บทที่ 49 สัญลักษณ์สีทอง
กำแพงสวรรค์ที่เก่าแก่ มีลวดลายคล้ายมังกรขนาดใหญ่ติดตระหง่านเสมือนมันกำลังเฝ้าหมู่บ้านด้วยความเลื่อมใสมาช้านาน
ทันทีที่เขาพูดจบ
เวทมนตร์สามแสงส่องสว่างจ้าบนกำแพงเมือง ปรากฏชายกล้ามโตสามคน ซึ่งในมือของพวกเขาถือง้าว
เมื่อพวกเขาเห็นเย่ปิง พวกเขาคุกเข่าลงและพูดว่า:
“ข้าซูหยง ซื่อหวู่ ซื่อกู่ มาที่นี่เพื่อรับใช้ท่านหัวหน้าขอรับ!”
"ลุกขึ้นๆ ข้าไม่ใช่จักรพรรดิในภาพยนตร์ ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้"
เย่ปิงแทบรอไม่ไหวที่จะตรวจสอบความสามารถของนักรบทั้งสามคน?
[ตัวละคร: ซื่อหวู่]
[สังกัด: หมู่บ้านหยู่เปิง]
[ทักษะพื้นฐาน: ความแข็งแกร่ง 92, สติปัญญา: 85, ทักษะ: 87, ความสามารถ: 86]
[ระดับ: นักรบทองแดง]
[ทักษะเสริม: ใช้ง้าวเป็นอาวุธต่อสู้ประชิดตัว!]
[พรสวรรค์พิเศษ: นักรบแห่งการต่อสู้ระยะประชิด ว่องไวดั่งลูกธนู! ต่อสู้ดุจสายฟ้า ทรงพลังเป็นพิเศษในการต่อสู้ตัวต่อตัวบนกำแพงเมือง +20%!]
.....
ทั้งสามเป็นนักรบระดับทองแดงขั้นแรก! พวกเขามีคุณสมบัติที่คล้ายๆ กัน
เย่ปิงมีความสุขมากขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากอาคารศักดิ์สิทธิ์นำโชคทั้งสอง โชคแห่งหมู่บ้านนี้มีอยู่ในทุกด้าน
ในขณะนี้ หมู่บ้านหยู่เปิงมีนักรบทองแดงทั้งหมด 10 นาย รวมถึงเย่ปิงด้วย พลังนี้น่ากลัวยิ่งกว่าอสูรนับพันตัว!
“ขอแสดงความยินดีกับท่านหัวหน้าด้วยขอรับ ที่นี่มีนักรบฝีมือดีเพิ่มอีกสามนาย”
กั่วเจียแสดงความยินดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส: "ด้วยสิ่งนี้ พวกเราก็มีกำลังหนุนเพิ่มขึ้น ในการสำรวจครั้งใหม่"
“ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
เย่ปิงถามด้วยความสงสัย
กั่วเจียนำแผนที่แม่น้ำออกมากางต่อหน้าเย่ปิง หลังจากเขาวิเคราะห์มันอย่างละเอียดในชั่วข้ามคืน
แผนที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ต่างๆ นาๆ กั่วเจียสังเกตเห็นสัญลักษณ์คล้ายหัวผีสีทองที่อยู่ใจกลางแผนที่ ซึ่งถูกทำเครื่องหมายด้วยจุดสำคัญ!
“ท่านหัวหน้า ข้าจะอธิบายให้ท่านฟังขณะรับประทานอาหาร เมื่อคืนข้าพบบางอย่างที่สำคัญยิ่ง!”
พวกเขารีบเดินไปที่โรงอาหาร
เมื่อลูกบ้านทะลุ 50 คน โรงอาหารกว้างขวางที่ถูกสร้างด้วยหยู่เซียน ก็พลุกพล่านไปด้วยผู้คน
เสี่ยวเหมิงกำลังยุ่งกับการเตรียมอาหารในตอนเช้ากับกลุ่มสาวๆ
ชาวบ้านคนอื่นๆ ยืนขึ้นและคำนับเมื่อเห็นเย่ปิง
เสี่ยวเหมิงที่กำลังทำอาหารอยู่ก็หยุดลงกะทันหัน
เธอก้มศีรษะลงอย่างเขินอาย และไม่กล้าสบตาเขา
ช้างตัวน้อยในตอนเช้านั้น ทำให้เธอขวัญเสีย!
‘หากเป็นบ้านเกิดของข้า ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้าจะต้องแต่งงานกับเขาไปตลอดชีวิตเท่านั้น’
เสี่ยวเหมิงคิดในใจอย่างเขินอาย
เย่ปิงแนะนำให้นักรบทั้งสามที่มาใหม่ รู้จักกับนักรบทั้งหกคน
ทั้งเก้าคนดูเหมือนนักรบมืออาชีพ
วิธีการแต่งตัวของพวกเขาก็คล้ายกัน ท้ายที่สุด พวกเขาเกิดในยุคแห่งสงคราม
พวกเขาสนิทสนมกันโดยเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ และในไม่ช้าก็กลายเป็นหนึ่งเดียว
นกอินทรีตัวน้อยบินมาเกาะบนไหล่ของเย่ปิงเพื่อเฝ้ารอของกิน
เย่ปิงหยอกล้อนกอินทรีตัวน้อย และให้อาหารมัน ขณะที่คุยกับกั่วเจียเกี่ยวกับหัวข้อการออกสำรวจ
“ท่านหัวหน้า ข้าได้ศึกษาภูมิประเทศใกล้เคียงอย่างรอบคอบเมื่อคืนนี้ พบว่ามีสัตว์ประหลาด และอสูรระดับทองแดงมากมายบริเวณรอบๆ หมู่บ้านของเรา”
กั่วเจียชี้ไปที่เครื่องหมายที่อัดแน่นอยู่บนแผนที่
“พื้นที่แห่งนี้ยังมีอสูรระดับเงิน และอสูรระดับทองอีกด้วย!”
เขาชี้ไปที่หัวผีสีทอง ซึ่งห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้าน ไกลพอสมควร
“ข้าคิดว่า รอบตัวเราไม่เพียงแต่มีอสูรระดับธรรมดาเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งมีชีวิตชนชั้นสูงอยู่ด้วย ตราบใดที่พวกเราไม่ยั่วยุพวกมันเสียก่อน หมู่บ้านของเราน่าจะปลอดภัย และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่เราอัพเกรดเมืองสำเร็จ พวกเราค่อยส่งคนไปสอดแนมพวกมัน! การหยั่งรู้ศัตรู คือครูของสนามรบ!”
การแสดงออกของกั่วเจียนั้นจริงจังมาก และเขาจ้องไปที่สัญลักษณ์หัวผีสีทองบนแผนที่
นักรบคนอื่นๆ เมื่อเห็นสีหน้าของกั่วเจียถึงกับต้องวางชาม และตะเกียบลง และจดจ่ออยู่กับการอ่านแผนที่
“นี่มันอสูรประหลาดชนิดใดกัน? พวกเขาเกิดมาเพื่อต่อสู้กับพวกเรางั้นหรือ?”
เย่ปิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“บางทีท่านอาจเคยเห็นอสูรร้ายตัวนี้มาก่อน….มันคืออสูรราตรีที่พยายามทำลายหมู่บ้านเมื่อคืนก่อน!”
ทุกคนตกใจกับคำพูดของกั่วเจีย
ดวงตาเบิกกว้างของนักรบที่เคยต่อสู้กับอสูรราตรี นั้นทำให้นักรบใหม่กังวลเล็กน้อย
จู่ๆ เย่ปิงคว้าแผนที่แล้วจ้องไปที่ตำแหน่งที่อยู่ของหัวผีสีทองอย่างระมัดระวัง
ห่างจากหมู่บ้านอย่างน้อย 30 กิโลเมตร เส้นทางผ่านภูเขาหลายลูก และมีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน
ที่นี่คือที่ซ่อนของอสูรราตรี และไม่มีใครรู้ว่าพวกมันจะโจมตีอีกครั้งเมื่อไหร่?
สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือผู้นำของมันอยู่ในระดับทอง!
เย่ปิงรู้ว่าพวกเขาเกลียดอสูรราตรีมากแค่ไหน เมื่อไม่นานมานี้ พวกมันทำให้พวกเขาขุ่นเคืองใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!
เย่ปิงต้องการอัพเกรดเมืองในเร็วๆ นี้ เมื่อถึงเวลาในคืนนั้น อสูรราตรีระดับทองอาจจะโจมตีโดยไม่ได้ตั้งตัว!
“ท่านหัวหน้า คืนที่ผ่านมาข้าเห็นอสูรราตรีมาสอดแนมหมู่บ้านของพวกเรา ตอนแรกข้ารู้สึกแปลกๆ ราวกับว่ามีบางอย่างลับๆ ล่อๆ นอกกำแพงเมือง ตอนแรกข้าคิดว่ามันเป็นแค่ภาพลวงตา แต่พอได้มาเห็นแผนที่นี้ ข้าจึงมั่นใจ”
จงยี่ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า:
“การสังหารเหล่าอสูรครั้งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินไปสำหรับพวกมัน กองทัพอสูรราตรีคงไม่พอใจหมู่บ้านของพวกเราเป็นแน่”
“ข้าคิดว่า หลังจากที่พวกมันมาสอดแนมพวกเราไม่เว้นวัน อีกไม่นานคงยกทัพมาโจมตีพวกเราเป็นแน่!”
สมองของเย่ปิงตึงเครียดอีกครั้ง และความกดดันก็เพิ่มขึ้นอย่างมากในทันใด
แม้ว่าจะมีนักรบระดับทองแดงถึงสิบคน พวกเขาจะสามารถต้านทานอสูรระดับทองได้หรือไม่?
ไม่ต้องพูดถึงอสูรราตรีระดับเงิน และระดับทองแดงที่มาเพิ่ม!
“ฟังจากการเล่าของชาวบ้าน อสูรราตรีนั้นกลัวแสง กลางวันพวกมันไม่ปรากฏตัวเพราะซ่อนตัวจากแสง น่าจะกำลังหลับไหลอยู่ในที่ทึบแสง มันไม่สายเกินไปสำหรับการโจมตีของพวกเรา หลังอาหารมื้อนี้ ข้าขอร่วมเดินทางไปสำรวจกับพวกท่านด้วยได้ไหม? เพื่อค้นหารังของพวกมัน และพิสูจน์ว่านี่คือเรื่องจริง!”
ทันทีที่กั่วเจียพูดจบ จงยี่ก็ยิ้มและพูดว่า:
“ไม่ต้องเป็นกังวลไปท่านกั่วเจีย พวกเราไม่จำเป็นต้องไปค้นหาพวกมันให้เสียเวลา ครั้งสุดท้ายที่อสูรราตรีโจมตี ข้าไว้ชีวิตอสูรตัวหนึ่งไปโดยเจตนา ข้าทิ้งกลิ่นไว้บนตัวของมัน หากพวกเราข้ามแม่น้ำได้ และเดินทางเข้าไปใกล้ๆ รังของพวกมัน ข้าจะตามกลิ่นนี้ได้แน่นอน!”
"เยี่ยมยุทธ! ด้วยวิธีนี้พวกเราสามารถประหยัดเวลาได้มาก! ท่านนี้มีปัญญาที่เฉียบแหลมเสียจริง!"
กั่วเจียปรบมือ และชมเชยจงยี่
อสูรราตรีในตอนกลางวันอ่อนแอที่สุด จะดีกว่าไหม ถ้าพวกเราโจมตีพวกมันหลับไหลในตอนนี้?