928 - คำสาปมรณะหยินหยาง
928 - คำสาปมรณะหยินหยาง
ตงฟางเย่กล่าวว่า "พี่เย่กระดูกศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าให้ข้าได้รับการขัดเกลาเป็นกระบองโดยลุงของข้า ในตอนนี้มันกลายเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไปแล้ว"
เขามอบกระบองเล่มใหญ่ให้เย่ฟ่านยืม นี่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ประเมินค่าไม่ได้ เมื่อเปิดใช้งานถึงระดับสูงสุดแม้ว่าจะใช้ได้เพียงครั้งเดียวแต่อนุภาพของมันก็แทบจะทัดเทียมกับอาวุธเต๋าสุดขั้วได้เลย
เมื่อได้เห็นความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของตงฟางเย่ใบหน้าของเย่ฟ่านและผังป๋อก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เจ้าถือไว้เถอะ ด้วยกระบองชิ้นนี้ต่อให้เป็นปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์มาพวกมันก็ต้องตายแน่นอน!” ผังป๋อกล่าว
"ฟู่!" เย่ฟ่านอ้าปากค้างและกล่าวว่า "เป็นไปได้ไหมว่าคนเหล่านั้นได้นำอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุดมาด้วย”
"มีความเป็นไปได้อย่างยิ่ง ตอนนี้เจ้าครอบครองมรดกของจักรพรรดิอสูรผู้ยิ่งใหญ่ถึงสองชิ้น มีผู้คนมากมายต้องการที่จะแย่งชิงมันไปจากเจ้า”
“มีคนต้องการฆ่าข้า จื่อเยว่ไปบอกพี่ชายของเจ้า หากสถานการณ์ไม่เป็นใจเขาจะเชิญอาวุธเต๋าสุดขั้วของตระกูลจี้ออกมาช่วยเหลือได้หรือเปล่า ข้าคิดว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาเชิญมาอาจเป็นกระจกหยินหยาง?” เย่ฟ่านกล่าว
"กระจกหยินหยางเป็นถึงอาวุธครึ่งก้าวเต๋าสุดขั้ว หากมันปรากฏขึ้นจริงของน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง"
"บอกพี่ชายของเจ้า หากเขายินดีช่วยเหลือข้าจะแย่งชิงกระจกหยินหยางมามอบให้ตระกูลจี้เพื่อเป็นของหมั้นสำหรับเจ้า" เย่ฟ่านหัวเราะ
"ไปลงนรกซะ เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับนี้ล้วนมีวิญญาณของอาวุธปกป้องอยู่ภายใน ต่อให้เรามีอาวุธเต๋าสุดขั้วก็ใช่ว่าจะทำให้มันยอมสยบได้" จี้จื่อเยว่มองเขาด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
ห้าวันต่อมาเย่ฟ่านเดินออกจากสำนักฉีซื่อแต่เขายังไม่ไปไหนและวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เส้นเลือดเซียนเพื่อค้นหายอดฝีมือของจงโจวที่กำลังดักซุ่มโจมตีเขาทันที
เมื่อมาถึงที่นี่เย่ฟ่านก็ค้นหาปากทางเข้าของเส้นเลือดเซียนและกระตุ้นปราณมังกรที่อยู่ภายในให้ระเบิดขึ้นทันที
“บูม!”
แรงระเบิดที่หน้าสะพรึงกลัวปะทุขึ้น ในขณะเดียวกันปราณมังกรที่อยู่ใต้ดินทั้งหมดก็รั่วไหลออกสู่ภายนอก และมีคลื่นที่แข็งแกร่งบดขยี้ร่างกายของยอดฝีมือมากมายที่กำลังสำรวจสมบัติทางธรรมชาติในบริเวณนี้
"แน่นอนว่ายิ่งมีผู้คนมากมายแรงระเบิดของปราณมังกรยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นเท่านั้น"
เย่ฟ่านรู้สึกหวาดกลัว แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น มีเพียงต้องฆ่าคนเหล่านี้เท่านั้นเขาจึงจะสามารถมีชีวิตอยู่อย่างสงบได้
“ไอ้สาระเลวน้อย!”
มีเสียงสาปแช่งดังมาจากระยะไกล และค่ายกลต้นกำเนิดสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
"อ๊ะ?..."
