ตอนที่แล้วตอนที่ 719 กำจัดพวกมัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 721 การสู้รบอย่างดุเดือดบนถนน

ตอนที่ 720 ประหารคู่


ถังเทียนไม่เคยคาดเลยว่าจะบุกรุกเข้าไปในที่พักของหมิงจู

“ช่วยเอาสิ่งนี้ออกไปด้วยจะขอบคุณมาก”

ถังเทียนชี้ไปที่ผนังแสงรอบตัวเขา

“โอว”หมิงจูเอาผนังแสงออกโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่นางจะสงบใจได้ ผนังแสงก็หายไปแล้วทำให้นางหน้าเสีย ผนังแสงทั้งหมดปรับแต่งสร้างจากกฎธรรมชาติสำหรับเอาไว้เตือนภัยและเป็นคนรุ่นก่อนทิ้งไว้ให้

ไม่มีการปกป้องของผนังแสง นางก็ทำอะไรไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าบุรุษหน้ากากผี เหมือนกับเป็นแกะเชื่อง ‘ข้าทำอะไรลงไป?’

หมิงจูพยายามสงบใจ  แต่ความไม่สบายใจรุมเร้าเต็มหัวใจนางไปหมด

แต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจก็คือร่างสีเทากวาดผ่านนางไปทันที  บุรุษหน้ากากผีไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรนาง

‘เดี๋ยวก่อน.. ตรงนั้น นั่นห้องนอนของข้า!’

หน้าของหมิงจูแดงทันทีนางรู้สึกร้อนรน  ‘บุรุษหน้ากากผีบุกรุกเข้าห้องนอนสตรีได้ยังไง’  นางกัดฟันรวบรวมความกล้าตามเข้าไป

ถังเทียนเหมือนกับสายลมพัดวิ่งเข้าไปข้างใน  แต่หลังจากนั้น เขาก็ยืนงง

ห้องใหญ่มาก  แต่เต็มไปด้วยรองเท้าเสื้อผ้าและของใช้สตรีที่ไม่คุ้นเคย เหมือนกับคลังสินค้าย่อย ทำให้ถังเทียนสับสน เขาต้องระมัดระวังไม่ให้เหยียบย่ำทำเสียหาย  นอกจากนี้ยังมีกองเสื้อผ้า ตู้รองเท้า หีบไม้ทำจนสถานที่เป็นเหมือนเขาวงกต

‘แล้วตรงไหนตรงไปทางอาคารเทียมเมฆกันล่ะนี่?’

ถังเทียนสับสน ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในสายตาของเขาทั้งรองเท้าและเสื้อผ้าหลากสีสันแถวผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สตรีแถวแล้วแถวเล่า ทำให้ถังเทียนกำหนดเส้นทางไม่ถูก

เสียงฝีเท้าด้านหลังถังเทียนกลายเป็นช่วยชีวิตของเขา

หน้าของหมิงจูแดงจัดจนเลือดแทบจะซึมออกมาเมื่อใดก็ได้  ไม่มีใครเคยเข้ามาในห้องของนางมาก่อน  และนางไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามาทำความสะอาดห้องของนาง  ดังนั้นห้องจึงดูค่อนข้างรก  ตระกูลเซวียเป็นตระกูลร่ำรวย  และนางไม่มีงานอดิเรกอื่น  ดังนั้นนางจึงใช้เงินของนางทั้งหมดไปกับผลิตภัณฑ์เช่นนั้น น่าเสียดายที่นางต้องรับดูแลบ้านและไม่สามารถแต่งตัวอย่างปกติได้  ดังนั้นชุดของนางจึงต้องสง่างามและดูเด่น แต่ความปรารถนาภายในของนางสิ่งที่น่ารักสวยงามมักได้รับความสนใจจากนาง

“ให้ตายเถอะที่นี่รกจริงๆ”

เมื่อได้ยินคำพูดของถังเทียนหน้าของหมิงจูร้อนผ่าว นางอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ห้องของนางนับว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ หมิงจูอายมาก

แต่นางยังประหลาดใจบุรุษหน้ากากผีอยู่กับนางราวกับว่าพวกเขารู้จักคุ้นเคยกัน

‘เดี๋ยวก่อน ทำไมบุรุษหน้ากากผีมาอยู่ในบ้านตระกูลเซวียเล่า?’

หมิงจูตกใจ

ถังเทียนไม่ให้เวลานางคิด  “อาคารเทียมเมฆไปตรงไหน?”

‘อาคารเทียมเมฆ? หมิงจูตกใจอีกครั้ง นางชี้ไปทางขวาโดยไม่ตั้งใจ “ทางนั้น”

ก่อนที่นางจะรู้ตัว  บุรุษหน้ากากผีก็หายไปแล้ว

หมิงจูตีปากตัวเอง  ‘วันนี้เจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมเจ้าถึงฟุ้งซ่านนัก?  ทำไมถึงพูดโดยไม่รู้จักคิด?  เจ้าเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า?’

‘เดี๋ยวก่อน,  อาคารเทียมเมฆ!’

ร่างของหมิงจูแข็งทื่อ  สีหน้านางเปลี่ยน  ‘อาคารเทียมเมฆเป็นของตระกูลฉิน!  บุรุษหน้ากากผีต้องการลงมือกับพวกเขา!’

‘แต่ทำไม?’

ความรู้สึกเย็นยะเยือกผุดขึ้นในหัวใจนาง  ตระกูลเซวียรอดตัวอยู่ภายในร่มเงาของตระกูลฉินมาหลายปี ดังนั้นความแข็งแกร่งที่มากมายของตระกูลฉินจึงประทับลึกอยู่ในใจนาง  นางกล้าขัดขืนตระกูลฉิน  แต่เป็นเพราะเรื่องของตระกูลเซวียถูกขายให้กับตระกูลหลูเป็นการกระทำที่เกินไป  แต่นางรู้ว่าตราบใดที่ข้อมูลนี้อยู่ในตระกูลฉิน ตระกูลฉินก็จะกลืนตระกูลเซวียได้อย่างไม่ลังเล

‘บุรุษหน้ากากผีกำลังลอบเข้าไปในอาคารเทียมเมฆจากบ้านตระกูลเซวีย  ถ้ามีอะไรสูญเสียในอาคารเทียมเมฆ  ตระกูลฉินคงใช้การต่อสู้เป็นข้ออ้างและจากนั้นตระกูลเซวีย...’

หมิงจูสั่น,หน้าของนางขาวราวกับกระดาษ

นางขบริมฝีปาก  แต่นางได้แต่กรีดร้องในใจและสงบลง  ‘บุรุษหน้ากากผีเข้ามาในบ้านตระกูลเซวียตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมเขาถึงเคลื่อนไหวไปที่อาคารเทียมเมฆ?’ ทันใดนั้นนางคิดถึงเรื่องที่บุรุษหน้ากากผีพูดกับนางเหมือนกับว่ารู้จักกัน  นางตกใจ ‘หรือว่าจะเป็น..’

นางวิ่งกลับไปที่คลังสินค้าโดยไม่พูดอะไร

ขณะที่นางวิ่งออกจากห้องนางได้ยินเสียงระเบิด  นางหันหน้ากลับไปมองอาคารเทียมเมฆที่สูงถูกตัดขาดกลางและกำลังร่วงใส่บ้านตระกูลเซวีย

มีเงาร่างบินออกมาและเสียงคำรามเป็นระยะ  หน้าของหมิงจูซีดเผือดไร้สีเลือด

ไม่มีใครสังเกตว่าถังเทียนเข้ามาใกล้ไม่ว่าจะเป็นเว่ยหานหรือมู่เจ๋อ พวกเขาไม่คาดเลยว่าบุรุษหน้ากากผีจะโจมตีก่อน แม้ว่าบุรุษหน้ากากผีจะสามารถเอาชนะเบนสันได้  แต่ในสายตาของเขา บุรุษหน้ากากผีเพียงลำพังไม่สามารถก่อให้เกิดปฏิกิริยาใหญ่ได้  ตระกูลฉินแอบฆ่ายอดฝีมือมามากแล้ว  และทั้งสองคนก็พบกับนักสู้ที่แข็งแกร่งแตกต่างกันมาก่อน ดังนั้นพวกเขาไม่เห็นบุรุษหน้ากากผีอยู่ในสายตาพวกเขา

ภายใต้แรงกดดันของตระกูลฉิน  บุรุษหน้ากากผีได้แต่ดิ้นรนอย่างขื่นขม  คิดจะโจมตีตระกูลฉินก่อนน่ะหรือ?  นั่นโง่เกินไป!

