ตอนที่แล้วตอนที่ 721 อยากเป็นมนุษย์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 723 แมงป่องดาว

ตอนที่ 722 อาหง


พลังที่คาดไม่ถึงปะทุออกมาจากร่างของนาง

อาหงรู้สึกว่าสำนึกของพลังระเบิดเเทบจะทำลายร่างนาง  และวิญญาณนางเหมือนกับจะถูกพลังระเบิดทำลาย

แม้จะเป็นแค่หยดเลือดเทพเพียงหยดเดียว แต่ไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายธรรมดาจะทนรับได้  เมื่อสติของอาหงหายไป ทันใดนั้นนางรู้สึกว่าร่างของนางเบาเหมือนกับว่านางอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว  กระแสหมุนวนขนาดมหึมาเหมือนกับดาราจักรค่อยๆ หมุนตัวก่อให้เกิดแรงดึงดูดและปลดปล่อยพลังทำลายออกมาจากร่างนางเล็กน้อย  นั่นช่วยลดความกดดันในร่างของอาหงได้เป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีวังวนขนาดดาราจักรหมุนวนขนาดยักษ์ถึงสามวังวนดูดซับแรงระเบิดของเลือดเทพในร่างกายอย่างต่อเนื่อง

เป็นภาพลวงตาหรือ?

นางควรจะอยู่ในอ้อมแขนของเจ้านาย แล้วนางมาลอยอยู่ในท้องฟ้าได้ยังไง?

ขณะที่จิตสำนึกของอาหงกำลังตกอยู่ในความสับสน  ทันใดนั้นนางรู้สึกว่ากระแสพลังงานอบอุ่นโคจรอยู่ภายในร่างของนางอย่างต่อเนื่องและชักนำพลังงานของเลือดเทพที่ระเบิดออกมาโคจรไปตามร่างกายส่วนต่างๆ ของนาง  จากเส้นชีพจร กระดูก เนื้อและผิวลึกลงไปในร่างกายจนละเอียดลงๆ จนกระทั่งเส้นเลือดฝอย พลังอบอุ่นนั้นชักนำพลังของเลือดเทพเกือบครึ่งเข้าไปในร่างของนางหลอมรวมกับร่างของนาง  โดยผ่านการชำระด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์  การเปลี่ยนแปลงในร่างกายนางจึงเป็นไปในทางที่ดีขึ้น และจากนั้นความเปลี่ยนแปลงนั้นซึมลึกลงไปในใจนาง

พลังงานอบอุ่นยังคงชักนำพลังงานของเลือดเทพเข้ามาในท้องฟ้ายามราตรีเต็มไปด้วยหมู่ดาวนี้

พลังงานเชื่อมโยงกับวังวนดาราจักร ทำให้มีพลังหมุนวนเพิ่มเป็นทวีคูณสร้างแรงดูดซับพลังเลือดเทพได้ดีขึ้น

ในที่สุดด้วยพลังวังวนใหญ่ทั้งสามใช้เป็นรากฐาน  พลังงานของเลือดเทพก่อให้เกิดแก่นกลางคล้ายดวงดาวใหญ่ พลังที่ลึกซึ้งลึกลับนั้นเกินกว่าที่อาหงจะบอกอธิบายได้  ลึกลับพอๆ กับจักรวาลที่เกิดขึ้นอยู่ในจิตสำนึกของนางเอง ที่จุดเชื่อมแก่นกลางที่สุกใสสว่างมีพลังวังวนใหญ่อยู่สามจุดเป็นตัวแทนความรู้สึกนึกคิดต่างกันตามลำดับ

อาหงรู้สึกมึนศีรษะเมื่อสำนึกของนางสัมผัสได้ถึงวัตถุประสงค์ของสามวังวนใหญ่

จากนั้นนางพบว่าความคิดต่างๆ ของนางรั้งกลับมาจากภาพท้องฟ้าราตรีที่ลึกลับ

และนางจะไม่มีโอกาสอยู่ในสภาวะที่ยอดเยี่ยมนั้นอีก

หลังจากลืมตาอาหงสังเกตว่านางไม่ได้ลอยอยู่ในท้องฟ้ายามราตรี  แต่นางกำลังลอยอยู่ต่อหน้าเจ้านายของนางเปล่งประกายเจิดจ้า  นางค่อนข้างจะคุ้นเคยกับวงเวทอักษรรูนทั้งสามและอักษรรูนสวรรค์บนร่างนาง  นั่นคือวังวนทั้งสามที่ปรากฏอยู่ในกลางท้องฟ้าราตรีในนิมิตนาง  อักษรรูนโบราณแสดงถึงภูมิปัญญาเทพ แหล่งพลังและรากฐานวิญญาณตามลำดับแบบถาวร  ความประสงค์ของวงเวทอักษรรูนทั้งสามติดอยู่ที่ระหว่างคิ้ว หัวใจและสะดือของนางถาวร

อาหงเข้าใจทันที

พลังอบอุ่นที่ช่วยนางก็คือปราณบริสุทธิ์ที่ปล่อยออกมาจากฝ่ามือของเจ้านายนาง

“อย่าหลับ จงพยายามทำความเข้าใจและพัฒนาพลังของตัวเจ้าเองขณะที่เลือดเทพกำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายของเจ้า  ตอนนี้เป็นเวลาฝึกตัวที่ดีที่สุดของเจ้า  เจ้าจะต้องออกแบบร่างกายตัวเองและกลายเป็นเด็กสาวคนใหม่ในเวลาต่อมา”  เย่ว์หยางบอกอาหงอย่างนุ่มนวล

“ค่ะ”  อาหงไม่เคยเหน็ดเหนื่อยมาก่อนแม้กระทั่งสงครามที่รุนแรง  แต่นางทำตามคำของเย่ว์หยางในใจและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

เพื่ออนาคตที่สดใสของนาง เพื่อความคาดหวังของเจ้านายนางและฝันของนางในการออกแบบร่างกายใหม่

สู้เพื่อสิ่งนี้

นางพยายามอย่างดีที่สุดกางแขนและกอดเย่ว์หยางไว้แน่น

ทักษะพิเศษของนางอย่างเช่น “แส้ลงฑัณฑ์” “คลื่นเสียงกรีด” “เปลี่ยนศัตรูเป็นแพะ” และ “ขนนกเพลิง” ถูกสร้างซ้ำอยู่ในใจของอาหงและจากนั้นถูกพลังงานของเย่ว์หยางชักนำให้ก้าวหน้าขึ้นโดยใช้พลังเทพ  ไม่ว่าจะเหนื่อย เจ็บปวด หรือยากลำบากเพียงไหน  อาหงจะทนเพื่อเป้าหมายเปลี่ยนแปลงตนเองให้กลายเป็นเหมือนกับนายหญิงอู๋เหิน และทำสัญญากับคัมภีร์ให้ได้ตามที่เย่ว์หยางตั้งความหวังไว้..

เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน

กระบวนการถือกำเนิดใหม่ยังคงดำเนินต่อไป

อาหงจำไม่ได้ว่านางต้องทนเจ็บปวดมากเพียงไหน  นางต้องทนทุกข์กับกระบวนการเปลี่ยนแปลง  และนางจำไม่ได้ว่านางใช้เวลาเท่าใดกับการดำดิ่งหลับลึก เพราะนางมิอาจทนได้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตราบเท่าที่นางรู้สึกได้ถึงพลังงานบริสุทธิ์ที่เจ้านายนางถ่ายเทเข้ามา  นางตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่านางจะไม่ยอมแพ้  นางรู้ว่าในเวลานี้ความจริงเขาเหนื่อยกว่านาง  นางไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากใช้สำนึกจิตของนางร่วมมือกับเขา เป็นเขาที่เปลี่ยนรูปร่างให้นางและทำทุกอย่างให้นาง  ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงที่สุด เขายังคงปลดปล่อยพลังงานของเขาต่อขณะที่เหงื่อของเขาหยดลงบนตัวนาง...  เขาไม่หยุดเพราะความเหนื่อยล้าหรือความลำบาก  ดังนั้นนางจะทำให้เขาผิดหวังได้ยังไง?

ข้าต้องการเป็นมนุษย์ ข้าอยากอยู่กับเจ้านายเสมอ

ข้าอยากทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญและกลายเป็นคนที่เจ้านายรู้สึกภาคภูมิใจ

เขาใช้เลือดเพื่อเรียกคัมภีร์อัญเชิญครั้งแล้วครั้งเล่า เลือดของเขาถูกคัมภีร์อัญเชิญดูดซับมาแล้ว และเขาก็ยังรอให้นางทำสัญญากับคัมภีร์ได้อย่างอดทน

“ข้าอยากเป็นมนุษย์ที่ทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้”  นางพญากระหายเลือดส่งเสียงหวีดร้องจนสร้างความตกใจให้กับวิญญาณต่างๆ ในโลก  นางใช้หยดเลือดเทพสีทองบนคัมภีร์อัญเชิญสีทองแดงซึ่งกำลังรอให้คนทำสัญญาอยู่ในมือของเย่ว์หยาง  ขณะเดียวกันนางฝืนตนเองใช้มือที่สั่นเทาวางแปะไว้บนคัมภีร์อัญเชิญสีทองแดง