เสียงคำรามของมังกรขนาดใหญ่ดังขึ้น มังกรสวรรค์เก้าสิบเก้าตัวพุ่งออกมาจากพื้นดิน พวกมันทั้งหมดมุ่งหน้าเข้าหาเย่ฟ่านซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าฝ่ายตรงข้ามก็เตรียมตัวมาดีเช่นกัน
"ถ้าแก่เหล่านี้ไม่รู้จักตายจริงๆ" เย่ฟ่านหัวเราะเยาะ
ฝ่ายตรงข้ามคิดจะเล่นทักษะต้นกำเนิดต่อหน้าเขาซึ่งเป็นทายาทของปรมาจารย์ต้นกำเนิดสวรรค์ หากไม่เรียกว่ารอนหาที่ตายจะยังเป็นอะไรได้อีก
"บูม"
ระยะไกล คลื่นที่น่าสะพรึงกลัวปะทุขึ้น ประกายเจิดจ้าส่องลงมาจากสวรรค์ และกระจกโบราณขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า
"อาวุธของเซียนโบราณ กระจกหยินหยาง!"
หัวใจของเย่ฟ่านเคลื่อนไหว เป็นอย่างที่คาดไว้ ผู้คนที่วางแผนขับไล่เขาออกจากสำนักฉีซื่อคือนิกายหยินหยางจริงๆ
"บูม!"
เบื้องหลังเย่ฟ่านชิ้นส่วนของความงดงามศักดิ์สิทธิ์ลอยขึ้น เฟิ่งหวงศักดิ์สิทธิ์สีแดงเลือดพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และตะเกียงวิเศษสีแดงทองก็บินเข้าหากระจกหยินหยางอย่างรวดเร็ว
“น่ากลัวจริงๆ มีปรมาจารย์ศักดิ์สิทธิ์กี่คนกันแน่ที่มาในวันนี้!” ผังป๋อตกใจกลัว
"อย่างน้อยก็สิบคน" ข้างหลังพวกเขา จี้ฮ่าวเยว่ปรากฏตัวขึ้น
"หวังหยางซานเจ้าแก่ที่ไม่รู้จักตาย อายุขัยของเจ้าหมดแล้วแต่ยังคิดจะลากลูกหลานให้ตายไปด้วย!" เย่ฟ่านตะโกน
ประมุขนิกายหยินหยางปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกระจกโบราณสีแดงและดำที่ห้อยอยู่เหนือศีรษะ
ลักษณะของเขาเป็นไปตามคำพูดของเย่ฟ่าน ชายชราคนนี้ร่างกายโอบล้อมด้วยพลังแห่งความตายเข้มข้น เห็นได้ชัดว่าเขายากที่จะประคองตัวเองให้ผ่านครึ่งปีนี้ไปได้
"พลังชีวิตของข้าเหลืออีกไม่กี่เดือนแล้ว วันนี้ไม่ว่าอย่างไรค่าก็ต้องกำจัดเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นภัยแก่คนรุ่นหลังของนิกายหยินหยาง!"
ประมุขนิกายหยินหยางไม่มีทางเลือกมากนัก เขามีชีวิตอยู่มานานกว่าสามพันปีแล้ว ในเมื่อเขาไม่สามารถมีชีวิตที่สองได้ เขาก็เพียงรอคอยความตายอย่างเงียบๆเท่านั้น
เดิมที เขาควรจะตายไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่เขาก็ใช้ไขกระดูกมังกรมากมายต่ออายุของตัวเอง เมื่อมาถึงตอนนี้ต่อให้เป็นไขกระดูกที่ดีที่สุดในโลกก็ไม่สามารถยืดอายุของเขาออกไปได้
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะมีโอกาสจริงๆ?” เย่ฟ่านเย้ยหยัน
ประมุขนิกายหยินหยางใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด สภาพของเขาคล้ายกับไม้แห้งที่พร้อมจะล้มลงได้ตลอดเวลา
"แม้ว่ากระจกหยินหยางที่ข้านำมาจะไม่ใช่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ตกทอดมาจากสมัยโบราณ และมันถูกสร้างขึ้นมาจากมือของข้า แต่ผู้อาวุโสตระกูลจี้ที่คอยปกป้องเจ้าก็คงไม่ได้ถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับเดียวกันมาด้วย ดังนั้นเจ้าต้องตายแน่นอน"
เย่ฟ่านมองอย่างเฉยเมยโดยไม่พูดอะไรอีก
"เด็กน้อยเจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะมาที่นี่คนเดียวหรอกนะ!" หวังหยางซานหัวเราะอย่างปลื้มปิติ
"ลงมือ!"
มีคนตะโกนในความมืดและกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวก็ครอบงำเข้าหาเย่ฟ่านทันที
"บูม"
ร่างกายของประมุขนิกายหยินหยางแตกเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นกระแสโลหิตที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วท้องฟ้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นอสูรที่มีร่างกายสีแดงยืนประจันหน้ากับเย่ฟ่านอยู่กลางท้องฟ้า!
“ข้าจะใช้ร่างกายและวิญญาณของตัวเองเปลี่ยนให้เป็นคำสาปมรณะในการสังหารเจ้า ทุกครั้งที่เจ้าลงมือฆ่าคนคำสาปนี้จะทำให้เจ้าได้รับความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด ฮ่าๆๆ!
วันนี้ข้าต้องตายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่สุดท้ายข้าก็แก้ปัญหาใหญ่ให้กับลูกหลานของข้าได้อย่างสมบูรณ์แล้ว” ประมุขนิกายหยินหยางคำราม
หลังจากนั้นหวังหยางซานก็ดูเหมือนจะตายไปโดยสมบูรณ์ ในตอนนี้มีเพียงอสูรชั่วร้ายร่างกายสีแดงเพลิงเท่านั้นที่ยังคงมีรอยยิ้มเย็นชาอยู่บนใบหน้า และคำสั่งเดียวที่มันได้รับก็คือการสร้างความเจ็บปวดให้เย่ฟ่าน
"บูม"
ภายในความว่างเปล่าแสงเจิดจ้าระเบิดขึ้น อสูรร่างกายสีแดงเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นกระแสแสงที่ผูกมัดเย่ฟ่านอย่างแน่นหนา คำสาปแห่งความตายที่เป็นเหมือนนรกไร้ขอบเขตกำลังแทรกซึมเข้าสู่ร่างเย่ฟ่านอย่างรวดเร็ว
ประมุขนิกายหยินหยางใช้ความตายของตัวเองเพื่อสร้างเป็นคำสาปที่รุนแรงที่สุด ด้วยคำสาปนี้อย่าว่าแต่คนระดับเย่ฟ่านเลย ต่อให้เป็นสิ่งมีชีวิตอมตะก็ยังยากที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบได้
"มันจบลงแล้วเสี่ยวเย่ถึงวาระแล้ว!”
"มันพังแล้ว ไม่มีทางแก้คำสาปแห่งความตายแบบหยินหยางได้ ตราบใดที่เจ้าลงมือโจมตีคนอื่นเจ้าจะตายอย่างแน่นอน!”
ด้านหลัง ใบหน้าของยอดฝีมือตระกูลจี้หลายคนที่คอยให้ความคุ้มครองเย่ฟ่านอยู่ในระยะไกลบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น
"ถ้าเขาลงมือไม่ได้ข้าก็จะลงมือแทนเขาเอง!"
จี้จื่อเยว่นั่งสมาธิในความว่างเปล่า ทั้งตัวของนางเปล่งประกายด้วยความสดใส ในตอนนี้นางกำลังยืมปราณสวรรค์พิภพมาเป็นพลังของตัวเอง
"บูม!"
ลำแสงสีแดงถูกยิงออกจากฝ่ามือของจี้จื่อเยว่ และผู้คนมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ในความว่างเปล่าต่างก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและพยายามตะเกียกตะกายหลบหนี!
ภาพที่น่าสยดสยองนี้ทำให้ผู้คนที่อยู่ไกลออกไปสั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้ พระจันทร์น้อยของตระกูลจี้คนนี้เป็นร่างศักดิ์สิทธิ์ชนิดใดกันแน่
พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจะมีร่างศักดิ์สิทธิ์คนใดสามารถหยิบยืมพลังของสวรรค์พิภพมาใช้ได้มากมายถึงขนาดนี้!
"พลังการโจมตีของนางน่ากลัวยิ่งกว่าครึ่งเซียนด้วย ไม่คิดว่าในยุคนี้ตระกูลจี้จะมีร่างศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้นถึงสองคน"
"หากคิดจะทำร้ายเขาพวกเจ้าต้องตายก่อน"
จี้จื่อเยว่แค่นเสียงอย่างเย็นชาก่อนจะควบคุมตะเกียงทองแดงให้ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมาปกคลุมร่างกายของเย่ฟ่านอย่างแน่นหนา
กระจกโบราณหยินหยางที่ถูกควบคุมโดยยอดฝีมือในเงามืดไม่สามารถทำอันตรายต่อเย่ฟ่านได้ ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่กล้าที่จะลงมืออย่างรุนแรงต่อหญิงสาวคนนี้ เพราะเห็นได้ชัดว่าตัวตนของนางยังมีสถานะสูงกว่าราชันย์ศักดิ์สิทธิ์น้อยจี้ฮ่าวเยว่ด้วยซ้ำ