ตอนที่แล้วตอนที่ 20-9 โบนิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20-11 เจ้าแคว้นสกายเมาท์

ตอนที่ 20-10 ใครถูกใครผิด


รัศมีพลังงานสีดำไหลวนอยู่รอบตัวโบนินทำให้เขามองดูเหมือนเทพอสูรผู้ร้ายกาจ

โบนินกระโจนพุ่งมาข้างหน้าทันที และพื้นใต้เท้าของเขาแตกแยกจากกัน   มีรอยแตกลึกอยู่ใต้พื้นเท้าเขา  หินและทรายปลิวฟุ้งในทุกที่ขณะที่ตัวโบนินเองพุ่งเข้าหากลุ่มลินลี่ย์สี่คนอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า  หอกยาวสีดำปรากฏอยู่ในมือของโบนิน  และหอกยาวของเขาพุ่งเหมือนงูยักษ์ที่พยายามกลืนกินกลุ่มของลินลี่ย์อย่างดุร้าย

ตาของโบนินแดงดุจสายเลือด และเขาเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

ดาบหนักอดาแมนเทียมปรากฏอยู่ในมือของลินลี่ย์ รัศมีสีเหลืองธาตุดินคลุมอยู่รอบดาบ ลินลี่ย์ตวัดดาบใส่โบนินตามปกติ  แม้ว่าความเคลื่อนไหวของเขาจะดูเหมือนช้า  แต่ความเร็วของดาบหนักอดาแมนเทียมก็ยังเร็วมากกว่าหอกยาวหลายเท่าและหวดใส่ร่างของโบนินโดยตรง

“ป้าบ!”

โบนินที่กำลังพุ่งร่างมาข้างหน้าถูกหวดลงกับพื้นกระแทกกับภูเขาหินจนแตกทลาย

“เป็นไปไม่ได้”  โบนินตะลึงมองดูลินลี่ย์   และใบหน้าของเขามุ่งมั่น เขาคำรามเสียงลึก และแทงหอกยาวในมือบินเข้าหาลินลี่ย์

“ควั่บ!”

ระลอกพลังใสยิงออกมาจากหอกยาวตรงเข้าหาลินลี่ย์

จากกลางหน้าผากของลินลี่ย์ระลอกกระบี่คลื่นสลายขนาดเล็กยิงออกมาและทำลายระลอกหอกใสจนแตกสลายไปโดยไม่ได้ใช้ความพยายามอะไร  อย่างไรก็ตามเพราะพลังกระบี่คลื่นสลายมีขนาดเล็กเกินไป  หลังจากทำลายคลื่นหอกใสนั้นก็สลายไปด้วยเช่นกัน

บีบีที่อยู่ใกล้มองลินลี่ย์อย่างงุนงง  “พลังวิญญาณของพี่ใหญ่แข็งแกร่งเหลือเชื่อ  เมื่อพี่ใหญ่ใช้พลังโจมตีวิญญาณของตนเอง ผลกระทบมากกว่าพลังโจมตีเต็มกำลังเมื่อเขาใช้พลังมหาเทพถึงสิบเท่า  เมื่อหลอมรวมกับปณิธาน..แม้ว่าอาจจะอ่อนในแง่เคล็ดความรู้  แต่พลังโจมตีวิญญาณของพี่ใหญ่ไม่ได้อ่อนกว่านักสู้อย่างแม็กนัสเท่าใด  จะฆ่าคนอย่างโบนินได้เป็นเรื่องง่ายดาย  แล้วทำไมพี่ใหญ่ถึงตั้งใจไว้ชีวิตเขา?”

บีบีอยู่กับลินลี่ย์มาเป็นเวลานานมาก  เขารู้ว่าลินลี่ย์ทรงพลังมากมายเพียงไหน

ถ้าระลอกพลังกระบี่คลื่นสลายใหญ่กว่านั้นเล็กน้อย ก็คงจะฆ่าโบนินได้  แต่ลินลี่ย์กลับไม่ทำเช่นนั้น

“แย่แล้ว”  ทหารทุกคนรู้สึกตึงเครียด

แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอ่อนแอเกินไป  พวกเขายังไม่อาจเทียบได้แม้กับโบนิน อย่าว่าแต่จะท้าทายลินลี่ย์

“ฮ่าฮ่า...”  เมื่อเห็นสถานการณ์ โบนินเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง  “มิน่าเล่า มิน่าเล่า!  ชายโฉดหญิงชั่วเชิญยอดฝีมือผู้ทรงพลังมาช่วยนี่เอง  เป็นไปได้ว่าแม้ในบรรดายอดฝีมือระดับเจ้าแคว้น  เจ้าผู้มีฝีมือระดับสูงล้ำ  ฮ่าฮ่า  ถ้าเจ้าต้องการฆ่าข้า  อย่างนั้นก็ฆ่าข้าเลย  ตายด้วยน้ำมือยอดฝีมืออย่างเจ้าไม่ใช่เรื่องน่าอาย!”

โบนินหยุดสู้จริงๆ

“เอ๊ะ?”  ลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ

แต่ทันทีที่โบนินพูดออกมา..

“ควั่บ!”  ทันใดนั้นเขาดำลงไปในดินหนีอย่างรวดเร็วจนลินลี่ย์ค่อนข้างประหลาดใจ  นี่เป็นเพราะความเร็วที่โบนินเคลื่อนไหวยังเร็วกว่าความเร็วที่เขาเพิ่งโจมตีเมื่อครู่นี้  ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจชมเชย  “โบนินผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นบ้าไปแล้ว  แต่ความจริงเขาค่อนข้างเจ้าเล่ห์”

ลินลี่ย์ไม่เร่ง แต่กลับตามลงมาอย่างสบายๆ

เท้าซ้ายของลินลี่ย์ย่ำลงบนพื้นอย่างหนัก “ครืนนน...”  ระลอกพลังที่มองไม่เห็นทะลักขยายลงไปในพื้น  โบนินที่กำลังหนีเอาชีวิตรอดด้วยความเร็วสูงอยู่ในใต้ดินตอนนี้  ไม่สามารถหลบพ้นได้เลย  ระลอกพลังไร้รูปนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นๆ จนกระทั่งปะทะถึงเขาในที่สุด

“ปัง!”  ร่างของโบนินสั่นสะท้าน  และเขากระอักโลหิตเต็มคำ

ลินลี่ย์หายตัวจากนั้นมาปรากฏตัวข้างโบนินด้วยทักษะเดินดิน!

“เจ้าไม่มีทางหลบหนีได้”  ลินลี่ย์ยื่นมือคว้าไหล่โบนินจากนั้นพุ่งขึ้นข้างบนเตรียมจะออกจากใต้ดิน

“ฮึ่ม..”  โบนินใช้หอกยาวของเขาแทงใส่อกลินลี่ย์

“แคล้ง” ระลอกพลังแผ่ออกจากร่างกายลินลี่ย์  คมหอกไม่ได้ทำร้ายลินลี่ย์แม้แต่น้อย

“นี่..เป็นไปได้ยังไง?”  โบนินสีหน้าเปลี่ยนไปมากมาย

เขายังเป็นอสูรหกดาว และใช้พลังมหาเทพ แต่ลินลี่ย์ไม่ได้ใช้เกราะอะไรเลย  และยังป้องกันได้  เขาใช้พลังธาตุดินก็สามารถป้องกันการโจมตีได้  นี่น่ากลัวมากเกินไปแล้ว

“แม้แต่บิดาของเจ้าก็ไม่สามารถทำอันตรายข้าได้  อย่าว่าแต่เจ้าเลย”  ลินลี่ย์เหลือบมองโบนินอย่างเยือกเย็นขณะเดียวกันลากโบนินไปตามพื้น

พลังป้องกันหลอมรวมกับพลังปณิธานนับว่าน่ากลัวจริงๆ  แม้แต่ลินลี่ย์ก็ไม่สามารถฆ่าแม็กนัสได้  และทำได้แต่เพียงขับต้อนเขาเข้าไปในมิติปั่นป่วน  จากตรงนี้ทุกคนคงพอจะนึกออกว่าพลังป้องกันแบบนี้ทรงพลังมากมายเพียงไหน

พลังปณิธานของลินลี่ย์ยังทรงพลังมากกว่าปณิธานของแม็กนัส  แม้ว่าเขาจะค่อนข้างอ่อนแอกว่าเมื่อว่าถึงพลังป้องกันของกฎลึกลับ  เขาไม่ได้อ่อนแอมากมายอะไร   เป็นอย่างที่ลินลี่ย์กล่าวไว้ พลังป้องกันที่เขาสร้างไม่สามารถใช้กับยอดฝีมือระดับเจ้าแคว้นลินลี่ย์สามารถปล่อยให้พวกเขาโจมตีได้ตามสบาย  แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรลินลี่ย์ได้

“เขา...เป็นใคร?”  โบนินตอนนี้ตะลึงไปหมด

พลังแบบนี้ยิ่งใหญ่เกินไป  เขาเป็นเหมือนลำธารน้อยผู้เผชิญเจอกับมหาสมุทรลึกไม่เห็นก้น  เขาไม่มีความคิดจะสู้ตอบโต้อีกต่อไป

ลินลี่ย์โยนโบนินลงกับพื้นส่งเขาให้โอลิเวอร์และไดอาน่า

โบนินที่รู้สึกท้อแท้ ในทันใดนั้นเขาโกรธทันทีเมื่อเห็นโอลิเวอร์และไดอาน่า  เขาลุกขึ้นยืนต้องการจะพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง  เมื่อเห็นเช่นนี้ลินลี่ย์อดขมวดคิ้วไม่ได้  เขาเหยียดมือ และในทันทีนั้นรังสีธาตุดิน 108 สายยิงออกมาล้อมและกักโบนินไว้ในภายใน

คุกรูปลูกโลกถูกสร้างขึ้น โดยมีโบนินพยายามกระแทกอยู่ภายใน

“อ๊า.....!”  โบนินตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวต้องการจะพังออกไป

“ไม่มีประโยชน์”  ลินลี่ย์พูดอย่างสงบ  “เจ้าเป็นแค่อสูรหกดาว ต่อให้ใช้พลังมหาเทพ  เจ้าก็ไม่สามารถหลบหนีได้”

เดิมทีวิชานี้แสดงผลในลักษณะบีบอัด  แต่ลินลี่ย์เปลี่ยนและผสานเข้ากับทักษะคุกศิลาดำของเขา  คุกลูกโลกนอกจากจะมีพลังบีบอัด แต่ยังสร้างกรงพลังงานที่แข็งแกร่งยากทำลาย ไม่มีทางที่ใครจะหลบหนีไปได้

“เป็นยังไง คิดบ้างไหมว่าเจ้าจะมีวันนี้”  ไดอาน่าพูดด้วยความโมโห

“พ่อ, ฆ่าเขาเลยแก้แค้นให้พี่ชายข้า”  เดยาพูดอยอางแตกตื่น

มุมตาของโอลิเวอร์กระตุก  และเขาเดินเข้าไปหาโบนินด้วยความโกรธ

โบนินติดอยู่ในกรงพลังงาน เริ่มตะโกนด่า  “ไดอาน่า ข้าโบนินเคยปฏิบัติไม่ดีกับเจ้าไหม?  ไม่ว่าเจ้าต้องการอะไร  ข้าหาให้เจ้า ไม่ว่าเจ้าจะเกลียดข้ายังไงก็ตาม ข้าก็ยังเปลี่ยนแปลงตัวเอง!  เพื่อทำให้เจ้ามีความสุข  ข้ายินดีก้มหัวและคุกเข่าบอกท่านพ่อข้า และขอยืมเงินจากเขามาซื้อของที่เจ้าต้องการ! ไดอาน่า บอกข้ามา บอกข้าที ทำไมเจ้าหักหลังข้า?!?”

ไดอาน่าแค่จ้องมองเขาอย่างเย็นชา

“ฮะฮะ  เจ้าออกไปจากบ้านเรา และข้าตามหาเจ้าจนทั่วโลก ทวีปบลัดริจนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก และพอเวลาผ่านไป ข้าจึงตามเจ้าพบ  ข้าเห็นว่าเจ้าแต่งงานกับเจ้าสวะโอลิเวอร์ และเจ้ายังมีลูกด้วยกัน?”  โบนินโกรธจัด  เขาหัวเราะ  “ข้าไม่ฆ่าเจ้า   แค่พาเจ้ากลับบ้าน  และข้าพยายามชักชวนให้เจ้ากลับมาหาข้า ต้องการเปลี่ยนใจเจ้า  แต่เจ้าเล่า?”  ตอนนี้โบนินอยู่ในสภาพคลั่ง

“เมื่อเราแต่งงานกัน  ข้าบังคับให้เจ้าแต่งหรือ?  เจ้าแต่งงานกับข้าด้วยความเต็มใจ!”  โบนินตะโกนด้วยความโกรธ

ไดอาน่าจ้องมองโบนินด้วยความโกรธ  “โบนิน, ใช่แล้ว, ข้าตกลงใจแต่งงานกับเจ้า  แต่แล้วเจ้าทำอะไรลงไป?  เจ้าพาสตรีอื่นมามากมาย และเจ้าก็นำพวกนางกลับ  และเจ้ายังไม่เว้นแม้กระทั่งน้องสาวของข้า!  ก่อนแต่งงานกับเจ้า  เจ้าหลอกข้า  แต่หลังจากแต่งกับเจ้า  ข้าถึงได้เห็นว่าธาตุแท้เจ้าเป็นคนยังไง ข้าจึงหนีออกมา  ยิ่งข้าหนีไปไกลก็ยิ่งดี!”

โบนินมองดูเหมือนเสือติดจั่น ตาของเขาเป็นประกายโกรธเกรี้ยว

“ใช่แล้ว ข้าพาผู้หญิงเหล่านั้นมา แต่นั่นก็แค่สัมพันธ์ชั่วครั้งคราว  เข้าใจไหม?”  โบนินตะโกนด้วยความโกรธ  “แล้วจะเป็นไรไปเล่าถ้าข้าโบนินจะพาสตรีมากหน้าหลายตาพานางกลับมาปรนนิบัติข้า?  ข้าก็มีภรรยาแค่คนเดียวอยู่ดี!  ข้าไม่เหมือนกับท่านพ่อและคนอื่นๆ ที่แต่งงานกับสตรีหลายคน  ข้ามีภรรยาคนเดียว ก็คือเจ้า!  สำหรับสตรีเหล่านั้นก็แค่ชั่วครั้งคราว  เข้าใจไหม? ดูสตรีเหล่านั้นสิ ข้าไม่ได้เก็บพวกนางไว้นานกว่าเดือนหนึ่งเลย? ข้าผิดด้วยหรือที่จะมีสัมพันธ์กับสตรีชั่วครั้งคราว?”

“เจ้ากดขี่ข่มเหงมากเกินไปแล้ว”  ไดอาน่าส่ายศีรษะ  “เจ้ารู้สึกว่าเจ้าไม่มีอะไรผิด  แต่ข้าไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เจ้าทำได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่เจ้าทำกับน้องสาวของข้า”

“ก็ได้ ข้ายอมรับว่าข้าข่มเหงเอาแต่ใจตัวเอง!”  โบนินหัวเราะด้วยความโกรธ  “แต่หลังจากข้านำเจ้ากลับมาครั้งนี้  ข้าไม่ได้แตะต้องหญิงอื่นอีกเลยจริงไหม?”

“สายเกินไปแล้ว”

ไดอาน่าพูดอย่างเย็นชา  “แค่เพราะเจ้าไม่ได้แตะต้องสตรีใดๆ ครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เจ้ากระทำในอดีตไม่ได้เกิดขึ้น  ข้ามองเห็นเจ้าหมด และสิ่งที่ทำให้ข้าโกรธที่สุดก็คือเมื่อข้ายอมกลับไปกับเจ้า เจ้าพูดว่าจะไว้ชีวิตโอลี่และลูกทั้งสองของข้า แต่ในความเป็นจริงเล่า?”

“ฮ่าฮ่า...”

โบนินหัวเราะลั่นดวงตาแฝงแววดุร้าย  “ไว้ชีวิตพวกมันน่ะหรือ?  สตรีของข้าอยู่ด้วยกันกับบุรุษอื่น และยังมีลูกกับมัน  เจ้าบอกข้าที  เป็นไปได้หรือที่ข้าจะยอมปล่อยให้บุรุษนั้นมีชีวิตต่อ และปล่อยให้ลูกสองคนมีชีวิตต่ออีกหรือ?  ไม่มีใครแตะต้องของๆข้าได้  ถ้าใครบังอาจทำเช่นนั้น  ข้าจะต้องฆ่ามันให้ตายแน่นอน!!!”

รัศมีดำหายไปจากร่างของโบนินแล้ว  พลังมหาเทพของถูกใช้ไปหมดแล้ว

ลินลี่ย์สลายพลังส่วนที่เป็นกรงขัง เหลือไว้แต่เพียงพลังบีบอัด พลังบีบอัดที่บริสุทธิ์นี้เพียงพอต่อการพันธนาการโบนิน

โอลิเวอร์เดินข้ามาหาอย่างเย็นชา  “โบนิน!  เจ้าฆ่าเลยาลูกชายข้า  วันนี้เจ้าต้องชดใช้ชีวิต”  โอลิเวอร์ไม่เสียงเวลาพูดและกระบี่น้ำแข็งปรากฏขึ้นในมือของเขา

“ฆ่าข้า?”  โบนินแค่นเสียงขณะมองดูโอลิเวอร์  “งั้นก็เข้ามาเลย  ข้าจะบอกอะไรให้เจ้า โอลิเวอร์!  ข้า, โบนินมีแผนสำรองที่ยิ่งใหญ่เสมอ  ร่างของข้าที่ยังอยู่ที่ปราสาทยูสโตนเป็นแค่หนึ่งในหลายร่างร่างอื่นๆ ของข้าไม่ได้อยู่ที่นี่  พวกเขากำลังแยกฝึกตนอย่างสันโดษ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าเจ้าฆ่าร่างหนึ่งของข้า ยังจะมีสักวันที่ข้าจะต้องให้เจ้ารู้..ว่าผลของการทำให้ข้าโกรธเป็นเช่นไร!”

โบนินมองดูไดอาน่า  “ไดอาน่า...นังแพศยา  ในเมื่อเจ้าตั้งใจจะไปจากข้า  อย่างนั้นข้าจะบอกเรื่องนี้เจ้า... ยังจะมีสักวันที่ข้าจะต้องทำลายเจ้า  ข้าขอสาบาน!  ข้าจะต้องทำลายเจ้าด้วยตนเอง!”

ไดอาน่าเมื่อได้ยินเช่นนี้ อดรู้สึกสะท้านใจไม่ได้

โอลิเวอร์แค่มองโบนินอย่างเย็นชา  เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  “ทำลายนาง? ถ้าเจ้ามีความสามารถก็ทำเลย  อย่างนั้นให้ร่างแยกของเจ้าอีกร่างหนึ่งมาเลย ข้าจะรอเจ้า”

“ก็ได้  ข้าจะมาหาเจ้า”  โบนินจ้องมองด้วยสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

ขณะที่โอลิเวอร์มีประกายตาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

“ข้าจะน้อมรอการมาถึงของเจ้าตลอดเวลา  วันนี้ข้าจะทำลายร่างแยกนี้ของเจ้าก่อน”  โอลิเวอร์พูดจบจากนั้นแทงกระบี่น้ำแข็งของเขา  โบนินถูกพลังบีบอัดตรึงไว้ไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้  ความจริงเมื่อไม่ได้รับความช่วยเหลือจากพลังมหาเทพโบนินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโอลิเวอร์แม้แต่น้อย

กระบี่แทงทะลุกะโหลกของโบนิน

ตาของโบนินหมองไร้ประกาย

“นี่เป็นแค่ร่างแยกหนึ่งของโบนินแน่  ร่างแยกอื่นของเขาไม่ปรากฏตัว โอลิเวอร์ตระหนักผ่านสำนึกเทพว่า มีเพียงประกายเทพชิ้นเดียวที่ถูกกระแทกออกมา

ลินลี่ย์และบีบีแค่มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้  เขาลอบถอนหายใน

ใครถูก?  ใครผิด?

จากมุมมองของโบนิน  เขาจริงใจในความรักที่มีต่อไดอาน่าแน่นอน  แต่ไม่มีอะไรทำได้  ความรู้สึกที่ไดอาน่ามีต่อเขาตายไปแล้ว  ขณะที่โบนินเห็นว่าโอลิเวอร์ชิงภรรยาของเขาไป  แน่นอนว่าเขาต้องฆ่าเขา

แต่จากมุมมองของโอลิเวอร์  เขากับไดอาน่ารักกันและมีลูกด้วยกัน  ชีวิตเปี่ยมสุขของพวกเขาถูกทำลาย  โบนินฉุดคร่าภรรยาและฆ่าลูกของเขา  แน่นอนว่าโอลิเวอร์ย่อมเกลียดชังโบนิน

ขณะที่ไดอาน่า  นางไม่สามารถอยู่กับโบนินได้อีกต่อไป  และนางทิ้งเขาไปแสวงหาชีวิตใหม่  แต่โบนินกลับฆ่าลูกของนาง

ใครถูก?  ใครผิด?

“โอลิเวอร์,  เลยาถูกฝังไว้ที่ไหน?”  ไดอาน่าถาม  “ข้าอยากพบเขา”  ความตายของเลยาสร้างความกระทบกระเทือนจิตใจให้ไดอาน่าอย่างมาก

“ได้สิ”  โอลิเวอร์พยักหน้า

“งั้นไปกัน”  ลินลี่ย์และบีบีพาครอบครัวโอลิเวอร์สามคนเข้าไปในอสูรโลหะทันที จากนั้นออกเดินทาง  เพียงแต่ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มุ่งหน้ากลับไปแคว้นอินดิโก  แต่กลับไปเยี่ยมยังสถานที่ฝังศพเลยาก่อน  ลินลี่ย์ไม่ได้ฆ่าสมาชิกกองกำลังส่วนตัวคนอื่นๆ ของโบนิน

“นายท่าน...”  พวกทหารประจำปราสาทมองดูทุกอย่างเกิดขึ้นโดยไม่อาจต่อต้านได้

หัวหน้าทหารคิ้วขาวขมวดคิ้ว

เทือกเขาเมฆดำ  แคว้นสกายเมาท์

เจ้าแคว้นสกายเมาท์อาศัยอยู่ที่นี่  ทหารประจำแคว้นประจำการอยู่ที่นี่มีเป็นล้าน

“ท่านเจ้าแคว้น  ร่างแยกศักดิ์ที่ทรงพลังที่สุดของคุณชายโบนินตายแล้ว”  บุรุษคิ้วขาวมาปรากฏตัวที่ทันที  ความจริงเขารับหน้าที่เป็นผู้แจ้งข่าว  และมักจะแจ้งให้เจ้าแคว้นทราบเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับโบนิน

เจ้าแคว้นที่กำลังนั่งอยู่ถึงกับพรวดพราดลุกขึ้นทันที  ตาของเขาเป็นประกายดุร้าย  “เขาตายแล้ว,  และเจ้าทำอะไร?”

“ท่านเจ้าแคว้น  คนผู้นั้นทรงพลังมากเกินไป”  บุรุษคิ้วขาวหวาดกลัวคุกเข่าลงทันที

ในเรื่องของการถืออำนาจวางโต เจ้าแคว้นสกายเมาท์ผู้นี้ยังน่ากลัวยิ่งกว่าลูกชายเขาเสียอีก  บุรุษคิ้วเขาหวาดกลัวว่าเจ้าแคว้นผู้โกรธเกรี้ยวจนฆ่าเขา

“บอกเรื่องที่เกิดขึ้นมา”  เจ้าแคว้นสกายเมาท์คำราม

“ขอรับท่านเจ้าแคว้น  วันนั้นคุณชายโบนิน....”  บุรุษคิ้วขาวเริ่มอธิบายรายละเอียด  เขาอธิบายรายละเอียดการต่อสู้โดยตรงระหว่างลินลี่ย์และโบนิน  เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจ้าแคว้นเริ่มขยิบตาลึก  หลังจากบุรุษคิ้วขาวพูดเสร็จ  เขาออกคำสั่งพลางขมวดคิ้ว  “โอว, จากไปหลังจากโดยสารอสูรโลหะรูปเหมือนกระบี่น่ะหรือ?  ดีล่ะ  ถ่ายทอดคำสั่งข้าออกไป ให้หน่วยข่าวกรองทุกหน่วยภายในแคว้นสกายเมาท์จับตามอง  ถ้าพวกเขาหน่วยใดพบเจออสูรโลหะรูปกระบี่สีดำบินผ่านพวกเขาไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่มีคนห้าคนอยู่ข้างใน  พวกเขาต้องรายงาน”

“ขอรับ”  บุรุษคิ้วขาวเมื่อได้ยินเช่นนี้ ก็เข้าใจทันทีว่าเจ้าแคว้นกำลังจะไปล้างแค้น

แต่บุรุษคิ้วขาวรู้สึกสงสัย  “หลังจากได้ยินสิ่งที่ข้าพูด  ท่านเจ้าแคว้นควรจะเข้าใจว่าคนผู้นั้นน่ากลัวเพียงไหน  ทำไมเขายังกล้าตามล้างแค้น?”

จากที่เห็นการต่อสู้ครั้งก่อน  บุรุษคิ้วขาวสามารถคาดเดาได้ว่า....

ความแข็งแกร่งของบุรุษผมน้ำตาลนั้นน่าจะอยู่ในกลุ่มยอดฝีมือระดับเจ้าแคว้น  เจ้าแคว้นสกายเมาท์ไม่ควรจะมั่นใจว่าเขาจะเอาชนะได้

หลังจากบุรุษคิ้วขาวแยกออกไป  เจ้าแคว้นสกายเมาท์โบกแขนเสื้อ พลังเทพวิถีทำลายล้างแผ่ออกและประตูปิดทันที

“โบนิน,  ลูกคนนี้หยิ่งและดื้อรั้นเกินไป  เขาไม่เคยฟังข้าเลย  ข้าต้องการให้เขาออกไปผจญภัยสักนิด  แต่ใครจะคาดคิดว่า..ฮึ..”  รัศมีที่น่ากลัวเลือนรางปรากฏที่ใบหน้าของเขา  “ร่างแยกศักดิ์ที่ทรงพลังที่สุดของโบนินตายแล้ว  อนาคตของเขาในตอนนี้ยังไม่แน่นอน!  ฮึ่ม, เจ้าฆ่าลูกชายข้า..ฮึ.. ถ้าเป็นพันปีที่แล้ว ข้าคงจะแค่ยืนอยู่ที่นี่  แต่บัดนี้...ข้าต้องการเห็นนักว่ามันเป็นใคร!”  เจ้าแคว้นลังเลเล็กน้อย จากนั้นโบกมือ...

กล่องหยกเขียวปรากฏในมือของเขา

เขาเปิดกล่องซึ่งมีกระดาษสีเขียวอยู่ภายใน  บนกระดาษสีเขียว มีกำไลมือ  บนกำไลมีลูกปัดสีเขียวฝังอยู่เก้าเม็ด

เจ้าแคว้นสกายเมาท์มองดูกำไลมือ  เขาอดสูดหายใจลึกไม่ได้ และจากนั้นตาของเขาเริ่มเรืองแสง

“ได้เวลาใช้งานมันแล้ว”  เจ้าแคว้นสวมกำไลไว้ที่แขนขวา

เมื่อสวมกำไลนี้ ดูเหมือนว่ารัศมีของเจ้าแคว้นจะเปลี่ยนไป

เจ้าแคว้นไตร่ตรองครู่หนึ่ง  และจากนั้นร่างของเขาแยกเป็นสอง  ร่างหนึ่งมีผมยาวสีดำ  ขณะที่อีกร่างหนึ่งมีผมขาว  ร่างที่มีผมขาวเอากล่องเขียวเก็บไว้ จากนั้นออกมาจากห้องเดินผ่านประตูออกมา  ขณะที่เจ้าแคว้นที่มีผมยาวสีดำ ยังคงรั้งอยู่ภายในห้อง

“ทันทีที่ข้าใช้สิ่งนี้...”

ร่างเจ้าแคว้นผมดำขมวดคิ้ว  ทันใดนั้นร่างเจ้าแคว้นผมขาวที่อยู่ประตูถัดไปชะงัก  เขาดึงกล่องหยกเขียวออกมาและเอากระดาษเขียวในนั้นออกมา

“แครก....”  พลังที่น่ากลัวแผ่ออกมาจากฝ่ามือของเขา

กระดาษเขียวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง  แต่ไม่แตกสลายไป

“เป็นเรื่องยากที่ข้าจะทำลายกระดาษนี้”  ร่างเจ้าแคว้นผมขาวโบกมือและดึงแหวนเก็บสมบัติออกมา ผูกสัญญาโลหิตกับแหวน  จากนั้นเก็บกระดาษเขียวไว้ในแหวนเก็บสมบัติ

“ฮึ่ม” เพิ่มพลังลงไปอีกเล็กน้อย  เขาก็ทำลายแหวนเก็บสมบัติด้วยนิ้วของเขาได้

ตอนนี้กระดาษหายไปแล้ว

“ฮ่าฮ่า.. จากวันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครรู้ความลับนี้แล้ว”  ร่างเจ้าแคว้นผมขาวหัวเราะขณะเดินออกไป  สำหรับเจ้าแคว้นผมดำเขาก้มหน้ามองดูกำไลในแขนของเขาจากนั้นยิ้มเล็กน้อย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด