ตอนที่ 714 สร้างภาพลวงตาทรมานภายใน
เมืองลมดำ
ในช่วงสองสามวันมานี้เมืองลมดำสงบมากขึ้น มีนักธุรกิจมากขึ้นที่แอบเปิดประตูร้านทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนของหายากทุกอย่าง
ผลประโยชน์สามารถเปลี่ยนให้คนขลาดกลายเป็นนักรบได้! นอกจากการสูญเสียที่ไม่อาจวัดได้ สงครามยังนำโอกาสทางธุรกิจมาได้ไม่สิ้นสุด เมื่อธุรกิจนี้มีโอกาสทำได้ พ่อค้านับไม่ถ้วนจะพากันวิ่งมายังเมืองลมดำอย่างคึกคักและทำรายได้มหาศาลจากสงคราม ภายในเมืองลมดำมีแต่เพียงผู้อยู่อาศัยและทหารรับจ้างไม่กี่คนเนื่องจากหลายคนหนีไปด้วยความกลัว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพ่อค้าเข้ามามากขึ้น สถานที่นี้จึงคึกคักมากกว่าแต่ก่อน
สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือตลาดมืดไม่สามารถเปิดได้อย่างเป็นทางการชั่วเวลาระยะหนึ่ง พ่อค้าไม่อาจทำกำไรได้สูงสุด
“ท่านเจ้าเมือง! เหยี่ยหนิวอยู่ที่นี่ เขาอยู่ข้างนอก” เจ้าเมืองลมดำที่อยู่ในระหว่างหารือเรื่องการสู้รบกับปีศาจเฒ่าเว่ย, ไป๋ซ่งและผางหมันได้รับรายงานจากขุนพลจินฟง
ไม่น่าแปลกที่หัวหน้าเหยี่ยหนิวมาเข้าร่วมในสงครามข้ามพรมแดน
เจ้าเมืองลมดำได้ทำข้อตกลงลับกับกลุ่มโจรควายป่าให้โจมตีกลุ่มยอดฝีมือจากแดนสวรรค์ตะวันตกในฐานะฝ่ายที่สาม
อย่างไรก็ตามเหยี่ยหนิว หัวหน้าโจรผู้ปกปิดตนเองอย่างลับกลับขอพบอย่างเปิดเผยอยู่ที่นอกจวนเจ้าเมือง นี่มันเรื่องอะไรกัน? หรือว่าเขากลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าเขาอยู่ในเมืองลมดำและว่าเขาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกัน? ถ้าเขาต้องการจะดื่มเหล้าด้วยกัน เขาก็ควรจะแอบย่องมาอย่างลับๆ ทำไมต้องประกาศอยู่ด้านนอกประตูอย่างเปิดเผย
ความคิดแรกของเจ้าเมืองลมดำก็คือเหยี่ยหนิวต้องการใช้สงครามข้ามดินแดนรีดไถเขา
เขาต้องจ่ายราคาไปสูง หรือว่าสหายผู้นี้จะขว้างหินใส่เขาจากก้นบ่อ
“มันก็แค่เหยี่ยหนิว ข้าจะออกไปดูว่าเขาเหมือนตัวอะไร!” ปีศาจเฒ่าเว่ยปล่อยให้เย่ว์หยางเอาชนะเขาได้ในความยุ่งเหยิงและเขาต้องรีบกู้หน้าคืนจากสงครามข้ามดินแดน เขาจะไม่ยอมให้เหยี่ยหนิวผู้มีความคิดแปลกประหลาดสร้างความยุ่งยากใดๆ แน่นอน ปีศาจเฒ่าเว่ยรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหยี่ยหนิวก็คือเจ้าแคว้นมรกต แต่ตอนนี้เจ้าเมืองลมดำได้เอาสมบัติของเขาออกมาถึงสี่หรือห้าส่วนแบ่งปันกับทุกคน ใครก็ตามที่สามารถดูดเลือดจากเจ้าเมืองลมดำได้ ล้วนแต่เรียกความสนใจจากทุกคนได้
“ได้โปรด ผู้อาวุโสเว่ย ช่วยรับสถานการณ์ให้ที” เจ้าเมืองลมดำรีบขอบคุณเขา
“เราออกไปดูกันเถอะ” เจ้าสำนักไป๋ซ่งไม่ได้ทรงพลังเท่ากับปีศาจเฒ่าเว่ย แต่เขาไปช่วยผู้อาวุโสชิงซ่ง และผู้อาวุโสหวงซ่ง ดังนั้นเขาค่อนข้างทรงพลัง เวลานี้เขาได้รับสมบัติอย่างน้อยหนึ่งในสิบ ไม่มีเหตุผลให้เหยี่ยหนิวเข้ามาแทรกแซง
ด้านนอกจวนเจ้าเมือง เหยี่ยหนิวกำลังรออย่างเปิดเผย
ที่ยืนอยู่ข้างเหยี่ยหนิวก็คือรองหัวหน้าทั้งสอง เฟยหวงและฮัวปัน หน้าของพวกเขายังคงบวม เหมือนกับว่าผ่านการต่อสู้ศึกใหญ่มาก่อน นอกจากนี้ ยังมีบุรุษและสตรีอีกสิบสองคนสวมชุดคลุมปกปิดราศีตนเอง ไม่จำเป็นต้องพูดพวกเขาทุกคนเป็นสมาชิกของกลุ่มโจรควายป่าที่อื้อฉาวนั่นเอง
เจ้าเมืองลมดำตกใจหนัก
สมาชิกเหล่านี้แต่งตัวตามปกติ เพราะสมาชิกของกลุ่มโจรทั้งหมดได้รับการปฏิบัติเหมือนหนูข้างถนน ไม่ว่าพวกเขาไปที่ใด คนจะตะโกนใส่และทุบตีพวกเขา จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาสวมชุดคลุม
แต่จะเป็นยังไงถ้าเหยี่ยหนิวเผยโฉมตนเองโดยไม่ปิดบัง?
ด้วยพลังระดับปราณฟ้าใครเล่าจะเพิกเฉยต่อค่าหัวของสมาคมทหารรับจ้างแดนสวรรค์ที่ให้ไล่ล่าพวกเขาเล่า?
“เหยี่ยหนิว! เจ้ามาทำอะไร?” เจ้าเมืองลมดำไม่แน่ใจสถานการณ์มากเกินไปนัก ดูเหมือนว่าท่าทางของเหยี่ยหนิวไม่ได้มาช่วยรบ แต่กลับรู้สึกว่าเขากำลังวิพากษ์วิจารณ์เขามากกว่า เขาไปล่วงเกินเหยี่ยหนิวตั้งแต่เมื่อใด?
“ภายใต้หน้ากากสงครามข้ามดินแดน พวกเขาสมคบคิดกันทรยศเจ้าแคว้นมรกตและขยายไฟสงครามไปทั่วทั้งภูมิภาค แต่เจ้าเองกับเลือกทิ้งพื้นที่ไปและสร้างรายได้มหาศาลจากสงคราม เฮยฟง แม้ว่าเราจะรู้จักกันมานานหลายปี ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะมีกลอุบายและความกล้าอย่างนั้น” เหยี่ยหนิวหัวเราะ “ถ้าข้าไม่ตื่นตัวและใช้บริวารของข้ามาที่นี่ ข้าคงกลายเป็นผีภายใต้ดาบของเจ้าไปแล้ว”
“เจ้าพูดอะไร?” เจ้าเมืองลมดำตกใจ แม้ว่าเขาต้องการจะกระพือไฟสงครามไปทั่วแคว้นมรกตและปล่อยมันเอาไว้ แต่เขาก็ยังยังไม่ได้เริ่มดำเนินการตามแผน
“วันนี้เจ้ามีอาคันตุกะ ถ้าข้าทำการเคลื่อนไหวเจ้าก็จะบอกว่าข้า เหยี่ยหนิวเอาเปรียบเจ้า เฮยฟงพรุ่งนี้บ่ายข้าค่อยมาอีกครั้ง” เหยี่ยหนิวโบกมือหมุนตัวจากไปพร้อมกับเฟยหวงและฮัวปัน ด้านหลังของเขายังมีบุรุษสตรีสิบกว่าคนยืนอยู่กับที่เงียบๆ แต่พวกเขาไม่ขยับแม้แต่น้อย ใจของเฮยฟงตึงเครียดขณะที่เขาร้องเตือน “เหยี่ยหนิว คนเหล่านี้เป็นบริวารของเจ้าไม่ใช่หรือ?”
“ข้าไม่มีโอกาสได้พบแขกผู้มีเกียรติของเจ้า” หัวหน้าเหยี่ยหนิวแค่นเสียงและจากไปในพริบตา
ถ้าเป็นวันอื่น เจ้าเมืองลมดำคงไล่ตามไปอธิบายสถานการณ์กับเขาแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลาคิดในตอนนี้
ทั้งนี้เป็นเพราะผู้นำของบุรุษสตรีราวสิบกว่าคนที่อยู่ในชุดคลุมเปิดเผยให้เห็นหน้ากากเจมินี่
บุรุษหน้ากากเจมินี่ที่น่ากลัวนี้ทำให้เจ้าเมืองลมดำต้องสะดุ้งผวาตื่นจากฝันร้ายเป็นสิบครั้ง การปรากฏตัวของเขาไม่ใช่เรื่องดีแน่ เขาจัดเตรียมการสู้รบซึ่งจะเริ่มในอีกครึ่งเดือน ทำไมเขาถึงส่งกลุ่มคนมาที่นี่?
แน่นอนว่าเย่ว์หยางคงไม่บอกศัตรูว่าเขาจะมาฉีกสัญญาที่เขาทำไว้
เขากลับดุด่ากล่าวหาฝ่ายตรงข้าม “เจ้าเมืองลมดำ เนื่องจากเจ้าลักพายอดฝีมือนักเล่นแร่แปรธาตุของเรา จวินอู๋เย่แห่งแดนสวรรค์ตะวันตก ทั้งยังฉวยโอกาสจากข้อตกลงพักรบ เจ้าลอบทำร้ายข้า ศิษย์สามสำนักจากสำนักทงเทียน สำนักมังกรทะยานและวังมารอย่างไร้ยางอาย ด้วยวิธีการซ่อนเร้นน่ารังเกียจ เราจะไม่ทนอีกต่อไป แม้ว่าแม้ว่ายอดฝีมือระดับสูงของแดนสวรรค์จะสนใจไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างแดนสวรรค์ตะวันตกและใต้ พวกเขาก็ยังถูกฆ่าถูกหยามหยัน ในช่วงเวลาพักรบ เจ้าฆ่าศิษย์ของเราและเป็นหนี้เลือดเรา เราสามสำนักจะไม่ยอมประนีประนอมกับแดนสวรรค์ใต้อีกต่อไป เราจะสู้ต่อไปจนถึงที่สุดดีกว่าจะยอมขายหน้าต่อไป”
มารสัมฤทธิ์ฟ้า จักรพรรดิมังกรและจักรพรรดิใต้พิภพที่ยืนอยู่ด้านหลังเย่ว์หยางฉีกชุดคลุมเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง
แต่ละคนเต็มไปด้วยความต้องการฆ่า
เจ้าเมืองลมดำแทบหมดสติ
รู้สึกศีรษะพองโตถึงสามเท่า
ตอนนี้ ต่อให้เขาเป็นคนโง่ เขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ต้องมีคนที่คอยผลักดันเรื่องนี้อยู่ลับหลังเขา ประการแรกฆ่ากองโจรควายป่าในนามเขา ทำให้เขาแตกแยกจากเจ้าแคว้นมรกต จากนั้นฆ่าศิษย์สำนักทงเทียน มังกรทะยานและวังมารซึ่งกระตุ้นให้เกิดการขัดแย้ง
มีการสมคบคิดกับทั้งสองฝ่ายทำงานพร้อมกัน จึงทำให้เขาอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“ฆ่า!” เย่ว์หยางทำสีหน้าโกรธ ขณะที่เขาตะโกน “เจ้ามันไร้ยางอาย เลือดต้องล้างด้วยเลือด!”
“รอเดี๋ยว... รอสักนาทีหนึ่งก่อน...” ปีศาจเฒ่าเว่ยยังต้องการอธิบาย แต่เจ้าเมืองลมดำถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย เมื่อถึงจุดนี้ต่อให้เขาอธิบายเอง อีกฝ่ายก็คงไม่เชื่อเขา คนที่แทงเขาจากด้านหลังน่ากลัวจริงๆ! วิธีใช้มีดฆ่าไล่เสือให้กินหมาป่าเป็นวิธีที่อำมหิตนัก ใครเกี่ยวข้องกับเหตุนี้? กบฏ หรือว่าเจี๋ยฮู่ผู้ดื้อด้าน?
ความจริงยังมีอีกคนหนึ่งอยู่ในใจของเจ้าเมืองลมดำ
แต่เขาไม่กล้าเดา
เขากลัวว่าถ้าเขาเดาถูก เขาจะรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น
หลงเสียงเพิ่งออกไปจากเมืองลมดำ เมื่อเหยี่ยหนิวมาถึงและบุรุษหน้ากากก็มาเช่นกัน... นี่หมายความว่ายังไง? นอกจากราชาผู้ทรงพลังที่อยู่เบื้องหลังหลงเสียง ใครจะมีปัญญาเช่นนั้นได้? ใครจะมีพลังพอลงมือตำหนิโทษกับเขาได้ง่ายๆ?
ราชาใจสิงห์ ถ้าข้าไม่ตาย เจ้าจะไม่มีทางอยู่สบายแน่ๆ
เจ้าเมืองลมดำไม่กล้าสู้เหตุผล เพราะเขารู้ว่าการมาของบุรุษหน้ากากในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน
ครั้งนี้บุรุษหน้ากากมาที่นี่เพื่อฆ่าคน ไม่มีทางที่จะเอาตัวนักเล่นแร่แปรธาตุไปได้ และยังมีแนวโน้มว่าราชาใจสิงห์ได้ส่งคนไปแจ้งข้อมูลบุรุษหน้ากากว่านักเล่นแร่แปรธาตุจวินอู๋เย่ตายแล้ว และตายภายใต้หินยักษ์กดทับ นอกจากนี้ในท่ามกลางการโจมตีเมืองของผู้เยาว์เหล่านี้ ราชาใจสิงห์ส่งคนไปฆ่าผู้เยาว์ที่มีความสามารถไปเป็นจำนวนมาก
“ไปลงนรกซะ เจ้าพวกหนอนน่ารังเกียจเข้ามาในประตูของข้าและดูว่าอะไรกำลังรอพวกเจ้าอยู่ภายใน” ตอนนี้เย่ว์หยางไม่ใช้ปัญญาแล้ว เขาแค่หาเรื่องทุบตีสุนัขตกน้ำเท่านั้น
เผชิญหน้ากับศัตรูปราณฟ้าหลายคน เขาจึงได้ใช้สนามพลังสร้างโลกจริงๆ
ถ้ามีคนบอกว่าสนามพลังสร้างโลกจากครั้งก่อนเทียบได้กับสนามพลังวิญญาณของเสวี่ยอู๋เสีย อย่างนั้นสนามพลังที่สร้างตอนนี้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์
คล้ายกับกฎสวรรค์ในประตูเป็นตาย เป็นภาพลวงตาและเป็นจริง
ศัตรูจะเห็นภาพหลอนทั้งหมดในพื้นที่สนามพลัง
ถึงแม้จะเป็นภาพหลอน แต่ก็ไม่มีทางปฏิเสธได้ มันคือการดำรงคงอยู่ของ ‘ความเป็นจริง’…
ในรัศมีร้อยเมตร ฉากภาพทั้งหมดหายไป กลายเป็นท้องฟ้าว่างเปล่า เจ้าเมืองลมดำและปีศาจเฒ่าเว่ยตระหนักได้ว่าบางอย่างผิดไปจากปกติและรีบรวมตัวกันโดยเร็ว ไป๋ซ่ง ชิงซ่ง หวงซ่ง ผางหมัน ฮ็อก ซาวี่ จินฟงและริวไครีบมาสมทบ เดิมทีด้วยพลังของพวกเขา พวกเขาไม่กลัวศัตรูที่มีระดับต่ำกว่าปราณฟ้าระดับหก
อย่างไรก็ตาม พวกเขาติดอยู่ในสนามพลังสร้างโลกของเย่ว์หยางให้รู้สึกอึดอัดจากก้นบึ้งหัวใจ
มันแปลกมาก
ในพื้นที่นี้ไม่ว่าเขาจะเดินอย่างไร เขาไม่เคยไปถึงที่สุด
ไม่มีศัตรูให้สู้ด้วยในตอนนี้ พวกเขาหายไปในอากาศ แม้แต่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็เกิดขึ้น อาคารในจวนเจ้าเมืองหายไป ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นว่างเปล่า
“หือ?” ปีศาจเฒ่าเว่ยคือนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นว่ามีเงาบางอย่างแหวกว่ายมาหาเขาแต่ไกล
“อะไรกัน?” เจ้าเมืองลมดำและไป๋ซ่งยืนตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น
พญางูกลืนฟ้าที่ถูกฆ่าไปแต่ก่อนนั้น อสูรรบเก่าที่แข็งแกร่งที่สุดของปีศาจเฒ่าเว่ยกลับมีชีวิตขึ้นมาได้อย่างคาดไม่ถึง... ทุกคนรู้ว่ามันคือของปลอม เพราะมันตายไปนานแล้ว อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถปฏิเสธมันได้ เพราะแม้แต่เจ้านายของมัน ปีศาจเฒ่าเว่ยก็ไม่เห็นข้อบกพร่องใดๆ ในตัวมัน พญางูกลืนฟ้าขดตัวอยู่ต่อหน้าปีศาจเฒ่าเว่ยอ้าปากมหึมา และเตรียมจะกลืนเจ้านายเก่าของมันลงท้อง
ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ปีศาจเฒ่าเว่ยปล่อยหมัดด้วยพลังเต็มแรง
หมัดที่ทรงพลังที่สุดของยอดฝีมือปราณฟ้าระดับห้า
หมัดกระแทกลงที่จุดอ่อนของพญางูกลืนฟ้า
ในฐานะเจ้านายของมัน เขารู้จักจุดอ่อนของมัน จุดที่เรียกว่าจุดโจมตีงูเจ็ดนิ้ว (เชียะ) และจุดเจ็ดนิ้วเป็นจุดตายของพญางูกลืนฟ้าอยู่ใต้เกล็ดที่เกือบจำแนกไม่ได้ด้านใต้คอยาว นั่นเป็นพื้นที่หัวใจของมัน และเป็นเพียงส่วนเดียวทั่วร่างที่ยังพอนับได้ว่าเป็นจุดอ่อน
การโจมตีธรรมดาไม่มีผลต่อพญางูกลืนฟ้า
ตราบใดที่ใช้หมัดที่แข็งแกร่งที่สุดและทะลุทะลวงก็สามารถทำลายหัวใจของมันที่มีเกล็ดปกป้อง มันจะได้รับผลกระทบ
พญางูกลืนฟ้าร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
มันกระแทกลงกับพื้น
“...” ปีศาจเฒ่าเว่ยที่เพิ่งจะฆ่าพญางูกลืนฟ้าตายในหมัดเดียวไม่แสดงสีหน้าพึงพอใจแต่อย่างใด ตรงกันข้าม หน้าของเขาสลด ราวกับว่าเขามีอายุเพิ่มขึ้นหลายร้อยปีในทันที
เขารู้ว่าพญางูกลืนฟ้าเป็นของปลอม แต่ไม่ว่าคนจะมีเหตุผลใดก็ตาม ไม่มีทางที่เขาจะปฏิเสธความคงอยู่ของมัน
เพราะมันดูเหมือนมีชีวิตจริง
“การลงโทษแค่เพียงเริ่มต้น! ความอับอาย ความเจ็บปวดและความสิ้นหวังที่พวกเจ้าทำกับเรา พวกเจ้าจะต้องรับการตอบแทนเป็นร้อยเท่า!” เสียงของเย่ว์หยางดังขึ้นในหูของเจ้าเมืองลมดำและปีศาจเฒ่าเว่ย เมื่อร่างของเขากระพริบวาบข้างหน้าของเขา ก็มีพญางูกลืนฟ้าอีกตัวหนึ่งปรากฏจากแต่ไกล มันเหมือนกับตัวที่ล้มลงแทบเท้าตัวก่อน
“เจ้าคิดว่า เจ้าสามารถหลอกลวงเราด้วยของปลอมเหล่านี้หรือ?” ไป๋ซ่งโกรธ
“สนามพลังของข้าสามารถสอบสวนหัวใจของเจ้าได้ ต่อให้สิ่งที่เจ้าเห็นเป็นเท็จ เจ้าปฏิเสธได้หรือ? ดูสิ่งที่เจ้ากลัวที่สุดสิ!” เย่ว์หยางเหยียดมือของเขาและชี้ไปที่เจ้าเมืองลมดำ ต่อหน้าเจ้าเมืองลมดำ ประกายแสงค่อยๆ ปรากฏ ร่างที่สองของเย่ว์หยางสวมหน้ากากเจมินี่ปรากฏขึ้น
เมื่อเย่ว์หยางชี้ที่ไป๋ซ่ง สตรีคนหนึ่งปรากฏอยู่ต่อหน้าเขากำลังอุ้มทารกน้อย
สีหน้าของไป๋ซ่งเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเขาเห็นสตรีผู้อุ้มทารกน้อยในอ้อมแขนนาง
สตรีผู้อุ้มทารกหลั่งโลหิตจากทวารทั้งเจ็ดทันที นางกรีดร้องใส่ไป๋ซ่งอย่างไม่พอใจ “ไป๋ซ่งเพื่อความสำเร็จของตัวเจ้า เจ้าเลือกธิดาของเจ้าสำนัก แค่นั้นยังไม่พอ เจ้ายังทอดทิ้งลูกและเมีย”
ผางหมันเห็นนิ้วเย่ว์หยางยื่นตรงไปหานาง
ทันใดนั้นหน้าของเขาพลันซีดลง
ใครบางคนตบเขาจากด้านหลัง มารสัมฤทธิ์ฟ้าทำให้เขารู้สึกกลัวจากก้นบึ้งหัวใจกำลังมองมาที่เขา เย็นชาและไร้ความปราณีคล้ายกับมัจจุราช เขาอดสั่นด้วยความกลัวไม่ได้