ตอนที่ 20-17 ร้อนเกินจัดการได้
ภายในอสูรโลหะ เพราะคำพูดของของบีบี ลินลี่ย์ใช้สำนึกเทพตรวจสอบมุกวิญญาณทั้งเก้าในแหวนมิติเก็บสมบัติของเขา แต่สิ่งที่ลินลี่ย์เห็นคือสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน... มุกวิญญาณทั้งเก้านั้นหลอมรวมเข้ากับมงกุฏที่ทรุดโทรมนั้น มงกุฏนั้นเรืองแสงเปล่งรัศมีเรืองรองรอบตัว ไม่มีร่องรอยว่าเคยแตกชำรุดมาก่อน
เมื่อเห็นเช่นนี้ ท่าทีประหลาดใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของลินลี่ย์
“พี่ใหญ่! มีอะไรหรือ?” บีบีเมื่อเห็นเช่นนี้ อดถามขึ้นไม่ได้
“ไม่มีอะไร” ลินลี่ย์รีบสงบจิตใจและหัวเราะ ขณะเดียวกันเขาพูดกับบีบีผ่านการเชื่อมโยงวิญญาณ “บีบี! มุกวิญญาณทั้งเก้าเกี่ยวข้องกับบางเรื่องที่สำคัญยิ่งยวด มหาเทพที่มาก่อนหน้านั้นก็เพราะต้องการมุกวิญญาณทั้งเก้า ตั้งแต่นี้ไป ไม่ว่ายังไงอย่าพูดเรื่องมุกวิญญาณทั้งเก้ากับใครๆ แม้หลังจากเรากลับไปเทือกเขาสกายไรท์ ก็อย่าพูดถึง”
บีบีต้องทนรับบททดสอบอยู่ข้างตัวลินลี่ย์มานับไม่ถ้วน เขารู้ว่าสถานการณ์ร้ายแรงแค่เพียงเห็น และเขารีบพูดผ่านการผูกพันทางวิญญาณ “ไม่ต้องห่วง พี่ใหญ่”
“โอลิเวอร์ ไดอาน่า เดยา” ลินลี่ย์มองดูกลุ่มของโอลิเวอร์ทั้งสามคน จากพูดผ่านสำนึกเทพ “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเจ้าต้องลืมเรื่องมุกวิญญาณทั้งเก้าเหล่านั้น เข้าใจไหม? ถ้าพวกเจ้าพูดถึงของเหล่านั้น พวกเจ้าจะเป็นต้นเหตุให้เกิดการนองเลือด บางทีข้าก็ต้องรับผลร้ายไปด้วย ขณะที่พวกเจ้าในฐานะคนที่รู้เรื่องภายในก็อาจถูกจับไปสอบสวน”
ลินลี่ย์ไม่กล้าคาดคิดว่าจะต้องมีคนมากมายเท่าใดต้องทนทุกข์ทรมานเมื่อพวกเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับมุกวิญญาณทั้งเก้า
นอกจากโมลด์ มีเพียงครอบครัวของโอลิเวอร์ทั้งสามและบีบีที่รู้ว่าลินลี่ย์ได้รับมุกวิญญาณทั้งเก้า เมื่อข่าวนี้รั่วไหลออกไป โอลิเวอร์ บีบีและอีกสองคนจะต้องถูกติดตามไล่ล่าแน่นอน
“มุกวิญญาณทั้งเก้า?” โอลิเวอร์ไม่ถามอีกต่อไป ขณะที่เขาส่งสำนึกเทพตอบ “ไม่ต้องห่วง เราจะทำเหมือนกับว่าไม่เคยเห็นอะไร”
“ไม่ต้องห่วง ท่านอาลินลี่ย์” เดยาบอกด้วยเช่นกัน
โอลิเวอร์และไดอาน่าเป็นเทพชั้นสูงทั้งคู่ พวกเขารู้ว่าเรื่องนี้สำคัญเพียงไหน เดยาในตอนนี้ก็เป็นผู้ใหญ่เช่นกัน และขณะที่เขาเห็น คนอย่างลินลี่ย์ พารากอนที่ไร้เทียมทานบอกเรื่องเช่นนั้นก็หมายความว่านี่เป็นเรื่องร้ายแรงแน่นอน
“ตอนนี้โมลด์ควรจะตายไปแล้ว ตราบใดที่พวกเจ้าไม่บอกใครในอนาคต ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร ต่อให้มีอย่างมากก็เกี่ยวข้องกับข้า” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพบอก เขาเข้าใจว่าแม้ว่ามหาเทพธาตุลมเทเลเซียจะจากไปแล้วก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่ามหาเทพคนอื่นจะไม่สงสัยอะไร
ลินลี่ย์ขมวดคิ้วขณะไตร่ตรองกับตนเอง “เป็นไปได้ว่าโมลด์คงไม่ใช่แค่เผยแพร่ข่าวนี้ให้หนึ่งในมหาเทพทราบ ข้าใช้เวลาไม่ถึงปีเดินทางจากแคว้นสกายเมาท์ไปแคว้นอินดิโก แต่มหาเทพบลัดริจและมหาเทพธาตุลมต่างไวกันทั้งคู่ แต่มีแนวโน้มว่ามหาเทพอื่นมิใช่ว่าไม่ได้รับข้อมูลนี้ แต่หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาจะรู้เรื่องนั้น พวกเขาจะต้องมาตามหาข้าแน่...”
ตราบใดที่ข้าต้องรับมือด้วยตัวข้าเอง นั่นก็คงไม่เป็นไร
เขาเป็นเทพวิญญาณกลายสภาพมีพลังของปณิธาน มหาเทพคงไม่สามารถสะกดจิตเขาได้
แต่โอลิเวอร์ เดยาและคนอื่น..พวกเขาแตกต่างออกไป จะเป็นเรื่องดีที่สุดถ้าแยกพวกเขาไว้จากเรื่องนี้ไว้ก่อน
เทือกเขาสกายไรท์ ที่พำนักของลินลี่ย์
เรย์โนลด์นั่งอยู่บนพื้น เขากำลังนอนหงายมองต้นไม้ต้นหนึ่งถือหนังสือเล่มหนึ่งในมือ ขณะที่เยลและจอร์จนั่งหันหน้าเข้าหากัน
“พี่สามขยันขันแข็งเหลือเกิน พอมาถึงได้ก็เข้าฝึกฝนเลย ทันทีที่เขากลับมา เขาปิดประตูขังตัวฝึกฝนทันที แม้แต่ร่างหลักก็ไม่ยอมพัก ด้วยระดับปัจจุบันของเขา ทำไมถึงได้ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งก็ไม่รู้?” เรย์โนลด์นั่งอยู่บนพื้นนิ่ง สายตามองดูหนังสือขณะที่บ่นเสียงดัง “ร่างหลักของเขาและร่างแยกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่.. เขาควรจะเหลืออย่างน้อยสักร่างหนึ่งไว้พูดคุยสนทนากับพี่น้อง เขาจะได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของเขา แต่เขาไม่ยอมแม้แต่จะคุยกับเรา เขามาถึงถึงก็ขังตัวฝึกฝนเลย”
จอร์จส่ายศีรษะ เนื่องจากเรย์โนลด์นั่งอยู่บนพื้น เขาชำเลืองมองและหัวเราะ “น้องสี่, เจ้าเชื่อหรือว่าน้องสามจะเกียจคร้านเหมือนเจ้าฝีมือของเขาจะมาถึงระดับปัจจุบันได้หรือ? ไม่ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์มากมายเพียงไหนเจ้าก็ต้องขยันให้มาก”
“ข้าเข้าใจ” เรย์โนลด์ตอบ และจากนั้นเขาเห็นบีบีมาแต่ไกล เขารีบเรียกทันที “เฮ้, บีบี, มานี่ก่อน”
“ข้ากำลังยุ่ง เดี๋ยวข้าค่อยมา” บีบีรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
บีบีบินลงไปตามบันได และเขาไปตามระเบียงที่เย็นและมืด
ไม่ช้าบีบีก็มาถึงห้องส่วนตัว
“แอ๊ด...” ห้องศิลาถูกผลักเปิดออก ลินลี่ย์นั่งขัดสมาธิอยู่ภายในห้องศิลา ผมของเขายาวสยาย ลินลี่ย์ลืมตาและเหลือบมองบีบี จากนั้นหัวเราะและพยักหน้า “บีบี! นั่งก่อน”
ประตูศิลาปิด
บีบีมองดูลินลี่ย์ด้วยความสงสัย “พี่ใหญ่, ท่านต้องอะไรหรือ?”
“บีบี” ลินลี่ย์พูดกับเขาผ่านการเชื่อมวิญญาณ “ก่อนนี้, เจ้าถามข้าเรื่องมุกวิญญาณทั้งเก้าใช่ไหม? ข้าจะบอกเจ้าเดี๋ยวนี้ แต่การสนทนาของเราต้องทำผ่านการเชื่อมโยงวิญญาณ นี่เป็นเพราะ...ข้าไม่แน่ใจว่าตอนนี้มีมหาเทพใช้สำนึกเทพติดตามข้าหรือไม่!”
ลินลี่ย์ไม่สามารถตรวจสอบสำนึกเทพของมหาเทพได้ ซึ่งเป็นเหตุผลเพื่อความปลอดภัย ลินลี่ย์ไม่กล้าเอามงกุฏออกมาแม้แต่ครั้งเดียว
“แต่แน่นอน ยังเร็วเกินไป มีแนวโน้มว่ามหาเทพส่วนใหญ่จะยังไม่รู้เรื่องนี้ ดังนั้นโอกาสที่ตอนนี้เราจะถูกตรวจสอบเป็นไปได้ต่ำ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย เราจำเป็นต้องระวังตัวไว้” หลังจากมีประสบการณ์ครั้งล่าสุด ลินลี่ย์ไม่ต้องการพึ่งพาอาศัยโชคอีก
“ดูเหมือนว่านี่เป็นปัญหาหนักหนาสาหัสจริงๆ” ตาของบีบีเป็นประกายขณะที่เขาตอบกลับ
“เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสจริงๆ มุกวิญญาณทั้งเก้านั้นคือเครื่องรางจอมเทพ เป็นของที่แม้แต่มหาเทพก็ต้องการ แต่, ข้าไม่อาจส่งมอบออกไปได้ เพราะเมื่อข้าส่งมุกวิญญาณทั้งเก้าออกไป มหาเทพจะต้องทวงถามโองการจอมเทพ การส่งของเหล่านั้นออกไปจะเป็นเหตุให้เกิดหายนะ! ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือซ่อนมุกวิญญาณทั้งเก้าเอาไว้”
ลินลี่ย์ไตร่ตรงเรื่องนี้มานาน แม้ว่าเขาจะมีความคิดดีๆ สองสามอย่าง แต่ในที่สุด เขาเลือกอาศัยความช่วยเหลือจากบีบี
“พี่ใหญ่! บอกมาเลย” บีบีตอบทางใจ
ลินลี่ย์พูดเสียงดัง “บีบี, เจ้าจำเป็นต้องกินประกายเทพ ใช่ไหม? แหวนเก็บสมบัตินี้มีประกายเทพเก็บไว้อย่างเพียงพอ” ขณะที่เขาพูด เขาเอาแหวนมิติเก็บสมบัติและมอบให้บีบี ขณะที่เขาพูดเสียงดัง เขาพูดทางจิตผ่านสำนึกเทพ “บีบี! เครื่องรางจอมเทพอยู่ในแหวนนี้ ข้าไม่สามารถเปิดได้ สิ่งที่เจ้าต้องทำตอนนี้กลืนแหวนนี้ ตอนนี้เจ้าน่าจะสามารถสร้างอาวุธประกายเทพได้แล้วใช่ไหม? ซ่อนแหวนนี้ไว้ในอาวุธประกายเทพและหลอมรวมมันเข้าไว้ ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถทำเช่นนี้ได้”
“ไม่ต้องห่วง พี่ใหญ่ ตอนนี้ข้ากำลังสร้างอาวุธประกายเทพ” บีบีมีความมั่นใจ
เมื่อบีบีเพิ่งกลายเป็นเทพชั้นสูงใหม่ๆ เขาไม่สามารถสร้างอาวุธประกายเทพได้
แต่เป็นเวลานานกว่าพันปีแล้ว หลังจากกินประกายเทพมากมาย บีบีก็มีพลังพอสร้างอาวุธประกายเทพได้
“อีกเดี๋ยวข้าจะกลืนแหวนนี้ลงท้องข้า แต่ข้าจะไม่ย่อยมัน ข้าใช้อาวุธประกายเทพบังเอาไว้ หึหึ อาวุธประกายเทพ.. แม้แต่มหาเทพก็ไม่สามารถมองผ่านและเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน ต่อให้มหาเทพมาตรวจสอบเรา มหาเทพจะสงสัยอาวุธประกายเทพได้อย่างไร?” บีบีมั่นใจเต็มที่
“ต่อให้เขาต้องการค้นหา บางทีเขาจะมาหาที่ข้าก่อน” ลินลี่ย์ตอบกลับพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
ของอย่างเครื่องรางจอมเทพ สำหรับพวกเทพอันตรายมาก
เพราะโมลด์ใช้อุบาย ลินลี่ย์จึงไม่กล้าส่งมอบมุกวิญญาณแน่นอน ถ้าเขาไม่ส่งมอบ ก็ยังไม่เลวร้ายมาก มีแนวโน้มว่ามหาเทพจะเชื่อว่าโมลด์พยายามทำร้ายลินลี่ย์ แต่ถ้าเขาส่งมอบออกไป... คงเป็นเรื่องแปลกถ้ามหาเทพไม่สั่งให้ลินลี่ย์ส่งมอบโองการจอมเทพเช่นกัน ถ้าลินลี่ย์ส่งมอบมงกุฎคร่ำคร่าไปให้ บางทีมหาเทพอาจจะโกรธและคงจะสงสัยว่าลินลี่ย์ครอบครองของทั้งสามอย่าง
ตอนนั้นลินลี่ย์จะกลายเป็นศูนย์กลางการต่อสู้ระหว่างมหาเทพแน่
“ถ้าพวกเขาไม่สามารถหาพบที่ตัวข้า มหาเทพบางทีอาจยอมยกเลิกรา เว้นแต่มหาเทพคนหนึ่งแน่ใจอยู่แล้วว่าเครื่องรางจอมเทพมีอยู่จริง ถึงตอนนั้นพวกเขาคงค้นหากันอย่างกระตือรือร้นแน่” ลินลี่ย์มั่นใจมาก เพราะเกี่ยวกับข้อมูล เขาสามารถบอกได้..ว่ามหาเทพไม่รู้ว่าข่าวเรื่องเครื่องรางจอมเทพจะเป็นจริงหรือไม่
บางทีจอมเทพยังไม่ได้ออกภารกิจก็ได้
การคาดการณ์ของลินลี่ย์ถูกต้อง เรื่องนี้ยังไม่จบ โมลด์ตายไปแล้ว แต่ทหาร 100 คนที่เขาส่งออกไปไม่รู้เรื่องนั้น เขายังเร่งรีบไปยังที่ต่างๆ ทั่วแดนนรก
ทะเลสตาร์มิสท์อยู่ติดกับทวีปบลัดริจ
ทะเลสตาร์มิสต์ ลึกลงไปในทะเล
หอสูงเก้าชั้น ยิ่งลงลึกไปชั้นหนึ่งพื้นที่ก็มากขึ้น หอสูงเก้าชั้นสร้างอยู่ในทะเลสตาร์มิสท์ร้อยกิโลเมตร และสูงเกือบห้าพันเมตร หอเก้าชั้นมีสีดำสนิท แต่ชั้นนอกยังมีแสงสลัวกันน้ำทะเลไว้ที่อ่าวไม่ให้เข้ามา
ภายในหอสูงเก้าชั้น ที่ประตูใหญ่ นักรบผู้มีเขาสองคนยืนนิ่งกับที่
ภายในอาคารชั้นที่หนึ่ง ในห้องโถงตะวันออก
ข้างหน้าหอโถง มีบัลลังก์เรืองแสงราวกับภาพมายา ร่างที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ดูเหมือนพร่าเลือนแต่มีรัศมีน่ากลัวสั่นสะท้านใจ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัด ทำให้บุรุษชุดม่วงที่ด้านหลังหอโถงใหญ่คุกเข่าด้วยความกลัวไม่กล้าเงยหน้าขึ้น
“มหาเทพ” บุรุษชุดม่วงคุกเข่าลงต่อหน้าบัลลังก์ “ข้าน้อยแค่ได้รับข่าว และจากนั้นก็รีบมาที่นี่ไม่กล้าแม้แต่จะเหลียวหลัง”
“ท่านมหาเทพ” บุรุษชุดม่วงคุกเข่าบนพื้นโถงใหญ่ “ข้าน้อยได้รับข่าวมาบางอย่าง มีคำพูดที่เกี่ยวกับเครื่องรางจอมเทพ”
“เครื่องรางจอมเทพ?”
เสียงแหบทุ้มดังก้อง
ทันใดนั้นกระดาษสีดำลอยเข้าหาร่างที่นั่งอยู่บนบัลลังก์และหยุดนิ่งทันทีเมื่อมาถึงหน้าบัลลังก์ และจากนั้น ชิ้นกระดาษถูกเผาก่อนจะกลายเป็นเถ้าถ่าน
“มันเป็นกระดาษธรรมดาจริงๆ ที่แฝงไปด้วยข่าวใช่ไหม? น่าขัน” เสียงแหบดังขึ้น “เจ้าไปได้ยินข่าวมาจากที่ไหน?”
“ท่านมหาเทพ, เทพชั้นสูงคนหนึ่งส่งมาให้เรา เมื่อข้าเห็น ข้าไปพบเทพชั้นสูงนั้นทันทีและเริ่มสอบปากคำเขา ตอนแรกเทพชั้นสูงนั้นยืนยันว่าเขาบังเอิญได้รับมาและต้องการเสนอมาให้ข้า แต่ข้าไม่เชื่อและเพิ่มคำถามอีก ในที่สุดข้าก็ทราบว่าข่าวนี้มาจากเจ้าแคว้นโมลด์แห่งแคว้นสกายเมาท์ ทวีปบลัดริจ เขาเป็นคนส่งคนมาที่นี่ ข้าไม่กล้าคิดเรื่องนี้ และรีบนำมารายงานท่านแทน”
“เจ้าแคว้นแห่งทวีปบลัดริจ?”
มหาเทพนั่งบนบัลลังก์ ไตร่ตรองเงียบๆ ครู่หนึ่ง “เจ้าทำดีแล้ว ไปได้แล้ว”
“ขอรับ ท่านมหาเทพ” หลังจากได้ยินคำพูดว่า ‘เจ้าทำได้ดี’ บุรุษชุดม่วงตาทอประกายวูบด้วยความดีใจ เขาออกไปทันที
“ข่าวนี้ไม่ได้มาจากโองการจอมเทพ โอกาสเป็นจริงต่ำ แต่เพราะเจ้าแคว้นกล้ากระทำการเช่นนั้น บางทีอาจมีโอกาสก็ได้” ร่างเลือนรางนั้นหายไปจากบัลลังก์ทันที
ดวงอาทิตย์สีเลือดฉายแสงอยู่เหนือเทือกเขาสกายไรท์
รูปสลักของตระกูลสี่อสูรศักดิ์สิทธิ์ในเทือกเขาสกายไรท์ปรากฏเด่นสะดุดตา มีคนเห็นได้จากทุกที่บนภูเขา
“ควั่บ!”
ร่างมนุษย์เลือนรางปรากฏอยู่ด้านหน้าของเทือกเขาสกายไรท์ ดูเหมือนกับเป็นการเทเลพอร์ตมาที่นี่ บุรุษผู้นี้สวมชุดยาวสีม่วงเข้ม ปักรูปดาวไว้ด้านบน ผมยาวของเขายาวประบ่า ลักษณะของเขาดูรูปงาม แต่ที่หน้าผากของเขามีเขาเล็ก
ผู้มาถึงใหม่นี้กวาดสายตามองไปทั้งเทือกเขาสกายไรท์ จากนั้นมีรอยยิ้ม “อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ตายไปแล้ว ข้าไม่คิดเลยว่าลูกหลานของเขาจะสร้างพารากอนออกมาได้”
และจากนั้นเขาเคลื่อนไหวอีกครั้งหนึ่งและหายไป
ในอากาศเหนือที่พักของลินลี่ย์ บุรุษชุดม่วงจู่ๆ ก็ปรากฏร่างอีกครั้งหนึ่ง
“นี่ใครกัน?” เรย์โนลด์เมื่อเห็นคนจู่ๆ ก็ปรากฏร่างอย่างกะทันหันในอากาศเหนือเขา ถึงกับสะดุ้ง
พวกทหารที่อยู่รอบๆ พื้นที่ว่างนี้ทุกคนตกตะลึงเช่นกัน ก่อนที่พวกเขาจะทันสังเกต มีคนปรากฏตัวเหนือพวกเขา นอกจากนี้มีหลายคนที่จ้องมองมาในอากาศ คนผู้นั้นดูเหมือนเทเลพอร์ตเข้ามาที่นี่ เนื่องจากเขาปรากฏตัวกะทันหัน
“ใครกัน?” เยลพูดในใจ ตะลึงมอง “ข้า..ข้าไม่สามารถเห็นเขาได้ชัด เขาดูเหมือนจะมีชั้นหมอกคลุมรอบตัว
“ข้าบอกไม่ได้เหมือนกัน” บีบีพึมพำด้วยความประหลาดใจ
คนผู้นี้ลอยตัวลงมายืนบนพื้น เขาเปล่งรัศมีเพื่อให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ไม่เข้ามาใกล้เขา
“ควั่บ!” “ควั่บ!” มีสองร่างออกมาจากโถงใหญ่
“คารวะมหาเทพ” สองร่างนั้นคำนับพร้อมกัน
“ลินลี่ย์..เบรุต..” ผู้มาใหม่ชำเลืองมอง “เข้าไปคุยกันในห้อง” ขณะที่เขาพูด ร่างของเขากระพริบจากนั้นหายไปจากที่นั่น ความเร็วของเขาไวกว่าเทพพารากอนหลายเท่า
ลินลี่ย์และเบรุต
“ลินลี่ย์, การคาดการณ์ของเจ้าแม่นยำมาก” เบรุตส่งสำนึกเทพคุยพลางหัวเราะ
“เรื่องเข้าใจได้ง่ายอยู่แล้ว เพียงแต่ข้าคาดไม่ถึงว่าจะมีผู้มาได้ไวมาก” ลินลี่ย์ส่งสำนึกเทพพลางถอนหายใจ “ลอร์ดเบรุต, นี่เป็นมหาเทพใด?”
“มหาเทพสตาร์มิสท์! เขาเป็นผู้ควบคุมทะเลสตาร์มิสท์ ในแง่พลัง บรรดาเจ็ดมหาเทพวิถีทำลายล้างเขาแค่เป็นรองประมุขมหาเทพวิถีทำลายล้าง เขามีพลังมากกว่ามหาเทพธาตุลมผู้มาถึงครั้งก่อน มา, เขาไปข้างในกัน” เบรุตส่งสำนึกเทพบอกและจากนั้นลินลี่ย์กับเบรุตรีบก้าวเข้าไปในโถงใหญ่