ดขาด ถ้าร่างกายแข็งแรงถึงจุดพอพลังก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติแน่นอน แต่ถ้าร่างกายอ่อนพลังลงจุดหนึ่ง กำลังโดยรวมก็จะพลอยตกไปด้วย
ห้ากระบวนท่า แต่ละท่าจะเคลื่อนไหวด้วยความระห่ำและเด็ดขาด ภาพร่างในใจถังเทียนเคลื่อนตัวฟันโจมตีดูเหมือนจะไม่สามารถหยุดได้
เป็นท่าฟันที่น่ากลัวถังเทียนเลือดลมพลุกพล่าน แต่เขาต้องควบคุมตนเอง ข้าถ้าเขาใช้พลังทั้งหมด ปราสาทเขาสะท้อนคงพินาศสิ้น
ดังนั้นเขาต้องการให้ศัตรูปรากฏและได้การต่อสู้ที่ดีสักครั้ง
เหมือนกับว่ามีบางคนรู้สึกได้ถึงความคิดเขา เสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นแสดงว่าศัตรูบุกรุก