ตอนที่ 715 เจ้ายังไม่คู่ควร
“บัดซบ! เจ้ามันตัวปลอม! ข้าไม่กลัวเจ้า!” ผางหมันเพิ่มความกล้าขึ้นขณะมองดูพญางูกลืนฟ้าค่อยๆ ละลายและหายไป ไม่ว่าปีศาจเฒ่าเว่ยจะแข็งแกร่งเพียงไหน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่าพญางูกลืนฟ้าได้ในหมัดเดียว นอกจากนี้ต่อให้เขาสามารถฆ่าได้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่มันจะละลายหายไป เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามเป็นภาพลวงตาปลอม อย่างนั้นทำไมเขาจึงจะต้องกลัวด้วย?
“บึ้ม!”
หมัดที่รุนแรงจากมารสัมฤทธิ์ฟ้ากระแทกใส่หน้าผางหมันที่ไม่ได้ตั้งท่าป้องกัน
ผางหมันปลิวเป็นลูกธนูและควงกลางอากาศ 360 องศาไม่สามารถหยุดร่างกายได้ทันที
ในท้องฟ้าเงาร่างหนึ่งตามมาทันเขาอย่างรวดเร็ว และปล่อยหมัดอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขาทำร้ายใบหน้าของผางหมันจนบาดเจ็บอีกครั้ง
เพียงแต่ตอนนี้ที่ผางหมันตระหนักได้ถึงความจริงว่า มารสัมฤทธิ์ฟ้าที่โจมตีใส่เขาอย่างหนักไม่ใช่ตัวปลอมแม้แต่น้อย เขาไม่ใช่ภาพลวงตา เขาเป็นของจริง!
เมื่อผางหมันล้มลงกับพื้น เขาพบว่าเท้าคู่หนึ่งอยู่ข้างหน้าเขา แต่ก่อนที่เขาจะหลบได้ทัน ผางหมันพบว่าเท้าของมารสัมฤทธิ์ฟ้ายันใส่ใบหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหนักของเขา ทำร้ายถึงหัวใจและปอด ผางหมันโกรธและระเบิดพลังทั้งหมดในร่ากายตอบโต้อย่างรุนแรง เขาปล่อยพลังหมัดต่อหน้าศัตรูข้างหน้าเขา
หมัดทะลวงผ่านมารสัมฤทธิ์ฟ้าอย่างง่ายดาย
ไม่มีผลอะไรโดยสิ้นเชิง
ผางหมันสบถในใจ สิ่งที่เขาโจมตีเป็นเพียงภาพลวงตา ร่างจริงของเขาไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน!
ขณะที่เขาเตรียมจะรั้งหมัดกลับ หมัดหนึ่งพร้อมกับพลังโจมตีสายฟ้ากระแทกใส่ด้านหลังตำแหน่งหัวใจของเขา พลังโจมตีหนักหน่วงจนผางหมันหน้ามืดและกระดูกสันหลังของเขาเหมือนกับว่าจะแตก ผางหมันข่มความเจ็บปวดตัดสินใจออกจากสนามพลังของบุรุษหน้ากากด้วยความกลัว ภายในสนามพลังที่ใช้ทรมานที่น่ากลัวนี้ มีภาพลวงตาอยู่นับไม่ถ้วน ถ้าพวกเขาต้องสู้ ก็เท่ากับหาเรื่องเจ็บตัว!
สำหรับไป๋ซ่งผู้ฆ่าภรรยาและลูก โดยไม่ใช่ความยินยอมของร่างที่แท้จริง เขาทรมานหัวใจที่สุด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เขากลัวก็คือมารสัมฤทธิ์ฟ้า ร่างจริงและร่างลวงของเขา เขาเองก็บอกไม่ได้ว่าร่างใดภาพจริง ร่างใดภาพปลอม
ถ้าเขาไม่ออกไปตอนนี้ เขาคงจะตายอยู่ที่นี่
ผางหมันหันดูรอบๆ และเห็นมารสัมฤทธิ์ฟ้าไล่ตามเขาเหมือนกับธนู ร่างของเขามีประกายไฟฟ้าคลุม
ขณะที่เขาเพิ่มความเร็วในการหนี พื้นที่ข้างหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นกำแพงเหล็กขนาดยักษ์ ผางหมันรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนบ้าขณะที่กระแทกใส่ผนังภูเขา
“ของปลอม กำแพงเหล่านี้ของปลอมทั้งนั้น” ผางหมันกัดฟันและวิ่งตรงไปที่ผนังภูเขา แม้ว่าเขาจะเห็นร่างของมารสัมฤทธิ์ฟ้ากระพริบวาบจากภายใน เขาคงไม่ถอย มารสัมฤทธิ์ฟ้าจริงๆ กำลังไล่ตามเขา! นี่คือจวนเจ้าเมืองลมดำอย่างเห็นได้ชัด อย่างนั้นผนังภูเขานี้มาจากไหน? ถ้าเป็นผนังภูเขา แล้วมารสัมฤทธิ์ฟ้าจะออกมาจากในนั้นได้ยังไง?
บึ้ม!
ขณะที่ผางหมันปะทะโดยตรงกับผนังภูเขา เขาหน้ากระแทกกับด้านตรงข้ามที่เขาเชื่อว่าเป็นภาพลวงตา
ฟันหน้าซี่หนึ่งของเขาหักกระเด็น ขณะที่ฟันซี่อื่นหักครึ่ง
“ข้าคือของจริง! เจ้าโง่ เวลาของเจ้ามาถึงแล้ว”
“ข้าจะสู้ตายกับเจ้า” ผางหมันแกล้งตั้งท่าเสี่ยงชีวิต
ขณะที่มารสัมฤทธิ์ฟ้าตั้งท่าป้องกัน เขากระแทกเข้ากับผนังภูเขา แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีภูเขาขวางอยู่หน้าเขา และผางหมันมั่นใจเรื่องนี้ เขามั่นใจพอว่าผนังภูเขานั้นเป็นแค่ภาพลวงตา ในทันใดนั้นเขาผ่านผนังภูเขา แต่ด้านหลังผนังภูเขาเป็นอีกคนผู้หนึ่งที่สวมหน้ากากเจมินี่ ผางหมันไม่มีเวลาถอยแต่ถูกเตะกระเด็นกลับมา
เมื่อเขาร่วงอยู่หน้ามารสัมฤทธิ์ฟ้า เขาพบว่าพื้นที่โดยรอบเขา มีร่างที่สวมหน้ากากเจมินี่อย่างน้อยสิบร่าง
ทุกร่างดูเหมือนจริงทั้งนั้น
เหมือนกับถูกผีหลอก ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าร่างใดจริง
ผางหมันรู้สึกเหมือนเป็นโศกนาฏกรรม ทำไมบุรุษหน้ากากถึงได้ตามเขาโดยไม่มองหาคนอื่นเล่า? ถ้าเป็นสมบัติ ก็ต้องเป็นเจ้าเมืองลมดำที่รวยกว่าเขามากมาย ในแง่สถานะ เจ้าเมืองลมดำก็ทรงอำนาจมากกว่าเขา
ทำไมบุรุษหน้ากากและมารสัมฤทธิ์ฟ้าถึงเลือกลงมือเอากับเขาก่อน?
คนที่อ่อนแอที่สุดไม่น่าจะใช่เขา แต่เป็นขุนพลจินฟง หัวหน้าริวไค และคนอื่นๆ ผางหมันร่ำๆ จะร้องไห้เมื่อคิดเรื่องนี้
เขาไม่รู้ว่า ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว
เจ้าเมืองลมดำ ปีศาจเฒ่าเว่ย ไป๋ซ่ง ฮ็อก ซาวี่ ริวไคและนักสู้ปราณฟ้าอื่นๆ ทุกคนเห็นภาพลวงตาไม่น้อยไปกว่าเขาเลย ชิงซ่งและหวงซ่งแทบจะไม่สามารถต้านพลังลวงตาได้ถูกจักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพเล่นงาน ขณะที่ขุนพลจินฟงถูกเฟยหวงและฮัวปันที่เพิ่งจะหวนกลับมาหลังจากเล่นละครเล่นงานรุกโจมตีอย่างหนัก
เฟยหวงและฮัวปันทั้งสองคนตระหนักว่าพวกเขาไม่ใช่พวกแรกที่ยอมแพ้
ยังมีสามคนที่ไร้ยางอาย แต่พวกเขาทุกคนมีพลังปราณฟ้าระดับสองแต่ก็ยังประจบเจ้าอ้วนไห่ที่มีความแข็งแกร่งพอๆ กับวัวพลังปราณดินระดับสาม พวกเขาเริ่มคิดว่าสหายของพวกเขาเป็นเชลยที่ยอมแพ้
กลุ่มรับใช้ระยะยาวของทั้งสามคนที่ยอมแพ้ไม่รู้วิธีรับแรงกดดันจากทั้งสองที่เพิ่งจะยอมแพ้และแสดงภาพความสำเร็จใดๆได้
ถ้าเขาไม่สร้างแรงสนับสนุน เขาจะไม่มีจุดยืนในอนาคต
จากสิ่งที่จงกวนปล่อยออกมาโดยบังเอิญว่า สหายปราณฟ้าระดับสี่ยอมแพ้ช้าเกินไป การยอมแพ้ยังไม่ได้รับการอนุมัติ เขาถูกขังไว้ในที่แห่งหนึ่งโดดเดี่ยวมาก บางทีตายยังดีกว่าอยู่เสียอีก... เฟยหวงและฮัวปันสาบานว่าจะต้องโค่นจินฟงเพื่อสร้างความดีความชอบให้ได้ ประการแรก จินฟงเป็นเพียงคนเดียวที่พวกเขาสามารถล้มได้ และประการที่สอง ด้วยการสอดประสานกับสนามพลังที่น่าทึ่ง ไม่ใช่เรื่องยากที่จะชนะ ปัญหามีแต่เพียงจะต้องใช้เวลามากเท่าใดกว่าพวกเขาจะโค่นล้มศัตรูได้
“เมี้ยววว!” ฮุยไท่หลางพุ่งออกไปเหมือนลูกธนูจากซ้ายไปขวาทั้งกรงเล็บและหางเคียวปีศาจดำฟันใส่ฮ็อคจนไม่สามารถสู้ต่อได้อีก
“โฮกกก!” ราชสีห์ทองเพลิง สมาชิกใหม่ล่าสุดที่กระตือรือร้นสร้างผลงานให้เจ้านายใหญ่เริ่มสู้กับซาวี่ก่อนหนูน้อยแพนด้า มันต้องการพิสูจน์ว่ามันเป็นอสูรตัวที่สองที่มีประโยชน์ที่สุด แต่แน่นอนมันไม่กล้าเทียบกับอสูรในตำนานที่มีคัมภีร์อัญเชิญอย่างฮุยไท่หลาง
เจ้านั่นไม่ใช่หมาป่าแม้แต่น้อย เขาแค่เป็นตัวประหลาดที่มีลักษณะเหมือนหมาป่า!
ริวไคกลัวแทบตาย
เขาเกือบจะถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้ดาบยักษ์ฆ่า โชคดีที่ในขณะวิกฤติ เขาตะโกนลั่น “ข้าเป็นคนของเจ้าแคว้นมรกต ข้าเคยเปิดประตูคุกให้พวกท่านและหัวหน้าลี่เยี่ยน เรื่องนี้หัวหน้าท่านรู้...”
ดาบเทพจักรพรรดิอวี้จ่อชะงักอยู่ที่คอของเขาเป็นรอยสีแดง
ถ้าเขาช้าไปเสี้ยววินาที
เขาจะตาย!
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่กับที่ในวันที่คุกใต้ดินถูกบุกเพื่อช่วยลี่เยี่ยน แต่นางไม่เห็นริวไค นี่เป็นเพราะริวไคดูแลกิจการภายในกำลังกลับไปเมืองลมดำ เมื่อสังเกตว่าคุกถูกยึด และลี่เยี่ยนได้รับการช่วยเหลือ นี่เป็นเรื่องสร้างความตะลึงให้เจ้าเมืองลมดำและคนอื่น ทำให้เป็นเรื่องง่ายที่พวกเขาจะซ่อนอยู่ข้างเจ้าเมืองลมดำเพื่อแจ้งข้อมูล
“ข้าอยู่ข้างท่าน!” ริวไคตระหนักว่าเขาเปิดเผยสถานะตัวเอง และมีคนอ้วนคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าเขาและทุบตีเขาอย่างหนัก เขาอดรู้สึกกังวลไม่ได้
“เออ..รับบัตรประจำตัว” เจ้าอ้วนไห่และพวกวิ่งเข้ามาหาและรุมล้อมทุบตีริวไคจนหัวหูบวมปูดเป็นหัวหมูก่อนที่พวกเขาจะหยุด จากนั้นนำริวไคซึ่งไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ไปที่จวนเจ้าเมือง ริวไคก้าวออกจากพื้นว่างและพบว่าเขาไม่สามารถเห็นอะไรในระยะร้อยเมตรอีกต่อไป สำหรับเจ้าเมืองและองครักษ์ส่วนตัวของเขา พวกเขาต่างพ่ายแพ้กันหมด ขณะที่พวกเขามองดูสนามพลังแปลกๆ ที่กลืนกินนักสู้ปราณฟ้าทั้งหมด ริวไคระบายความโกรธจากที่ถูกเจ้าอ้วนไห่และพวกซ้อมไล่ฆ่าฟันพวกเขา
“วายุ!” เสวี่ยทันหลางปล่อยพายุหมุนที่น่ากลัวใส่จวนเจ้าเมือง
“ฝนดาวตก...” องค์ชายเทียนหลัวยังคงเรียกดาวตกเพลิงจากท้องฟ้า กระแทกใส่ทหารที่เตรียมยิงธนู
แม้แต่พวกที่ทรงพลังมากกว่าพวกเขาก็คือสมาชิกวังมาร แต่มารฟ้าวิบัติ มารเคราะห์ฟ้า มารฟ้าสังหาร มารฟ้าพิโรธ มารกระบี่ฟ้าและมารฟ้าอื่นๆ ไม่ได้ร่วมในการเข่นฆ่านักสู้ปราณฟ้า เพราะภารกิจหลักของพวกเขาคือใช้ความเร็วที่สุดทำลายจวนเจ้าเมืองและความสามารถในการป้องกันทั้งหมด
นอกจากนี้เย่ว์ปิง อี้หนานและเจ้าเมืองโล่วฮัวก็ยังเข้าร่วมสู้
โดยเฉพาะเจ้าเมืองโล่วฮัว แม้ว่านางจะมีทานตะวันอมฤตอสูรปราณฟ้าระดับห้า แต่นางแค่อาศัยความเร็วของแสงอุษาและภูตจิ้งจอกสาวในการต่อสู้ นางก็สามารถถล่มแนวป้องกันจวนเจ้าเมืองลมดำได้ สาวขี้เมาพาแพนด้าน้อยหนิวหนิวออกจากสนามพลังเข้าร่วมศึกด้วย เพราะนางพบว่าการโจมตีในสนามพลังนั้นง่ายเกินไป เพราะศัตรูไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรจริงอะไรลวง ในสนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางแม้ไม่ต้องมีคนจริงๆ คอยช่วยเหลือ พวกเขาไม่สามารถหลบหนีจากการควบคุมใจได้ซึ่งก็เหมือนกับความจริงที่เป็นเท็จของประตูเป็นตาย
ตง ตง ตง!
กลองสะท้านฟ้าของมารฟ้าพิโรธดังขึ้นสั่นสะท้านทั้งฟ้าและดิน
อย่างไรก็ตามเสียงไพเราะของพิณได้กลบเสียงสั่นสะท้านวิญญาณของกลองสะท้านฟ้าได้
เหมือนดนตรีประสานเสียงล่องลอยราวกับไข่มุกร่วงลงจากฟ้าเสียงดังติงติง ทหารประจำเมืองและทหารส่วนตัวผู้ภักดีของเจ้าเมืองลมดำวิญญาณถูกทำลายและตายโดยไม่รู้ตัวท่ามกลางบรรยากาศที่ประหลาดนี้
พวกพ่อค้าไม่กังวลเรื่องจวนเจ้าเมืองถูกโจมตี
ตรงกันข้ามกลับมีร่องรอยมีความสุขเลือนรางปรากฏระหว่างคิ้วพวกเขา
สงครามหมายถึงอะไร?
ความมั่งคั่ง!
ไม่สำคัญว่าใครเป็นผู้ปกครองยึดเมืองลมดำ การสร้างและซ่อมแซมเป็นเรื่องจำเป็น ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงิน! การตั้งถิ่นฐานและดึงดูดการลงทุนของนักธุรกิจ มาตรการลดหย่อนภาษี นี่เป็นเงินทั้งนั้น! การชดเชยเงินกู้ การแลกเปลี่ยนสินค้าล้วนเป็นธุรกิจใหญ่ทั้งนั้น! ยังมีอีกมากมาย ตราบใดที่มีการต่อสู้นับสิบครั้ง พวกพ่อค้าจะได้รับผลประโยชน์มาก นี่เป็นความจริงที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล
แน่นอนว่าความมั่งคั่งที่เกิดจากสงครามแบบนี้ต้องอาศัยความกล้าและโชคเพื่อรับเอาไว้
ไม่มีความกล้า ไม่มีโชค เขาไม่เพียงแต่จะล้มละลายเท่านั้น อาจถึงขั้นสูญเสียชีวิตได้
เมื่อพ่อค้าเห็นว่าการสู้รบเกิดขึ้นที่จวนเจ้าเมือง พวกเขาปลอดภัยกันทุกคน พวกเขาไม่จำเป็นต้องซ่อน และได้แต่มองอยู่ห่างไกลและกระซิบหารือกัน
“อ๊าาาาค!”
มีร่างหนึ่งเต็มไปด้วยเลือดพุ่งออกมาจากสนามพลังที่ไม่รู้จัก หมาป่ายักษ์ประหลาดตัวหนึ่งไล่ตามออกมากระชั้นชิด ขณะที่กรงเล็บที่แหลมคมของมันแทบจะฉีกร่างโชคเลือดของผู้นั้นลึกถึงครึ่งเอว อย่างไรก็ตามบุรุษร่างโชคเลือดนั้นยังทนเจ็บได้ เขาทุบแก้วผลึกและใช้โล่ระดับศักดิ์สิทธิ์ป้องกันพลังโจมตีของหมาป่าไว้ เขาเทเลพอร์ตหนีไปทันที ไม่สนใจว่าโล่ระดับศักดิ์สิทธิ์จะเป็นยังไง
บรรดาพ่อค้าเหล่านั้น คนที่ตาดีสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าบุรุษร่างโชกเลือดนั้นก็คือเจ้าเมืองลมดำ
เจ้าเมืองลมดำเป็นเพียงนักสู้ปราณฟ้าคนเดียวที่หนีไปได้
ขณะที่คนอื่น ปีศาจเฒ่าเว่ย ไป๋ซ่ง ผางหมันและนักสู้ปราณฟ้าที่เหลือ ยังติดอยู่ภายใน ไม่สามารถหลบหนีได้
“เจ้าเมืองลมดำหนีไปแล้ว เราไม่อาจจบการต่อสู้นี้ในระยะเวลาสั้นๆ หึหึ หลายอย่างชักจะน่าสนใจมากขึ้น” พ่อค้ามีความสุขมาก หลังจากสงครามมันไม่มีสิ่งดีสำหรับพวกเขา ดีที่สุดถ้าพวกเขาสู้กันทุกคน ตอนนั้นแค่เศษของสินค้าในมือของพวกเขาจะเพิ่มราคาขึ้น และจากนั้นพวกเขาก็สามารถรักษายอดขายได้
“ลี่เยี่ยน! เป็นเจ้าจริงๆ!” ปีศาจเฒ่าเว่ยต้องการจะหลบหนี แต่ศัตรูของเขากลับเป็นลี่เยี่ยน เขาสิ้นหวังทันที “เจ้าเมืองลมดำจะล้างแค้นให้ข้า!”
“เขาเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่ข้าปล่อยไป เป็นแค่เหยื่อที่ข้าใช้ตกปลาตัวใหญ่ในอนาคต” ลี่เยี่ยนหัวเราะและชี้ปีศาจเฒ่าเว่ย “มาเลย ข้าจะให้โอกาสเจ้าสู้กับข้าตัวต่อตัว เจ้าจะได้ไม่ต้องพูดว่าข้าร่วมมือกับเจ้าเด็กนั่นรังแกเจ้า! ปีศาจเฒ่าเว่ย บอกตามตรง เจ้าไม่คู่ควรเรียกว่านักสู้ปราณฟ้าระดับห้าเท่าเทียมกับข้าเลยด้วยซ้ำ!”