ตอนที่ 22 - การประลอง
3/4
ตอนที่ 22 - การประลอง
“หยางหนานรุ่ยต้องการท้าประลอง ผู้ชนะจะได้เป็นผู้ใช้พลังมิติอันดับหนึ่งแห่งฐานเมืองหลิน ..” ฉางห่าวกล่าวแล้วหยุดพักหนึ่ง ลังเลที่จะพูดต่อ
“คุณกลัวว่าจะมีการวางกับดักหรือโกงกันถูกไหม?” เห็นสีหน้าฉางห่าว เจียงหลินก็เข้าใจได้ทันที เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง เอ่ยด้วยน้ำเสียงลึกล้ำ “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าหยางหนานรุ่ยมีความสามารถที่จะทำมันได้รึเปล่า!”
...
ขณะเดียวกัน ในสถานที่ทดสอบผู้ใช้พลังของฐานเมืองหลิน
หยางหนานรุ่ยพร้อมด้วยชายในชุทสูทที่สวมแว่นตา รวมไปถึงผู้ตรวจการทดสอบอาวุโสครั้งก่อนที่เป็นคนทดสอบเจียงหลินได้มาอยู่รวมกัน
ธาตุทองเอ่ยเป็นคนแรก “ลุงสี่ แน่ใจหรือว่าถ้าทำแบบนี้เจียงหลินจะใช้พลังมิติไม่ได้?”
ลุงสี่คือผู้ตรวจการทดสอบอาวุโส เวลานี้สีหน้าท่าทีของเขาแตกต่างจากตอนทดสอบเจียงหลินอย่างสิ้นเชิง เผยรอยยิ้มอบอุ่นใจดี “จุน! ลุงจะโกหกทำไม ถ้าไม่เชื่อก็ลองให้รุ่ยน้อยทดสอบดูสิ”
“งั้นรุ่ยรุ่ย รบกวนเธอแล้ว” ธาตุทองเอ่ยอย่างเสน่หา
หยางหนานรุ่ยชอบท่าทีแบบนี้ของเขามาก เธอยกสองมือประสานขึ้นปิดปาก หัวเราะเบาๆ “ฉันใช้พลังไม่ได้จริงๆ สมกับที่เป็นลุงสี่ คุณทำมันได้อย่างไร?”
ลุงสี่ดูภูมิใจมาก เขายิ้มแล้วพูดว่า “ฉันเอาปูนไปฉาบไว้ข้างใต้ ทาเป็นชั้นเป็นชั้นจนแน่น แม้ภายนอกจะยังดูเป็นกล่องเหมือนเดิม แต่ความจริงมันยึดติดกับพื้นดิน ไม่สามารถเอาออกได้”
“ในเมื่อเคลื่อนย้ายไม่ได้ แล้วจะเอามันใส่พื้นที่มิติได้ยังไง?”
“ยังเป็นลุงสี่ที่มีความสามารถ ครั้งนี้ต้องพึ่งลุงแล้ว” ดวงตาของธาตุทองฉายแววเคร่งขรึม “เมื่อเจียงหลินไม่มีชื่อ ‘ผู้ใช้พลังมิติอันดับหนึ่ง’ เธอก็จะไม่ได้รับการคุ้มครองจากฐานอีกต่อไป ถึงเวลานั้นจะฆ่าเธอก็ไม่ใช่เรื่องผิด ครั้งที่แล้วฉันพลาด แต่คราวนี้มาดูกันว่าเธอหนีได้อีกไหม?”
...
“เจียงหลิน .. นี่เจียงหลิน! เธอต้องการรับคำท้าจริงๆหรอ? ถึงยังไงนั่นก็เป็นแค่ข่าวลือ เราแค่ใช้ชีวิตของพวกเราต่อไป ออกสำรวจ ทำภารกิจก็พอ!”
“หยางหนานรุ่ยกับธาตุทองไม่ใช่คนดี การประลองครั้งนี้ต้องมีการโกงแน่ๆ!” มู่เย่ชิงยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเจียงหนานระหว่างเดินทางเข้าร่วมประลอง
“เรื่องนี้มองเผินๆอาจไม่ส่งอิทธิพลต่อพวกเรานักก็จริง แต่มีกฏข้อนึงของฐานคือฐานต้องให้การคุ้มครองผู้ใช้พลังอันดับหนึ่ง และนั่นรวมถึงผู้ใช้พลังมิติด้วย สรุปคือพวกธาตุทองกำลังกดดันฐานทางอ้อม” เจียงหลินเริ่มวิเคราะห์ปัญหา
“หมายความว่าพวกธาตุทองคิดใช้ประโยชน์จากความสงสัยของประชากรส่วนใหญ่ในฐาน บังคับให้ฐานต้องเลือกข้างว่าจะคุ้มครองเธอหรือยอมละทิ้งเธอ?” มู่เย่ชิงตกใจ
“นี่ ... ทำแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรอ? นี่มันอาจเป็นการสั่นคลอนรากฐานของเมืองหลิน ...”
“ฉะนั้น แทนที่จะให้ฐานเมืองหลินเป็นผู้เสียหาย สู้ฉันก้าวออกมาแล้วแข่งกับพวกเขาตรงๆเลยดีกว่า และฉันรู้สึกว่าแบบนี้ก็เหมาะกับตัวเองมากกว่าเหมือนกัน” เจียงหลินหรี่ตา มุมปากยกโค้งคล้ายรอยยิ้ม
“พวกมันนี่น่ารังเกียจจริงๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ถึงกับทำทุกอย่างที่ต้องการ แต่พวกเขาคิดผิดแล้วที่พยายามสั่นคลอนรากฐานของเมืองหลิน”
พูดถึงจุดนี้ มู่เย่ชิงดวงตาเป็นประกาย มิน่าเล่าฉางห่าวซึ่งเป็นคนประสานงานกับพวกระดับสูงถึงมาพบเจียงหลิน และบอกว่าหากต้องการความช่วยเหลืออะไรให้ติดต่อเขาได้ทันที
หรือกล่าวคือ ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร ทางฐานเมืองหลินยินดีช่วยเหลือเจียงหลิน
“แต่เธอก็ต้องเป็นคนลงไปประลองอยู่ดี ...” มู่เย่ชิงมองเจียงหลินอย่างกังวล ไม่เข้าใจว่าทำไมเจียงหลินต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงด้วย
...
การตอบรับอย่างง่ายดายของเจียงหลินนับว่าเหนือความคาดหมายของธาตุทอง เขาไม่คิดว่าเจียงหลินจะยินดีรับคำท้าหยางหนานรุ่ยไวขนาดนี้
เพราะมั่นใจในพลังของตัวเองงั้นหรือ?
ธาตุทองวางแบบฟอร์มลงทะเบียนในมือลง เงยหน้าขึ้นด้วยใบหน้าบ้าบิ่น ชูแก้วไวน์ให้คนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขา “ฉลองแด่ชัยชนะของพวกเรา!”
ธาตุทองดื่มไวน์แดงรวดเดียวหมดแก้ว ความบ้าบิ่นในดวงตากลับมาสงบเยือกเย็นอีกครั้ง
ตัวเขาติดหนี้ทีมธาตุไม้มากเกินไป และไม่มีความคิดที่จะจ่ายคืน ดังนั้นหากเจียงหลินตายในครั้งนี้ ขณะที่เขายังมีหยางหนานรุ่ยอยู่ เขาก็จะสามารถกำราบทีมของมู่เย่ชิงได้ต่อไป
ธาตุทองเติมไวน์อีกครั้ง ส่ายแก้วเบาๆ ราวกับเห็นชัยชนะอยู่ตรงหน้า
...
การประลองจะจัดขึ้นในอีกสามวันตามกำหนดการ เนื่องจากงานนี้มีความสำคัญมาก จึงมีคำเชิญส่งออกไปทั่วทั้งฐาน ไม่เพียงแต่ผู้รับตำแหน่งธาตุทั้งห้าในปัจจุบันมาเข้าร่วมเท่านั้น แต่ผู้นำฐานเมืองหลินและหัวหน้าเลขานุการก็มาเป็นสักขีพยานเช่นกัน
มีผู้มีชื่อเสีงเข้าร่วมถึงขนาดนี้ งานประลองเลยสามารถดึงดูดคนมากมายมารับชมความสนุก เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานประลองหรือการปรากฏตัวของธาตุทั้งห้าและผู้นำฐานในเวลาเดียวกัน มันเป็นเรื่องหายากมาก
เจ้าหน้าที่ประจำฐานจัดสถานที่สำหรับการแข่งขันในสนามกีฬาของฐานที่ใช้จัดงานแข่งขันกีฬาช่วงก่อนวันสิ้นโลก
ทำไมต้องจัดที่นี่? เพราะใครต้องการดู คุณต้องซื้อตั๋วก่อน!
ในวันประลอง เจียงหลินได้พบหน้าหยางหนานรุ่ยกับธาตุทองเป็นครั้งแรก
ธาตุทองเดินออกมาก่อน เขาเป็นคนหน้าตาดีจริงๆ ยามยิ้มให้ความรู้สึกคล้ายสายลมอ่อนๆในฤดูใบไม้ผลิ ยามเขาขมวดคิ้ว มันให้ความรู้สึกเคร่งขรึมชอบธรรม
หากไม่รู้ข้อมูลมาก่อน คงยากที่จะมองทะลุตัวตนที่แท้จริงของอีกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งที่เขาแสดงออกมาภายนอกล้วนเป็นคำลวง!
เจ้าหมอนี่มันหมาป่าในชุดแกะ!
เป็นอีแร้งที่ปลอมตัวเป็นนกพิราบ!
ในทางกลับกัน หยางหนานรุ่ยมีรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ ดูน่ารักมาก เธอเก็บซ่อนความคลุ้มคลั่งไว้เป็นอย่างดี แต่เมื่อเธอมองมายังเจียงหลิน ดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ไม่สามารถซ่อนได้
ด้านเจียงหลิน เธอก้าวออกไปข้างหน้าอย่างไม่ทุกข์ร้อน
เธออกมาพร้อมชุดทหารลายพราง สวมรองเท้าบูททหารเขตร้อน สวมถุงมือแบบเปิดนิ้ว บวกกับการที่เป็นคนตัวสูง เมื่อยืนอยู่ตรงหน้าธาตุทอง มันได้สร้างแรงกดดันและบดบังรัศมีของอีกฝ่าย