ตอนที่ 719 สุภาพบุรุษยอมตายเพื่อสหาย!
เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่ว์หยางพูด ทุกคนตกใจกันหมด
หลังจากผ่านไปนานพวกเขาถึงค่อยรู้สึกตัว
ทุกคนชี้ไปที่แก้วผลึกสีแดงขนาดใหญ่พร้อมกับร้องถาม “นี่น่ะหรือผลึกสวรรค์?”
ผลึกสวรรค์ หรือที่รู้จักกันในนามว่า ‘ผลึกสวรรค์ชุบชีวิต’ เป็นอัญมณีวิเศษของแดนสวรรค์ กล่าวกันว่าตราบเท่าที่คนตายในชั่วเวลาสั้นๆ และลำตัวอวัยวะสำคัญยังคงสมบูรณ์ อย่างนั้นเขาจะสามารถฟื้นคืนชีพได้ด้วยพลังวิเศษที่บรรจุอยู่ในผลึกนี้ ในหอทงเทียนเนื่องจากการรบระหว่างจักรพรรดิอวี้และสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ ทำให้ทางผ่านพิเศษพังทลายและถูกปิดไป ทำให้ผลึกสวรรค์ถูกใช้หมดไปและไม่มีอีกต่อไป..แม้แต่คนในรุ่นต่อมาก็ยังสงสัยว่าอัญมณีวิเศษนี้มีอยู่จริงหรือไม่
ตอนนี้พอเย่ว์หยางบอกว่าแก้วผลึกสีแดงขนาดยักษ์ก็คือผลึกสวรรค์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะทำให้เย่คง เจ้าอ้วนไห่พลอยประหลาดใจไปด้วย
อย่าว่าแต่นักสู้ของหอทงเทียนเลย แม้แต่นูเจนผู้อาศัยอยู่ในแดนสวรรค์ก็ไม่เคยเห็นผลึกสวรรค์
แน่นอนว่านูเจนเคยได้ยินสมบัติชนิดนี้มาก่อน
ในแดนอมตะของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ผลึกสวรรค์ก็แทบจะไม่ปรากฏ แต่กลับเป็นที่นิยมกันมากในแดนสวรรค์ชั้นสูงซึ่งโดยทั่วไปมีแต่พวกปราณฟ้าระดับห้าขึ้นไปจึงจะมีสิทธิ์เข้าถึงได้
“ข้าโง่จริงๆ, ข้าโง่มาก ความจริงข้าคิดว่าเป็นแค่หินแร่แดง...” นูเจนพึมพำพร่ำเพ้อกับตนเอง
“ผลึกสวรรค์ใหญ่ขนาดนั้น, คงมีวันของเราบ้างแล้ว!” เจ้าอ้วนไห่น้ำลายหกอยู่ตลอดเวลา
“ฝันไปเถอะ!” เย่ว์หยางแค่นเสียง
หินผลึกสีแดงที่ใหญ่โตราวๆ ก้อนหิน นั่นไม่ใช่ผลึกสวรรค์ที่แท้จริง มีแต่ส่วนแกนกลางของมัน ส่วนที่เข้มข้นที่สุดซึ่งดูดซับพลังงานมาเป็นเวลาหลายร้อยล้านปีเป็นเนื้อในที่บริสุทธิ์ที่สุดจึงจะเป็นผลึกสวรรค์ ด้วยความเข้าใจแดนสวรรค์ที่ลึกซึ้งของเขา เย่ว์หยางสามารถเห็นผลึกสวรรค์ที่แท้จริงนั้นว่ามีขนาดแค่เพียงปลายนิ้วเท่านั้น เมื่อเทียบกับผลึกสวรรค์ที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ผลึกสวรรค์ขนาดนิ้วมือนี้ก็เพียงพอแล้ว
ผลึกสวรรค์ขนาดเล็กที่สุดมีขนาดเท่าเมล็ดถั่ว
ผลึกสวรรค์เมื่อหลายพันปีก่อน เนื่องจากขาดการบันทึกไว้ เย่ว์หยางจึงไม่มีข้อมูลรวบรวมไว้มาก
อย่างไรก็ตาม ผลึกสวรรค์ของหอทงเทียนซึ่งอายุไม่ถึงล้านปีมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นเป็นส่วนน้อยบ้าง
และผลึกสวรรค์โดยมากจะเป็นผลึกสวรรค์เทียมซึ่งไม่ได้ตัดมาโดยตรงจากหินผลึกสีแดงฟ้าซึ่ง แต่ได้มาจากหินผลึกแดงที่มีลักษณะคล้ายหิน และจากนั้นนำกลับไปที่หอทงเทียน ความจริงพวกมันเป็นแค่หินผลึกแดงฟ้าซึ่งมีผลึกสวรรค์เหลือน้อยมาก ทั้งหมดเป็นผลึกสวรรค์เทียม
ผลึกสวรรค์เทียมไม่สามารถทำให้คนตายฟื้นชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม ก็ยังสามารถฟื้นฟูอสูรรบระดับต่ำให้มีศักยภาพที่ดีได้
เจ้าอ้วนไห่เอาตัวโอบแก้วผลึกสีแดงไว้และพูดอย่างร่าเริง “มันเยี่ยมมาก ด้วยเจ้าของสิ่งนี้ทำให้เราไม่กลัวตายในการต่อสู้อีกต่อไป”
ทุกคนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
ว่ากันตามตรงแล้วพลังคืนชีพของแก้วผลึกสวรรค์ยังมีขีดจำกัด ศพหัวขาด หรือหัวใจ อวัยวะภายในสำคัญเสียหายหนักเกินไปก็ไม่น่าจะคืนชีพได้ ที่สำคัญที่สุดมันจะกลายเป็นของไร้ประโยชน์หากผลึกสวรรค์ไม่มีผู้ช่วยที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่นหากมอบผลึกสวรรค์ให้กับเจ้าอ้วนไห่ เขาจะไม่สามารถช่วยตนเองได้ เพราะเขาไม่รู้วิธีใช้พลังงานที่เก็บอยู่ภายในผลึก แต่คนอย่างเย่ว์หยางสามารถช่วยคนตายได้ แม้ว่าจะมีผลึกสวรรค์เทียมที่มีพลังน้อยนิดอย่างผลึกสวรรค์แดง
ดังนั้นคนจึงถือว่าล้ำค่ากว่าสมบัติ
เป็นความจริงที่ว่าผลึกสวรรค์มีความสามารถชุบชีวิตคนตาย แต่จะใช้ไม่ได้ผลเว้นแต่มีคนที่รู้วิธีใช้
“ทำยังไงจึงจะเอามันออกไปได้?” เย่ว์หยางคิดหาวิธี คำสาปที่กล้าแข็งที่สุดมีอยู่ที่ประตูลับทั้งสามในขุมทรัพย์คนตระหนี่ เย่คงและคนอื่นไม่สามารถออกไปโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเย่ว์หยางได้ แล้วจะเอาผลึกสวรรค์แดงที่ใหญ่ขนาดนี้ออกไปได้อย่างไง?
“เมี้ยววว!” ฮุยไท่หลางผายมือ(อุ้งเท้า) แสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรที่มันทำไม่ได้
“ที่นี่มีปัญหาอยู่...” ราชันย์ปีศาจใต้พบว่าการยกหีบเล็กๆ นี้เป็นเรื่องยาก
มีหีบเหลืออยู่ในประตูลับที่สามเพียงห้าหีบ ยกเว้นแก้วผลึกแดงซึ่งใหญ่พอๆ กับโขดหิน
กล่องระดับต่ำที่สุดเป็นกล่องอักษรรูนชั้นเงิน
มีกล่องระดับเงินและทองอย่างละสองใบ และกล่องระดับแพลตตินัมหนึ่งกล่องอยู่ตรงกลาง
เย่ว์หยางมองดูนางและยิ้มให้ “อย่าใช้วิธีการโง่ๆ เลย วิธีไหนสำคัญต่อการเปิดสมบัติมากกว่า แลกเปลี่ยนสมบัติอย่างเท่าเทียมกัน หรือว่าแค่ปล้นเอาไป? สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ถูกปกป้องโดยพลังคำสาประดับทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันหรือลักปล้นเอาไปจะทำให้เราตกอยู่ในอำนาจพลังคำสาปที่บ้าคลั่ง และเราจะได้รับผลกระทบจากมัน”
ราชันย์ปีศาจใต้จ้องมองเขาอย่างคาดหวัง “และเจ้ามีวิธีการอะไร?”
“ก่อนอื่น ข้าจะเล่าเรื่องๆ หนึ่งให้พวกเจ้าฟัง” เย่ว์หยางยังคงให้พวกเขาคาดเดา “ยังมีชายชราคนหนึ่งฝังไหทองคำเอาไว้ในสวน และไม่มีใครรู้เรื่องนั้น วันหนึ่งมีคนขุดทองขึ้นมาซึ่งทำให้ชายชราขี้เหนียวรู้สึกเจ็บปวดใจจนแทบไม่อยากมีชีวิตต่อไป คนที่ขุดทองได้ไปก่อนหน้านั้นขู่เข็ญชายชราตระหนี่ด้วยทอง ใช้ให้เขาทำงานหลายอย่างทำให้ชายชราตระหนี่ทุกข์เสียใจ พวกเจ้าคิดว่าจุดสำคัญของเรื่องนี้คืออะไร?”
“ไหทอง!” เจ้าอ้วนไห่โพล่งออกมาโดยไม่ต้องคิด
“เจ้าสนใจแต่เรื่องทองอย่างเดียวจริงๆ” เย่คงมองดูเขาอย่างเหยียดหยาม
“คนลึกลับที่ขโมยทองไป” ราชันย์ปีศาจใต้พอเข้าใจความหมายบางอย่างของเย่ว์หยาง
“ข้าจะเล่าเรื่องตัวอย่างให้พวกเจ้าฟังอีกเรื่องหนึ่ง นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของคนขี้เหนียว ในวันหนึ่งเขาขับขี่รถเทียมม้าเลิศหรูไปเที่ยวนอกเมือง บนถนนมีมังกรแผ่นดินไหวปรากฏตัวและวิ่งรี่ตรงเข้าหารถของเขา ภรรยาและลูกๆ ของเขากลัวแทบตาย พวกเขาต้องการหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที แต่ก็กลัวว่ามังกรแผ่นดินไหวจะเหยียบย่ำรถม้าของเขาจนบี้แบน คนขี้เหนียวไม่ยินยอมสูญเสียรถสุดหรูของเขา จึงขับขี่รถม้าหนีไปไม่ต้องการให้มังกรแผ่นดินไหวเหยียบย่ำ เมื่อเขากำลังจะถูกมังกรแผ่นดินไหวเหยียบย่ำ เขาฝากฝังสมบัติไว้กับภรรยาของเขาและบอกนางถึงสถานที่เก็บกุญแจสมบัติ”
“แล้วยังไงต่อหรือ?” ทุกคนอยากรู้ว่าคนขี้เหนียวตายหรือไม่
“มังกรแผ่นดินไหวไม่ได้เหยียบเขา มันกลับหยุด คนขี้เหนียวผู้นี้กลับลูบอกด้วยความโล่งใจบ่นพึมพำกับตนเอง ”ดูเหมือนครั้งต่อไป ข้าจะต้องหาที่ลับไว้ซ่อนกุญแจเพิ่มอีก” เย่ว์หยางพูดจบ ทุกคนพูดไม่ออก
“ทำไมมังกรแผ่นดินไหวไม่ยอมเหยียบเขา!” เย่คงลืมไปว่านี่เป็นเรื่องเล่า
“ความจริงคนขี้เหนียวไม่ตายง่ายๆ” เย่ว์หยางหัวเราะ “ข้าได้ยินมาว่ายังมีคนขี้เหนียวที่แม้ตาย ก็ยังตายตาไม่หลับ พยายามชูสองนิ้วเพื่อดิ้นรนหายใจให้ได้”
“แล้วชูสองนิ้วนี่ หมายความว่ายังไง?” คนอื่นๆ ถามด้วยความสงสัยเหลือกำลัง
“คนธรรมดาไม่อาจคาดเดาว่าคนขี้เหนียวคิดอะไรอยู่ พวกเจ้าควรถามนูเจนและเจ้าอ้วนไห่ดู!”
“ก็คงจะมีทองสองเหรียญซ่อนอยู่ที่มุมผนัง แต่ไม่สามารถขุดขึ้นมาได้! นูเจนคาดเดา
“ไม่, ตาแก่ขี้เหนียวต้องมีเนื้อเก็บไว้สองชิ้นตอนไปงานกินเลี้ยงแล้วยังไม่ได้กิน เผอิญดันตายเสียก่อน” เมื่อพูดเพียงแค่นั้นเจ้าอ้วนพบว่าทุกคนกำลังมองเขาด้วยอาการตกใจ อย่างไรก็ตามนูเจนนั้นแตกต่างออกไป.. เขามองเจ้าอ้วนไห่ด้วยความนับถือและคว้าจับมือเขาไว้แน่น “เจ้าคือสหายสนิทของข้า ข้าไม่เคยพบใครที่มีความขี้เหนียวที่สร้างผลกระทบรุนแรงกับข้าได้มากมายขนาดนี้ ข้าอยากเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเจ้า ต่อไปนี้เจ้าเป็นพี่ร่วมสาบานของข้า!”
“ท่านก็เป็นคนดีเช่นกัน...” เจ้าอ้วนไห่กับนูเจนสัญญากันและกัน พวกเขาจับมือและสวมกอดครั้งแล้วครั้งเล่า
“พอได้แล้ว” เย่คงโมโหและใช้เท้ายันคนขี้เหนียวทั้งคู่เซไปติดที่มุมห้อง และถามเย่ว์หยางต่อ “แล้วความจริงเป็นเช่นไร? ทำไมคนขี้เหนียวถึงปฏิเสธจะหายใจอึดสุดท้ายเล่า?”
“เหตุผลง่ายมาก เพราะห้องของคนขี้เหนียวมืดมาก ดังนั้นลูกชายของคนขี้เหนียวจุดโคมไว้สองดวง ในเวลามีคนมาเยี่ยมดูบิดาของเขา แต่คนขี้เหนียวเห็นเข้าคิดว่าสิ้นเปลืองเกินไปจนเป็นเหตุให้เขาตาย ภรรยาของคนขี้เหนียวเข้าใจนิสัยของสามีขี้เหนียวจึงเอาไฟออกไปดวงหนึ่ง คนขี้เหนียวจึงโล่งใจตายตาหลับได้” คำตอบของเย่ว์หยางทำให้เย่คงและคนอื่นพูดไม่ออก
“เขาน่ารักมาก ข้านึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนเช่นนี้อยู่ในโลก” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้าอ้วนไห่และนูเจนต่างซบไหล่กันร้องไห้
“พวกเจ้า....” เสวี่ยทันหลางทำหน้าพะอืดพะอม
หลังจากผ่านไปนานราชันย์ปีศาจใต้จึงยิ้มและกล่าว “ข้าได้จับประเด็นบางเรื่องจากเรื่องราวเหล่านี้แล้ว ดูเหมือนว่าข้าคงเคยแข็งขืนจนเกินไป เรามาแยกแยะกันดู ตอนนี้, ทุกคนรู้แล้วว่าความลับที่แท้จริงในการปลดผนึกของขุมทรัพย์คนตระหนี่ก็คือกุญแจ”
นูเจนส่ายศีรษะและโบกมือกล่าวทันที “ทั้งหัวหน้าเหย่หนิวและเจ้าแคว้นมรกต ถ้าพวกเขามีพวกเขาคงขนสมบัติออกไปแล้ว”
เขาพูดเช่นนี้เพราะเขากลัวว่าเย่ว์หยางจะสงสัยความภักดีของเขา
นูเจนภักดีต่อเย่ว์หยางและถือว่าเย่ว์หยางเป็นเจ้านายคนใหม่ของเขา
แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่ใช่คนตระหนี่ แต่สิ่งที่นูเจนเชิดชูยกย่องฝีมือปล้นของเย่ว์หยาง
มันโหดร้ายเกินไป... หัวหน้าเหย่หนิวปล้น ฆ่า เผาไม่ว่าไปที่ใดก็ตาม แต่เมื่อเอาไปเทียบกับคุณชายสามตระกูลเย่ว์ยังถือว่าอ่อนแอเกินไป
หัวหน้าเหย่หนิวเป็นโจรตัวยง แต่เจ้านายใหม่ของเขาคุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นโจรที่คู่ควรกับชื่อที่แท้จริง มีใครที่ไหนกันเล่าที่ชิงสมบัติคนอื่นด้วยเหตุผล? ก็คงมีแต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์เท่านั้น!
หัวหน้าเหย่หนิวมีคลังสมบัติที่ใหญ่ที่สุด
แต่ก็เป็นเรื่องยอดเยี่ยมมากที่ได้ติดตามคุณชายสามตระกูลเย่ว์ การถือสมบัติของผู้อื่นเป็นความฝันของนูเจนซึ่งหัวหน้าเหย่หนิวไม่สามารถให้เขาได้...
“ออกไป” เย่คงเข้าใจได้ว่าเย่ว์หยางและราชันย์ปีศาจใต้ต้องการคุยกัน เย่ว์หยางคือกุญแจร่างมนุษย์ที่สามารถเปิดขุมทรัพย์ได้
เย่ว์หยางยังกล้าพัฒนาความคิดเกี่ยวกับแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ
ขุมทรัพย์คนตระหนี่สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่มีประโยชน์ต่อเขา มันไม่สามารถหยุดเขาได้แน่นอน
เย่ว์หยางให้ฮุยไท่หลางพาเย่คง เจ้าอ้วนไห่และนูเจนทุกคนออกไปด้วยคัมภีร์อัญเชิญ และตัวเองรั้งอยู่ที่นี่ เนื่องจากขุมทรัพย์คนตระหนี่เป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์ มันจึงรับมือได้ง่าย สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์มีพลังแค่ใกล้กับพลังกฎสวรรค์ แต่เมื่อเทียบกับพลังกฎสวรรค์ที่เบาบางที่สุด พลังคำสาปของมันยังห่างไกลนัก
เย่ว์หยางมั่นใจว่เขาจะประสบความสำเร็จกลั่นสมบัตินี้ได้ด้วยเพลิงอมฤตและปณิธานชั้นสูง
อักษรรูนสวรรค์เรืองแสงขึ้นทีละอักขระ
นอกจากการปรับแต่งขุมทรัพย์คนตระหนี่แล้ว เย่ว์หยางยังต้องการปรับแต่งผลึกสวรรค์ จะใช้ผลึกสวรรค์ที่มีค่าอย่างนี้เพื่อคืนชีพหรือไม่? เย่ว์หยางไม่กังวลถึงตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะผลึกสวรรค์สามารถฟื้นคืนชีพได้คนเดียว อย่างไรก็ตามในการสู้รบจริง สามผู้ยิ่งใหญ่อย่างซิวคงและจิ่วเซียวจะทำลายร่างคนอื่น ดังนั้นผลึกสวรรค์จึงไร้ประโยชน์ ยิ่งกว่านั้นอย่างนางพญาเฟ่ยเหวินหลีวิญญาณของนางยังถูกศัตรูผนึกตรึงเอาไว้ ในกรณีนี้แม้แต่ผลึกสวรรค์เองก็ยังจะถูกผนึกหลุมดำดูดซับหายไป
พลังที่แท้จริงของผลึกสวรรค์คือเพิ่มศักยภาพและร่างกายของคนให้สมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่าคนธรรมดาไม่สามารถทนรับพลังงานที่เพิ่มขึ้นเช่นนี้ได้... เย่ว์หยางยังไม่ได้กลั่นอุทกแม่พระธรณีเต็มที่ ตอนนี้ด้วยผลึกสวรรค์ เขาสามารถบรรลุระดับใหม่ได้แน่นอน เย่ว์หยางไม่เคยรู้สึกเร่งรีบมาก่อน แต่หลังจากเข้าแดนสวรรค์ เขาเห็นผู้ฝึกฝนระดับปราณฟ้ามาก และเขายังไม่พบเจอคู่ต่อสู้ผู้มีพรสวรรค์ที่แท้จริง
เพื่อให้ตนเองก้าวหน้าเร็วขึ้น เย่ว์หยางไม่ถือสาที่จะใช้สมบัติให้มากขึ้นเพื่อพัฒนาฝีมือตนเอง
และพลังของผลึกสวรรค์ถ้าไม่สามารถใช้ได้ ปล่อยเอาไว้ก็เสียเปล่า
อย่าว่าแต่ผลึกสวรรค์เลย แม้แต่ส่วนที่ถูกตัดออกมาจากแก่นผลึกสวรรค์ที่เป็นผลึกแดงก็เพียงพอใช้เลื่อนระดับพลังได้ ถ้าเอาไปใช้กับอสูรศึกระดับปราณฟ้า จะมีความก้าวหน้าอย่างมากมาย
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
เย่คงและเจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ รออยู่ในห้องอุโมงค์หินในที่สุดก็เห็นเย่ว์หยางปรากฏ
ในมือข้างหนึ่งของเย่ว์หยางถือหีบสมบัติศักดิ์สิทธิ์แสดงถึงพลังที่แข็งแกร่งทันทีทำให้ทุกคนรู้ว่าเป็นธรรมดาของขุมทรัพย์คนตระหนี่ ไม่มีใครคิดว่ามันดูเหมือนกล่องที่น่าเกลียดหลังจากย่อขนาดลงมา
“ฮุยไท่หลาง กล่องนี้ให้เจ้าดูแล” เย่ว์หยางส่งสมบัติให้ฮุยไท่หลาง
“เมี้ยวว!” ฮุยไท่หลางดีใจสะบัดก้นตวัดหางและรับกล่องไว้
“และคุณชายไห่ กุญแจนี่เจ้าจงดูแลไว้...” เย่ว์หยางส่งกุญแจให้เจ้าอ้วนไห่ เจ้าอ้วนไห่หน้าบานขณะรับกุญแจไว้ เขาจูบกุญแจด้วยความยินดี และจากนั้นก็ทำสีหน้าท่าทางอวดใส่เย่คง “เห็นไหมเล่า? ตอนนี้คงอิจฉาข้าใช่ไหม?” เย่คงเตะหนึ่งเท้า เจ้าปลิวไปติดผนังหิน
นูเจนชื่นชมยินดีมองดูเจ้าอ้วนไห่ เขารู้ว่าเขายอมแพ้เมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีคุณสมบัติ
เพียงแต่ถ้าเขามีความภักดีพอ ในอนาคตคุณชายสามตระกูลเย่ว์คงจะให้กุญแจเขาแน่ เขาลอบกำหมัดและทำใจเรียนรู้จากเจ้าอ้วนไห่และจะกลายเป็นผู้ถือกุญแจในอนาคต
“นูเจน, นี่ของเจ้า” ยังมีกุญแจอีกดอกหนึ่งที่เย่ว์หยางถือไว้ นูเจนตกใจในตอนแรก และจากนั้นก็หลั่งน้ำตา ได้ติดตามเจ้านายอย่างนี้มีความสุขมากจริงๆ เขาไม่เคยคิดว่าจะได้รับความไว้วางใจจากเย่ว์หยาง และคิดว่าเขาเพิ่งยอมจำนนมาไม่นานนี้ และยังไม่ได้มีส่วนร่วมงานใหญ่อะไรเลย“การได้ถือกุญแจเป็นเรื่องเยี่ยมมหัศจรรย์มาก นูเจนปลาบปลื้มใจจริง ริมฝีปากเขาสั่นสะท้านต่อเนื่อง เย่ว์หยางตบไหล่เขาเบาๆ ”ขุมทรัพย์ให้เจ้ากับคุณชายไห่ดูแล ข้าเชื่อใจพวกเจ้า!”
“....” นูเจนปาดน้ำตา น้ำตาขนาดเท่าเม็ดถั่วหยดลงกุญอักษรรูนที่สร้างใหม่
พอเขาเงยหน้าอีกครั้ง เขาพบว่าเย่ว์หยางไปไกลแล้ว มองเห็นแต่หลังของเขา
นูเจนพยายามเม้มปากไม่ให้ตนเองสะอื้น
สุภาพบุรุษยอมตายเพื่อสหายได้
ตอนนี้เขาเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของคำกล่าวนี้