นางเห็นแสงสีทองที่บ่งบอกถึงความสำเร็จไหลผ่านซอกนิ้วมือของนาง

มากขึ้นทุกที

นางหลับตาด้วยความภาคภูมิใจ

น้ำตาสองสายกลิ้งลงมาตามใบหน้าของนางและหยดใส่แขนของเย่ว์หยางอย่างแผ่วเบา

อาหงกดมือนางลงบนคัมภีร์อัญเชิญและจากนั้นนางจูบปากเย่ว์หยางอย่างพร้อมใจ  นางไม่สามารถข่มความตื่นเต้นได้  นางได้แต่แสดงความภาคภูมิใจของนางเงียบๆ โดยการจูบเขาทั้งน้ำตา  นางทำได้ – ในที่สุดนางก็กลายเป็นสิ่งที่เขาคาดหวัง ตั้งแต่วันนี้ไปนางจะกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ สิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงมนุษย์ที่สุด และเป็นสตรีอย่างนายหญิงอู๋เหิน...ในที่สุดนางก็มีคุณสมบัติที่จะอยู่กับเขาตลอดไป และทำทุกอย่างเพื่อเขาเหมือนกับนายหญิงอู๋เหิน

รัศมีสุกใสสว่างขึ้น ปีกบนหลังของนางค่อยๆ ร่วงทีละชิ้น

และจากนั้นก็ลอยขึ้น

ในที่สุด ขนเหล่านั้นเปลี่ยนเป็นพลังงานและกลับเข้าไปที่หลังของนาง

อาหงหลับหลังจากทำสัญญาและจูบร้อนแรงเสร็จ นางรู้ว่าไม่มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น  ในขณะหลับ นางพญากระหายเลือดอาหงมีพลังชีวิตสูงเพิ่มมากขึ้นและกายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์  นอกจากนั้นยังเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงซึ่งมีความเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ

เมื่ออาหงตื่นขึ้นเป็นครั้งที่สอง  นางพบว่าเย่ว์หยางไม่ได้อยู่กับนาง

เกือบเป็นเวลาเช้าแล้ว

นางไม่มีเวลาตรวจสอบคัมภีร์อัญเชิญ  ทักษะแฝงเร้นธรรมชาติ  และอสูรพิทักษ์  ทันทีที่นางรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา  นางบินไปหาเย่ว์หยางทันที  นางไปถึงที่หมายในทันใด  อาหงรู้สึกถึงความเร็วที่รวดเร็วมากของนางจนน่าประหลาดใจ   ขณะนี้เองนางเห็นภาพปกติ หญิงงามอู๋เหินกำลังนวดเฟ้นเจ้านายนางที่กำลังหลับด้วยความเหนื่อยล้าอย่างนุ่มนวล  และนางเช็ดตัวเขาในเวลาเดียวกัน

ความแตกต่างจากปกติเพียงอย่างเดียวก็คือวันนี้เขาใช้พลังไปเพราะนาง  ค่อนข้างมากกว่าตอนสร้างอิคคาหรือตอนปรุงยาเม็ดพลังยุทธระดับสูงสุดและอื่นๆ

“ชู่ววว” อู๋เหินบอกให้อาหงเงียบเพื่อไม่ให้ปลุกเย่ว์หยาง

“ได้”  อาหงหยุดพูด เนื่องจากความตื่นเต้นของนาง

เมื่อเห็นเจ้านายนางที่เหนื่อยหมดแรงและเข้านอนโดยตรงโดยไม่ได้อาบน้ำหลังจากช่วยนางปรับโครงสร้างร่างกายด้วยเลือดเทพ  อาหงซาบซึ้งใจอย่างลึกซึ้งเป็นครั้งแรก

น้ำตาไหลนองแก้มนาง  อาหงไม่ใช่คนขลาดเขลาหวาดกลัว  นางรู้สึกตื้นตันใจมาก  อู๋เหินให้ความสนใจอาหงและให้นางมาช่วยงาน เท่าที่จะช่วยได้  “เจ้าทำอย่างนี้ได้ไหม?”

ตอนแรกอาหงจะส่ายศีรษะเพราะอาย

อาหงรักเจ้านายอย่างเย่ว์หยาง  อย่างไรก็ตามช่วยงานนายหญิงดูแลเย่ว์หยาง สำหรับอาหงแล้วเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

วันนี้เมื่อเห็นสายตาให้กำลังใจจากนายหญิงของนาง อาหงรับผ้าเช็ดหน้าไหมมาจากมืออู๋เหินและพยักหน้ายืนยันกับนาง  ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง

เมื่อเห็นเย่ว์หยางนอนหลับอย่างเงียบงัน  อาหงหัวเราะและร้องไห้อีกครั้ง

นางตื่นเต้นจนร้องไห้

นางหัวเราะเพราะนางใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

เพราะเป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกว่านางไม่ใช่แค่เพียงอสูรพิทักษ์  แต่เป็นสตรีผู้มีความรักบุรุษได้

บัดนี้นางผ่านการปรับสภาพร่างกายจนกลายเป็นมนุษย์  นางไม่มีปัญหากับการหาความสุขให้ตัวนางเอง  สำหรับเจ้านายนางผู้มอบทุกสิ่งให้กับนาง  นางเองหลงรักเขามานานแล้ว  นางมีความมั่นใจพอไม่ใช่หรือ  อาหงตัดสินใจที่จะรักและติดตามเขาไปตลอดชีวิต เหมือนกับนายหญิงอู๋เหิน

อู๋เหินกอดอาหงผู้ตื่นเต้นอย่างอ่อนโยนและจากไปอย่างโล่งใจ

อาหงนั่งลงและใช้ผ้าไหมสำหรับเช็ดหน้าค่อยๆ เช็ดเหงื่อจากร่างกายของเย่ว์หยางอย่างแผ่วเบานุ่มนวลเหมือนกับที่อู๋เหินทำ

วันต่อมา

เมื่อเย่ว์หยางลืมตาขึ้นช้าๆ  เขาเห็นร่างเปลือยดุจหยกขาวนอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา ไม่ใช่หญิงงามอู๋เหิน แต่เป็นหญิงงามที่คล้ายคุ้นเคย คล้ายไม่คุ้นเคย  นางคืออาหงหรือ?  และนางเปลือยกายหลับอยู่ในเตียง

นางมีความกล้ากอดเย่ว์หยาง และเมื่อเขาลุกขึ้นเงียบๆ  อาหงผู้รู้สึกตัวได้ทันที  ขณะที่นางมองเย่ว์หยาง นางไม่ได้หลบหนีไปตามปกติ  แต่กางเขนและกอดร่างเขาไว้อย่างกล้าหาญ เย่ว์หยางกอดนางตอบอย่างประหม่าและเคอะเขิน  นางหลับตาพูด  “ข้า..ข้าอยากรับใช้ท่านเหมือนกับนายหญิง...”

“อู๋เหินอยู่ที่ไหน?”  เย่ว์หยางตกใจกับคำพูดของอาหง

“นายหญิงขอให้ข้าทำหน้าที่แทนนาง.. ข้ายังทำงานได้ไม่ดี แต่ข้าจะตั้งใจทำให้มากหนักขึ้น”  เหมือนอย่างที่อู๋เหินปรนนิบัติต่อเย่ว์หยาง  อาหงเลียนแบบพฤติกรรมอ่อนโยนของนายหญิงนางตัวสั่นเล็กน้อย

มนุษย์อสูร?

ตอนนี้จะถือว่าอาหงเป็นอสูรได้หรือ?

ตอนนี้นางเป็นมนุษย์ผู้บริสุทธิ์ ถ้าใครบอกว่านางเป็นอสูร   นั่นแสดงว่าเขาตาบอด

ในเมื่อนางไม่ใช่อสูร แต่เป็นสตรี ทำไมจะหลับนอนกับนางไม่ได้เล่า?  ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดให้ลำบากใจเลย ท่านก็แค่เก็บรวบรวมดอกไม้เสียในขณะที่ท่านยังทำได้

มีแต่พวกคร่ำครึโง่เขลาเท่านั้นที่ล้มเหลวเรื่องหญิงงาม ตกอยู่ในความสับสนไปชั่วขณะ  เย่ว์หยางถามตนเอง  “ข้าใช่คนคร่ำครึหรือเปล่า?”  เปล่าเลย แล้วข้าจะมัวเฆี่ยนก้นตัวเองอยู่ทำไม  เพราะความสับสน เขารู้ว่าไม่อาจเข้าใจความจริงได้ทันที  ดังนั้นเขากอดอาหงและลูบไล้นางที่พร้อมปรนนิบัติเขา  หลังจากอาหงเงยหน้ามองเขา ดวงตานางมีแววเอียงอาย  เขายิ้มเจ้าเล่ห์และถาม  “ต้องการมีฝีมือต่อสู้ก้าวหน้าใช่ไหม?  มา.. ข้าจะสอนให้เจ้า”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด