ตอนที่ 21 - ความขัดแย้ง
2/4
ตอนที่ 21 - ความขัดแย้ง
โกรธอยู่พักหนึ่ง เจียงหลินค่อยใจเย็นลง
ถึงตอนนี้ เธอค่อยสังเกตได้ ว่านี่ไม่ใช่แค่การรื้อทำลายห้อง แต่มันคือการลอบฆาตกรรม!
และตัวฆาตกรคงมีพลังทำลายล้างสูงมาก เพียงแต่ว่าบังเอิญไม่มีใครอยู่ในห้องนี้ก็เท่านั้น
โชคดีที่เจียงหลินไม่ได้นอนในที่พักฝั่งวันสิ้นโลก ไม่งั้นเวลานี้เธอคงเละเป็นชิ้นๆเหมือนหน้าต่างที่แตกเป็นเสี่ยงๆ
ดีจริงๆที่เธอระมัดระวังตัวมากพอ
ตอนนี้เธอคือผู้ใช้พลังมิติอันดับหนึ่งในฐาน และตามกฏของฐานเมืองหลิน เธอจะต้องได้รับความคุ้มครองพื้นฐาน แต่ก็ยังมีคนกล้าฝ่าฝืนกฏ คิดทำให้เธอตาย อะไรจะเคียดแค้นกันถึงขนาดนี้
เจียงหลินเอาหูแนบกำแพง ฟังเสียงความเคลื่อนไหวข้างนอก แต่ก็ได้ยินเพียงเสียงหวีดหวิวของลมที่เข้ามาทางหน้าต่างห้องนั่งเล่น ปราศจากเสียงฝีเท้าของผู้ใด
หลังจากแน่ใจว่าปลอดภัย เจียงหลินก็รีบวิ่งขึ้นไปยังชั้นบนของตึก เคาะประตูห้องของมู่เย่ชิง
มู่เย่ชิงเปิดประตูอย่างรวดเร็ว เธอตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นเจียงหลิน ก่อนที่รอบตาจะเริ่มแดงเล็กน้อย โผเข้ากอดตรงๆ “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? หายไปไหนมา ...”
ในเวลาเดียวกัน เสียงของปี้ฉู่ดังออกมาจากข้างในห้อง “เป็นยังไง ได้ข่าวอะไรหรือเปล่า?”
มู่เย่ชิงนึกขึ้นได้ว่าทุกคนยังคงรอข่าวอยู่ เธอรีบดึงเจียงหลินเข้ามา “เธอกลับมาแล้ว! เจียงหลินกลับมาแล้ว!”
“เจียงหลิน! เธอไม่บาดเจ็บอะไรใช่ไหม?” ทุกคนวิ่งเข้ามาถามอย่างกังวล
“ไม่ ไม่ ฉันสบายดี บังเอิญฉันแวะออกไปข้างนอก แต่พอกลับมาถึงห้องก็อย่างที่เห็น มีใครรู้บ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”เจียงหลินถาม
“งานประชุมประจำฐานเมื่อคืน ฉันไม่ได้อยู่ในอพาร์ตเมนต์ แค่ให้ดอกพิทูเนียเฝ้าห้องไว้ แต่ฉันไม่รอบคอบมากพอ มีบางคนแอบเข้ามาในตึกและลอบโจมตี”
มู่เย่ชิงขมวดคิ้วแน่น พลังโจมตีของพืชกลายพันธุ์น่ะสูงกว่าผู้ใช้พลังมนุษย์ในขั้นเดียวกันมาก
เช่นผู้ใช้พลังในขั้น 5 ใช้พืชกลายพันธุ์ขั้น 4 ของเธอก็สู้ได้แล้ว
แต่ครั้งนี้ ...
“ปกติดอกพิทูเนียของฉันจะออกไปอาบแดดประมาณตีห้าช่วงเช้า มันเลยสังเกตเห็นความผิดปกติชั้นล่าง พอเข้ามาตรวจสอบดูก็พบว่าห้องของเธอรกไปหมด แล้วเธอก็หายไป”
“ซึ่งการที่สามารถเล็ดลอดการตรวจสอบของดอกพิทูเนียได้ แสดงว่าอย่างน้อยที่สุดต้องเป็นผู้ใช้พลังธาตุไม้ขั้น 5 และดูจากสภาพบ้านเธอ คาดว่าคงเป็นฝีมือของผู้ใช้พลังธาตุไฟ”
“ไม่ต้องเดาหรอก ก็คงเป็นพวกหยางหนานรุ่ยนั่นแหละ ว่าแต่เธอทำแบบนี้ไปทำไม” เจียงหลินไม่เข้าใจจริงๆ
ในเวลานั้นเอง เสียงๆหนึ่งดังขึ้น “อย่าเปลืองสมองคิดเลย ตรรกะของหยางหนานรุ่ยปรหลาดมาก อย่างก่อนหน้านี้ เพื่อผู้ชายคนเดียว เธอถึงกับยกเค้าแกนคริสตัลและทรัพย์สินทั้งหมดของทีมธาตุไม้หนีไป และผู้ชายคนที่ว่า คือธาตุทองซึ่งเป็นหนึ่งในห้าธาตุแห่งฐานเมืองหลิน”
เจียงหลินหันหน้ามองตามเสียง และพบว่าผู้มาเยือนไม่ใช่ใครอื่น เป็นฉางห่าวผู้จัดการทรัพย์สินประจำเขตชุมชนนี้
“ก่อนวันสิ้นโลก ธาตุทองเคยเป็นดารา เขาหน้าตาดี แต่ทำเรื่องชั่วช้า พอถูกแฉ ไม่เพียงถูกยกเลิกงานทั้งหมด แต่ยังถูกตัดสินจำคุกด้วย แต่ใครจะคิด ว่าเมื่อวันสิ้นโลกมาถึง เขาจะแหกคุกหนีออกมาได้”
“ในวันสิ้นโลก ผู้ที่มีความสามารถจึงจะอยู่รอด เขาเลยตัดสินใจไปเกาะขาของซ่งเช่อฉี”
“ซ่งเช่อฉีคือผู้ใช้พลังน้ำแข็งระดับสูง เธอคืออดีตธาตุน้ำแข็งแห่งห้าธาตุเมืองหลิน เป็นหญิงสาวที่น่าภาคภูมิใจของพวกเรา”
“ในเวลานั้นธาตุทองได้รับทรัพยากรจำนวนมากสำหรับใช้ฝึกฝนจากเธอ แต่สุดท้ายธาตุทองก็ฆ่าซ่งเช่อฉีและเพื่อนร่วมทีมทุกคนของเธอเพื่อฮุบทุกอย่างเป็นของตัวเอง จนสุดท้ายกลายเป็นธาตุทองอย่างเช่นทุกวันนี้ เรียกได้ว่าหลอกใช้แล้วทิ้ง แสดงได้เก่งสมกับอาชีพนักแสดงของเขา”
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เจียงหลินรู้สึกแน่นอกอย่างบอกไม่ถูก “ธาตุทองเป็นคนแบบนี้นี่เอง”
“เพราะงั้นเขากับหยางหนานรุ่ยถึงเหมาะกันเหมือนผีเน่าโลงผุ” พูดจบปี้ฉู่ก็ทำเสียงฮึดฮัด
เสี่ยวชิงถอนหายใจ “ผู้ใช้พลังธาตุไม้ขั้น 5 หาตัวได้ไม่ยาก ไม่ต้องตรวจสอบก็รู้ว่าเป็นคนของธาตุทอง พวกเขาร่วมมือกัน ตั้งใจจะฆ่าเธอ”
“เรื่องนี้ทางผู้บริหารระดับสูงทราบเรื่องนี้แล้ว ไม่ต้องกังวลไป ในฐานพวกเรามีกฏเกณฑ์ชัดเจน เรื่องที่เกิดขึ้นกับซ่งเช่อฉีจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก คราวนี้จะไม่มีผู้ใช้พลังที่ต้องถูกสังเวย”
ฉางห่าวตอบจากใจจริง
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครู้ก็คือ ฉางห่าวเป็นลูกพี่ลูกน้องของซ่งเช่อฉี นี่ทำให้เขามีเหตุผลที่ไม่ชอบธาตุทอง
“ขอบคุณ” ได้ยินแบบนั้น เจียงหลินพยักหน้าขอบคุณ
หากระดับสูงในฐานยินดีจัดการกับผู้ใช้พลังขั้น 5 ที่คิดฆ่าเธอ แบบนั้นมันก็ดีเหมือนกัน
“มันคือสิ่งที่ควรทำ” ฉางห่าวไม่ได้แสดงท่าทีโอ้อวดใหญ่โต เหตุการณ์ครั้งนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับหนึ่งในห้าธาตุเมืองหลิน หากทางฐานไม่เชือดไก่ให้ลิงดูบ้าง กฏเกณฑ์ที่ตั้งไว้คงไม่ศักดิ์สิทธิ์ และนั่นจะทำให้ตำแหน่งของผู้นำฐานสั่นคลอน
“พวกเราจะรับหน้าที่ซ่อมแซมห้องให้เอง ระหว่างนี้ขอให้คุณไปอยู่ในที่พักชั่วคราวของฐานทัพทหาร”
“ไม่งั้นก็ให้เจียงหลินอยู่กับฉัน!” มู่เย่ชิงกล่าว “ที่นี่เธอปลอดภัยแน่นอน ต่อให้สมุนทั้งหมดของธาตุทองบุกเข้ามา ก็อย่าหวังว่าจะลอบฆ่าสำเร็จ!”
ฉางห่าวส่ายหัว “บางครั้งคุณก็ไม่อยู่ห้อง ครั้งก่อนเป็นยังไงคุณคงยังไม่ลืม”
“ฉันจะทิ้งกุหลาบหรือพืชกลายพันธุ์ขั้น 6 ต้นอื่นเอาไว้ด้วย ...” เสียงของมู่เย่ชิงเบาลงเรื่อยๆจนเจียงหลินต้องเข้ามาปลอบเธอ
ฉางห่าวกล่าวต่อว่า “ครั้งนี้พวกเราตั้งใจมาเชิญเจียงหลินไปนอนในฐานทัพ ที่นั่นไม่มีใครกล้าบุกเข้าไปแน่ๆ และถ้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถือว่าเป็นศัตรูของฐาน ถึงตอนนั้นผู้นำฐานเมืองหลินจะลงมือด้วยตัวเอง ต่อให้เป็นธาตุทอง ก็ไม่มีใครกล้าที่จะทำแบบนั้น”
ฉางห่าวคุ้ยในกระเป๋าอยู่พักหนึ่ง ส่งเอกสารให้เจียงหลิน “และนี่คือโปรแกรมการสอนยิงปืน หลังจากไปถึงเขตทหาร จะมีผู้เชี่ยวชาญมาสอนวิธีใช้อาวุธปืน รวมไปถึงวิธีการป้องกันตัวเองให้ แต่คุณต้องจ่ายแกนคริสตัลเป็นค่าเล่าเรียนกับค่ากระสุน จะไปหรือไม่ ลองตัดสินใจเลือกเอา”
เจียงหลินรับเอกสารอย่างมีความสุข แกนคริสตัลไม่มีค่าใดๆสำหรับเธอ แต่การได้รับการฝึกฝนจากมืออาชีพเป็นอะไรที่มีประโยชน์มาก “ตกลง ขอบคุณมากจริงๆ ทั้งๆที่ฉันมีปืนแม็กนั่มพกติดตัว แต่ไม่เคยได้ใช้มันเลย”
...
การซ่อมแซมห้องใหม่จะใช้เวลาราวๆหนึ่งเดือน นั่นเท่ากับเจียงหลินต้องไปอาศัยในเขตทหารเป็นเวลาหนึ่งเดือน
แม้ที่พักที่ถูกจัดให้ของเจียงหลินจะค่อนข้างธรรมดา แต่ตลอดทั้งเดือนมันช่วยให้เจียงหลินได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ไม่เพียงฝึกยิงปืนทุกวัน แต่ยังได้รับการสอนในทางทฤษฏีและปฏิบัติอย่างการใช้อาวุธปืนแบบต่างๆ รวมไปถึงการใช้ระเบิดมือและปืนใหญ่ขนาดเล็ก
อาจกล่าวได้ว่าเจียงหลินได้รับประสบการณ์ฝึกทหารอย่างเป็นทางการในช่วงหนึ่งเดือน
ผู้สอนของเธอเป็นทหารพิเศษที่รอดชีวิตจากวันสิ้นโลก เขามีความสามารถมาก และฝึกเจียงหลินอย่างเข้มงวด
เมื่อชีวิตถูกคุกคาม ศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของมนุษย์ก็ถูกเรียกออกมา
ตลอดทั้งเดือน ความก้าวหน้าในการใช้อาวุธปืนของเจียงหลินดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดเธอกลายเป็นนักแม่นปืน เริ่มมีความชำนาญในการใช้อาวุธร้อน
และหลังจากครบเดือน เจียงหลินได้ย้ายออกจากเขตทหาร กลับมาอยู่ในอพาร์ตเมนต์หรูที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงใหม่
เธอกลับมาพร้อมใบอนุญาตการฝึก หากสนใจฝึกต่อ ก็สามารถเดินทางไปฝึกในเขตทหารได้ทุกเมื่อ
อพาร์ตเมนต์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ดูหรูหรากว่าเดิม
หลังจากเหตุการณ์เมื่อเดือนก่อน มันทำให้เจียงหลินมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงอันตรายของยุควันสิ้นโลก
บางครั้ง ก็เป็นมนุษย์ซะเอง ที่น่ากลัวยิ่งกว่าซอมบี้!
...
ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เจียงหลินเปิดประตู และพบว่ามีมากกว่าหนึ่งคนมาหาเธอ
เป็นฉางห่าวและมู่เย่ชิง
“ข้างนอกเกิดเรื่องแล้ว ช่วงหลายวันมานี้ หยางหนานรุ่ยเริ่มปล่อยข่าวลือว่าเธอโกงระดับพลัง ป่าวประกาศว่าเธอไม่ใช่ผู้ใช้พลังมิติขั้น 6 และขอให้มีการทดสอบพลังของเธออีกครั้ง!” มู่เย่ชิงรีบบอก
“ฉันเป็นผู้ใช้พลังจริงๆ เรื่องนี้เธอก็รู้ดี” เจียงหลินตบไหล่มู่เย่ชิงเพื่อให้เธอมั่นใจ “ต่อให้ทดสอบอีกครั้ง ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างไปจากเดิม”