ตอนที่ 23 - การประลอง (2)
4/4
ตอนที่ 23 - การประลอง (2)
ธาตุทองหน้าซีด หยางหนานรุ่ยแย่ยิ่งกว่า แต่เจียงหลินที่อยู่ตรงข้ามไม่แม้สบตากับทั้งคู่ เธอเริ่มยืดเส้นยืดสาย วอร์มร่างกาย
หยางหนานรุ่ยขบขันกับการยืดกล้ามเนื้อของเจียงหลิน เธอกระซิบกับธาตุทองว่า “เธอเป็นผู้ใช้พลังจริงๆน่ะหรอ? ทำไมดูเหมือนพวกลิงกัง ยืดแข้งยืดขาต่อหน้าคนแบบนี้ได้ยังไง? น่าเกลียดจริงๆ”
หยางหนานรุ่ยคือผู้ใช้พลังมิติ เธอได้รับการเอาใจใส่จากทุกคนมาโดยตลอด ดังนั้นไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เพราะรู้สึกว่ามันหยาบคายเกินไป
“ที่รักของฉันพูดถูกทุกอย่าง” ธาตุทองพูดคำที่ทำให้ใจผู้ฟังและผู้ชมรอบข้างพองโต
“โอ้พระเจ้า ธาตุทองทำไมหล่อแบบนี้?”
“ธาตุทองเป็นคนสมบูรณ์แบบ ไม่ใช่แค่หล่อ แต่เขายังทรงพลัง”
“ใช่ ใช่ ใช่ ทั้งหล่อและทุ่มเท ระดับพลังก็สูง ฮ๊าาา! ทำไมนะ ทำไมกัน ทำไมฉันถึงไม่ใช่คนที่เขาชอบ! อิจฉาหยางหนานรุ่ยจัง!”
เจียงหลินได้ยินเสียงแฟนคลับสาวๆของธาตุทอง เธอได้แต่ยิ้มกระอักกระอ่วน หากต้องอยู่กับเจ้าคนหน้าขาว คดโกงชอบลักขโมยผู้นี้ เธอยอมเป็นม่ายดีกว่า
เจียงหลินหลังจากวอร์มร่างกายพร้อมแล้ว เธอถอดถุงมือออก กล่าวกับผู้ตัดสินอย่างจริงจังว่า “ฉันพร้อมแล้ว”
หยางหนานรุ่ยแทบรอไม่ไหวที่จะชิงตำแหน่งผู้ใช้พลังมิติอันดับหนึ่งกลับมา เมื่อได้ยินคำเจียงหลิน เธอรีบพูดว่า “ฉันก็พร้อมแล้ว!”
ผู้ตัดสินชูมือขึ้นข้างหนึ่ง “ก่อนจะเริ่ม ฉันขอถามเป็นครั้งสุดท้าย ทั้งสองฝ่ายมีอะไรจะคัดค้านไหม?!”
“ไม่” หยางหนานรุ่ยกล่าวโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“ฉันไม่คัดค้าน แต่ช่วยอ่านกฏการประลองให้ทุกคนได้ยินอีกรอบด้วย” เจียงหลินกล่าวขึ้นทันที
“ตกลง” ผู้ตัดสินอ่านกฎการประลอง
หยางหนานรุ่ยฟังอยู่ข้างๆอย่างเบื่อหน่าย หลังจากผู้ตัดสินอ่านกฏเสร็จ ทั้งสองก็ถูกแบ่งกล่องที่สำนักงานทดสอบพลังเตรียมไว้ล่วงหน้า
เห็นเจียงหลินไม่คัดค้านเรื่องความผิดปกติของกล่อง มุมปากของธาตุทองค่อยๆยกยิ้ม คล้ายรู้ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้แล้ว ชัยชนะของหยางหนานรุ่ยดูเหมือนจะตอกตะปูฝาโลง
“งั้นตอนนี้ ฉันขอประกาศเริ่มการประลองอย่างเป็นทางการ!”ผู้ตัดสินโบกมือแล้วสั่ง
เมื่อผ่านขั้นตอนนี้ จะถือว่างานประลองชิงตำแหน่งผู้ใช้พลังมิติอันดับหนึ่งของฐานได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว
หยางหนานรุ่ยรีบวิ่งไปที่กล่องข้างหน้าเธอ แต่ถูกเจียงหลินคว้าคอเสื้อไว้ แล้วเหวี่ยงเธอล้มคว่ำลงกับพื้น
ในชั่วพริบตา รอบสนามกีฬาเงียบงันไปพักหนึ่ง ก่อนเกิดความโกลาหลขึ้นในกลุ่มผู้ชม
“นี่แก ..!” สีหน้าของธาตุทองหม่นหมองเหมือนน้ำขุ่น เกือบหลุดรูปลักษณ์แสนดีที่แสร้งทำ แต่เมื่อนึกถึงบรรดาแฟนคลับสาวๆบนชั้นสอง เขาก็ยับยั้งมันไว้ได้ในวินาทีสุดท้าย หันไปตะโกนกับผู้ตัดสินว่า
“ผู้ตัดสิน! เธอทำร้ายคน! แบบนี้มันฟาวล์! ควรถูกตัดสิทธิ์”
“เธอไม่ได้ทำผิดกฎ กติกาการประลองระบุไว้อย่างชัดเจน ห้ามทำร้ายกันด้วยอาวุธร้อน แต่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องใช้มือเปล่า”
ตามปกติแล้ว ในการประลองของผู้ใช้พลัง ทุกคนได้รับอนุญาตให้แค่ใช้พลังสู้กันเท่านั้น แต่เนื่องจากครั้งนี้เป็นการประลองของผู้ใช้พลังมิติที่ไม่ใช่สายโจมตี ดังนั้นการใช้มือเปล่าจึงได้รับข้อยกเว้น
แม้ธาตุทองยังคงพยายามคัดค้าน แต่ผู้ตัดสินในฐานะหนึ่งนผู้บริหารฐานเมืองหลิน เขามีอำนาจมากพอที่จะเพิกเฉย ดังนั้นไม่คร้านจะโต้เถียงกับธาตุทอง เอ่ยสั้นๆว่า “ทุกอย่างเป็นไปตามกฏ วันนี้ผู้นำฐานก็มา ถ้าอยากคัดค้าน สามารถทวงถามความยุติธรรมจากเขาได้”
คำพูดของธาตุทองจุกอยู่ในลำคอทันที ในใจโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก
นับแต่วันสิ้นโลก เขาคือคนที่สามารถสั่งลมสั่งฝน ได้ทุกอย่างดั่งใจนึก แต่นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาถูกปฏิเสธแบบโต้งๆและต้องเสียหน้า ทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป
ธาตุทองพลิกมือ รั้วโลหะรอบตัวเขาสั่นสะเทือน
แต่ในเสี้ยววินาที รั้วเหล่านั้นก็ถูกเถาวัลย์เข้าปกคลุม มัดเป็นปมแน่น มีกระทั่งดอกไม้ผลิบาน
มู่เย่ชิงจ้องเขาและพูดว่า “ถ้าทำได้ก็ลองดู! ทำไม? คิดว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่ใช้พลังได้รึไง?”
“ธาตุไฟ! มาช่วยฉันที!” จู่ๆ ธาตุทองก็ตะโกนขึ้น
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว พี่จุนใจร้อนจริงๆ” เด็กชายที่กำลังนั่งเล่นเกมอยู่ในมุมหนึ่งวางเครื่องเกมลง เปลวไฟลุกพรึบบนฝ่ามือเขา และจากนั้นก็ --ปัง!
เปลวไฟถูกขว้างออกไป เริ่มลุกลามไปตามเถาวัลย์
อย่างไรก็ตาม คล้ายตลกร้าย เปลวไฟที่กำลังสำแดงอำนาจ จู่ๆก็ถูกสายน้ำโถมดับทันที
อันเซี่ยงสือยืนอยู่ข้างอันหงโถว ดวงตาคู่สวยของเธอราวกับน้ำในฤดูใบไม้ร่วงที่ปราศจากระลอกคลื่น ดูสงบและสง่างาม เพียงแต่ว่าผิวน้ำที่สงบนั้นซ่อนพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถเรียกฝนหรือพลิกแผ่นดินเอาไว้ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวว่า
“เปลวไฟเล็กจ้อยของนายทำให้น้องสาวฉันกลัว ฉะนั้นอยู่เฉยๆดีกว่านะ”
สถานการณ์นอกสนามตอนนี้ ดูเหมือนจะอยู่ในสภาวะชะงักงัน ทุกคนบนที่อัฒจันทร์นั่งอย่างสงบเสงี่ยมด้วยอาการตื่นตระหนก
หากสี่ในห้าธาตุเมืองหลินสู้กันที่นี่ ทั้งสนามกีฬาคงได้พังแน่ๆ ตอนนี้ถึงขั้นมีผู้ใช้พลังบางคนตั้งลุกขึ้นอยู่ในท่าป้องกันเพราะกลัวเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ท่ามกลางช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ ชายคนหนึ่งยืนขึ้นข้างโพเดียมบนชั้นสอง เขาดูเหมือนคนอายุเพียง 25 26 ปี สวมเข็มกลัดสีเงิน มือที่แห้งเป็นกระดูกยกขึ้นกลางอากาศ จากนั้นกดลงมาเล็กน้อยและ--
--พรึบบบ!
ข้อพิพาทในสนามหยุดลงทันที นี่ไม่ใช่การหยุดโดยสมัครใจ แต่พลังของทั้งสี่ได้หายไปในพริบตา
และไม่ใช่แค่ทั้งสี่ แต่พลังของทุกคนในสนามกีฬาก็หายไปเช่นกัน
“ความสามารถในการลบล้างพลัง ... เป็นเลขานุการหลิน!” ในที่สุดธาตุดินที่เงียบมาโดยตลอดก็เอ่ยขึ้น
ธาตุดินที่เคยเป็นกลางตระหนักดีว่านี่คงเป็นความตั้งใจของผู้นำเมืองหลิน
ความสามารถลบล้างพลังของเลขานุการหลินหานซู่เป็นอะไรที่พิเศษมาก มันสามารถลบล้างพลังของผู้ใช้พลังคนอื่นได้
“ที่นี่มีคนเยอะแยะ ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถต้านทานแรงกดดันจากการต่อสู้ระหว่างธาตุทั้งสี่ได้” ขณะนี้ เสียงของชายชราใจดีดังขึ้นในจิตสำนึกของทุกคนพร้อมกัน
นี่คือความสามารถในการสื่อจิต! เป็นพลังของผู้นำฐานเมืองหลิน!
ถึงจุดนี้ ทุกคนไม่มีใครกล้าก่อเรื่องอะไรอีก ที่แท้ก็เป็นความตั้งใจของท่านผู้นำ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เลขาหลินเคลื่อนไหว
เมื่อหยุดเหตุโกลาหลภายนอกได้ ทุกคนก็หันกลับมามองในสนาม และพบว่าหยางหนานรุ่ยในเวลานี้ถูกทุบตีจนลุกไม่ขึ้นแล้ว
หลินหานซู่กล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เฝ้ามองเหตุการณ์ข้างล่างอย่างใจเย็น “ท่านผู้นำ ถึงผมจะลบล้างพลังไปแล้ว แต่สาวผู้ใช้พลังมิติคนนั้นจะรับมือได้จริงๆหรือ? พวกเราควรวางแผนเพิ่มเติมรึเปล่า?”
“หานซู่ ทำใจให้สบายเถอะ” ผู้นำผมหงอกยิ้มอย่างรู้ทัน เขากล่าวด้วยความมั่นใจว่า “เธอคนนี้เป็นมืออาชีพมาก แล้วยังมีพรสวรรค์ด้วย”
ในเวลานี้ เจียงหลินถือว่าสามาถรเอาชนะหยางหนานรุ่ยได้อย่างเด็ดขาดแล้ว ทั้งหน้าอีกฝ่ายเวลานี้ปูดบวม ไม่มีจุดไหนเลยที่ไม่แดงช้ำ
เจียงหลินสะบัดมือออก
เห็นแค่เพียงหยางหนานรุ่ยคลานอยู่บนพื้น ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด
ได้ยินเสียงสะอื้นนี้ เจียงหลินอดไม่ไหว เริ่มระบายความในใจ
“เธอจะร้องทำไม? ฉันสิต้องเป็นคนร้องไห้ เพราะฉันไม่เคยหาเรื่องเธอเลย แต่เธอที่ไม่เคยแม้จะพบหน้ากลับต้องการฆ่าฉัน ทั้งลอบฆ่าทั้งทำลายอพาร์ตเมนต์! เธอนี่มันไร้ยางอาย!”
“อยู่นิ่งๆ ขอฉันดูหน่อยว่าจมูกใหม่ที่ฉันศัลยกรรมให้มันได้รูปรึยัง!”
เจียงหลินกระชากคอเสื้อหยางหนานรุ่ยขึ้น มองอีกฝ่ายที่ใบหน้าถูกทุบตีจนจมูกบิดเบี้ยว
ก่อนหน้านี้ เจียงหลินได้รับเสียงผ่านทางจิตจากผู้นำฐาน เขาบอกว่าตราบใดที่เธอไม่ฆ่า ที่เหลือทำได้ตามสบาย
เจียงหลินกำคอเสื้อหยางหนานรุ่ย ใช้อีกมือชี้ไปทางธาตุทองแล้วพูดกับเธอว่า “เพื่อผู้ชายคนนั้นคนเดียว เธอถึงกับต้องฆ่าคนเลยหรอ มันคุ้มค่าไหม!?”
หลังจากที่พลังของธาตุทองหายไป เขาก็ทำตัวสงบเสงี่ยม หลบดูสถานการณ์อยู่เงียบๆ แต่ตอนนี้ ไม่คิดว่าจู่ๆตนจะถูกทำให้ตกเป็นเป้าสายตาอย่างกะทันหัน
เมื่อถูกสร้างความอับอายต่อหน้าสาธารณชน ใบหน้าของธาตุทองก็เริ่มแดง
ขณะเดียวกัน ผู้ชมเริ่มกระซิบกระซาบ กระทั่งแฟนคลับสาวที่กรี๊ดกร๊าดเขา เวลานี้ก็จ้องมองมาด้วยความเงียบงัน