ตอนที่ 718 วิคเตอร์กับโรแลนด์ ซู
โรแลนด์ ซูมองดูวิคเตอร์ด้วยท่าทางประหลาดใจ “เจ้าบาดเจ็บมาหรือ?”
โรแลนด์ ซูอายุราว 30 ปีท่าทางชดช้อยเหมือนสาวใหญ่เจ้าเสน่ห์
วิคเตอร์ทำหน้าขมขื่น เขาหยิบแก้วน้ำข้างหน้ากรอกใส่ปาก “ใช่ เจ้าโง่นั่นขายนักโทษทั้งหมดให้กับตระกูลฉินข้ากับฉินเจิ้นต่อสู้กันและไม่ง่ายเลยที่จะกลับมาได้อย่างสมบูรณ์เต็มที่”
โรแลนด์ ซูเงียบนางเข้าใจว่าหมายถึงอะไร ตระกูลฉินมีนักโทษหน่วยสุญญตาห้าร้อยคนและนั่นถูกมองว่าเป็นภัยพิบัติของตระกูลอื่นในเมืองจื่อจวน พันธมิตรดั้งเดิมของตระกูลอาจสามารถต่อต้านตระกูลฉินได้ แต่ถ้าตระกูลฉินดึงนักโทษห้าร้อยคนเข้ามาความสมดุลจะง่อนแง่นเหมือนอยู่บนปลายแหลม ขณะนั้นตระกูลอื่นๆทั้งหมดนอกจากจะกลายเป็นที่รองรับของตระกูลฉินแล้ว ด้วยพลังของฉินเจิ้นก็ทำให้ตระกูลอื่นยอมแพ้หรือตายได้แล้ว
“เจ้ากำลังจะบอกอะไร?” โรแลนด์ซูจ้องหน้าของวิคเตอร์อารมณ์ที่ซับซ้อนวูบผ่านนัยน์ตาของนาง
“ยกนักโทษหน่วยสุญญตาให้บุรุษหน้ากากผี” วิคเตอร์วางแก้วลงและไม่หลบสายตาของโรแลนด์เขากล่าว “เราไม่อาจปล่อยให้ตระกูลฉินจัดตั้งกองกำลังได้ ถ้าไม่อย่างนั้นเราอยู่ไม่ได้แน่
“มอบพวกเขาให้เจ้าหน้ากากผี?” โรแลนด์ ซูมองดูวิคเตอร์อย่างใจเย็น “แล้วจากนั้นจะเป็นยังไง ตระกูลโรแลนด์ของข้ามิต้องต้องรับอารมณ์โกรธเกรี้ยวของตระกูลฉินหรือ?”
วิคเตอร์ยังคงเงียบ หน้าของเขาที่แต่เดิมขาวมีสีแดงซ่าน “ใครจะกล้าพูดกันเล่าว่าเราจะยกพวกเขาให้เขา? ตราบใดที่เรารายงานว่าบุรุษหน้ากากผีแทรกแซงเข้ามาในตระกูลโรแลนด์และตระกูลโรแลนด์ก็เป็นผู้เคราะห์ร้าย ตระกูลฉินจะว่าอะไรได้?”
“โดยผิวเผินตระกูลฉินอาจไม่พูดมาก แต่เรื่องที่ตามมาหลังจากนั้นจะซับซ้อน” โรแลนด์ ซูยังคงสงบ
วิคเตอร์ไม่โกรธ แต่ยังคงสงบเช่นกัน “หรือว่าตระกูลโรแลนด์จะกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนอื่น?”
โรแลนด์ ซูยังคงเงียบ
“ตระกูลของข้าสูญเสียความกล้าหาญไปแล้ว สิ่งที่พวกเขากำลังคิดก็คือวิธีต่อสู้ดิ้นรนจากประตูแห่งความตาย สำหรับคนรุ่นเก่า ก็เพียงพอจะรอดได้ ใครอื่นจะมีความสำคัญเล่า?ตราบใดที่ตระกูลฉินโยนกระดูกมาให้ พวกเขาก็ยินยอมรับไว้อย่างยินดี” น้ำเสียงของวิคเตอร์เต็มไปด้วยความผิดหวัง เขาเงยหน้าขึ้นมองโรแลนด์ ซู “แต่.. ตระกูลโรแลนด์จะทำเหมือนกันด้วยหรือ?”
“ไม่” โรแลนด์ซูตอบทันที น้ำเสียงของนางสงบ แต่มั่นคง
วิคเตอร์หัวเราะ ตระกูลโรแลนด์ดูอ่อนแอแต่ภายนอก และภายในแข็งแกร่ง เหมือนอย่างโรแลนด์ ซู พวกเขาไม่อาจยอมรับตกเป็นผู้รับใช้ตระกูลอื่นได้ เขามองดูสุภาพสตรีที่อยู่ต่อหน้าเขาใบหน้าและความทรงจำที่คุ้นเคยในอดีตผุดผ่านเข้ามาในใจ
เขาสงบจิตใจตนเองลง และสายตาเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล “ตระกูลเซวียซื้อคนใช้บุรุษที่เป็นนักโทษคนหนึ่งและมีแนวโน้มว่าจะเป็นบุรุษหน้ากากผี วิชาหนีของบุรุษหน้ากากผีใช้กฎอวกาศ และนอกจากนี้ยังมีบุรุษที่ชื่อว่าผิงเสี่ยวซานเป็นผู้เชี่ยวชาญในกฎนี้ผิงเสี่ยวซานมักจะลงมือขโมยไหมทองมาหลายครั้งแล้ว แม้ว่าเขาจะทำเป็นการลับ แต่เขาก็ยังทิ้งร่องรอย เขาเป็นทหารผ่านศึกคนหนึ่ง”
“ถ้าข้าเดาไม่ผิดวิชาหนีของเจ้าหน้ากากผีต้องเรียนมาจากผิงเสี่ยวซานแน่”
โรแลนด์ ซูประหลาดใจ “บุรุษหน้ากากผีอยู่ในตระกูลเซวียหรือ?”
บ้านตระกูลเซวียได้ซื้อความช่วยเหลือจากทุกแห่งและแม้แต่จากตระกูลโรแลนด์ด้วย
“หลายอย่างน่าสนใจ” หน้าของวิคเตอร์ยิ้มเล็กน้อย “หลูหลิงหนานถูกเซวียหมิงจูปฏิเสธ เขามาจากบ้านตระกูลเซวียและไม่นานนี้ เถี่ยเซียก็หายตัวไปและไม่เคยกลับมาเลย เซวียหมิงจูมีนิสัยใจคอมั่นคง คล้ายกับท่านนั่นแหละ ถ้าข้าเดาไม่ผิด เถี่ยเซียคงถูกเจ้าหน้ากากผีเล่นงานไปแล้ว”
“ตระกูลฉินจะต้องหาเขาด้วย” โรแลนด์ ซูเตือนวิคเตอร์
“พวกเขาสามารถหาเขาได้แน่” วิคเตอร์กล่าว “แต่คนใช้บุรุษของบ้านตระกูลเซวียถูกซื้อมาด้วยเงิน บ้านตระกูลเซวียมักให้ความเคารพตระกูลฉินอย่างลึกซึ้ง แต่ครั้งนี้ตระกูลฉินแอบขายพวกนางออกไป ดังนั้นพวกเขากระทำผิดไปแล้ว ถ้าพวกเขามาทวงถามบุรุษหน้ากากผี พวกเขาจะคุกคามพวกนางอย่างแท้จริง ด้วยอารมณ์ของแม่เฒ่าตระกูลเซวีย ใครจะรู้ว่าพวกเขาอาจจะเริ่มสู้กันก็ได้ ไม่มีตระกูลเซวียตระกูลหลูจะยอมส่งมอบนักโทษ200 คนให้ตระกูลฉินได้ยังไง?”
“แล้วไง?” โรแลนด์ซูปล่อยให้เขาพูดต่อ
“ดังนั้นพวกเขาจะต้องใช้แผน” วิคเตอร์อธิบาย “ตระกูลหลูสูญเสียเถี่ยเซียไปแล้วย่อมจะไม่สบายใจเป็นแน่ ตระกูลหลูแข็งแกร่งมากกว่าตระกูลฉิน เนื่องจากพวกเขามียอดฝีมือหลายคน พวกเขาจะปล่อยเรื่องนั้นไว้ได้ยังไง? สำหรับตระกูลฉิน พวกเขาต้องการเพียงให้บุรุษหน้ากากผีตาย ดังนั้นด้วยการใช้ตระกูลหลูเป็นดาบทุกคนจะมีความสุข”
“เจ้ากำลังพนันว่าบุรุษหน้าผีจะไม่ตาย?” โรแลนด์ ซูถาม
“ใช่แล้ว” ท่าทีเฉยเมยของวิคเตอร์หายไป เขาพูดอย่างจริงจัง “ข้าเห็นบุรุษหน้ากากผีสู้มาสองครั้งกับตาตัวเอง ครั้งนี้เมื่อเขาเอาชนะเบนสันหลายคนสันนิษฐานว่าเขาซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ แต่จากที่ข้าเห็น เขาไม่ได้ซ่อนความแข็งแกร่ง แต่เขาก้าวหน้าจริงๆ”
“เขาก้าวหน้า?” สีหน้าของโรแลนด์ ซูไม่อาจใจเย็นได้ต่อไป นางทำท่าแปลกใจ
นางรู้จักวิคเตอร์ดี สายตามองการณ์ไกลของเขาฉลาดและเฉียบแหลม ความสามารถในการสังเกตการณ์ของเขาแข็งแกร่งและเขามีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เขาเห็นการต่อสู้ทั้งสองครั้ง และเมื่อกลับมาคิด เขาค้นพบบางอย่างได้แน่นอน แต่ช่วงห่างเวลาในการต่อสู้ทั้งสองครั้งนั้นสั้นมาก แต่สำหรับเขาก้าวหน้าได้มากขนาดนั้น,นั่น...น่ากลัวมาก..
วิคเตอร์หัวเราะ.. แต่โรแลนด์ซูเห็นได้ว่าเขามีความชีวิตชีวา อารมณ์ของเขาดีขึ้นทันที “ใช่แล้ว,ครั้งแรก เขาอาศัยสายใยกฎธรรมชาติและสามารถรู้สึกได้และค้นเจอการป้องกันของเบนสันได้ เขารู้แจ้งกฎธรรมชาติในระดับตื้น แต่ครั้งนี้วิทยายุทธเข้าถึงระดับขอบเขตใหม่”
“ขอบเขตใหม่?”
“ในตอนแรกข้าคิดว่าเหตุผลที่เขาสามารถเอาชนะเบนสันได้เป็นเพราะเขาจุดไฟต้นกำเนิดได้ แต่หลังจากคิดดูแล้ว แม้ว่าจะจุดไฟต้นกำเนิดได้ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะพายุดาบสลาตัน” วิคเตอร์เคร่งเครียดอีกครั้ง “แม้ว่าไฟต้นกำเนิดจะแข็งแกร่งมากกว่าพลังกายในแง่คุณภาพและความหนาแน่น แต่เบนสันรู้แจ้งกฎธรรมชาติมาอย่างลึกซึ้ง ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถใช้ดาบพายุสลาตันได้ พายุดาบสลาตันต้องใช้พลังจากฟ้าและดินไม่มีที่สิ้นสุดไม่ว่ากำเนิดพลังของผู้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงไหน ก็ไม่สามารถต่อต้านพลังฟ้าและดินได้ นอกจากนี้ เมื่อพวกเขาสู้กัน ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายพลังแปลกประหลาดจากภายในพายุดาบสลาตันของเบนสัน”
โรแลนด์ ซูตั้งใจฟังเขาพูด และถาม “กลิ่นอายประหลาดอะไร?”
ความอยากรู้ของนางยิ่งเพิ่มขึ้นมาก วิคเตอร์ไม่ถูกห้าม และเป็นคนเสเพลแต่ความรู้และประสบการณ์ของเขากว้างขวางมาก ถ้าแม้แต่เขายังพูดว่าแปลก อย่างนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา
“ข้าบอกไม่ถูก” หน้าของวิคเตอร์ยิ่งเคร่งขรึมและพูดต่อ “ข้ารู้สึกว่ามีสิ่งที่สำคัญซึ่งทำให้เขาทำลายพายุดาบสลาตันได้ก็จริง แต่กลิ่นอายนั้นแปลกประหลาดเกินไป ข้าไม่เคยรู้สึกอะไรอย่างนั้นมาก่อน ข้าต้องการความชัดเจนในเรื่องนี้ ดังนั้นข้าลอบเข้าไปในบ้านตระกูลมัวร์”
ตาของโรแลนด์ ซูเบิกกว้าง นางประหลาดใจ “เจ้าไปหาเบนสันหรือ?”
วิคเตอร์ผงกศีรษะ “มีแต่เบนสันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในนั้น มีแต่เบนสันเท่านั้นที่รู้ว่าพายุดาบสลาตันถูกทำลายยังไง ข้าต้องการรู้คำตอบ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คือไปถามเบนสันเป็นการส่วนตัว เบนสันไม่ได้ปิดบังอะไร เขาพูดว่าบุรุษหน้ากากผีใช้วิชาหมัดซึ่งแปลกประหลาดมาก มันสามารถดึงดูดสายใยกฎธรรมชาติในพื้นที่รอบตัวเขา”
“อะไรนะ?” โรแลนด์ซูอุทาน หน้าของนางเหลือเชื่อ
สีหน้าของวิคเตอร์จริงจังมากกว่าเดิม “หมัดของเจ้าหน้ากากผีมักจะเป็นวิชาเดิมๆแต่ในวิชาเดิมๆ นั้นแฝงไว้ด้วยความเปลี่ยนแปลงนับไม่ถ้วน เบนสันสงสัยว่าบุรุษหน้ากากผีคงควบรวมความเปลี่ยนแปรทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียวในหมัดเดียว เมื่อเขาดึงหมัดออกกฎธรรมชาติในพื้นที่รอบตัวเขาจึงถูกดูดเข้ามาที่หมัดเหมือนกับแม่เหล็ก และพื้นที่ซึ่งมีสายใยกฎธรรมชาติถูกดึงเข้ามาถูกแช่แข็งโดยสิ้นเชิง พื้นที่แช่แข็งนี้มั่นคงมากไม่ว่าเขาจะใช้พายุดาบสลาตันทำลายเพียงใด ก็เป็นเรื่องยากมาก เบนสันไม่เคยเห็นวิชาหมัดแบบนั้นมาก่อนวิชาหมัดนี้ต้องการพลังร่างกายที่สูงมาก และตอนเริ่มการต่อสู้ พายุดาบของเบนสันตรึงมันเอาไว้ได้ แต่ใครจะรู้ในช่วงวิกฤติบุรุษหน้ากากผีจุดไฟต้นกำเนิดได้และพายุดาบสลาตันถูกทำลายลงหลังจากนั้นอย่างรวดเร็ว”
ปากที่เป็นมันและชุ่มชื้นของโรแลนด์ ซูอ้าค้าง นางทำสีหน้าตกใจ
“เมื่อข้าเตรียมจะออกมา เบนสันตะโกนบอกข้าทันที” เสียงของวิคเตอร์แผ่วลง “เขาบอกข้าว่า อย่าเป็นศัตรูกับบุรุษหน้ากากผี”
“ทำไม? เพราะวิชาหมัดนั้นหรือ?” โรแลนด์ซูอดถามไม่ได้
“เบนสันเห็นวิธีที่บุรุษหน้ากากผีจุดไฟต้นกำเนิดของเขา” มีความรู้สึกที่ยากอธิบายในน้ำเสียงของวิคเตอร์ “วิชาหมัดที่ประหลาดนั้นต้องใช้พลังทั้งตัวของบุรุษหน้ากากผีแต่เขายังคงปล่อยหมัดนั่นได้ทำให้เลือดปั่นอยู่ในร่างกายเขาและเริ่มซึมออกมาจากขุมขนในร่างกาย แต่เขาก็ยังไม่หยุด เขาเป็นเหมือนเสือร้ายที่บ้าคลั่งเลือดยังคงฉีดพุ่งออกมาจากร่างของเขา และพลังอึดสุดท้ายในตัวเขา เขาใช้ในการจุดไฟต้นกำเนิดในตัวเขา”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น โรแลนด์ ซูไม่รู้ว่าจะตอบยังไง
“เบนสันบอกว่าเขาไม่เคยเห็นความตั้งใจเอาชนะอย่างนั้นมาก่อนสามารถทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างได้” สีหน้าของวิคเตอร์ยิ่งซับซ้อนขึ้น “เบนสันยังคงบอกว่าบุรุษหน้ากากผีสามารถฆ่าเขาได้ แต่เขาไม่ทำเช่นนั้น เขาเพียงแต่มองดูเบนสันและจากไป เบนสันสงสัยว่าบุรุษหน้ากากผีแค่มาท้าทายเขาจริงเพื่อทำลายขีดจำกัดของตนเอง เขาบ้าระห่ำจริงๆ”
โรแลนด์ซูเงียบเป็นเวลานาน และจากนั้นจึงพูดขึ้น “ดังนั้นเจ้าเลยวางเดิมพันไว้ที่เขา?”
“นั่นก็ถูกแล้ว เราถูกเนรเทศมานานเกินไปแล้ว ทุกคนเริ่มจะชาชินกับการใช้ชีวิตบนหลังงอๆ” วิคเตอร์พูดอย่างไม่แยแส “กี่ปีแล้วตั้งแต่มีคนเดินตามเส้นทางมรณะกลับบ้าน? ทางที่กระดูกของบรรพบุรุษของเราต้องถูกทิ้งอย่างเดียวดาย กระบี่ของพวกเซียนของทวีปกวงหมิงที่คุ้มกันประตูแดนบาปต้องขึ้นสนิมไปแล้ว เราสูญเสียความกล้าหาญของเราไปแล้ว และเราสามารถใช้ชีวิตอยู่โดยไม่ได้เห็นดวงอาทิตย์ ฉินเจิ้นก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ต้องการแสง แต่ข้าไม่ใช่, ข้ากลัวเจ็บ เฮ้อ..ดังนั้นข้าจึงหลบเลี่ยง และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้กล้า”
โรแลนด์ ซูยังคงเงียบ จากนั้นยังคงเงียบอยู่ “ไม่มีใครพยายามบุกผ่านประตูแดนบาปอีกแล้ว”
ในช่วงสองสามเดือนแรกที่ถูกเนรเทศ ตระกูลนับไม่ถ้วนและผู้คนที่ไม่มีความสุขกับการถูกเนรเทศต่างวิ่งเข้าสู่ประตูแดนบาป หวังว่าจะกลับไปยังดาราจักรเซียนศักดิ์สิทธิ์ได้ เซียนของทวีปกวงหมิงเฝ้ารักษาประตูได้ฆ่าพวกเขาทุกคน เส้นทางนั้นเต็มไปด้วยกระดูก และมันถูกเรียกว่าทางมรณะกลับบ้าน
ไม่มีใครสักคนเคยทำสำเร็จ เพราะทวีปกวงหมิงแข็งแกร่งเกินไป
เวลาผ่านไปช้าๆ ตระกูลต่างๆ เริ่มชินกับแดนบาปมากขึ้น ชีวิตของพวกเขาค่อยๆ มั่นคงมากขึ้นและมีน้อยคนที่พยายามเดินทางไปที่เส้นทางมรณะกลับบ้าน และในช่วงทศวรรษนี้ไม่มีใครเดินทางในเส้นทางที่เต็มไปด้วยกระดูกอีกต่อไป
“บางที” วิคเตอร์หัวเราะอย่างไม่ใส่ใจใบหน้าหล่อซีดขาวของเขาเผยให้เห็นรอยแผลในวิญญาณ “แต่ก็คุ้มที่จะเดิมพัน พูดไปแล้ว เราก็ไม่ได้สูญเสียอะไรมากเช่นกันเป็นการเดิมพันที่ดีที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น”
“ข้าเข้าใจ” โรแลนด์ ซูพยักหน้าของนาง ไม่แสดงความเห็นว่านางรู้สึกอะไร และเดินออกไป
“แม้ว่าเราไม่สามารถหยุดฉินเจิ้นจากการรับตัวนักโทษไปแต่ข้าจะฉวยโอกาสกระทำบางอย่างและหาเรื่องลำบากให้ฉินเจิ้น”
ซูหยุดอยู่กับที่ “เรื่องยุ่งยาก?”
“โอว,ข้าเพียงแต่บอกนักโทษเหล่านั้นว่าบุรุษหน้ากากผียังมีชีวิต” วิคเตอร์หัวเราะอย่างมีความสุขนัยน์ตาเป็นประกายแวววาว “โอ โอวข้าไปสืบชื่อของบ่าวหนุ่มในบ้านตระกูลเซวียมาแล้ว”
“ข้าได้ยินว่าเขาชื่อถังเทียน”