ตอนที่ 724 รายงานตัว!
อาโมรี่รู้สึกว่าบรรยากาศภายในค่ายแปลกไปมาก มีทหารยามเล็กน้อยและดูผ่อนคลายมาก
“เฮ้, พี่เนี่ย! ดูเหมือนมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งนะ”
เนี่ยชิวรู้สึกหงุดหงิด ‘ทำไมเจ้าต้องพูดเสียงดังนักเล่า เจ้ากลัวว่าจะไม่มีใครได้ยินเจ้าหรือ?’
“ใช่แล้ว,ดูเหมือนจะมีเหตุการณ์อย่างหนึ่ง” เนี่ยชิวตอบ กับคนดันทุรังแบบนั้น ถ้าข้าไม่ตอบคำถามเขา เขาคงตามตื๊อจนกว่าข้าจะตอบเขานั่นแหละ จุดสำคัญคือคนผู้นี้เป็นรุ่นน้องคนหนึ่ง คนที่มาจากรุ่นเดียวกับนายท่านเป็นคนที่ยืนเคียงข้างนายท่านมาก่อนที่นายท่านจะได้รับการยอมรับ นี่คือคนที่เนี่ยชิวไม่กล้าตอแยด้วย
หลังจากมีประสบการณ์สองสามครั้ง เนี่ยชิวจะตอบเขาอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ด้วยเส้นทางของการฝึกฝน ทุกคนคุ้นเคยกันมากขึ้น เนี่ยชิวมีความเห็นที่ดีต่อคนหัวรั้น เขาเป็นคนตรง ซื่อสัตย์และจริงใจนอกจากจะโง่บ้างเล็กน้อย แต่เขาไม่ถึงกับเป็นอันตราย
เขาฝืนหัวเราะในใจ ‘เจ้ายังคิดเรื่องเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายของเจ้า นี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบที่ถูกส่งออกไปตายเมื่อสำเร็จการศึกษาแต่ดันกลายเป็นนักโทษแทนเสียได้’
การใช้แรงงานประจำวันทำให้เขาเหนื่อยล้าและสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแย่ก็คือปราณแท้ในร่างกายของเขาหายไปหมดแล้ว ไม่มีเหลือแม้แต่หยดเดียว เขาเป็นเหมือนคนพิการอย่างแท้จริง ไม่สามารถยกแขน ไม่สามารถเคลื่อนไหวไหล่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะอาโมรี่และพวกที่เหลือช่วยรับทำงานให้เขา เขาไม่รู้ว่าจะต้องโดนแส้หวดมากเท่าใด เขาจะต้องอดทนไปทุกวันๆ
มีทางออกอยู่ทางหนึ่งก็คือลงนามในสัญญาเพื่อรับใช้เจ้าของเหมืองโดยการขายตนเองด้วยความเต็มใจ ก็จะได้รับการยกเว้นใช้แรงงานและได้รับผลประโยชน์แทน
ไม่มีใครลงชื่อตกลง อาโมรี่และพวกที่เหลือแค่นเสียงใส่สัญญา พวกเขาทุกคนเชื่อมั่นในถังเทียนและไม่มีอารมณ์อะไรมากต่อการเป็นนักโทษคนหนึ่ง ‘นี่มันเกิดปัญหาอะไร ถังห้าวพบกับความพยายามที่สิ้นหวังมามากและผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้’ หน่วยสุญญตาประกอบขึ้นมาจากชาวหมาป่าเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาเกิดมาในท่ามกลางความยากจนมีนิสัยอดทนและแข็งแรงงานประจำวันอย่างนั้นไม่มีอะไรมากในสายตาพวกเขา
ตายเพื่อบุรุษหนุ่มผู้ฉุดพวกเขาออกมาจากนรกที่กันดารและไร้ชีวิตชีวามอบเกียรติยศและศักดิ์ศรีคือความภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวหมาป่า อารมณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอื่นเข้าใจ
พวกเขาไม่สื่อสาร แต่พวกเขาไม่เคยทรยศต่อความเชื่อมั่นตนเอง
แต่เนี่ยชิวไม่มีศรัทธาเพราะเขาเชื่อว่าเขามีเหตุผลพอจะพิสูจน์ว่าวิธีคิดของพวกเขาน่าขันจริงๆ เขาสามารถชี้ให้เห็นว่าผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีพรสวรรค์และพลังอำนาจมากกว่าห้าสิบคนมีเป้าหมายสูงส่งแต่ก็ตายเนื่องจากสิ่งนั้น เมื่อต่อต้านโลก ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งและทรงอำนาจเพียงไหนเขาก็เป็นคนไม่สำคัญ
แต่เขาไม่พูดออกมา เพราะเขาเป็นคนฉลาด การพูดเช่นนั้นอาจกระตุ้นโทสะคนอื่น และไม่มีใครต้องการได้ยินคำพูดเช่นนั้น ไม่มีใครยินดีฟังคำพูดแบบนั้น ไม่ว่าจะเป็นอาโมรี่หรือชาวหมาป่าพวกเขาดื้อรั้นกันทุกคน ยิ่งกว่านั้นเขาลำบากย่ำแย่เมื่อเทียบกับพวกเขา อยู่ในที่ไม่มีพลังงาน ยังเอื้ออำนวยให้อาโมรี่และพวกที่เหลือยังมีประโยชน์มหาศาล แต่ตัวเขาเองกลายเป็นคนพิการคนหนึ่ง คนพิการที่ไม่มีใครต้องการ
เนี่ยชิวเป็นคนฉลาดและจริงจัง เขารู้ว่าไม่ว่ายังไงเขาก็ยังมีค่า
แม้ว่าเขาไม่มีพลังงานและความแข็งแกร่งก็ตาม แต่เขาไม่เคยอาศัยคนอื่นเพื่อให้ได้รับอาหาร เขามีสมองและเป็นคนฉลาดที่สุดกว่าทุกคนในกลุ่ม สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือแอ่งตันเถียนของเขาเหือดแห้ง เส้นเดินชีพจรหายไป แต่ความรู้สึกของเขากลับคมชัดแทน
“จำนวนยามข้างนอกมีเพียงหนึ่งในห้าของปกติ” เนี่ยชิวพูดเบาๆ
“เป็นโอกาสดีแล้ว!” อาโมรี่ตาเป็นประกาย เขาตื่นเต้น แม้ว่าพลังของพวกเขาจะถูกควบคุม แต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา เขามีความเข้าใจแนวคิดวิธีต่อสู้สองสามอย่าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาโมรี่ผู้ใช้พลังถึกเหมือนคนบ้า แดนบาปเป็นที่ดีที่สุดและเหมาะสมสำหรับต่อสู้สำหรับเขามากที่สุดอย่างมิต้องสงสัย เป็นเวลานานมากแล้วที่ถังเทียนใช้แรงถึกสู้กับเขาและแพ้เขาอยู่เสมอ
เนี่ยชิวเป็นอัจฉริยะ ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถทำให้เลโอนรู้สึกลำบากใจที่จะให้เขาเข้าร่วมกับกลุ่มดาวหมีใหญ่ งานของเขาถูกแบ่งกันในกลุ่มพวกที่เหลือ ใจของเนี่ยชิวถูกความคิดของอาโมรี่ครอบงำ การช่วยตัวพวกเขาเองไม่ได้หมายความว่าต้องแหกคุกออกไป ทุกคนมีความเข้าใจแดนบาปเพียงเล็กน้อย และเขารู้ว่านั่นอันตรายเพียงไหน พวกเขาจำเป็นต้องมีพลังต่อสู้อย่างเพียงพอ และอาศัยการรับรู้ที่แหลมคมของเขา เขาเข้าใจความแตกต่างของแดนบาปอย่างเงียบงัน
สมาชิกผู้เต็มใจของหน่วยสุญญตากลายเป็นเครื่องทดลองที่ดีที่สุดของเขา
ในเวลาอันรวดเร็วมาก พวกเขาทำงานที่ถนัดสองสามอย่างที่สามารถทำให้พวกเขาปลดปล่อยพลังมากมายได้ แต่เพราะเขาไม่กังวลเรื่องต้องเคลื่อนไหว พวกเขาเลือกจะเก็บแรงเอาไว้ต่อไป
ทหารหนึ่งในห้า เนี่ยชิวมีปฏิกิริยาเป็นครั้งแรก ‘นี่เป็นกับดักหรือ?’ แต่เขาโยนความคิดนั้นทิ้งไปโดยเร็ว เขาสามารถรู้สึกได้ชัดเจนว่าแม้ว่าพวกทหารยามจะเข้มงวดและงานของพวกเขาจะหนักก็ตาม แต่งานจัดมาให้เป็นประจำมิได้ขาด นอกจากมองข้ามต้องโดนหวดสองแส้ ก็ไม่มีมาตรการเข้มงวดอื่น
‘ดูเหมือนพวกเขาจะเห็นคุณค่าชีวิตเรา’
หลังจากลอบสังเกต เนี่ยชิวยืนยันการคาดเดาของเขา ถ้าเป็นไปตามคาด อย่างนั้นพวกเขาอาจถูกลากออกไป แต่ไม่ฆ่า ดังนั้นควรจะหมายความว่ายังไง?
‘ต้องเกิดเหตุบางอย่างข้างนอก!’
ในฐานะที่เขาเองเป็นนายทหารผู้โดดเด่น เขาเฉียบแหลมต่อโอกาสในการสู้รบ แทบจะเป็นสัญชาตญาณ เนี่ยชิวรู้สึกได้ทันทีว่านี่เป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบ
ขณะนั้นเองเสียงระเบิดดังขึ้นจากปากทางเข้าทันทีเป็นที่ปากทางเข้าเหมืองข้างหน้า
หน้าของเนี่ยชิวเข้มงวด เขารีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว “ทุกคนรวมตัว เราต้องเตรียมตัว”
อาโมรี่วิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น นักโทษที่กำลังทำงานทุกคนรับทราบและเริ่มเข้ามาหาเนี่ยชิวจากตำแหน่งของตน การทำงานต่อเนื่องไม่ได้ทำให้การฝึกฝนของพวกเขาลดลง ความเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วและแม่นยำ
ผู้คุมขังตื่นตระหนก พวกเขามองดูที่ประตูใหญ่เป็นระยะๆแต่ในเวลาอันรวดเร็วการกระทำของนักโทษทำให้พวกเขากังวลมากขึ้น
“แยกย้าย! พวกเจ้าทุกคนแยกย้ายกันเลย! พวกเจ้าทุกคนต้องการตาย...”
ผู้คุมนักโทษตะโกน
ปัง!
ร่างหนึ่งปลิวกระเด็นเหมือนกระสอบทรายเข้ามาหาพวกเขา เป็นทหารยามคนหนึ่งที่ตายแล้ว พวกผู้คุมนักโทษคว้าคอพวกเขาและตะโกนให้หยุด
ร่างคุ้นเคยร่างหนึ่งปรากฏบนเนินด้านข้างเหมือง หน้ากากที่น่ากลัวของเขาทำให้ทุกคนตกใจ
“ข้าอยู่นี่แล้ว!”
เสียงที่คุ้นเคยดังก้องไปทั้งพื้นที่ เสียงโห่ร้องดีใจดังกระหึ่ม
“ถังห้าว! หานปิงหนิง! ข้าอยู่นี่!”
เสียงของอาโมรี่ดังกลบไปทั้งพื้นที่ เสียงดังราวกับฟ้าร้องขณะที่เขาชูมือโบกไปมาในอากาศ
เนี่ยชิวตะลึง ‘เป็นนายท่านถังเทียนจริงๆ!’
เขารู้สึกชัดเจนถึงกลิ่นอายน่ากลัวแผ่มาจากด้านประตูใหญ่ แต่ไม่เคยคาดเลยว่าจะเป็นนายท่านถังเทียน ‘นายท่าน,ท่านยังไม่ตายจริงๆ และท่านมาที่นี่เพื่อช่วยเรา!’ เขารู้สึกชัดเจนว่าคนอื่นก็ตื่นเต้นไปด้วย กำลังใจมาแล้ว.. สวรรค์ถล่มทลายแล้ว!
พวกผู้คุมนักโทษเอามือกุมศีรษะและลอบหนีไปซึ่งไม่มีใครให้ความสนใจใครอีกต่อไป
เถี่ยเซียตะลึง “พวกเขาคือบริวารของบุรุษหน้ากากผีหรือนี่? นี่คือนักโทษหน่วยสุญญตาที่เล่าลือกันหรือ? ไม่, พวกเขาไม่ใช่นักโทษอีกต่อไป’ ในฐานะคนโฉด เถี่ยเซียเห็นคนหักหลังมามากทรยศต่อความสัมพันธ์สายเลือดเพื่อผลประโยชน์แต่เขาไม่เคยเห็นเปลวไฟที่ลุกโชนในดวงตาคนที่เชื่อถือศรัทธาแม้ว่าบุรุษหน้ากากผีจะขอให้พวกเขาไปตายก็ตามพวกเขาจะไม่ลังเลเลย
‘พวกเขา...’
เพราะเหตุผลบางอย่าง กลุ่มคนนี้ทำให้เถี่ยเซียรู้สึกกลัวเหมือนกับว่าเปลวไฟที่ซ่อนอยู่ภายในดวงตาพวกเขาสะสมพลังที่ทำให้เขากลัว
‘ยังมีอุปสรรคอยู่ เราต้องหาทางคลี่คลาย..”
เสียงของผิงเสี่ยวซานดังเข้าหูเถี่ยเซีย ทำให้เขาตื่นจากตะลึง เขามองหาและกล่าวทันที “ข้าทำลายพันธนาการนี้ได้”
เถี่ยเซียไม่รู้ว่าบุรุษหน้ากากผีจะนำกลุ่มของพวกเขาเข้าทำลายหรือไม่ แต่เขารู้ว่าเขาลงเรือโจรไปแล้วซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะออกมา ไม่ว่าจะเป็นตระกูลหลูหรือตระกูลฉินไม่มีใครปล่อยเขาไปแน่
หมอกดำหุ้มรอบฝ่ามือของเขาซึ่งหมอกนั้นลอยเข้าหาร่างของอโมรี่อย่างรวดเร็ว และเข็มแสงถูกถอนออกมา ทันทีที่เข็มแสงเล่มสุดท้ายถูกถอนออก อาโมรี่รู้สึกว่าทั่วทั้งตัวเขามีแสงสว่าง ความรู้สึกถึงพันธนาการทั่วร่างกายหายไปโดยไม่มีร่องรอย
อาโมรี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำรามทันที!
กระแสรังสีที่ทรงพลังทะลักออกมาจากร่างของเขา เถี่ยเซียไม่มีเวลาป้องกันและเกิดอาการมึนงงจากพลังนั้น
เขาค่อยๆ หายตะลึง รู้ถูกความตกใจครอบงำ เขาเคยสู้ในแดนบาปมาก่อน และรู้จักคนหลายคนถ้าแค่ดูจากกลิ่นอายแล้ว เขารู้ว่าอาโมรี่เป็นคนที่แข็งแกร่งและกล้าหาญมาก
เมื่อเขากำจัดอุปสรรคเข็มแสงต่อไป นักโทษหน่วยสุญญตาทุกคนที่ดูเหมือนธรรมดาเริ่มเปล่งประกายของนักสู้ฝีมือดีทำให้เถี่ยเซียยิ่งตกใจมากขึ้น สิ่งที่ทำให้เขาหวาดผวามากขึ้นก็คือแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยินดีอย่างนั้น คนพวกนี้ก็ยังเงียบอยู่ได้ สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองไว้ได้
‘น่ากลัวจริงๆร้ายกาจ พวกเขาน่ากลัวมาก!’
เขารู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นแกะเชื่องที่ตกลงไปในฝูงสุนัขป่าเดียวดาย อ่อนแอและช่วยตัวเองไม่ได้ ‘โฮ่ย.. ใครควรจะเป็นคนโฉดจริงๆ กันแน่..’
อาโมรี่วิ่งไปหาถังเทียนและหานปิงหนิง น้ำลายเขาก็กระจายไปทั่วแล้วเสียงตะโกนโหวกเหวกตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้าง ทุกคนยืนตั้งแถวต่อเนื่องรอรับคำสั่งของถังเทียน
หานปิงหนิงหงุดหงิดอาโมรี่อยู่นานแล้ว นางใช้กระบี่และจ่อคออาโมรี่แค่นเสียงดุ“เงียบเลยนะ”
อาโมรี่แข็งชะงัก และมีท่าทางละอายทันที
หานปิงหนิงใช้กระบี่ของนางจี้อาโมรี่ให้กลับไปเข้าแถวเมื่อเห็นทุกคนยืนเข้าแถวประจำตำแหน่งเป็นอย่างดี เขาแสดงสีหน้าขอโทษ
เหมืองเงียบสงบลงอบอวลไปด้วยรังสีฆ่าฟัน
เถี่ยเซียกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก มีคนประหลาด 60คนอยู่ข้างหน้าเขา แต่รังสีฆ่าฟันที่พวกเขาปล่อยออกมาทำให้ใจของเขาเต้นแรงผิวของเขาชาไปหมด ผิงเสี่ยวซานที่อยู่ข้างเขาหน้าซีดเช่นกันริมฝีปากเขาแห้งแต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาและความตื่นเต้น
66 คน ทุกคนอยู่ในชุดนักโทษที่ขาดรุ่งริ่งหน้าและมือของพวกเขาเปื้อนฝุ่นโคลน เท้าเปล่าของพวกเขาเปียกโคลนผมกระเซิงกันทุกคน ผมและหน้ามีฝุ่นละอองเกาะทุกคนทุกคนคล้ายกับนักโทษที่ผ่านความยากลำบาก
แต่ทุกคนยังยืนตัวตรงไม่มีความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าอารมณ์ ดูเหมือนกับว่าทุกคนสวมเครื่องแบบที่คล้ายกันราวกับว่ายืนอยู่บนที่ราบแทนที่จะเป็นบ่อและที่มีหินโผล่ขึ้นมา สายตาของพวกเขาแหลมคม สีหน้าจริงจัง
เหมือนกับว่าพวกเขาผ่านการฝึกฝนมานับไม่ถ้วนการตั้งแถวของเขาหนักแน่นและเข้มงวดและยังคงอยู่ในความเงียบ
หานปิงหนิงก้าวออกมาข้างหน้าและทำท่าวันทยาหัตถ์กล่าวเสียงเข้มงวด “หานปิงหนิงแห่งหน่วยสุญญตาหมีใหญ่รายงานตัว!”
หน้าของอาโมรี่เคร่งขรึมพอกันปราศจากอารมณ์ยินดีและวันทยาหัตถ์พูดเสียงเข้ม “อาโมรี่แห่งหน่วยสุญญตาหมีใหญ่ รายงานตัว!”
เนี่ยชิวได้รับผลกระทบด้วยเช่นกันเขาก้าวเท้าออกมาข้างหน้าและวันทยาหัตถ์โดยไม่รู้ตัว “เนี่ยชิวแห่งหน่วยสุญญตาหมีใหญ่ ขอรายงานตัว!”
ทุกคนรายงานตัวทีละคน
“ลู่เฉินแห่งหน่วยสุญญตาหมีใหญ่ รายงานตัว!”
“...หน่วยสุญญตาหมีใหญ่รายงานตัว!”
“.....หน่วยสุญญตาหมีใหญ่ รายงานตัว!”
……
“รายงานตัว!” “รายงานตัว!” “รายงานตัว!”
บุรุษหนุ่มเบื้องหลังหน้ากาก น้ำตาคลอเบ้า