บทที่ 50 ดาบระดับเงิน
เมื่อคืน นักรบนายหนึ่งสังเกตเห็นอสูรราตรี เขาคิดว่าเป็นแค่ภาพลวงตา แต่ไม่คาดฝันว่าจะเป็นอสูรราตรีมาสอดแนม
“อสูรราตรีระดับทองนั้นไม่ธรรมดา ไม่ต้องนึกถึงถ้ำของเหล่าอสูรราตรี ข้าไม่รู้ว่ามีพวกมันมีอยู่กี่ตัว ไปกินข้าวเช้ากันก่อนเถอะ มีแรงแล้วค่อยเตรียมตัวออกเดินทางไปพร้อมกับอาวุธ!”
เย่ปิงจ้องไปที่สัญลักษณ์หัวผีสีทองด้วยความมุ่งมั่น
“แต่ก็อย่าประมาท ก่อนอื่นให้ตรวจสอบสถานการณ์ของศัตรู และดูว่าพวกเราจะมีโอกาสที่จะชนะในระหว่างวันหรือไม่ มิฉะนั้น พวกมันจะสามารถโต้กลับมาที่หมู่บ้านของพวกเราได้ในตอนกลางคืน”
การค้นพบอย่างกะทันหันทำให้ผู้คนรู้สึกตึงเครียดขึ้น
เย่ปิงคิดจะทำชุดเกราะหลายชุดในโรงตีเหล็ก
มันคือเกราะโซ่ทองที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้ มันอยู่ในระดับทองแดง
ยกเว้นชุดเกราะหนักของนักรบทั้งสามคนจากกลุ่มของเว่ยหวู่ซวน ชุดเกราะของนักรบที่เหลือทั้งหมด ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของอสูรในระดับเดียวกันได้
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังขาดอาวุธที่แข็งแกร่งอีกด้วย หากเผชิญกับอสูรระดับทอง
ในตอนนี้ เย่ปิงได้บรรลุถึงระดับเงินแล้ว ด้วยการไหลเวียนของพลังอมตะ ผสมกับพลังของโสมแดงเลือดพันปี
นอกจากนี้ยังมี หน้าไม้มังกรทองเป็นพลังต่อสู้สูงสุดของพวกเขาอีกด้วย
วัสดุที่จำเป็นสำหรับทำเกราะโซ่ทอง ทั้งหมดอยู่ในโรงเก็บของในหมู่บ้านหมดแล้ว ทรัพยากรเหล่านี้มาจากการแลกเปลี่ยน
ด้วยความช่วยเหลือของจางซาน ลูกศิษย์ของเขาหยู่เซียนโบกค้อนเร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก
ส่วนเย่ปิงมีทักษะ และมีร่างกายที่แข็งแกร่งในระดับเงิน ดังนั้นเขาจึงสามารถทำทุกอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความเร็วแสง
ด้วยพลังของทั้งสาม วัสดุจำนวนมากถูกใช้ไปในพริบตา
{ติ๊ง! ท่านใช้เหล็กไป 100 หน่วย, หยก 50 หน่วย, ทอง 50 หน่วย, และใยแมงมุมสีขาว 10 หน่วย สร้างเกราะโซ่ทองคำได้สำเร็จ!}
เกราะเปล่งแสงสีทอง ปรากฏในมือของเย่ปิง
เขามอบชุดเกราะให้กับเหล่านักรบ สีหน้าของพวกเขารับไว้อย่างมีความสุข
มันมีค่ามากกว่าอาวุธ!
“เมื่อสักครู่ คงได้เห็นขั้นตอนการสร้างเกราะโซ่ทองคำกันแล้ว ต่อไปก็ถึงตาพวกท่านทำเองแล้ว”
เย่ปิงบอกกับชาวบ้านที่มาฝึกงานอีกสามคน
จางซานเรียกเรียกพวกเขามาตีเหล็กช่วย
ชาวบ้านเข้ารับตำแหน่งเพื่อตีเหล็ก
จางซานมีพรสวรรค์พิเศษเป็นช่างตีเหล็ก เขาใช้ค้อนระดับทองแดงไม่มีพลาดในการตีเหล็กแม้แต่ครั้งเดียว เขาจึงได้รับหน้าที่เป็นอาจารย์สอนตีเหล็ก
ส่วนหยู่เซียนได้เป็นพี่เลี้ยงของพวกเขา
เย่ปิงหยิบพิมพ์เขียวอาวุธระดับเงินที่เพิ่งได้รับออกมา:
[วัสดุที่จำเป็นดาบกระดูกขาว: กระดูกของสิ่งมีชีวิตระดับเงินหรือสูงกว่าที่สีขาว, ทอง X50, หยก X100, คริสตัลเวทย์มนตร์ X1!]
เย่ปิงดึงกระดูกสันหลังของราชาแมนดริลซึ่งยาวสามเมตรออกมา
ค้อนเงินในมือของเขาเคลื่อนที่โดยอัตโนมัติอีกครั้ง เมื่อกระทบกับกระดูกสีขาว ประกายไฟก็ลอยไปทุกทิศทุกทาง
ปิ๊ง! ปิ๊ง! ปิ๊ง!
กระดูกสันหลังของสิ่งมีชีวิตระดับเงินนั้นเหนือกว่าเหล็กเนื้อดีเสียอีก
อาวุธเงินไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหล่อหลอมขึ้นมา และก็จำเป็นต้องหลอมรวมกับผลึกเวทย์มนตร์ด้วย
เพื่อรับประกันคุณภาพของอาวุธของเขา เย่ปิงได้นำผลึกเวทมนตร์ระดับกลางของราชาอสูรแมนดริลออกมา มันพิเศษมาก! ซึ่งมาจากต้นกำเนิดเดียวกันกับกระดูกสันหลัง
จางซาน และคนอื่นๆ สร้างเกราะสีทองเร็วขึ้น และเย่ปิงก็ใกล้จะทำดาบเสร็จแล้ว
เย่ปิงหยิบหนังหมู่ป่าออกมาแล้วพันรอบด้ามดาบ จากนั้นเขาก็หยิบดาบกระดูกยาวสีขาวขึ้นมา
ดาบของเขาขาวราวกับไข่มุก กระดูกสันหลังราชาอสูรแหลมคมราวกับคมมีด
มีผลึกเวทมนตร์ที่มีพลังลึกลับฝังอยู่ในด้ามดาบ
ผลึกอสูรเป็นแก่นพลังของดาบ และรายล้อมไปด้วยลวดลายกระดูกมากมายบนผิวดาบ
{ติ๊ง! ท่านสร้างอาวุธระดับเงินสำเร็จ ดาบกระดูกขาว!”
{ทักษะการตีเหล็กของท่านได้รับการอัพเกรดเป็นขั้นสูงแล้ว!}
เมื่อได้ยินเสียงเตือนอย่างต่อเนื่องสองครั้ง เย่ปิงก็ชูดาบที่ทำจากอสูรแมนดริลด้วยความพึงพอใจอย่างมาก
พลังอมตะพุ่งออกมาจากร่างของเย่ปิงเมื่อถือดาบไว้ในมือ ดาบเล่มนี้ พิเศษจริงๆ แตกต่างจากอาวุธระดับทองแดง
มันสามารถถ่ายทอดพลังในร่างกายของเขาออกมาได้หมด และใบมีดดาบก็เปล่งแสงดาบสีขาวออกมา
เย่ปิงพยายามตัดเศษเหล็กที่เหลือจากการหลอม
ในชั่วพริบตา ดาบสีขาวเล่มโตก็เปล่งประกายแสงสีขาวสว่างจ้า ราวกับคลื่นวิญญาณ
ฉึบ!
เศษเหล็กถูกผ่าครึ่งทันที!
“เฉียบคม! ไม่เสียแรงที่ออกไปสำรวจซากปรักหักพังนั้น!”
เย่ปิงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมดาบกระดูกขาว
เงาของกระดูกที่ล้อมรอบด้วยแกนสันหลังของอสูรแมนดริลสีขาวถูกชื่นชมด้วยสายตาของคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
เขามีหน้าไม้มังกรมังกรทอง บวกกับไพ่ไม้ตายในมือของเขาที่แอบเก็บซ่อนเอาไว้
อีกทั้งยังโจมตีในเวลาตอนกลางวัน
บางทีอาจสร้างปาฏิหาริย์ให้ทุกคนเห็นได้ในเร็วๆ นี้!
ความเสี่ยงมาพร้อมกับผลประโยชน์!
เย่ปิงนึกไม่ออกเลยว่าระบบจะให้รางวัลอะไรกับเขา ถ้าเขาฆ่าราชาอสูรระดับทองได้ภายในเวลาสี่วัน
หลังจากทำชุดเกราะโซ่ทองคำให้กับคนอื่นๆ กั่วเจียปฏิเสธที่จะรับชุดเกราะสำหรับเขา
เขาต้องการเพียงธนูระดับทองแดงเท่านั้น
ทั้ง 11 คน เตรียมตัวออกจากหมู่บ้านอย่างน่าเกรงขาม
ก่อนที่พวกเขาจะออกจากหมู่บ้านไป กั่วเจียได้จัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยหมดแล้ว สาวๆ ออกไปเก็บอาหาร และเรียนรู้ภูมิประเทศโดยรอบ
บางกลุ่มช่วยหยู่เซียนสร้างบ้าน และสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานก่อน
หรืออีกกลุ่ม นำโดยชาวนาหลี่ซีไปดูแลพื้นที่เพาะปลูก หว่านเมล็ดพันธุ์ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนของเย่ปิง และดูแลต้นข้าววิญญาณหลิงซุยทอง
ในเวลาเดียวกัน ในการลาดตระเวนบนกำแพงสวรรค์ ยังถูกปกป้องด้วยนักรบชาวบ้านสองคน ในกรณีที่สัตว์ร้ายรุกรานจากภายนอก พวกเขายังมีคันธนู และหอกอยู่ในมือ
…
เห็นได้ชัดว่า ในการสำรวจครั้งนี้เย่ปิงมีสีหน้าที่เคร่งขรึมเล็กน้อย
เสี่ยวเหมิงผู้ซึ่งอายเสมอเมื่อพบเย่ปิง ในตอนนี้ปรากฏตัวเพื่อให้กำลังใจ
เธอยื่นห่ออาหารแห้งที่ปรุงสุก และยาให้เย่ปิง อย่างเขินอายและกระซิบเบาๆ:
“ท่านหัวหน้าเจ้าขา อย่าเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายโดยเด็ดขาด ระวังตัวเองให้มากๆ ส่วนทางนี้ หมู่บ้านของเรามีกำแพงสวรรค์คอยปกป้องอยู่ ไม่ต้องเป็นกังวล”
“อย่ากังวลไปข้าจะไม่ประมาท! ข้าจะนำเหล่านักรบไปสำรวจลาดเลา และหาวิธีจัดการกับพวกมันเท่านั้นเอง”
เย่ปิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม
กลุ่มคน 11 คน ไปพร้อมกับความแข็งแกร่งที่สุดของหมู่บ้านหยู่เปิง มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ!