ตอนที่ 20-9 โบนิน
ในอากาศเหนือแคว้นสกายเมาท์ อสูรโลหรูปกระบี่สีดำลอยนิ่งอยู่กับที่
ลินลี่ย์ โอลิเวอร์ และอีกสองคนกำลังยืนอยู่ในห้องโดยสารของอสูรโลหะมองผ่านหน้าต่างโลหะใสไปที่ภูเขาข้างหน้าพวกเขา
“ใช่แล้ว ภูเขายูสโตนอยู่ข้างหน้าเรา” ตาของโอลิเวอร์เป็นประกาย
ขณะที่บินมาที่นี่ โอลิเวอร์ประหลาดใจกับความเร็วของอสูรโลหะ ภายในเวลาสั้นๆ ปีเดียว พวกเขาก็เดินทางจากแคว้นอินดิโกมาถึงแคว้นสกายเมาท์ สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือ..เมื่อลินลี่ย์เดินทางจากทาร์ทารัสแห่งทะเลบาดาล ไปยังภูเขาสิ้นหวัง ระยะทางหลายหมื่นล้านกิโลเมตร เขาใช้เวลาเดินทางไม่ถึงสิบปี
“อธิบายลักษณะของไดอาน่าให้ข้าทราบด้วย” ลินลี่ย์กล่าว
โอลิเวอร์พยักหน้า “ไดอาน่าตัวเตี้ยกว่าข้าเล็กน้อย สูงประมาณระดับคิ้วของข้า นางมีผมตรงยาวประบ่าสีหยกเข้มเกือบเป็นสีดำ สถานะของนางภายในปราสาทภูเขายูสโตน นางเป็นนายหญิง จะหานางให้เจอน่าจะง่าย”
“ได้” ลินลี่ย์พยักหน้า
ขณะเดียวกัน อสูรโลหะหายไป และกลุ่มของลินลี่ย์สี่คนยืนนิ่งลอยตัวอยู่ในกลางอากาศ โอลิเวอร์จูงมือเดยาลูกชายของเขาไว้
“รอสักเดี๋ยว” ลินลี่ย์ต้องการขยายสำนึกเทพออกไปครอบคลุมครึ่งหนึ่งของเทือกเขายูสโตนรวมทั้งปราสาทไว้ในนั้นเป็นธรรมดา
ในปราสาทมีคนรวม 1556 คน ส่วนใหญ่เป็นบุรุษ มีสตรีน้อยมาก
สำหรับคนที่โอลิเวอร์ได้อธิบายไว้ สตรีคนหนึ่งผมสีเขียวเข้มยาวประบ่า มีอยู่เพียงคนเดียว!
ภายในปราสาท ที่ระเบียงของห้องน้อย สตรีนางหนึ่งมองทอดสายตาออกไปไกล นางอยู่ในชุดสีเขียวเข้ม นางคือนายหญิงของปราสาทนี้ ไดอาน่า!
“เลยา, ลูกแม่...แม่เสียใจมากจริงๆ” ไดอาน่าพูดเบาๆ มีแววเศร้าสร้อยอยู่ในแววตาของนาง
ตั้งแต่วันนั้นเป็นเวลานานสิบกว่าปีแล้ว เมื่อโอลิเวอร์โจมตีปราสาทและบอกนางว่าเลยาตายแล้ว ไดอาน่าเริ่มเกลียดโบนินมากที่สุด! เดิมที นางเกลียดโบนินเพราะพรากนางจากครอบครัว แต่ตอนนี้นางเกลียดโบนินเพราะไม่รักษาสัญญา และเพราะโจมตีทำร้ายลูกชายและสามีของนางเป็นผลให้เลยาตาย
“เรื่องกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง? ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น?” ไดอาน่าหลับตา น้ำตากลิ้งไปตามใบหน้า
ขณะนั้นเอง..
“เจ้าคือไดอาน่า ภรรยาของโอลิเวอร์ใช่ไหม?” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในใจของไดอาน่า
ไดอาน่าตกใจและนางรีบลืมตา
“ใครกัน?” ไดอานารีบมองดูรอบๆ แต่นางไม่สามารถเห็นใครได้สักคน และจากนั้นเสียงนั้นยังคงดังต่อไป “ไม่ต้องกังวลหรือสงสัย ข้าเป็นสหายของโอลิเวอร์ เขามาเชิญข้าให้ช่วยพาเจ้าออกไปจากที่นี่”
ไดอาน่ายังคงมองดูรอบๆ ตัวนางต่อไป แต่ไม่พบคนที่ส่งสำนึกเทพให้นาง นางสงบใจลงได้จากนั้นตอบ “ใช่แล้ว, ข้าคือไดอาน่า! แต่...ข้ามิอาจจากไปได้”
“มิอาจจากไปได้?”
“ถูกแล้ว ถ้าข้าจากไป อย่างนั้นโบนินเจ้าของปราสาทนี้จะต้องฆ่าโอลิเวอร์และลูกชายของเรา” ไดอาน่ากล่าว
“เขาไม่มีความสามารถทำเช่นนั้น” เสียงที่เยือกเย็นนั้นยังคงดังก้องในใจนาง
ไดอาน่าต้องการพูดอย่างอื่น แต่ทันใดนั้นนางได้ยินเสียงรบกวนดังต่อเนื่องจากระยะไกล ไดอาน่าอดจ้องมองไปในที่ไกลด้วยความสับสนมิได้ นางเห็นกลุ่มทหารยามบินออกมาจากกำแพงปราสาท พร้อมทั้งตะคอก “นี่คือปราสาทยูสโตน ถ้าเจ้าต้องการเข้าปราสาท รอให้เราส่งข้อความก่อน!”
เสียงตะโกนดังแล้วๆ เล่าๆ และมีบางคนชักอาวุธเทพออกมาขณะที่พวกเขาบินเข้ามาขัดขวางผู้มาถึง
แต่ร่างเลือนรางทั้งสี่ไม่ลังเลแม้แต่น้อยบินผ่านเข้าไปโดยตรง
“โอลี่ กับเดยา?” ไดอาน่าเบิกตากว้างตะลึงมอง
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนบินผ่านเข้าไปโดยไม่สนใจการขัดขวางของทหารยาม ทหารยามทั้งหมดเป็นเทพแท้ มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นเทพชั้นสูง ระลอกพลังรัศมีธาตุดินแผ่ผ่านร่างของพวกเขาดูเหมือนทำให้ทหารยามเหล่านั้นเป็นเหมือนเม็ดกรวดเม็ดทรายถูกพัดพาไปตามคลื่นทะเล ทุกคนถูกผลักกระเด็นถอยหลัง
“เอ๊ะ?” ไดอาน่าอดประหลาดใจไม่ได้
ทหารยามประจำปราสาทยูสโตนตะลึงกันทั้งหมด
“ใต้เท้า! คนทั้งสี่ทรงพลังเกินไป เราไม่สามารถหยุดพวกเขาได้” ทหารยามเหล่านั้นรีบรายงานบุรุษชุดดำ
บุรุษชุดดำสีหน้าเปลี่ยน โอลิเวอร์!“ ครั้งก่อนโอลิเวอร์ลอบเข้ามาและจากนั้นสู้กับโบนิน หลายคนในปราสาทยูสโตนจำโอลิเวอร์ได้ บุรุษชุดดำสั่งทันที ”รีบไปหาท่านเจ้าปราสาท เขาอยู่ในที่ใดที่หนึ่งของภูเขายูสโตน รีบไปตามหาเขา”
“ขอรับ ใต้เท้า”
ทันใดนั้น ทหารยามเกือบยี่สิบคนบินออกไปจากปราสาทยูสโตนเพื่อตามหาโบนิน
“ท่านทั้งสี่ โปรดชะงักเท้า” บุรุษชุดดำร้องเรียกด้วยเสียงดังชัด
ขณะเดียวกัน ทหารปราสาทหลายคนมารวมตัวอยู่หลังบุรุษชุดดำขณะที่เขาบินเข้าไปหากลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คน นอกจากนี้ทหารจำนวนมากยังบินออกมาจากในปราสาทเพื่อขัดขวางไม่ให้ลินลี่ย์เดินหน้าได้
“ครืน...”
กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คนบินไปข้างหน้า และเป็นเหมือนภูเขาเคลื่อนผ่าน ทหารปราสาททั้งหมดที่ต้องการขวางทางพวกเขาถูกคลื่นพลังเทพสีเหลืองกวาดกระเด็นถอยหลัง กลุ่มของลินลี่ย์ทั้งสี่คน...ไม่มีใครสามารถหยุดได้!
เมื่อเห็นเช่นนี้ หน้าของบุรุษชุดดำยิ่งดูบิดเบี้ยวมากขึ้น เขาบอกได้อย่างเดียวว่า..ศัตรูทรงพลังอย่างแท้จริง
“เว้นแต่เจ้าอยากตาย จงถอยไปห่างๆ” บีบีพูดอย่างอารมณ์ดี
“พวกเจ้าทั้งสี่คนถ้ายังบุกรุกเข้ามาอีก อย่างนั้นข้าจะโจมตี” บุรุษชุดดำพูดเสียงดัง แม้ว่าเขาจะพูดอย่างห้าวหาญ แต่หลังจากเห็นพลังของลินลี่ย์แล้ว...บุรุษชุดดำรู้ดีว่าถ้าศัตรูเหล่านี้ต้องการฆ่าพวกเขา ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก ที่สำคัญที่สุด การฆ่าเทพชั้นสูงเป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่ทำอย่างที่ลินลี่ย์กระแทกพวกเขากระเด็นถอยหลังโดยไม่ทำร้ายพวกเขา... นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก
กลุ่มของลินลี่ย์สี่คนบินเข้าไปหาไดอาน่าโดยตรง
ไดอาน่าจ้องมองขณะที่คนทั้งสี่บินเข้ามา ทหารประจำปราสาทไม่สามารถหยุดพวกเขาได้แม้แต่น้อย นางได้แต่ตกตะลึง
“แม่” เดยาร้องเรียกเป็นคนแรกขณะบินเข้าไปหาไดอานา โอลิเวอร์บินอยู่เคียงข้างเขาเช่นกัน
“เดยา” ตาของไดอาน่าแดงระเรื่อทันที นางรีบเข้ามาสวมกอดลูกชายไว้แน่น แม้ว่าลูกชายนางจะโตเป็นเด็กหนุ่มแล้วในตอนนี้ แต่จากรัศมีวิญญาณที่คุ้นเคย...ไดอาน่าจำเขาได้ทันที
“ไดอาน่า” โอลิเวอร์พูดอ่อนโยน
ไดอาน่าหันมามองโอลิเวอร์ นางอดโผเข้ากอดโอลิเวอร์ไม่ได้ สามีภรรยาทั้งสองรู้สึกตื่นเต้นและคิดถึงกันยิ่งนัก
ลินลี่ย์ลอยตัวอยู่กับที่ในกลางอากาศ บีบีเห็นภาพนี้แล้วอดยิ้มไม่ได้
“โอลี่, ทำไมเจ้าถึงกลับมา?” ไดอาน่าเงยหน้ามองดูโอลิเวอร์ นางพูดอย่างแตกตื่น “ครั้งก่อน, เมื่อเจ้ามา เป็นเพราะเจ้าไม่รู้จักพลังของโบนิน และโบนินนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต.. เจ้าโชคดีมากแล้วที่สามารถหลบหนีไปได้ในครั้งก่อน ครั้งนี้เจ้า..โธ่เอ๊ย!” ไดอาน่าเป็นห่วงมาก
ที่สำคัญโบนินทรงอำนาจมาก และเบื้องหลังของเขาก็คือเจ้าแคว้นสกายเมาท์
“ไม่ต้องเป็นห่วง” โอลิเวอร์ยิ้ม
“แม่, ไม่ต้องเป็นห่วง เรามีท่านอาลินลี่ย์” เดยาเตือนเช่นกัน เด็กที่เย็นชาปราศจากอารมณ์ เมื่อพบมารดาของเขาดูเหมือนจะกลับกลายเป็นเด็กอีกครั้ง
“ลินลี่ย์?” ไดอานาเงยหน้ามองดูลินลี่ย์และบีบีที่อยู่ห่างออกไปด้วยความสับสน “เจ้าหมายถึงพวกเขาหรือ?”
“ใช่แล้ว” โอลิเวอร์ยิ้มและพยักหน้า
“แต่โบนินมีบิดาที่น่ากลัวมาก เขาไม่ใช่แค่เจ้าแคว้นสกายเมาท์ เขายังเป็นทูตมหาเทพมีอาวุธมหาเทพ เขามีพลังอำนาจมาก” ไดอาน่ารีบบอก เจ้าแคว้นในแดนนรกมี 108 คน แต่ไม่มีสักคนที่มีสมบัติมหาเทพ
โอลิเวอร์ได้แต่หัวเราะเนื่องจากเขารู้ถึงอำนาจพลังของลินลี่ย์
สมบัติมหาเทพ?
แม้แต่ยอดฝีมือที่มีสมบัติมหาเทพสามชิ้น ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพพารากอน เทพพารากอนอาจจะฆ่าคนผู้นั้นไม่ได้ แต่ยังสามารถไล่ต้อนคนผู้นั้นเข้าพื้นที่มิติปั่นป่วนได้
“ท่านอาลินลี่ย์เป็นเทพพารากอน” เดยารีบบอก
“พะ..พารากอน?” ไดอาน่ากระพริบตาตะลึง นางตะลึงกับคำว่าเทพพารากอน เทพพารากอน..คนในตำนานเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของผู้ไร้เทียมทานในหมู่เทพ!
“ไดอาน่า เจ้าบัดซบโบนินอยู่ที่ไหน?” ตาของโอลิเวอร์มีแววดุร้ายขณะพูด
“เขา...” ไดอาน่าค่อนข้างลังเล แต่นางก็ยังตอบ “เขาไปรวบรวมดอกหมอกโลหิต น่าจะอยู่ในภูเขายูสโตน”
“ดอกหมอกโลหิต? อะไรกันนั่น?” โอลิเวอร์ไม่เข้าใจ
“ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับดอกไม้เหล่านี้ นั่นเป็นแค่ดอกไม้ชนิดหนึ่ง” เห็นได้ชัดว่าไดอาน่าไม่ต้องการพูดถึง “อย่าไปสนใจเลย เราจำเป็นต้องหาตัวโบนิน แต่ภูเขายูสโตนกว้างใหญ่มาก เราจะหาเขาพบได้อย่างไร?” สำนึกเทพของเทพชั้นสูงขยายได้ระยะพันเมตร อาศัยแค่สำนึกเทพค้นหาในเทือกเขาที่กว้างใหญ่ไพศาลยากจะค้นหาได้
ลินลี่ย์ลอยตัวอยู่กับที่กลางอากาศพูดขึ้นในที่สุด “โอลิเวอร์, เราพบโบนินผู้นั้นแล้ว”
ไดอาน่า เดยาและโอลิเวอร์มองลินลี่ย์ด้วยความประหลาดใจ
“ทหารประจำปราสาทรู้ตำแหน่งของโบนิน...” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาสังเกตการสนทนาระหว่างทหารประจำปราสาทและโบนิน และเขาย่อมรู้ได้เป็นธรรมดาว่าคนไหนคือโบนิน ความจริง... เป็นเรื่องง่ายมากที่จะบอกได้ว่าใครคือโบนิน นี่เป็นเพราะแม้จะมีคนมากอยู่ภายในเทือกเขายูสโตน โบนินกำลังเที่ยวไปกับบริวารสิบคนซึ่งเป็นเทพชั้นสูงทุกคน
ในเทือกเขายูสโตน เป็นไปได้ว่ามีแต่โบนินที่ทำอย่างนั้นได้
“ตามข้ามา” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะอย่างเยือกเย็น
โอลิเวอร์พาไดอาน่าและเดยาตามลินลี่ย์และบีบีบินออกไปจากปราสาท สำหรับหญิงรับใช้และทหารยามประจำปราสาท ทุกคนทำได้แต่มองดูนายหญิงของปราสาทออกไป พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้สักอย่าง
ในพื้นที่แยกต่างหากของภูเขายูสโตน
โบนินเป็นคนร่างใหญ่หลังเต็มไปด้วยมัดกล้ามเหมือนกับเสือโคร่งและเอวหนาราวกับหมี สูงเกือบสองเมตร และใบหน้าของเขาค่อนข้างหล่อ เขามีคิ้วหนาดำและมีประกายตาที่มีชีวิตชีวา ตอนนี้โบนินถือดอกไม้ไว้ในมือ ดอกไม้นี้เหมือนกับจะมีสีขาวจางมีลายสีแดงม้วนอยู่รอบ
ดอกหมอกโลหิตเป็นดอกไม้ที่สวยงามมาก แต่แน่นอนว่ามันไม่มีประโยชน์ไรนอกจากใช้เป็นไม้ประดับสร้างสุนทรียภาพ
“เจ้าว่ายังไงนะ?” โบนินสีหน้าเปลี่ยน
“นายท่าน เจ้าคนชื่อโอลิเวอร์กลับมาอีกแล้ว และเขาพาคนมาด้วย!” ทหารประจำปราสาทรีบรายงาน “คนที่เขานำมาด้วยแข็งแกร่งมาก ทหารทั้งหมดไม่สามารถหยุดยั้งเขาได้ เราได้แต่มองเขาขณะที่เขาบุกเข้ามาในปราสาท ใต้เท้าสั่งให้เรามาแจ้งท่าน!”
“บัดซบ!” ดวงตาของโบนินเป็นประกายดุร้าย “เจ้าขยะไร้ประโยชน์นั่น ข้าไว้ชีวิตมันครั้งล่าสุด ใครจะคิดกันเล่าว่าแทนที่มันจะฉลาดพออยู่ห่างๆ แต่มันกลับมาจนได้”
“ตามข้ามา” โบนินออกคำสั่ง
“นายท่าน” หัวหน้าทหารประจำปราสาทของโบนินรีบกล่าว “ครั้งก่อนโอลิเวอร์เห็นพลังของท่านแล้ว แต่ครั้งนี้ก็ยังมา เขากล้ากลับมาได้ เห็นได้ชัดว่าเขาเตรียมตัวรับมือท่าน ทหารที่มีอยู่ในปราสาทตอนนี้รวมกำลังกันก็ยังหยุดพวกเขาไม่ได้.. พลังของคนผู้นี้เป็นไปได้ว่าอาจเทียบเท่าท่านเจ้าแคว้น ถ้าท่านไป ผลกระทบที่ตามมา...”
โบนินอดชะงักไม่ได้
เขากำหมัด และก้านของดอกหมอกโลหิตในมือเขาบิดพัง
“หรือว่าจะให้ข้านั่งดูคนอื่นพาภรรยาข้าจากไป?” โบนินพูดอย่างโมโห
“นายท่าน, ชีวิตของท่านสำคัญมากกว่า สำหรับนายผู้หญิง นาง... เราไปหาท่านเจ้าแคว้นแล้วคิดหาวิธีกันเถอะ” นายทหารบอก
แต่ขณะนั้นเอง...
“อย่าพยายามบอกให้เขาออกไปเลย มันสายเกินไปที่จะทำเช่นนั้น” เสียงเยือกเย็นดังก้องในใจทุกคน
“หืม?” หน้าของโบนินเปลี่ยนไป และเขาเงยหน้าจ้องมองในระยะไกล
มีร่างห้าคนบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง โบนินจำไดอาน่าและโอลิเวอร์ได้ทันที ไดอานาและโอลิเวอร์กุมมือกันและกัน เมื่อเห็นภาพตำตาเช่นนี้โบนินไม่สามารถระงับความโกรธได้ หน้าของเขาแดงทันที และตาของเขาเหมือนมีไฟลุกโชนขณะที่เขาตะคอกใส่ “โอลิเวอร์! ปล่อยภรรยาข้า!”
“ภรรยาเจ้า?” โอลิเวอร์โกรธจนดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า
“นาน่า” โบนินคำรามด้วยความโกรธ “ตลอดหลายปีมานี้ ข้าปฏิบัติกับเจ้าอย่างไม่สุภาพหรือไม่? ทำไมเจ้ามักทำตัวอย่างนี้.. ข้าทำทุกอย่างเพื่อเอาใจเจ้า และข้ามักจะให้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ! เจ้าอยากเห็นดอกหมอกโลหิต ข้าก็พาคนไปหาดอกหมอกโลหิตจนทั่วภูเขา! แต่เจ้า...”
ไดอาน่าตะลึง แต่จากนั้นนางตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “โบนิน..ข้า..คือภรรยาของโอลิเวอร์ ไม่ใช่ของเจ้า! เจ้าส่งคนไปฆ่าเลยา.. เจ้าคิดว่าข้าจะยอมยกโทษให้เจ้าเพราะเรื่องนั้นหรือ?”
“แต่..แต่เจ้ากับข้าแต่งงานกันก่อน!” โบนินคำรามด้วยความโกรธ
ไดอาน่าส่ายหน้าไม่พูดอะไรอีก
โบนินก้มหน้ามองดูดอกหมอกโลหิต เขาหาดอกนี้จนทั่วภูเขา ทั้งหมดเป็นเพราะเขาต้องการเอาใจไดอาน่าและทำให้นางมีความสุข ในที่สุดเมื่อเขาพบดอกไม้ เขาต้องการนำกลับไปให้นาง และดูรอยยิ้มของนาง
“ฮ่าฮ่า..ผู้หญิง..ฮ่าฮ่า...” โบนินเริ่มหัวเราะเพราะความโกรธ
“ข้า..หัวใจของข้าถูกเจ้าย่ำยีเสียแล้ว!” โบนินจ้องมองไดอาน่าและโอลิเวอร์ตาไม่กระพริบ “พวกเจ้าทั้งสองสนิทกันนักใช่ไหม? อย่างนั้นข้า.. ข้าจะให้พวกเจ้าสองคนตายพร้อมกัน!
“ปัง!”
ร่างของโบนินเริ่มเปล่งรัศมีสีดำ