ตราบใดที่เป็นคนที่มีสมอง  เขาจะไม่มีทางเลือกเส้นทางฆ่าตัวตายนี้

เมื่อลอบหาทางเข้ามาในอาคารเทียมเมฆ  ถังเทียนเข้าไปใกล้อย่างเงียบงัน  เขาเพิ่งจะบรรลุความก้าวหน้า  และสภาพจิตใจของเขาเตรียมพร้อมเต็มพิกัด  แม้การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ทำให้พลังต้นกำเนิดไหลเวียนในร่างของเขาเป็นระลอก

ถังเทียนพอเข้าสู่สภาพพร้อมสู้รบก็กลายเป็นเยือกเย็นผิดธรรมดา

ความเยือกเย็นเช่นนั้นไม่ใช่เพราะศัตรู  แต่เป็นเพราะเขาเอง  แม้ว่าพลังต้นกำเนิดจะลุกโหมในร่างของเขา  แต่สภาพใจของเขาเพ่งความสนใจกับการเคลื่อนที่ของเขามาก  ลมหายใจและเสียงหัวใจเต้นของเขาไม่มีผลอะไรแม้แต่น้อย ทุกความเคลื่อนไหวดำเนินไปอย่างคล่องแคล่วโดยไม่มีความรู้สึกอะไร

เขาเหมือนนักล่าที่โดดเด่น ดึงเหยื่อให้เข้ามาอยู่ในรัศมีโจมตีของเขาอย่างเงียบงัน

ขณะที่เขากำลังเคลื่อนไหว  เว่ยหานกำลังฝึกดาบดาบแสงเหมือนกับสายน้ำไหลไม่มีที่สุด วิชาดาบของเขาคล่องแคล่วว่องไว ฉลาดและแฝงไปด้วยพิษ เหมือนกับอสรพิษทุกการเคลื่อนไหวแฝงด้วยวิธีการฆ่าที่ไม่แน่นอนสีดำจางขดรอบดาบแสงขาวเหมือนหมอกดำลอยอ้อยอิ่ง

เว่ยหานเป็นนักสู้ที่ชอบระเบิดอารมณ์  แต่เมื่อเขาฝึกวิชาดาบบุคลิกของเขาจะเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นและแปลกประหลาด

ทันใดนั้นเขารู้สึกว่ารอบๆ อากาศเปลี่ยน

หมอกสีดำบนดาบแสงหายไปทันที  พื้นอากาศรอบตัวเขาถูกแช่แข็งทันทีเว่ยหานตกใจ  เขาตะโกน “ศะ...”

ปัง!

พลังระเบิดน่ากลัวดังมาจากใต้เท้าของเขา

เขารู้สึกพื้นสั่นสะเทือน  และร่างของเขาจู่ๆ ก็โผล่ขึ้นมาในอากาศหัวใจของเขาเต้นแรง อาคารพังทลาย   เศษไม้คานใต้เท้าของเขายิงใส่เขาราวสายฝน

เว่ยหานไม่ต้องคิดอะไรร่างของเขากระพริบและพุ่งออกไป

เขาพุ่งออกมานอกอาคาร  เว่ยหานไม่สามารถเห็นอะไร  แต่เขารู้สึกในใจถึงสัญญาณเตือนอันตราย  ผมขนในร่างของเขาลุกชัน  เขาชักดาบแสงชี้ไปข้างหน้า

ติง ติง ติง!

เกิดประกายไฟมีดแสงสองสามใบดูเหมือนจะถูกตัดเป็นเสี่ยงด้วยของบางอย่างหรือคนบางคน

ความเย็นแล่นไปตามกระดูกสันหลังของเว่ยหาน  ในที่สุดเขาก็สามารถมองเห็นข้างหน้าเขา  ข้างหน้าของเขามีสายใยกฎธรรมชาติผนึกทางข้างหน้าเขา

แม้ว่าสายใยกฎทั้งหมดนี้จะดูดี  แต่มันก็มีความคมมากและในท่ามกลางความยุ่งเหยิงยากจะตรวจสอบได้

‘ถ้าข้าวิ่งบุ่มบ่ามไปข้าหน้า ข้าคงโดนหั่นเป็นชิ้นๆ แน่’

ความน่ากลัวของคู่ต่อสู้ทำให้เว่ยหานรู้สึกกลัวเป็นครั้งแรก  ใต้เท้าเขาระเบิดออกมาแฝงไปด้วยพลังรุนแรง  แต่ในท่ามกลังความปั่นป่วน  ศัตรูสามารถใช้วิชาสังหารอื่นที่น่ากลัวได้นั่นแสดงว่าวิธีการของศัตรูนั้นน่ากลัวเพียงไหน

แต่ในขณะชะงักอยู่นั้นเศษหินแตกที่ด้านหลังของเขาพุ่งใส่เขาราวกับสายฝนทันที

ดาบแสงในมือของเว่ยหานเคลื่อนไหว เศษหินแตกและคานรับน้ำหนักถูกหยุดไว้ด้วยมือที่มองไม่เห็นก่อนที่จะกระเด็นกระจายไปในตำแหน่งอื่นๆ  แต่วินาทีถัดมา เว่ยหานแทบตาถลน บอลแสงหลากสีสันปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา

ความรู้สึกถึงอันตรายที่บอกไม่ถูกครอบคลุมตัวเขา  เขารู้สึกถึงรังสีมรณะเข้ามาใกล้ตัวเขา  ในขณะที่อยู่ในวิกฤติเป็นตาย  เว่ยหานปล่อยดาบเงินในมือโดยไม่ลังเล  เมื่อแยกจากดาบเงิน มันกลายสภาพเป็นหมอกดำ  หมอกดำหมอง ส่งเสียคำราม กลายเป็นงูที่แผ่แม่เบี้ยอยู่ด้านบนและขู่ฟ่อ

บอลหลากสีสันและหมอกงูดำปะทะกัน

เว่ยหานไม่สนใจผล ทุ่มเทพลังทุกอย่างกระโจนไปทางซ้ายมือ

มู่เจ๋อลอยตัวออกมาอาคารและเหมือนกับนกนางแอ่น  อาคารเทียมเมฆครึ่งบนเอนลงไปด้านหนึ่ง แต่หินนับไม่ถ้วนและแผ่นกระดานพุ่งลงมาหาเขาเหมือนกับสายฝน

เว่ยหานโกรธแผดเสียงอยู่ด้านหลังของเขาทำให้มู่เจ๋อสั่นสะท้าน  ความวุ่นวายเป็นสภาพเหมาะที่สุดสำหรับให้ศัตรูได้ลอบโจมตี  มู่เจ๋อไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้และต้องออกจากพื้นที่วุ่นวายก่อน  ‘เมื่อข้าหาระยะได้ จะรอลงโทษเจ้าบ้างล่ะ!’

มู่เจ๋อหน้าเขียว ร่างของเขาเปล่งแสง และธนูปรากฏอยู่ในมือของเขา

สายตาของเขาเห็นศาลาของตระกูลเซวีย บังเอิญว่าเป็นที่ดีที่สุดที่เขาจะใช้เป็นที่ลงมือโจมตี และเป็นไปไม่ได้ที่วางกับดักลอบทำร้ายอยู่ที่นั่น การลอบทำร้ายที่สามารถเกิดขึ้นได้ก็คือมาจากศาลานั้นเอง!  ภายใต้การรีบเร่งมู่เจ๋อเหนี่ยวคันธนูของเขา และธนูแสงปรากฏอยู่บนสายธนู

แสงสว่างวาบ

ปัง!

‘ศาลาถูกทำลายไปแล้ว  ไม่มีการลอบทำร้ายเหลืออีกต่อไป!’

มู่เจ๋อผ่อนคลาย เขาเพิ่มความเร็วและมาปรากฏอยู่เหนือทะเลสาบเทียม

‘ตอนนี้ได้เวลาตอบโต้แล้ว’

มู่เจ๋อหันหน้าไปทางอาคารเทียมเมฆ  บังเอิญเห็นเว่ยหานวิ่งออกมาโดยไม่มีดาบเงิน  หัวใจของมู่เจ๋อสะท้าน  เขาสูดหายใจลึกและเหนี่ยวธนูอีกครั้ง!

แต่ขณะนั้นเอง เกิดเหตุเปลี่ยนแปลง

ทะเลสาบจำลองที่สงบราบเรียบมาก ระเบิดออกโดยไม่มีคำเตือน

น้ำแข็งแก้วนับไม่ถ้วนบินออกมาจากทะเลสาบ เหมือนพายุเศษแก้วมันยิงตรงเข้าไปหามู่เจ๋อ

‘มีคนอยู่ในน้ำ!’

หน้าของมู่เจ๋อเปลี่ยนแก้วส่งเสียงหวีดหวิวสั่นสะท้านวิญญาณ สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกลัวมากก็คือน้ำแข็งทั้งหมดบรรจุสำนึกกระบี่เลือนราง  นั่นคือกระบี่น้ำแข็งนับไม่ถ้วน

‘แย่แล้ว’

มู่เจ๋องอเอวเหมือนกับงูไร้กระดูก  ถอยหลังอย่างเร่งร้อนและเหนี่ยวยิงธนู

ธนูแสงพุ่งวาบและกลายเป็นเศษน้ำแข็งโปรยลงมาเหมือนกระบี่

ปัง!

ภายใต้กระบี่น้ำแข็งนับไม่ถ้วนระเบิดออกกระจายเป็นผุยผงก่อตัวเป็นหมอก

ก่อนที่มู่เจ๋อจะทันได้หายใจโล่งอก  รังสีที่เยือกเย็นมากพุ่งออกมาจากหมอก

สำนึกกระบี่แทงเข้าที่หน้าผากระหว่างคิ้วของมู่เจ๋อหน้าของเขาเปลี่ยนทันที

ขณะนี้เอง เพราะเขาขยับไปแล้ว พลังร่างกายในตัวเขาชะงักไปชั่วขณะ

รังสีเยือกเย็นมาถึง

เขาไม่มีทางเลือก แต่ต้องใช้ธนูของเขาบังไว้ข้างหน้า ติง..สำนึกกระบี่ที่เยือกเย็นแทงผ่านธนู

ปัง!

ธนูแตกกระจายเป็นชิ้นเหมือนตุ๊กตาน้ำแข็งถูกทำลาย  มู่เจ๋อกระอักโลหิต แต่ต้องถอยทันที

เสียงแหลมหวีดหวิวทำให้ผิวของเขาชามาจากด้านหลังของเขา  มู่เจ๋อแตกตื่น

กระบี่น้ำแข็งนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากน้ำด้านหลังของเขา  เหมือนฝน และเสียบเข้าที่ด้านหลังของเขา

ร่างของมู่เจ๋อสั่นสะท้านรุนแรง  สีหน้าเขาแข็งค้าง เลือดเนื้อในตัวเขากลายเป็นน้ำแข็ง  กระบี่น้ำแข็งยังคงยิงออกมาอีก ปังตุ๊กตาน้ำแข็งแตกกระจาย

ในกลางอากาศถังเทียนปรากฏด้านหลังเว่ยหานเหมือนกับภูตพราย

เขาเคลื่อนไหวนิ้วอย่างนุ่มนวลและใช้สายใยกฎธรรมชาติอวกาศรัดรอบคอของเว่ยหาน

ม่านตาของเว่ยหานขยาย ก่อนที่เขาจะสามารถร้องขอชีวิต ศีรษะเขาก็ปลิวขึ้นในอากาศ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด