ตอนที่แล้วตอนที่ 20-14 จริง เท็จ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20-16 ความยากลำบาก

ตอนที่ 20-15 มหาเทพมาเอง


ภายในห้องโถงใหญ่ โมลด์ยังนั่งคุกเข่า

แต่เมื่อเห็นมหาเทพแห่งลมแยกจากไปทันทีเขารู้สึกดีใจแทบคลั่ง  “เท่าที่พวกเขาสนทนากัน  ดูเหมือนว่าคนผู้นี้ก็เป็นมหาเทพเช่นกัน!  ดีแล้ว ต่อให้มหาเทพบลัดริจไม่เชื่อข้า  แต่อย่างน้อยก็มีมหาเทพอีกคนหนึ่งไป เจ้าลินลี่ย์ ต่อให้ส่งมอบมุกวิญญาณออกมา แต่เขายากจะหลีกหนีความตายได้!”

เมื่อโมลด์คิดถึงสิ่งที่เขียนไว้บนแผ่นกระดาษเขาอดกระหยิ่มใจไม่ได้  ถ้าเขาอธิบายสิ่งต่างๆ ไว้ชัดเจนบางทีลินลี่ย์อาจจะมอบไข่มุกวิญญาณทั้งเก้าและมหาเทพคงจะปล่อยลินลี่ย์  แต่ในการกระจายข่าว  โมลด์ได้เปลี่ยนแปลงข้อความบางอย่างเล็กน้อย

แม้ว่าเขาจะไม่สามารถทำตามแผนได้สมบูรณ์ในเวลาสั้นๆ เนื่องจากโมลด์เห็นว่า... แค่นี้ก็เพียงพอให้ลินลี่ย์ตายได้

“ลินลี่ย์, โอว, ลินลี่ย์... เทพพารากอนคนหนึ่งกำลังตายอย่างนั้น”  โมลด์รำพึงกับตนเอง

“โมลด์!” เสียงเย็นชาดังขึ้นทันที

“ท่านมหาเทพ”  โมลด์รีบหมอบศีรษะแนบกับพื้นทันที

สายตาเย็นชาของมหาเทพบลัดลิจจับจ้องมองโมลด์จากด้านบน  “ข้าขอถามเรื่องนี้กับเจ้า  ข้อมูลที่อยู่ในกระดาษนี้จริงหรือเท็จ  เจ้ามีความมั่นใจในข้อมูลนี้ไหม?”  มหาเทพบลัดริจยังประหลาดใจที่โมลด์ส่งกระดาษชิ้นเล็กอย่างนี้  คำพูดของมหาเทพแห่งลมถูกต้อง นานเท่าใดแล้วตั้งแต่จอมเทพสั่งภารกิจครั้งสุดท้าย?

มีน้อยคนนักที่จะรู้เรื่องเช่นนั้น  ต่อให้โมลด์ต้องการสร้างเรื่องขึ้นมา แต่เขารู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นได้ยังไง?

“ท่านมหาเทพ  ข้าน้อยไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ”  โมลด์พูดด้วยความเคารพ “ข้าน้อยแค่ได้ครอบครองแผ่นกระดาษนี้  เพราะข้อมูลที่มีอยู่ช่างน่าประหลาด ข้ารู้ว่า..ท่านมหาเทพอาจจะทึ่งกับสิ่งนี้  ดังนั้นข้าจึงนำมาให้ท่านทันที,  มหาเทพ”

โมลด์ไม่กล้ายืนยันว่าเป็นจริงหรือเท็จ

ถ้าเขากล้ายืนยันว่าเป็นความจริง  อย่างนั้นก็หมายความว่าเขา โมลด์เห็นของจริงมาตั้งแต่แรก

“ฮึ่ม! ไสหัวไป”  มหาเทพบลัดริจตะเพิดไล่

“ขอรับ”  โมลด์รีบคำนับด้วยความเคารพจากนั้นออกมา

แต่ที่ด้านหน้าของหอโถงใหญ่ มหาเทพบลัดริจเริ่มขมวดคิ้วขณะยืนอยู่กับที่  “ทำไมโมลด์ต้องมาตอนนี้ แทนที่จะมาให้เร็วกว่านี้ หรือช้ากว่า?  เทเรเซียเพิ่งจะมาที่นี่ตอนที่โมลด์มา  ตอนนี้พอเทเรเซียรู้เรื่องนี้  เรื่องต่างๆ จะยุ่งยาก”  ขณะที่เขาไตร่ตรอง มหาเทพบลัดริจแผ่สำนึกเทพของเขาออกไป

ในไม่ช้าสำนึกเทพของมหาเทพบลัดริจแผ่ขยายจนคลุมไปทั้งทวีปบลัดริจ

ขณะต่อมา มหาเทพบลัดริจรั้งสำนึกเทพกลับมา เขาส่ายศีรษะและหัวเราะ  ร่างของเขากระพริบจากนั้นหายไปจากหอโถงใหญ่

ขณะที่โมลด์ลัดเลาะผ่านหมอกขาวจากนั้นรีบแยกจากไป

“ฮึ่ม... ทันทีที่ข้าได้สมบัติมหาเทพคืน  ข้าก็เริ่มวางแผนนี้ทันที และจากนั้นข้าส่งข่าวนี้ไปให้มหาเทพ แม้ว่าลินลี่ย์จะเดินทางได้เร็ว  ข้าคาดว่าบางทีเขาคงยังไปไม่ถึงแคว้นอินดิโก”  โมลด์ดำเนินการหลายเรื่องอย่างเชี่ยวชาญ  เขากลัวว่าถ้าเวลาผ่านไปนานเกินไปจะมีตัวแปรใหม่เข้ามา

ดังนั้นเขาเดินทางมาที่นี่เองด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อแจ้งมหาเทพให้ทราบ

สำหรับมหาเทพ ถ้าพวกเขาไล่ตามลินลี่ย์ ความเร็วของพวกเขาไวจนน่ากลัว

ภูเขาปรากฏอยู่ข้างหน้าลูกแล้วลูกเล่าต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุด

อสูรโลหะกำลังเดินทางอยู่ในท้องฟ้า

“เราผ่านเข้าเขตแดนของแคว้นอินดิโกแล้ว  ในช่วงเวลาสั้นๆ เราจะไปถึงเทือกเขาสกายไรท์”  ลินลี่ย์ยืนอยู่ด้านหน้าของอสูรโลหะจ้องมองโลกภายนอกผ่านโลหะใส  เขาหัวเราะขณะพูด

“แคว้นอินดิโก”  ไดอาน่าและโอลิเวอร์ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยเช่นกัน จ้องมองในที่ไกลออกไป

ทันใดนั้น...

“วืดดดดดด” จู่ๆ พายุหมุนที่น่ากลัวปรากฏขึ้นในท้องฟ้าอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยรายล้อมอสูรโลหะทำให้โลกมืดสลัวทันที

“เกิดอะไรขึ้น?”  บีบีตกใจ

“แย่แล้ว”  หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไป  ทอร์นาโดที่เกิดขึ้นกะทันหันทำให้เขาป้องกันตัวไม่ได้เลย  คนที่เพิ่งมาถึงน่ากลัวเกินไป  ลินลี่ย์ไม่มีความสงสัยใดๆ ขณะที่คิดเขาแผ่พลังมหาเทพธาตุดินออกไปทันทีคลุมปกป้องคนรอบๆ ทั้งห้าไว้

ทั่วทั้งอสูรโลหะสั่นสะเทือนจากนั้นระเบิดเป็นเศษเล็กเศษน้อย

กลุ่มของลินลี่ย์ห้าคนยังคงมึนงง แต่ขณะนั้นพายุหมุนก็หายไป

“เอ๊ะ?” ลินลี่ย์มองดูข้างหน้าเขา  ตอนนี้มีบุรุษคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ในกลางอากาศต่อหน้าพวกเขา  คนผู้นี้ไว้ผมยาวสีขาว มีจมูกงุ้มเหมือนเหยี่ยว และดวงตาตี่ ตาของบุรุษผู้นี้เหมือนกับมีด ทำให้คนที่เห็นสายตาของเขารู้สึกเย็นยะเยียบจับใจ  บุรุษผมเงินผู้นี้มองดูกลุ่มของลินลี่ย์ทั้งห้าคนอย่างสงบ

“พี่ใหญ่ เขาเป็นใคร?”  บีบีถามทางใจ

หน้าของโอลิเวอร์ ไดอาน่าและเดยาลูกของเขาสีหน้าเปลี่ยนไป

“จะเป็นใครอื่นได้เล่า? นอกจากมหาเทพ เป็นไปได้ยังไงที่ใครจะมาปรากฏอยู่ข้างหน้าเราโดยข้าไม่รู้สึกถึงอะไร?”  ลินลี่ย์ตอบกลับ และจากนั้นยิ้ม  ลินลี่ย์คำนับบุรุษที่อยู่ต่อหน้าเขา  “ลินลี่ย์แห่งแคว้นอินดิโกขอคารวะท่านมหาเทพ!”  หลังจากพบกับพระยายมราชและต้นผลสิ้นหวัง ลินลี่ย์เข้าใจอย่างหนึ่ง

มหาเทพอาจปรากฏเป็นโครงสร้างพลังงานหรือด้วยร่างจริง หรือในร่างมนุษย์ก็ได้

ในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่มีใครสามารถตัดสินว่าเป็นมหาเทพผ่านลักษณะที่ปรากฏ มีแต่พลัง  เด็กสาวอาจปรากฏอยู่ต่อหน้าท่าน  แต่เด็กสาวนั้นก็สามารถเป็นมหาเทพได้เช่นกัน  ไม่มีทางจะตัดสินคนเช่นนั้นจากภายนอกได้

บุรุษผมเงินมีรอยยิ้มที่ใบหน้าเช่นกัน  “โอว, เจ้าสามารถหลอมรวมปณิธานเข้าไปได้เหมือนกันหรือนี่?  เจ้าเป็นเทพพารากอนจริงๆ  เจ้าสามารถระบุสถานะของข้าได้โดยไม่นาน”  มหาเทพธาตุลมนี้สามารถบอกได้จากม่านพลังที่ลินลี่ย์สร้างด้วยพลังมหาเทพธาตุดินว่ามีคลื่นพลังปณิธานแฝงอยู่ในนั้น

ที่สำคัญมากกว่า...

ลินลี่ย์ไม่สูญเสียพลังมหาเทพของเขาแม้แต่น้อย  นี่ทำให้ตัดสินพลังของลินลี่ย์ได้ง่าย

“ท่านมหาเทพ!  ข้าขอถาม ทำไมท่านถึงหยุดเราไว้?”  ลินลี่ย์ยิ้มขณะที่เขาคำนับ  “โปรดแนะนำข้าด้วย!”

“พวกเจ้าที่เหลือหลบออกไปก่อน”  มหาเทพแห่งลมชำเลืองมองไปทางบีบีและคนที่เหลือ

เท่าที่มหาเทพเห็น ยิ่งเทพน้อยคนรู้เรื่องเครื่องรางและพันธกิจจอมเทพก็ยิ่งดี  มหาเทพรู้สึกว่าพวกเทพไม่มีคุณสมบัติที่จะรับรู้เรื่องนี้  ลินลี่ย์เป็นพารากอน ดังนั้นเขาพูดได้อย่างเป็นกันเองกับลินลี่ย์  แต่มหาเทพธาตุลมไม่ต้องการให้อีกสี่คนที่อยู่ใกล้รับรู้ด้วย

“ตอนนี้ไปก่อน”  ลินลี่ย์ชำเลืองมองพวกเขา

เมื่อรู้ว่าคนผู้นี้เป็นมหาเทพ  บีบีไม่กล้าพูดอะไร  เขา โอลิเวอร์และอีกสองคนบินจากไปทันที  เดยาลูกของโอลิเวอร์จ้องมองมหาเทพธาตุลมอย่างเหลือเชื่อ เห็นได้ชัดว่าเดยาสงสัยมากเกี่ยวกับมหาเทพในตำนาน

ต่อมาบีบีและคนอื่นอยู่ห่างออกไปพันกิโลเมตร

“ท่านมหาเทพ!  ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ใกล้เราอีกแล้ว”  ลินลี่ย์มองดูบุรุษผมเงินข้างหน้าเขา

“คำขอของข้าง่ายมาก!”

มหาเทพธาตุลมหัวเราะอย่างใจเย็นขณะที่เขาชำเลืองมองลินลี่ย์  “เครื่องรางจอมเทพเมื่ออยู่ในมือของเทพ ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง  จะดีที่สุดถ้าเจ้าส่งเครื่องรางจอมเทพที่เจ้าครอบครองมาให้ข้า!”

ลินลี่ย์อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้

“เครื่องรางจอมเทพ?  เครื่องรางจอมเทพอันใด?”  ลินลี่ย์ถาม

ตาของบุรุษผมเงินทอประกายเย็นชาวูบ  เขาแค่นเสียงเย็นชากล่าว  “อะไรกัน, เจ้าต้องการโกหกหลอกลวงต่อหน้าข้าหรือ?”  ความจริงมหาเทพก็ค่อนข้างสงสัยในตอนนี้เช่นกัน  “เท่าที่ดูในตอนนี้ ดูเหมือนว่าลินลี่ย์นี้ไม่รู้ว่าเครื่องรางจอมเทพคืออะไร  แต่จากนั้นใครจะรู้  ถ้าเทพพารากอนต้องการจะแสดงท่าทางเช่นนี้  ข้าคงไม่สามารถมองผ่านเขาได้โดยไม่จำเป็น”

“ท่านมหาเทพ, ข้ายินดีจะสาบานในนามของจอมเทพว่าข้าไม่รู้ว่าเครื่องรางจอมเทพคืออะไร”  ลินลี่ย์รีบกล่าว

ตอนนี้บุรุษผมเงินรู้สึกสงสัย

“ท่านจอมเทพ!  เครื่องรางจอมเทพที่ท่านพูดถึงคืออะไร?”  ลินลี่ย์พูดด้วยความสงสัย  “เท่าที่ข้าทราบ สี่จอมเทพเป็นเพียงอุปมาอุปไมยของสี่วิถี  พวกเขาไม่มีอารมณ์แบบมนุษย์ แล้วทำไมถึงมีเครื่องรางจอมเทพได้?”  แต่ทันทีที่เขาพูด  ลินลี่ย์ก็รู้ว่าเขาผิด

ถ้าพวกเขาไม่มีอารมณ์แบบมนุษย์  ก็หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถสร้างเครื่องรางได้?

อย่างนั้นสมบัติจอมเทพมาจากไหน?  เนื่องจากมีของอย่างนั้นในฐานะสมบัติจอมเทพชิ้นหนึ่ง  อย่างนั้นก็ต้องมีเครื่องรางจอมเทพตามธรรมชาติเช่นกัน

แต่บุรุษผมเงินนี้คิดว่าลินลี่ย์ไม่รู้เรื่องความคงอยู่ของเครื่องรางจอมเทพและสมบัติจอมเทพ  เขาพูดอย่างเยือกเย็น  “เนื่องจากจอมเทพสามารถใช้ร่างมนุษย์ได้ถ้าพวกเขาเลือกใช้  ทำไมเจ้าถึงคิดว่าเจ้าเข้าใจพวกเขาได้?  เท่าที่เข้าทราบ ในบรรดาเครื่องรางทั้งสามไข่มุกวิญญาณเก้าลูกอยู่ในมือเจ้าถูกไหม?”

“มุกวิญญาณเก้าลูกจากสามเครื่องราง?”  ลินลี่ย์อดพูดด้วยความตกใจไม่ได้

ลินลี่ย์ตกใจจริงๆ  เพราะเขารู้ว่าสิ่งที่คนผู้นี้พูดคืออะไร  “จอมเทพผู้นี้มาหาข้าเพื่อเครื่องรางจอมเทพ.. อย่างนั้นเขาก็หมายถึงมุกวิญญาณเก้าลูกนั้นที่ทำให้โมลด์มีชีวิตอยู่ได้  นั่นคือเครื่องรางจอมเทพ  มิน่าเล่าถึงได้มีพลังและเอกลักษณ์ที่มิอาจเข้าใจได้  ดังนั้นนั่นคือเครื่องรางจอมเทพชิ้นหนึ่ง... ว่าแต่มันใช้เพื่ออะไร?”

ขณะนั้นลินลี่ย์ต้องการส่งสำนึกเทพเข้าไปแหวนเก็บสมบัติเพื่อตรวจสอบมุกวิญญาณทั้งเก้าลูก

อย่างไรก็ตามมีมหาเทพอยู่ข้างหน้าเขา ลินลี่ย์ไม่กล้าทำเช่นนั้น  ลินลี่ย์ไม่รู้ว่ามหาเทพมีพลังตรวจสอบแบบไหน  อย่างไรก็ตามเนื่องจากพลังเทพของมหาเทพเป็นไปได้ว่าสามารถให้ความสนใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ  ถ้าลินลี่ย์ตรวจสอบแหวนเก็บสมบัติทันที มหาเทพอาจจะเชื่อมโยงเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ไม่ใช่หรือ?

“มีเครื่องรางจอมเทพทั้งหมดสามอย่างหรือ?”  ลินลี่ย์มีสีหน้าตะลึง

มหาเทพธาตุลมมองดูลินลี่ย์อย่างพินิจพิจารณา  จากนั้นหัวเราะเย็นชา  “ลินลี่ย์, แม้ว่าเจ้าจะกลายเป็นเทพพารากอน แต่เจ้าก็ยังเป็นเทพ  เครื่องรางจอมเทพไม่มีประโยชน์ต่อเจ้า  ข้าขอให้เจ้ามอบเครื่องรางจอมเทพออกมา  อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่มี  ข้ารู้..ว่ามุกวิญญาณทั้งเก้าอยู่ในมือของเจ้า”

“ข้าจะให้โอกาสเจ้าแค่ครั้งเดียว”  มหาเทพธาตุลมพูดอย่างเยือกเย็น  “ถ้าเจ้าส่งมอบมุกวิญญาณทั้งเก้าออกมาเดี๋ยวนี้  ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า  แต่ถ้าเจ้าพยายามกลบเกลื่อนแม้แต่น้อยนิด  อย่างนั้นก็อย่าโทษว่าข้าฆ่าเจ้า  จากนั้นค่อยเอาเครื่องรางจอมเทพจากเจ้า”

มหาเทพธาตุลมไม่ค่อยมั่นใจว่าลินลี่ย์มีมุกวิญญาณทั้งเก้าหรือไม่

ความจริง....

ไม่ว่าจอมเทพจะมีพันธกิจหรือว่ามีแม้แต่เครื่องรางจอมเทพทั้งสามหรือไม่ก็ตาม ไม่มีใครยืนยันได้  อย่างไรก็ตามมหาเทพเหล่านี้มีชีวิตอมตะ มีน้อยเรื่องราวนักที่ดึงดูดความสนใจพวกเขาได้  อย่างไรก็ตามเครื่องรางจอมเทพ ถือว่าเพียงพอจะทำให้พวกเขาบ้าคลั่งด้วยความตื่นเต้น

ถ้ามีโอกาสที่เป็นความจริงได้แม้แต่น้อยนิด  มหาเทพธาตุต้องลองและหลอกล่อลินลี่ย์ให้ยอมรับ  เขาแกล้งทำเป็นว่ามั่นใจเต็มเปี่ยม  ถ้าลินลี่ย์มีมุกวิญญาณทั้งเก้าจริงๆ  เขาอาจกระวนกระวายและส่งมอบให้ก็ได้

หัวใจของลินลี่ย์ตึงเครียด  “เป็นไปได้หรือว่ามหาเทพนี้รู้ว่าข้าได้รับมุกวิญญาณทั้งเก้าจากโมลด์?  มีแต่คนของข้าที่รู้เรื่องนี้และโมลด์เอง  เป็นไปได้ไหมว่าโมลด์เป็นคนบอกมหาเทพ?  แต่โมลด์กับเราเป็นศัตรูกัน  ถ้าเขาต้องการวางแผนให้ร้ายข้า นี่ก็ควรจะเป็นเรื่องง่าย!”

ลินลี่ย์ลังเล

“ท่านมหาเทพ!  ข้าเพิ่งบอกท่านไปแล้วว่าข้ายินดีจะสาบานในนามของจอมเทพ  ทำไมท่านถึงพูดเรื่องอย่างนั้นเล่า?  หรือว่าข้าจะกล้าโกหกจอมเทพ?”  ลินลี่ย์รีบกล่าว  ข้า..ลินลี่ย์ขอสาบานต่อจอมเทพชะตาว่าก่อนที่ท่านมหาเทพจะบอกข้าเรื่องเครื่องรางจอมเทพ  เข้าไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเครื่องรางจอมเทพ ถ้าข้าพูดผิดไปแม้แต่คำเดียว..ขอให้วิญญาณของข้าแตกสลายหมดสิ้น!”

ลินลี่ย์มองดูมหาเทพธาตุลมอย่างเคร่งขรึม

ความมหาเทพธาตุลมหงุดหงิด  คำสาบานต่อจอมเทพไม่ใช่สิ่งที่คนผู้หนึ่งทำได้ตามปกติ  ที่สำคัญจักรวาลเอกภพถูกควบคุมโดยวิถีต่างๆ

“เป็นไปได้หรือว่าลินลี่ย์จะไม่รู้จริงๆ?  ข่าวนั่นเป็นข่างลวง?”  มหาเทพธาตุลมรำพึงอย่างมึนงง

“เทเรเซีย!”  เสียงหนึ่งดังขึ้น

ลินลี่ย์เห็นว่าในที่ไกล มีร่างชุดแดงปรากฏขึ้นในทันที   เป็นคนชุดแดงและมีผมแดง  รัศมีผู้มาใหม่กดดันและกล้าแข็งกว่าของมหาเทพธาตุลม  เขาบินเข้ามาหาอย่างไม่พอใจ  “เทเรเซีย,  ลินลี่ย์เป็นคนของทวีปบลัดริจ เจ้าจะทำป่าเถื่อนไม่ได้  โมลด์พล่ามเหลวไหล และเจ้ายังเชื่อเขาอีกหรือ?  เครื่องรางจอมเทพ? มันไม่ปรากฏมานานกี่ปีแล้ว ตั้งแต่ที่เคยปรากฏ? แล้วจู่ๆ จะโผล่ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยได้ยังไง?”

เทเรเซียตกใจ

คำพูดของมหาเทพบลัดริจเท่ากับบอกลินลี่ย์ว่าพวกเขาก็ยังไม่แน่ใจ

มหาเทพธาตุลมเทเรเซียพูดทางใจ  “โบซัน เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?  เจ้าบอกความจริงต่อหน้าลินลี่ย์ได้ยังไง?  เจ้าพยายามจะช่วยเขาหรือ?  เขาเป็นแค่เพียงเทพ  ทำไมทำอย่างนี้?”  มหาเทพแห่งลมไม่พอใจอย่างมาก  เขาไม่เข้าใจทำไมมหาเทพบลัดริจถึงช่วยลินลี่ย์

ขณะที่เขาเห็น มหาเทพบลัดริจควรจะร่วมมือกับเขาทำให้ลินลี่ย์ส่งมอบเครื่องรางจอมเทพ

“ข้าได้ยินทุกอย่างที่ลินลี่ย์พูดแล้ว”  มหาเทพบลัดริจกวาดตามองลินลี่ย์  และจากนั้นหันกลับไปมองเทเรเซีย  “เขาสาบานต่อจอมเทพ นี่จะเป็นเรื่องผิดพลาดได้อย่างไร?  นอกจากนี้ข่าวระบุว่ามุกวิญญาณทั้งเก้าถูกวางไว้ข้างโองการจอมเทพ  ถ้าลินลี่ย์มีมุกวิญญาณทั้งเก้าและโองการจอมเทพ  เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเครื่องรางจอมเทพคืออะไร?  เห็นได้ชัดว่าโมลด์โกหก หรือจะสันนิษฐานอีกทางก็คือ ข่าวที่เขานำมาให้เป็นข่าวลวง”

มหาเทพธาตุลมต้องยอมรับว่าคำพูดของมหาเทพบลัดริจสมเหตุผล

“โองการจอมเทพ? คืออะไร?”  ลินลี่ย์ลอบตกใจ

แต่จากนั้นลินลี่ย์ก็เข้าใจได้ทันที...

“โมลด์ผู้นี้ต้องการฆ่าข้าจริงๆ!”  ลินลี่ย์ตกใจ  “ถ้าข้าประมาทและส่งมอบมุกวิญญาณทั้งเก้าออกไป  เป็นไปได้ว่ามหาเทพผมเงินผู้นี้จะต้องทวงโองการจอมเทพต่อ  และถ้าเขาไม่ส่งให้?  มหาเทพหลังจากได้รับมุกวิญญาณทั้งเก้าไปก็คงจะเชื่ออย่างแน่นอนว่าเขาได้รับของมาจริง และเพื่อให้ได้รับโองการจอมเทพ เขาจะฆ่าเราและตรวจสอบแหวนเก็บสมบัติของเรา”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด