ตอนที่แล้วตอนที่ 715 อาบเลือดสู้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 717 พี่น้องตระกูลสวี่

ตอนที่ 716 ไฟต้นกำเนิด


เสียงกู่ก้องดังขึ้นไปในท้องฟ้าคลื่นระเบิดที่มองไม่เห็นปะทุออกโดยมีมีถังเทียนเป็นศูนย์กลาง  และดาบสายลมรอบตัวถูกกวาดหายไปทั้งหมด

ทั่วทั้งตัวถังเทียนอาบไปด้วยเลือด  แต่เขาไม่ใส่ใจและรู้สึกถึงความพอใจที่อธิบายไม่ได้จากเสียงคำราม  เหมือนกับว่ามีบางอย่างผุดขึ้นมาจากภายในเกลียวเพลิงสีเทาโปร่งใสทะลักออกมาจากส่วนลึกที่สุดของร่างเขาแผดเผาตามผิวกายของเขา

‘นี่ตือ...เพลิงสุญญตา!’

ถังเทียนยกมือทั้งสองขึ้นและดูเปลวเพลิงสีเทาเลือนรางครอบคลุมร่างของเขา เพลิงสุญญตาในอดีตจะคลุมอยู่แค่ที่แขน ความรู้สึกรู้แจ้งผุดขึ้นในใจของเขา เพลิงสุญญตาถูกสร้างขึ้นโดยการระเบิดพลังของร่างกายหยาบ

‘เป็นไปตามคาดขอเพียงช่วงระหว่างความเป็นความตาย  ข้าสามารถทำลายขีดจำกัดเดิมได้ หือ...”

ถังเทียนพึมพำในใจ และคิดถึงเกี่ยวกับการแปลงพลัง  นั่นคือข้อระบุถึงความเป็นเซียนเงินหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงพิเศษแล้ว พลังงานจะเปลี่ยนเป็นพลังในระดับที่สูงกว่า  เพลิงสุญญตาของเขาเอง ก็เหมือนพลังการแปลงผ่านการเร่งเร้าเผาไหม้ด้วยพลังของร่างกายจึงกลายเป็นพลังระดับสูงกว่า

เพลิงสุญญตาของถังเทียนก่อนนั้นเริ่มจากที่ซึ่งเขาใช้ปรับแต่งฝึกฝนเพลงหมัดของเขาเป็นส่วนใหญ่  แต่ร่างกายมนุษย์มีการผสมผสานเข้าด้วยกัน  และขณะนั้นเพลิงสุญญตายังไม่สามารถปลดปล่อยพลังที่แท้จริงได้ยังปลดปล่อยไม่ได้จนกระทั่งร่างของถังเทียนผ่านการปรับแต่งด้วยกฎจนถึงเกณฑ์ที่เพลิงสุญญตาพร้อมจะปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ และแม้แต่หมัดเทพเจ้าที่เขาปล่อยออกไปก่อนหน้านั้น  ก็ยังกินพลังทั้งหมดในร่างกายเขา บวกกับความเชื่อมั่นว่าจะก้าวหน้าได้ในห้วงเวลาเป็นตาย เหมือนกับโยนประกายไฟเล็กน้อยบนเชื้อเพลิงแห้ง

ด้วยการสูญสิ้นพลังเก่า พลังใหม่จะสามารถก่อกำเนิดได้

ทะเลเพลิงเผาอยู่ในร่างของเขาสายเปลวเพลิงสุญญตาสายแล้วสายเล่าทะลักออกมาจากร่างของเขา

เทียบกับพลังบ้าคลั่งของพลังภายนอก  พลังใหม่นี้อ่อนโยนและกว้างขวาง  เหมือนกับมีทะเลเพลิงอยู่ภายในร่างของถังเทียนบริสุทธิ์และสงบแต่ขยายกว้างไกล เขาสามารถรู้สึกปริมาณของถึงที่สะสมอยู่ในนั้น

‘ความรู้สึกนี้ช่างดีจริงๆ’

เสียงคำรามสะเทือนชั้นฟ้าเหมือนสัตว์ป่าคำรามออกมาจากภายในชั้นหมอก

เมื่อเผชิญหน้ากับเสียงคำราม  ลมที่ส่งเสียงหวีดหวิวพลันอ่อนแรงทันที

เบนสันที่อยู่บนอาคารแสดงอาการตกใจในที่สุด บุรุษหน้ากากผีที่อยู่ในพายุหมุนเหมือนกับสัตว์ร้ายที่คำรามด้วยความโกรธรังสีที่สง่างามแผ่ออกมาจากร่าง แต่เมื่อเขาเห็นเพลิงสีเทาที่ลุกท่วมตัวของบุรุษหน้ากากผีแล้ว  ใจของเขาสั่นสะท้านทันที

ไฟต้นกำเนิด!

‘นี่มันคือไฟต้นกำเนิด!’

‘เป็นแบบนั้นไปได้ยังไง...’

หานปิงหนิงที่กำลังยืนโงนเงนไปมาได้ยินเสียงคำรามนั้นใจนางตื่นตัวทันที และพลังใจของนางเพิ่มขึ้นทันที

‘เขาไม่ยอมท้อถอยจริงๆ!’

นางกำด้ามกระบี่แน่นโดยตัวนางเองไม่รู้ตัว  และแสงรอบตัวนางยิ่งสว่างขึ้น

นางก็ไม่ยอมแพ้

“เอ๊ะ!”  วิคเตอร์ที่ท่าทีเหลือเชื่อทันที

“คุณชาย!  เกิดอะไรขึ้น?”  สาวใช้คนงามถาม

สีหน้าของวิคเตอร์แสดงอาการเหลือเชื่อ  “มีบางคนเปิดใช้ไฟต้นกำเนิด”

“ไฟต้นกำเนิด” สาวใช้ผู้งดงามเริ่มหลั่งเหงื่อ

“ถูกแล้ว ไม่ว่าคนเราจะต้องการขัดเกลาปรับแต่งร่างกายเพียงใดก็มักจะมีขีดคั่นจำกัด การใช้งานกฎธรรมชาติและการใช้พลังกายภายนอก  ส่วนใหญ่ของกฎเหล่านี้จะต้องอาศัยกฎชุดเดียวยิ่งใช้วิชาที่แข็งแกร่ง ก็ต้องการพลังร่างกายที่แข็งแกร่งขึ้น”  วิคเตอร์อธิบาย  “ถ้าวิชาที่ต้องใช้พลังก็จะมีขีดจำกัดในร่างกายมาก แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? บรรพบุรุษของเรานับไม่ถ้วนพยายามศึกษาเรื่องนี้  และพบการแก้ปัญหานั่นคือโดยการจุดไฟต้นกำเนิด”

จากนั้นเขาพูดต่อ“การจุดไฟต้นกำเนิดจะเปลี่ยนพลังในร่างเป็นพลังชนิดใหม่  พลังชนิดนี้จะคล้ายกับพลังภายนอกแขนงหนึ่ง  แต่มีระดับที่สูงส่งกว่าและแข็งแกร่งกว่ามากสามารถใช้กฎได้อย่างง่ายๆ”

“คุณชายท่านจุดไฟต้นกำเนิดได้หรือยัง?” สาวใช้คนงามถามด้วยความสงสัย

วิคเตอร์ฝืนหัวเราะ “ข้ายังทำไม่ได้ ไฟต้นกำเนิดยากจะจุดได้ เงื่อนไขที่จะทำเช่นนั้นได้โหดร้ายรุนแรงสุดขีด  ระดับของอุณหภูมิในร่างกายจะต้องสูงมากร่างข้าเล่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนพูดกัน คนโง่ๆ จะจุดไฟต้นกำเนิดได้คนฉลาดจะรู้แจ้งกฎ คุณชายจากตระกูลของเจ้านับได้ว่าเป็นคนฉลาด ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่านั่นแหละเหตุผล...”

สาวใช้คนงามปิดปากหัวเราะคิกคัก

วิคเตอร์ก็หัวเราะด้วยเช่นกัน  แต่ในดวงตาเขา เขาไม่ได้หัวเราะเลยแม้แต่น้อย

‘ทรงพลัง...’

สวี่อันจงยังคงสังเกตว่าบางคนที่อยู่ภายในพายุหมุนได้จุดเพลิงต้นกำเนิดของเขาด้วย  แต่สายตาของเขาไม่เคยละไปจากหานปิงหนิง

รัศมีรอบตัวหานปิงหนิงค่อยๆ สลัวลงเหมือนกับเทียนในสายลมอาจถูกพัดดับได้ทุกเมื่อ สวี่อันจงฝึกกระบี่ด้วยตนเอง และรู้ว่าความมุ่งมั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด  เมื่อฝึกฝนวิชากระบี่จะต้องมีปณิธานที่กล้าแข็งและจิตใจที่ไม่เครียด ถ้านางไม่ยึดมั่นอยู่ได้ นางคงจะทำร้ายตัวเองบาดเจ็บ  แต่เพราะนางยึดมั่นอยู่ได้ภายใต้พายุที่รุนแรง พลังนางจะถือกำเนิดใหม่แน่นอน

เมื่อสังเกตเห็นรัศมีสีฟ้ารอบตัวหานปิงหนิงสว่างขึ้นทุกที  ความสุขปรากฏในดวงตาของสวี่อันจง

เป็นไปตามคาดแสงสีฟ้าเริ่มมั่นคงยิ่งขึ้นและเริ่มปล่อยรัศมีที่แหลมคมเหมือนตัวอ่อนกระบี่ที่ถูกขัดเกลาครั้งแล้วครั้งเล่าเริ่มเปล่งรัศมีขาวเจิดจ้าดังหิมะ

‘นางกำลังก้าวหน้า’

สวี่อันจงลอบมีความสุขการเห็นมือกระบี่คนหนึ่งมีความก้าวหน้าเหมือนกับเขาเองทำให้เขาชื่นชม สำหรับนักสู้ผู้แข็งแกร่งซึ่งจุดไฟต้นกำเนิดไม่มีทางสำคัญเท่ากับความก้าวหน้าของมือกระบี่

แต่มีเพียงไม่กี่คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุสามารถรู้ชัดว่ากระแสการสู้รบเปลี่ยนไปช้าๆ

ถังเทียนที่มีร่างอาบอยู่ในพลังหนาแน่นและความตั้งใจสู้ทะยานสูงสุดจนยิ่งกว่าอยู่ในสภาวะคลั่ง

เขารั้งหมัดอีกครั้งหนึ่งและพลังใหม่ที่เป็นเหมือนน้ำพุที่ฉีดพุ่งพลังงานทะลัก แรงเหวี่ยงรุนแรงเหมือนสายฟ้า พลังไหลไปที่มือขวาและอยู่ในหมัดของเขา

สภาพใจของถังเทียนสงบจนบอกไม่ถูก ข้อสรุปอย่างที่เขาได้ทำมาก่อนนั้นเริ่มหลากเข้ามาในใจของเขาเหมือนผ่านเริ่มกวาดผ่านเข้ามาในจิตใจเหมือนหมอกถูกปัดเป่าไปอย่างรวดเร็ว  แสงดาวนับไม่ถ้วนที่ดึงไปข้างหน้าเหมือนพลิกหน้าหนังสือสัญลักษณ์ทั้งใหญ่และน้อยปรากฏ ทุกอย่างชัดเจน

เสียงของลมรอบตัวเขาหายไปทันที แสงนับไม่ถ้วนฉายเข้ามาเหมือนกับว่าถูกดูดเข้ามาในหมัดของถังเทียน

เบนสันหรี่ตากลุ่มแสงรุ้งบนหมัดขวาของถังเทียนนูนขึ้นมาสองสามชั้น มีขนาดเท่าตะกร้าหวายปล่อยกลิ่นอายน่ากลัว  แสงสีสว่างแพรวพราวฉายลงบนหน้ากากผีเขียวดำทำให้ดูน่าหวาดผวาอย่างอธิบายไม่ได้

เขาปล่อยหมัดออก!

รังสีหมัดขนาดตะกร้ายิงเข้าไปในพายุทะลุผ่านกำแพงดาบลมอย่างเงียบๆ  กระแสพายุดาบที่กราดเกรี้ยวรุนแรงไม่ส่งผลต่อมันแม้แต่น้อย

ปัง!

ประตูเหล็กดำหนามีรอยร้าวรูปใยแมงมุมคลุมทั่ว

แครก..

เสียงแตกดังออกมาประตูหินเหล็กดำพังทลายเหมือนกับขนมกรุบกรอบ

แก้วใสเหมือนกับตาพายุลอยขึ้นไปในอากาศเงียบๆ

ทันใดนั้นมีร่างหนึ่งปรากฏข้างตานั้นเหมือนกับภูตพรายและปล่อยหมัดใส่มันเพล้งงงง ตาที่เหมือนแก้วนั้นแตกกระจายและหายไป

ปัง ปัง ปัง!

ลำตัวของพายุหมุนยิงขึ้นไปในท้องฟ้าดูเหมือนถูกบางอย่างดึงไว้ทีละก้าว ทีละก้าว ก็พังทลายกลายเป็นหมอก ดูเป็นภาพที่น่าพิศวง  ทั่วทั้งบ้านตระกูลมัวร์ถูกหมอกปกคลุม

สีหน้าของคนที่ชมดูทุกคนเปลี่ยน  พวกเขาขาอ่อน

เมื่อหมอกสลายไป จึงเริ่มเห็นเค้าโครงของบ้านตระกูลมัวร์

เบนสันที่อยู่อาคารชั้นบนเหมือนรูปสลัก  เขายังไม่อาจเชื่อได้ว่าพายุดาบสลาตันของเขาถูกทำลาย

บุรุษหน้ากากผีเลือดท่วมตัวค่อยๆ เดินออกไปจากป้อม  ประตูหินเหล็กดำหนาหายไปแล้ว  และเบนสันมองดูเหมือนคนไร้วิญญาณ

ผู้ชมทุกคนกลั้นหายใจ ถนนตะวันตกทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบ

ใครชนะ?

ไม่มีใครสามารถเห็นการต่อสู้ภายในพายุที่บ้าคลั่ง  และไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในนั้น

บุรุษหน้ากากผีอยู่สภาพน่ากลัว  ตลอดทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด  แต่ก็ยังยืนตรงดุจคันทวน

กึก กึก กึก

ฝีเท้าของเขาดังขึ้นทำลายความเงียบอีกครั้ง  ถังเทียนเดินไปที่ธงหมีโลหิตและดึงออกมา

โดยไม่พูดอะไรสักคำเขาเดินไปที่ข้างตัวหานปิงหนิงประคองนางด้วยไหล่ข้างหนึ่ง แล้วทั้งสองร่างกลายเป็นสภาพเลือนรางและหายไปโดยไม่หันหลังกลับ

เบนสันผู้ยืนอยู่กับที่บนหอรบหันกลับและเดินกลับเข้าไปในป้อม

ใครชนะ ใครแพ้? นั่นกลายเป็นคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจทุกคน

เมื่อทั้งสองคนจากไป ความกดดันที่มองไม่เห็นก็หายไป ทุกคนที่เห็นฉากต่อสู้ตระการตาตื่นเต้นโกลาหลทันทีและเริ่มพูดคุยอย่างเมามัน

ภายในป้อม ดารินเดินเข้ามาหาอย่างเป็นกังวล  “ลุงเบนสัน!”

เบนสันไม่อาจทนได้อีกต่อไป เขานั่งลงบนพื้นหน้าซีดเหมือนกระดาษ ตัวเปียกชุ่มไปทั้งร่าง

ดารินสีหน้าเปลี่ยน นางตกใจ  “ลุงเบนสัน  ลุงบาดเจ็บหรือ?”

เบนสันหอบอยู่ครู่หนึ่ง และพูดขึ้นอย่างยากลำบาก  “ข้าไม่เป็นไร”

เขาได้รับบาดเจ็บ การทำลายตาพายุ ทำให้เขาถูกพลังสะท้อนอย่างรุนแรง  ตอนนี้ที่เขามีเวลาคิดย้อนกลับไป  เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ  จุดไฟต้นกำเนิดในระหว่างการต่อสู้ได้  แม้ว่ายากจะเห็นได้ชัด  แต่ถือว่าเป็นเรื่องปกติ  แต่วิชาหมัดของเขาแปลกประหลาดมาก  เขาไม่เคยเห็นวิชาหมัดอย่างนั้นมาก่อน

แต่สิ่งที่ทำให้เขาสับสนก็คือบุรุษหน้ากากผีสามารถระบุตำแหน่งตาพายุของเขาได้ถูกต้อง!

‘หรือว่าบุรุษหน้ากากผีเคยฝึกดาบพายุสลาตันมาก่อน?’

ข้อสันนิษฐานถูกทิ้งไปอย่างรวดเร็ว  ดาบพายุสลาตันไม่ใช่สิ่งที่ใครๆจะเรียนได้เรียนตามอำเภอใจได้ จำเป็นต้องรู้แจ้งกฎแห่งธาตุลมอย่างลึกซึ้ง  ทุกคนที่เผชิญหน้ากับดาบพายุสลาตันเป็นครั้งแรกจะไม่สามารถระบุจุดอ่อนของดาบพายุได้อย่างแม่นยำไม่ลังเลและค้นหาตำแหน่งตาพายุเจอ

เบนสันคาดว่าอาจารย์ของบุรุษหน้ากากผีอาจจะเชี่ยวชาญในดาบพายุสลาตันก็ได้บุรุษหน้ากากผีจึงคุ้นเคยกับมัน

‘เขาไม่ได้มาจากพื้นฐานที่ธรรมดาแน่นอน!’

และการกระทำของบุรุษหน้ากากผีที่จากไปโดยไม่เหลียวหลังสร้างความประหลาดใจให้กับเบนสันมากกว่า

ก่อนนี้เมื่อบุรุษหน้ากากผีประกาศว่าจะเอาชนะเขาให้ได้  ใจของเบนสันเต็มไปด้วยความสนใจคิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งคงวางแผนไว้ แต่บุรุษหน้ากากผีได้ชัยชนะและจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ  นี่ทำให้เบนสันมั่นใจในเหตุผลของเขา

‘แค่เอาชนะข้าหรือ?’

เบนสันฝืนหัวเราะ

‘เขาไม่ใช่คนธรรมดา  ผู้นำของหน่วยสุญญตา หรือ?’  เมื่อคิดถึงนักโทษของหน่วยสุญญตาแล้วเขายินดีทันที ที่บ้านตระกูลมัวร์มีแค่เพียงหานปิงหนิงคนเดียว  แต่นางถูกชิงไปแล้ว

‘ตอนนี้ตระกูลอื่นคงไม่ง่ายแน่’

‘คนที่ทรงพลังแข็งแกร่งอย่างนั้นเพียงแต่รอโอกาส  ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลยที่ตกเป็นเป้าหมาย’

วิคเตอร์ยืดหลังและหาว เขาพูดด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย “ไปกันเถอะ การแสดงจบแล้ว ได้เวลานอนความจริงเพราะความสับสนวุ่นวายในตอนกลางคืนนี่รบกวนการนอนของข้า  พวกเขาจะตีกันตอนกลางวันไม่ได้หรือไง?”

สาวใช้คนงามทำหน้าเมื่อย “กลับไปนอน!”

สวี่อันจงมีท่าทีครุ่นคิด หลังจากนั้นก็หันกายจากไป

ทันใดนั้น เขาสังเกตเห็นร่างที่คุ้นเคยสองร่างจากหางตา  เป็นเว่ยหานและมู่เจ๋อ

สวี่อันจงหัวเราะเบาๆ เพราะเหตุผลบางอย่างเขาตื่นเต้นกับสิ่งที่จะตามมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด