ตอนที่ 727 แหกกฎความรู้ทั้งปวง
วัชพืชและก้อนหินทั้งหมดบนลานหินของปราสาทเขาสะท้อนถูกกวาดเรียบ หินเมฆโกเมนปลดปล่อยหมอกอบอุ่นขับไล่อากาศเย็นในยามราตรี ถังเทียนไม่ได้อยู่ในแดนทุรกันดารของแดนบาปมาก่อนและไม่รู้ว่าความแตกต่างของอุณหภูมิในป่ารุนแรงมาก อากาศเย็นยามราตรีสามารถแทรกซึมเข้าร่างกายกัดกร่อนเลือดเนื้ออย่างเงียบงัน
แต่หินเมฆโกเมนสามารถสะท้อนความเย็นของยามราตรีได้
สมาชิกหน่วยสุญญตายืนตัวตรง พร้อมกับผิงเสี่ยวซาน ชาวดาวหมาป่าตื่นเต้นกันมากทุกคน สามารถได้รับคำแนะนำจากราชาของพวกเขาโดยตรง ถ้าพวกที่เหลือพบเข้า พวกเขาคงอิจฉาแทบตาย ผิงเสี่ยวซานก็ตื่นเต้นพอกัน เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่หน่วยสุญญตาที่ประพฤติได้ดีและเข้มงวดดูเหมือนดึงดูดใจเขา ตั้งแต่แรกเลย เขามักใช้ชีวิตตามลำพังและไม่ว่าเขาอยู่ที่ใด เขาต้องระมัดระวังและทำหลายอย่างระมัดระวัง ดังนั้นความเป็นสหายคืออะไร? เขาไม่เคยมีมาก่อน
ถังเทียนไม่ยอมเสียเวลา เขาเริ่มอธิบาย วิธีกระตุ้นพลังของร่างกาย และวิธีหากฎธรรมชาติที่เหมาะสมกับตัวเอง
ทุกคนมีร่างพลังกายเป็นศูนย์ พลังร่างกายของพวกเขาแข็งแรงมาก และพวกเขาเชี่ยวชาญในการใช้วิชานี้ วิชาของนักสู้สวรรค์วิถีพิถีพิถันมากเมื่อเทียบกับแดนบาป มีแต่ความแตกต่างกันก็คือกฎธรรมชาติ ในสวรรค์วิถีการรู้แจ้งกฎธรรมชาติเป็นเรื่องที่ทำได้ต่อเมื่ออยู่ในระดับสูง แต่ในแดนบาป ไม่มีพลังงานคอยรบกวน กฎธรรมชาติทั้งหลายถูกค้นพบและกระตุ้นได้ง่ายมากเมื่อเทียบกับของสวรรค์วิถี
ตราบใดที่พวกเขาสามารถหากฎธรรมชาติที่เข้ากันได้กับวิชาต่อสู้ของพวกเขา พวกเขาจะสร้างความสามารถในการต่อสู้ขั้นต้นของพวกเขา
ขณะนี้เองพวกเขาจำเป็นต้องเข้าใจกฎและรู้วิธีผสานเป็นรูปแบบ
กองทัพต้องเรียนรู้วิธีการสร้างรูปแบบกระบวนศึกอย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่อย่างนั้นกองทัพก็ไม่มีค่า นี่คืองานของเนี่ยชิว ใจของเนี่ยชิวมีความโดดเด่น และเขาไม่ใช่คนที่ยึดติดกับขนบธรรมเนียมเช่นเดียวกับการได้ฝึกในกลยุทธทหาร เขาไม่สงสัยเกี่ยวกับผู้ที่เหมาะสม
ในวันที่สอง ถังเทียนพาพวกเขาขัดเกลาสภาพร่างกายต่อไป
แม้ว่าอาโมรี่และพวกพลังกายเป็นศูนย์ร่างกายของพวกเขาไม่บริสุทธิ์เท่าถังเทียนก็จริง แต่พวกเขาก็ไม่มีพื้นที่และเวลามากสำหรับขัดเกลาพวกเขาเอง ถังเทียนหวังว่าแม้ว่าทุกคนไม่สามารถจุดไฟต้นกำเนิด แต่อย่างน้อยพวกเขาบางส่วนจะสามารถทำสำเร็จได้
หลังจากจุดไฟต้นกำเนิดแล้ว แก่นต้นกำเนิดชีวิตก็สามารถได้รับการกระตุ้นเพื่อใช้ศักยภาพเต็มที่ได้
ถังเทียนมีพลังชีวิตมากเนื่องจากแก่นต้นกำเนิดชีวิตยังคงซึมเข้าร่างของถังเทียนต่อไป การเสริมพลังให้ร่างกายของเขาทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้น พลังต้นกำเนิดในร่างของเขามีพลังมากยิ่งขึ้น
ถังเทียนเริ่มเข้าใจแล้ว แก่นพลังต้นกำเนิดชีวิตเป็นกฎชีวิต(เป็น)ที่บริสุทธิ์
กฎอวกาศ, เวลา, เป็นและตาย สามกฎธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ทั้งหมดนี้กว้างขวางและลึกซึ้งมีระบบที่ใหญ่โต แตกต่างจากกฎธรรมาชาติอวกาศและกฎเวลากฎเป็นและตายไม่มีการเปลี่ยนแปลง ชีวิตก็คือชีวิต ตายก็คือตายและเหมือนทั้งสองกฎนี้เป็นเหรียญ ทั้งสองกฎนี้ตรงกันข้ามตลอดไป
แก่นต้นกำเนิดชีวิตเป็นสิ่งที่แปลกเพราะมันเป็นรูปแบบชีวิตที่สูงส่งจากกฎธรรมชาติเป็นตายเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตที่มากที่สุด
ร่างกายที่ผ่านการปรับเปลี่ยนปรับปรุงมาในระดับสูงสามารถได้รับประโยชน์ที่มากกว่า เมื่อซึมซับแก่นต้นกำเนิดชีวิต เมื่อติดต่อกับกฎชีวิตร่างกายของพวกเขาจะเต็มไปด้วยพลังชีวิตมากขึ้น สร้างพลังชีวิตออกมา และดังนั้นเมื่อได้รับบาดเจ็บ พวกเขาจะสามารถฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
แต่ถ้าร่างกายยังเต็มไปด้วยความไม่บริสุทธิ์ อย่างนั้นก็จะไม่มีผลอะไรมาก
ถังเทียนเริ่มแนะนำทุกคนถึงวิธีใช้พลังร่างกายและทำให้สายใยกฎธรรมชาติปรากฏ ถังเทียนอธิบายอย่างละเอียด หลังจากมีประสบการณ์ด้วยตนเอง และเขามีร่างพลังกายเป็นศูนย์เขาสามารถแก้ปัญหาที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของทุกคนอย่างชัดเจน ดังนั้นเขาจึงอธิบายได้แจ่มแจ้งชัดเจน
ก่อนที่เขาจะอธิบายจบ ก็มีบางคนที่ทำให้สายใยกฎธรรมชาติปรากฏออกมาได้สำเร็จแล้ว
สิ่งที่ทำให้ถังเทียนประหลาดใจมากที่สุด คนที่ทำได้ก็คืออาโมรี่!
‘ว่ากันในเรื่องของพลังร่างกาย ไม่มีใครที่นี่เทียบกับเจ้ากระทิงเถื่อนนี่ได้ แต่ในเรื่องการรู้แจ้งเรื่องเช่นนั้น...ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า’
ดังนั้นเมื่อถังเทียนเห็นสายใยกฎนับไม่ถ้วนปรากฏออกมาข้างตัวอาโมรี่ เขาตกใจมากจนตาแทบถลนจากเบ้า
ร่างที่ใหญ่โตของอาโมรี่สามารถเทียบได้กับถังเทียน ดังนั้นเมื่อกฎธรรมชาติปรากฏจึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก
ภายในรัศมีสามสิบเมตร สายใยกฎธรรมชาตินับไม่ถ้วนก่อเกิดเป็นสายพานแสงแพรวพราวนับไม่ถ้วน
หน้าของผิงเสี่ยวซานซีดขาวขณะที่เขากลั้นหายใจ ‘อะ อะอะไร..กันวะนี่?’
‘ทุกคนมีประสบการณ์กับการปรากฏของสายใยกฎธรรมชาติซึ่งหน้า และแม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดก็มีสายใยกฎธรรมชาติเจ็ดถึงแปดสายปรากฏ และคนที่โดดเด่นสร้างสายใยกฎธรรมชาติได้หลายสาย แต่สร้างสายใยกฎธรรมชาติกว้างถึงสามสิบเมตร นี่ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?’
หมิงจูที่อยู่ใกล้ๆ ถึงกับปิดปากโดยไม่รู้ตัว ราวกับว่านางพยายามอุดกระแสความประหลาดใจของนางที่จะรั่วไหลออกมาจากปากให้กลับเข้าไปภายในตัว ตาของนางเต็มไปด้วยอาการตกใจ จิตใจนางว่างเปล่าและหลุดคำว่า ‘อัจฉริยะ’ ออกมา!
เถี่ยเซียผู้ยืนคุ้มกันที่กำแพงได้ยินเสียงความวุ่นวายและหันหน้ามาดู ทันใดนั้นตลอดทั้งตัวเขาแข็งทื่อสีหน้าเขาชะงักค้างตะลึงงงเป็นไก่ตาแตก
แสงรังสีนับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นสายลำแสงที่หนาแน่นแหวกว่ายอยู่รอบตัวอาโมรี่ทำให้เขามองไม่เห็นตัวของอาโมรี่
‘นะ..นะ..นี่....’
สมาชิกคนอื่นทุกคนมองดูอาโมรี่อย่างอิจฉา และทุกคนเริ่มแยกย้าย ไม่มีใครไม่พอใจกับผล อาโมรี่เป็นผู้ที่ทรงพลังแข็งแกร่งในหน่วยสุญญตาและเขาเป็นคนที่ฝึกฝนหนักมาก เขาเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่ายและเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนเช่นกัน
ภายในสายพานแสง สีหน้าอาโมรี่ซึมเซา เขาจ้องมองแสงกฎธรรมชาติที่แพรวพราวรอบตัวเขาและพึมพำ “เลือกอันไหนดีหว่า.. จะเอาสายไหนมาพัฒนาต่อ...”
เถี่ยเซียผู้อยู่ที่กำแพงเริ่มรู้สึกตัว ตาของเขาแดง มีสายใยกฎมากมาย จะเอาสายใยกฎไหนก็ได้เขาก็ต้องการสายใยหนึ่งให้กับตนเองแทบแย่ หลังจากนั้นชั่วขณะ ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวข้างล่าง เมื่อเห็นเช่นนั้น เถี่ยเซียกระโดดไปข้างตัวถังเทียนทันที “นายท่าน ให้เขาเลือกกฎ เร็วเข้า!”
“เขาไม่มีความคิดเรื่องนั้น” ถังเทียนมองดูเขาและกล่าว
“ถ้าเขาใช้เวลานานเกินไป พลังกายในตัวจะหมดไปกฎทั้งหมดจะหายไป และครั้งต่อไป...” เถี่ยเซียกระวนกระวาย การปรากฏของกฎธรรมชาติเป็นสภาพที่นักสู้ของแดนบาปทุกคนต้องประสบ และพวกเขาค่อนข้างจะคุ้นเคยกับการค้นคว้า ในฐานะที่ทุกคนร่วมศึกษาเรื่องนี้ด้วยกัน ถ้ามีคนลังเลและไม่สามารถเลือกได้ทันเวลาและพลังกายเสื่อมโทรมลง ก็จะทำให้พลาดหลายสิ่งหลายอย่าง
“โอว, มันไม่สำคัญ” ถังเทียนส่ายศีรษะ
ถ้าเทียบกันแล้ว พลังของเถี่ยเซียเป็นเหมือนเทียนเล่มเล็ก แต่พลังกายของอาโมรี่เป็นเหมือนกองไฟที่ลุกโชน
ถังเทียนพึมพำ “ด้วยสติปัญญาเขา เราต้องรอจนถึงพรุ่งนี้กว่าเขาจะเลือกได้”
‘ระ..รอถึงพรุ่งนี้เชียวเหรอ?’
เถี่ยเซียคิดว่าเขาได้ยินผิด เขาเบิกตากว้างและตกตะลึง ‘ร่างกายแบบไหนกันนี่..ถึงทำให้กฎธรรมชาติปรากฏได้จนถึงทั้งวัน?’
ถังเทียนปรบมือและตะโกน “ทุกคน, จงหาสถานที่และทดสอบมันด้วยตัวพวกเจ้าเอง ตอนแรกอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อพวกเจ้าหาความเชี่ยวชาญได้แล้ว ก็จะกลายเป็นเรื่องง่าย”
พูดเพียงแค่นั้น ถังเทียนก็ปัดก้นและเดินออกมา
คนอื่นทุกคนมองหาสถานที่ของตนเองและเริ่มฝึกซ้อม
โชคดีมาก มีคนอื่นสำเร็จ แต่โชคดีที่ไม่มีสายแนวแสงกว้างมากกว่าสามสิบเมตร แต่สายใยของแต่ละคนก็มีสายแนวแสง 15เมตรกันทุกคน นี่มัน...
เถี่ยเซียต้องยอมรับเป็นไปได้ที่ความอดทนของคนผู้หนึ่งจะเติบโตต่อเนื่อง เมื่อเขาเห็นสายแสงเส้นใหญ่เส้นแล้วเส้นเล่าไม่มีเส้นใดที่เล็กกว่าสิบเมตร เขาไม่ประหลาดใจอีกต่อไป
แต่เขามึนชาแทน
เขาใช้มือเท้าคางยืนเฝ้าที่กำแพงตลอดคืน แต่สายตาของเขาไม่เคยคลาดจากสายพานแสงที่ใหญ่ที่สุด เขาเชื่อแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถทนเรียกสายใยกฎธรรมชาติให้ปรากฏได้ทั้งคืน ‘เป็นความคิดที่น่าขัน และแม้ว่าจะเป็นเจ้านายพูดก็ตามแต่มันก็น่าขันอยู่ดี’
เขายืนอยู่กับที่รู้สึกว่าจำเป็นต้องรักษาความรู้ของตัวเขาเองไว้ เขาต้องการพิสูจน์ความจริง เพื่อแสดงให้เห็นว่าเจ้านายตัดสินใจผิด
ความจริงจะพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้านายของเขาผิด
อาโมรี่เลือกกฎธรรมชาติได้ในวันที่สาม
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า, ข้าเลือกได้แล้ว! ถังห้าว, มาเลย,เรามาสู้กัน ข้าจะทุบเจ้าจนกว่าฟันเจ้าจะหลุดออกมา...”
คนที่กำลังหัวเราะเหมือนเป็นบ้ายังแข็งแรงเหมือนเหล็ก แต่เถี่ยเซียไม่เหลือเรี่ยวแรงในตัวอีกแล้วความน่าสมเพชและความกระตือรือร้นที่อ่อนแอเพราะได้รับผลกระทบกระเทือน เขารู้สึกว่าองค์ความรู้ที่เขามีทั้งหมดพังทลาย และภาพที่อยู่ต่อหน้าเขาทำให้เขาเจ็บปวดใจเหมือนมีมีดกรีดเฉือน
เขาท้อแท้
ต่อให้เขาถูกถังเทียนทุบตีก็คงไม่ได้ยกระดับจิตวิญญาณของเขาได้เลยสักนิด
หน่วยสุญญตารวม 65 คนนอกจากเนี่ยชิวล้วนพบกฎธรรมชาติที่เหมาะกับตน สิ่งที่ทำให้เขารู้บ้ามากขึ้นก็คือ คนในหน่วยสุญญตาเริ่มฝึกกันแล้ว และเขาจ้องดูเจ้าคนร่างใหญ่มานานแล้ว ทำให้มีท่าทีเหมือนกับว่าเขายังมีข้องใจอยู่ลึกๆ
เกี่ยวกับวิธีการซึมซับกฎธรรมชาติให้เป็นวิชาต่อสู้ของตนเอง ถังเทียนไม่รู้วิธีสอน
ดังนั้นเขาเลิกวิธีง่ายที่สุด “จงทำความเข้าใจด้วยตนเอง”
สำหรับหน่วยสุญญตา การฝึกฝนผ่านการต่อสู้จริงเป็นวิธีการที่คุ้นเคยกันมากที่สุด เพลิงสุญญตาน้อยก็เข้าใจได้จากวิธีการนั้น ดังนั้นเมื่อถังเทียนให้คำสั่ง พวกเขาก็เริ่มจับกลุ่มกันสามถึงห้าคนและเริ่มทดสอบกัน
ทุกคนกระตือรือร้นอีกครั้งเมื่อพวกเขาเริ่มซ้อมมือและทุกคนเริ่มพิจารณาหาประโยชน์จากมัน
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ถังเทียนสามารถเห็นได้ว่าพวกเขามีหนทางอีกยาวนานในเรื่องสร้างความสามารถต่อสู้ได้จริง เทียบกับการฝึกฝนร่างกายการใช้กฎธรรมชาติจำเป็นต้องมีความเข้าใจมาก และค่อนข้างจะยากที่จะมีคนเข้าใจได้ลึกซึ้งเท่ากับหานปิงหนิง
พวกเขาคือกลุ่มคนที่น่ากลัว ดังนั้นการลองกับความคิดที่แปลกประหลาดไม่ใช่เรื่องง่าย
ถังเทียนรู้สึกอายอยู่บ้าง ดังนั้นเมื่อเห็นเถี่ยเซียที่แสดงท่าทีเฉื่อยชาอยู่ที่กำแพง เขามีความคิดทันที เขาสามารถถามเถี่ยเซียได้ เขาไม่เชื่อว่าทุกคนในแดนบาปจะเป็นคนฉลาด ต้องมีบางคนที่ไม่ค่อยฉลาดอยู่บ้าง
“เถี่ยเซีย, นักสู้ในแดนบาปสู้กันยังไง?”
เถี่ยเซียโพล่งออกไปโดยไม่รู้ตัว “ใช้พลังบริสุทธิ์ข่มศัตรูของพวกเขา”
“โอว.. แล้วจะทำอย่างนั้นได้ยังไง?” เมื่อได้ยินว่ามีวิธีแน่นอน ถังเทียนตื่นเต้น
ในที่สุดเถี่ยเซียก็สนองตอบ เขาสั่นและรวบรวมสมาธิทันที “เรียนนายท่านในการใช้พลังบริสุทธิ์เพื่อเอาชนะ ก็คือการใช้พลังกายเอาชนะนั่นเอง มีกฎมากมายหลายแบบไม่สิ้นสุด แต่เมื่อย่อลงแล้วก็เหลือสามถึงห้าแบบ ตราบใดที่สามารถฝึกฝนได้ดีในกฎเหล่านี้ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของทุกคน ตราบเท่าที่มีพลังกายมากเพียงพอ พลังที่สร้างขึ้นมาจะมีไม่น้อยนั่นคือวิธีใช้พลังบริสุทธิ์เอาชนะ”
ถังเทียนพยักหน้าให้เขาโดยตรง นับว่าเหมาะกับหน่วยสุญญตา
เนี่ยชิวกำลังฟังอยู่ด้านข้างพลันพูดขึ้น “ใช่แล้ว เริ่มต้นมองหาการต่อสู้จะดีที่สุดคือเราต้องวิธีสังหารที่แน่นอนหนึ่งหรือสองอย่าง เราต้องมีพลังพอ ดังนั้นเมื่อโจมตีศัตรูของเรา พวกเขาต้องตายเราจะไม่สนใจอาการบาดเจ็บของเราและหาทางฆ่าให้ได้ ด้วยระดับการฟื้นฟูที่รวดเร็วของเรา เรายังมีความได้เปรียบ การแลกการบาดเจ็บกับชีวิต จากตรงนั้นในเรื่องแนวโน้มข้าเชื่อว่าเราจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
ยิ่งเถี่ยเซียได้ยิน ก็ยิ่งรู้สึกว่าไร้สาระ ‘พวกเขาเป็นคนแบบไหนกัน?ยอมบาดเจ็บเพื่อแลกชีวิต... คนตาบอดนี่ช่างอำมหิตนัก!’
ยังดีที่แม่เฒ่าตระกูลเซวียและเดินเข้ามาสนทนาโดยตรง จากนั้นนางพูด “คุณชาย, ยายเฒ่าผู้นี้มีความคิดบางอย่างจะเสนอ”