ตอนที่แล้วตอนที่ 714 พายุดาบสลาตัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 716 ไฟต้นกำเนิด

ตอนที่ 715 อาบเลือดสู้


การฝึกฝนไม่เคยเป็นเรื่องง่าย  ทุกๆ ย่างก้าวของกระบวนการฝึกเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อต้องทนเจ็บปวด  ทั้งหมดนี้ฝังแน่นมากับการเติบโตก้าวหน้าของถังเทียน  และถ้าให้เขาเลือกวิธีฝึกการฝึกฝนที่เจ็บปวดที่สุดนั่นก็คือวังวนพายุกระบี่แน่นอน

นอกจากอดทนขะมักเขม้นแล้วเขาไม่สามารถทำอะไรอื่นได้ในช่วงที่เจ็บปวดสุดจิตสุดใจนี้

กระบวนการทั้งหมดยาวนานจนทำให้ผู้คนขนลุก

แม้แต่ถังเทียนผู้อดทนก็ยังไม่ยอมกลับไปทำเช่นนั้นอีกแน่

กลุ่มดาวหมีใหญ่ค้นคว้าวังวนพายุกระบี่มาเป็นเวลานานแล้ว นอกจากเป็นเพียงวิธีที่ให้ตระหนักถึงร่างพลังกายเป็นศูนย์แล้ว  ถังเทียนยังใช้วังวนพายุกระบี่ทำลายกองทัพได้  แม้แต่เซียนยังไม่สามารถหลบหนีพ้นและแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพต่อสู้ที่ทรงพลัง

แผนการพญาหมีมีอิทธิพลอย่างมากต่อกลุ่มดาวหมีใหญ่และหัวข้อการค้นคว้าวิจัยที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องวังวนพายุกระบี่การก่อตัวของมัน จุดแข็งและจุดอ่อนของมัน ประสิทธิภาพและผลกระทบ ฯลฯ หน่วยสุญญตาปัจจุบันสามารถเกิดขึ้นได้  เพราะแผนพญาหมี

แต่สิ่งที่พวกเขาใช้นั้นคือวังวนพายุกระบี่ที่มีขนาดเล็กกว่าซึ่งมีผลยังไม่เท่ากับที่ถังเทียนพบเจอ  แต่ขณะเดียวกัน  ความเจ็บปวดของมันยังน้อยกว่าที่ถังเทียนประสบพบเจอยิ่งนัก

นั่นยังคงพิสูจน์ถึงความเข้าใจวังวนพายุกระบี่ที่กลุ่มดาวหมีใหญ่เข้าถึง

ถังเทียนเองก็สนใจในวังวนพายุกระบี่ซึ่งสามารถทำลายกองทัพศัตรูทั้งหมดด้วยพลังทำลายล้างของมัน  ต่างจากเซียนที่ไม่กล้าตอบโต้ต่อสู้กับกองทัพโดยลำพังมันคุ้มค่าที่จะตรวจสอบดู

แต่การค้นคว้าในแผนการพญาหมีต่อมาพิสูจน์ได้ว่าหากจำเป็นต้องผลิตวังวนพายุกระบี่ให้ใหญ่ได้ขนาดนั้นจะเป็นเรื่องอันตรายมากและความเครียดในการควบคุมนั้นมากขึ้น  ต่อให้เป็นถังเทียนเองก็ตามถ้าไม่ใช่เพราะเขาเคยอยู่ในสภาวะที่อันตรายรุนแรงขนาดนั้นมาก่อน  และเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถทนได้ด้วย

เมื่อถังเทียนเห็นวิชาสังหารที่เบนสันใช้มีความรุนแรงคล้ายกับวังวนพายุกระบี่  เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกชื่นชม

แดนบาปเป็นที่ไม่มีพลังงานและเนื่องจากสิ่งอย่างนั้นเกี่ยวข้องกับการใช้กฎ จำเป็นต้องมีพลังทางกายด้วย

แม้แต่ถังเทียนก็ยังยอมรับว่าเขาไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้

แต่ถังเทียนยังเห็นโอกาสของชัยชนะ

ไม่มีใครคุ้นเคยกับวังวนพายุกระบี่เท่ากับเขาแล้วไม่เพียงแต่เพราะเขาอยู่ในนั้นมาสองสามเดือน แต่ยังเป็นเพราะข่าวกรองและข้อมูลที่ทุกคนรวบรวม  แก่นกลางของมัน ข้อมูลของมัน วิธีทำลาย ทุกอย่างถังเทียนรู้ราวกับลายเส้นบนมือ

ต้องการทำลายพายุหมุนเขาต้องทำลายตาพายุ

บางทีคนธรรมดาคงจะคิดว่าตาพายุหมุนก็คือจุดดำในมือของเบนสัน  แต่ถังเทียนรู้ว่าไม่ใช่  จุดดำเป็นต้นกำเนิด  แต่ตาพายุอยู่ใต้เบนสันและเป็นไปตามตำแหน่งก็ควรจะเป็นพื้นราบว่างเปล่าด้านหลังประตูป้อม

ตราบใดที่เขาโจมตีใส่ตาพายุ พายุหมุนที่ยื่นขยายขึ้นไปในท้องฟ้าก็จะถูกทำลาย

แต่แม้ว่าจะรู้ตำแหน่งของตาพายุก็ตามคิดจะทำลายให้ได้เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า

ยิ่งเข้าใกล้ตาพายุความเร็วของลม พลังของดาบลมยิ่งมากขึ้นและดาบลมเหล่านั้นพรางอยู่ในจุดที่จะกลายเป็นผนังดาบซึ่งแข็งยิ่งกว่าเหล็ก ประตูบานใหญ่ของป้อมได้รับการติดตั้งใหม่และเห็นได้ชัดว่าแข็งกว่าและหนากว่าของเดิมและสีของประตูดูแตกต่าง

ถังเทียนคาดการณ์ถูกหลังจากครั้งสุดท้าย ประตูถูกเปลี่ยนเป็นประตูที่ทำด้วยหินเหล็กดำหนาเกินกว่าหนึ่งเมตร ทุกครั้งที่เปิดหรือปิดประตู จำเป็นต้องใช้ยามที่เป็นยอดฝีมือเกินกว่าสิบทุ่มกำลังจึงจะสามารถเคลื่อนประตูได้

ประตูเหล็กดำที่หนาเมตรกว่ายาวถึง220 เมตร

แรงกดดันสายลมแข็งแกร่งมากทำให้พื้นที่โดยรอบปั่นป่วน และถ้าวิชาพรางของตระกูลผิงถูกใช้จะเกิดปัญหาได้ง่ายๆ  ‘ยาวถึง 220 เมตร พอๆ กับคูเมือง

‘แต่ ข้าไม่มีทางเลือก’

ถังเทียนยังคงไม่มีเวลาคิดถึงความเป็นไปได้อย่างอื่น

เขาสูดหายใจลึกและย่อเอวตั้งท่านั่งม้ารั้งหมัดกลับมา

รัศมีแสงนับไม่ถ้วนเริ่มขดรวมกันอยู่ที่หมัดขวาของเขาเหมือนสายฟ้าสีรุ้ง อากาศรอบตัวเขานิ่งทันทีราวกับว่าถูกตรึงเอาไว้

เบนสันผู้อยู่บนอาคารรู้สึกได้ถึงบางอย่างและมองลงมาด้วยแววตาเหลือเชื่อ เขาสามารถรู้สึกได้ชัดเจนถึงดาบพายุที่บินเข้าหาบุรุษหน้ากากผี

‘เป็นไปไม่ได้...’

เบนสันตกใจอยู่ครู่หนึ่งเขาไม่อยากจะเชื่อ สถานการณ์แบบนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อพายุหมุนรู้สึกถึงบางอย่างที่สามารถคุกคามมันได้  พายุหมุนสร้างขึ้นมาจากกฎธรรมชาติ และตระหนักได้ถึงการใช้ความได้เปรียบและหลีกเลี่ยงอันตาย

วิ้ว.. วิ้ว  วิ้ว!

พื้นที่รอบตัวถังเทียนมืดมิดดาบพายุนับไม่ถ้วนคลุมเต็มท้องฟ้าและทะลักเข้าหาเขา  ดาบพายุทั้งหมดก่อตัวเป็นมวลมากมายหนาแน่น  เหมือนกับพยายามจะแยกสายใยแสง

แรงกดดันถังเทียนเพิ่มขึ้นทันที  แต่เขาไม่ตื่นเต้นขณะที่พายุหมุนรู้สึกได้ถึงอันตรายที่มาจากเขา ในการค้นคว้าวิจัยของโครงการพญาหมี พายุหมุนขนาดใหญ่จะมีความสามารถปรับตัวที่แข็งแกร่งและจะตระหนักได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่คุกคามมันได้

พวกเขายังคิดกันว่าเป็นเพราะพลังงานหนาแน่นที่เกี่ยวข้องอยู่ในวังวนพายุกระบี่และเป็นเพราะการรวบรวมเศษพลังวิญญาณ แต่ใครจะรู้กันว่าพายุหมุนของเบนสันในแดนบาปจะมีลักษณะที่แปลกประหลาดเช่นนั้น

ติง ติง ติงประกายไฟแล่บแปลบปลาบ

อากาศที่ควบแน่นและนิ่งดูเหมือนกระจกโปร่งใส  แตกสลายด้วยความเร็วเหลือเชื่อ  ดาบสายลมทั้งหมดมีพลังเต็มเปี่ยม  และมีคุณภาพมากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ พื้นที่รอบตัวถังเทียนดูเหมือนจะแตกก่อนหน้าดาบสายลม

ร่างของถังเทียนสั่นโดยไม่ตั้งใจ

หมัดเทพเจ้ามีความสามารถในการแช่แข็งมิตินี่คือการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เพราะหมัดเทพเจ้าจะดึงดูดสายกฎธรรมชาติในพื้นที่แต่การแช่แข็งพื้นที่ใจปัจจุบันกลับสลายไปอย่างรวดเร็ว

สิ่งมีชีวิตทุกอย่างจะอยู่ในสมดุลอย่างน่าอัศจรรย์ หมัดเทพเจ้าสามารถดึงเอาสายใยกฎธรรมชาติมาได้และทำให้พื้นที่ถูกแช่แข็ง แต่ตอนนี้พื้นที่หนืดข้นกลับถูกทำลายและพลังหมัดของถังเทียนอ่อนกำลังลงไปมาก

นับเป็นครั้งแรกที่เห็นเหตุการณ์เช่นนี้กับตาตั้งแต่เขารู้แจ้งหมัดเทพเจ้า

แต่ก่อนทุกครั้งที่เขาต่อยหมัดออกไปครึ่งทาง เขาจะหมดสติ แต่ทุกครั้งรังสีหมัดของเขาจะไหลลื่นมาก เพราะการฝึกของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าและวิชาหมัดพื้นฐานของเขาได้กลายเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว  พรสวรรค์ของเขาในการสร้างเครื่องหมายต่างๆอาจจะน้อยลง แต่พลังของหมัดของเขามักจะมีคุณภาพสูงสุดเสมอ

นี่คือจุดแข็งแกร่งที่แท้จริงของหมัดเทพเจ้าของเขา

แต่ขณะนั้นเองเขารู้สึกได้จริงว่าไม่สามารถควบคุมหมัดของเขาได้ สายใยกฎที่คลุมหมัดขวาของเขากลับกระสับกระส่ายและดิ้นรนให้เป็นอิสระจากแรงเหวี่ยงของหมัด

ความสนใจของถังเทียนมีอยู่เฉพาะหน้า สายตาของเขาจับนิ่งอยู่ที่หมัดซึ่งเขากำลังรั้งกลับ  รูปแบบนับไม่ถ้วนซึมกลับเข้าไปในร่างของเขาทำให้เขาสั่นมากขึ้น แต่หมัดของเขายังคงมั่นคง

ดาบสายลมใกล้เข้ามาหาเขาทุกทีและรายล้อมอากาศที่ถูกแช่แข็งรอบตัวซึ่งกำลังละลายหายไปเหมือนกับน้ำแข็งที่พบเจออากาศร้อน

จู่ๆร่างของถังเทียนสั่นทันที ดวงตาของหน้ากากผีสีเขียวและดำพลันสว่างเจิดจ้า

ดาบสายลมเข้ามาใกล้ทุกทีเหมือนกับคมเคียวเกี่ยวชีวิตของมัจจุราชแทบจะสัมผัสปลายจมูกของถังเทียน แต่ถังเทียนยังคงลืมเลือนไปทั้งหมด เพ่งสมาธิทั้งหมดอยู่กับหมัดของเขา

พลังในหมัดของเขาค่อยถูกรั้งกลับมาจนเต็ม

รังสีสว่างบนหมัดขวาแพราวพราวหลากหลายสีสัน

ฉัวะ..รังสีดาบสายหนึ่งฟันใส่ไหล่ของถังเทียน เลือดพุ่งในอากาศและกลายเป็นละอองโลหิต

ตาของหน้ากากผีสีเขียวและดำสีเขียวดำปล่อยแสงสว่างเจิดจ้าเหมือนจะทะลุผ่านม่านพลังสายลม  บุรุษหนุ่มหลังหน้ากากยิ้ม

‘หมัดนี้ดึงกลับมายากมาก แต่ต้องทุ่มเทสมาธิมากเป็นประวัติการณ์จึงทำให้ก้าวหน้าได้อีกครั้งหนึ่ง

พลังของหมัดที่สะสมพลังไว้เต็มเปี่ยมพร้อมจะปล่อยออกไป

ดาบสายลมในพื้นที่พลันอ่อนกำลังหมัดหลากหลายสีเข้าไปในพายุ

ดาบสายลมที่สามารถตัดกระบี่ได้ได้แต่ปะทะกับหมัดอย่างอย่างไม่ได้ สายใยกฎธรรมชาติปะทะกันเองและก่อให้เกิดผลกระทบที่อันตราย

มันเหมือนกระสุนที่ไฟเผาถูกยิงใส่หิมะ

ที่ใดก็ตามที่รังสีหมัดกวาดผ่านจะทิ้งรอยทางขนาดใหญ่ไว้

ทั่วทั้งตัวของถังเทียนเจ็บปวดอย่างหนักเพราะไม่ต้องการให้รังสีหมัดได้รับผลกระทบ เขาใช้ร่างกายทั้งหมดอดทนต่อพลังโจมตีจากดาบสายลมที่ผ่านมิติแช่แข็งออกมา  แต่ขณะนั้นเขาไม่กล้าพัก เพราะเขารู้ว่าโอกาสจะหายวับไปได้

เส้นทางว่างเปล่าที่หมัดสร้างขึ้นจะคงอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ

ฉวยโอกาสที่พื้นที่มั่นคงถังเทียนรีบเคลื่อนไหวและปรากฏในระยะห่าง60 เมตร ทางที่สร้างไว้พังทลายต่อเนื่อง ดาบสายลมนับไม่ถ้วนบินและกวาดเข้ามารอบทิศ

ความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงครอบคลุมตัวถังเทียน  แต่ถังเทียนไม่ตื่นเต้นเขาตวาดทันทีและปล่อยหมัดอีกครั้งหนึ่ง

ปัง!

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาบสายลมถูกแบ่งอย่างรุนแรงและแช่แข็งได้อย่างสมบูรณ์

ร่างของถังเทียนสั่น  แต่ครั้งนั้นเขาเตรียมตัวไว้แล้วไม่ยอมให้หมัดของเขาได้รับผลกระทบ

อีกหมัดหนึ่ง!

รังสีหมัดที่สร้างขึ้นมาเหมือนกับปืนใหญ่ที่ยิงใส่พายุทิ้งเป็นทางเดินวงกลมไว้ด้านหลัง

ถังเทียนใช้ทางนั้นพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง

54 เมตร

ถังเทียนเงื้อหมัดและต่อยออกไปอีกครั้ง

45 เมตร

ถังเทียนปล่อยหมัดออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อรอยแผลถูกกรีดปรากฏบนตัวเขานับไม่ถ้วน  ทำให้เลือดเขาพุ่งออก  หมัดเทพเจ้าลดพลังความแข็งแกร่งไปมาก  นอกจากนั้นเขาต้องอดทนต่อพลังโจมตีรุนแรง  ความแข็งแรงทางกายของถังเทียนใกล้จะหมดลง  ร่างของเขาจะไม่สามารถฝืนปล่อยหมัดออกไป  และเขาจะบาดเจ็บสาหัส

เบนสันที่กำลังตกใจหนักก็ถอนหายใจโล่งอกได้ในที่สุด  แววเหลือเชื่อปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา  ‘วิชาหมัดอย่างนั้นมีอยู่ในโลกได้ยังไง?  นั่นคือหมัดแบบไหนกัน  ถึงได้ดึงสายใยกฎในพื้นที่เข้ามาอยู่รอบมันได้อย่างนั้น?’

ต่อหน้ารังสีหมัดที่แปลกและแพรวพราว  พายุดาบสลาตันของเขาอ่อนแอลงเหมือนกระดาษทำให้เบนสันแทบไม่เชื่อสายตาของเขา

จนกระทั่งเห็นถังเทียนหลั่งเลือดทั่วตัวจึงทำให้เขาถอนหายใจโล่งอก  ‘วิชาหมัดน่ากลัวขนาดนั้นยังมีการจัดเรียงที่บกพร่อง ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมเขาจึงใช้มันเป็นครั้งสุดท้ายเล่า?’

‘เป็นไปตามคาด ความอ่อนล้านั้นต้องไม่ธรรมดา’

‘เมื่อสูญเสียพลังตรงนี้ เขาไม่มีโอกาสชนะแล้ว’

แต่เพราะเหตุผลบางอย่าง  เบนสันไม่รู้สึกยินดีในชัยชนะ  สีหน้าเขาแข็งกระด้างฝ่ามือซ้ายเต็มไปด้วยเหงื่อ

หยดเลือดกระเซ็นผ่านหน้ากากผีเขียวดำ  ขณะที่เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งรอบตัวถังเทียนหยุดนิ่งและเขาอยู่ในอาการงงงวย

‘จะจบอย่างนี้...’

แต่ในช่วงเวลาต่อมา  ดวงตาภายใต้หน้ากากผีพลันมีแสงลุกโชน กล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกายของเขาเริ่มขยับตึง  เขาตะโกนลั่นและก้าวเดินอีกครั้งละอองเลือดในอากาศพุ่งเข้าหาเขาทันที

‘ไม่!”

‘จะจบลงแบบนี้ได้ยังไง?’

‘ถังเทียน เจ้าขี้ขลาดหรือ? มากลัวเอาเดี๋ยวนี้หรือ? เจ้าคิดจะถอยหรือ?’

หัวใจของเขากู่ร้องกึกก้อง  เขาเป็นเหมือนราชสีห์พิโรธถามตนเองอย่างต่อเนื่อง  ตาของเขาเป็นประกายแดง  เส้นเลือดปูดโปน

‘เจ้าบอกไว้ก่อนแล้ว ต่อให้เจ้าตาย เจ้าจะช่วยทุกคนให้ได้ก่อน!’

‘ถ้าเจ้าไม่กลัวแม้แต่ความตาย ทำไมเจ้าถึงมากลัวตอนนี้เล่า?’

เขาเงยหน้าขึ้นตาของเขาเต็มไปด้วยเปลวเพลิง หน้าหลังหน้ากากของเขาดูน่ากลัวมาก  เขาเงื้อหมัดอีกครั้งทันทีหยดเลือดนับไม่ถ้วนกระเซ็นผ่านหน้าเขาไป  เลือดอุ่นๆ ไหลย้อยไปตามแก้มเข้ามุมปากเขา  เขารู้สึกถึงความกระตือรือร้นไม่สิ้นสุด  และทั่วทั้งร่างของเขาเหมือนตกอยู่ในเพลิง  เขารู้สึกว่าเขาต้องการฉีกพายุหมุนให้ขาด

‘อย่างนี้แหละ!’

‘ใช่แล้ว ต้องอย่างนี้!’

เขาเงยหน้าแล้วตะโกน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด