ตอนที่แล้วตอนที่ 712 การศึกไม่หน่ายอุบาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 714 สร้างภาพลวงตาทรมานภายใน

ตอนที่ 713 สมบัติคนตระหนี่


ทัศนคติที่เย่ว์หยางมีต่อนักโทษค่อนข้างดี

แม้ว่าเขาจะปล่อยให้ฮุยไท่หลางได้ซ้อมฮัวปันและเฟยหวงโดยไม่คิดอะไร  แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้สร้างค่ายถลกหนังคน

ถูกทุบตีจนหัวบวมเหมือนหัวหมู ฮัวปันและเฟยหวงได้แต่กัดฟันทนอับอาย  พวกเขารู้สึกว่าพวกเขายังมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าและไม่ต้องการตายที่นี่อย่างเปล่าประโยชน์  การต่อต้านเป็นเรื่องเหลวไหล ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น แต่ถ้าเป็นแค่หัวหน้าลี่เยี่ยน นางสามารถฆ่าทั้งสองคนภายในวินาทีเดียว ไม่ต้องพูดถึงบุรุษหนุ่มที่ทำให้ลี่เยี่ยนเชื่อฟังแต่โดยดี  เมื่อฝ่ายตรงข้ามสวมหน้ากากแฝดแปลกประหลาด ฮัวปันและเฟยหวงเข้าใจได้ทันทีว่าใครวางแผนกับพวกเขา

บุรุษหน้ากากนักสู้ลึกลับผู้สามารถเล่นงานปีศาจเฒ่าเว่ยทำให้เขาแทบบ้าก้มดูฟันตัวเองร่วงกับพื้น  นักสู้ลึกลับแห่งสามสำนักใหญ่ของแดนสวรรค์ตะวันตก สำนักมังกรทะยาน สำนักทงเทียนและวังมาร เมื่อพ่ายแพ้เขาฮัวปันและเฟยหวงไม่มีอะไรจะพูด

สำหรับหัวหน้าเหยี่ยหนิวที่กลายเป็นหิน ไม่จำเป็นต้องคาดเดาเขา เป็นแผนของบุรุษหน้ากากนี้เป็นแน่

“เมื่อข้ากินเนื้อ, ข้าไม่สนใจว่าคนอื่นจะดื่มน้ำแกงหรือไม่”  เย่ว์หยางหันหน้าหาฮัวปันและเฟยหวงที่หัวบวมเป็นหัวหมูและเตือนพวกเขา  “กลุ่มโจรควายป่ายังคงให้พวกเจ้าเป็นผู้นำ  ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะทำอะไร แต่พวกเจ้าต้องออกไปจากแคว้นมรกต  เจ้าสามารถเอาคนจากกลุ่มโจรควายป่าทั้งหมดไปได้  ข้าต้องการใช้พวกเขา  ในที่สุดข้าอยากจะเตือนเรื่องนี้อีกครั้ง จำเอาไว้ใครให้ชามข้าวนี้เจ้ากิน อย่าพยายามลอบตุกติก ไม่อย่างนั้นพวกเจ้ามีทางเลือกสองอย่าง คือ เป็นปุ๋ยดอกไม้ หรือไม่ก็เป็นอาหารสุนัข”

“....” ฮัวปันและเฟยหวงมองดูฮุยไท่หลางและสั่น จากนั้นพยักหน้าโดยเร็ว

“โฮก..โฮก!”

การต่อสู้ระหว่างราชสีห์ทองเพลิงกับจ้าวสิงโตเพลิงถึงจุดสูงสุด

เมื่อสิงโตทั้งสองตัวมีพลังเสมอกันปะทะเข้าใส่กัน เป็นเรื่องยากที่จะระบุว่าใครแข็งแกร่งที่สุด  ราชสีห์ทองเพลิงมีพลังป้องกันแข็งแกร่งกว่าและมีปัญญาฉลาดกว่า

อย่างไรก็ตามสิงโตเพลิงมีระดับพลังที่สูงกว่าเล็กน้อย  นอกจากนี้ ในฐานะจ้าวอสูร รัศมีและพลังของมันอาจเพิ่มได้  ที่สำคัญที่สุดมันเคยจับราชสีห์เพลิงทองได้มาก่อน  ดังนั้นมันจึงมั่นใจในความสามารถในการสู้รบ

ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าเหยี่ยหนิวกลายเป็นก้อนหินและจ้าวสิงโตเพลิงสูญเสียพลังสนับสนุน ราชสีห์ทองเพลิงพบว่ายากจะเอาชนะศัตรูที่ทรงพลังอย่างนั้นได้ในระยะสั้นๆ  ต่อจากอสูรสายฟ้าที่หมดสติก็เป็นปีศาจหัววัวเข็มขัดทอง  และจ้าวกระทิงปีศาจก็หมดสติเช่นกัน ขณะที่สองนักสู้ปราณฟ้าอย่างฮัวปันและเฟยหวงยอมแพ้ ความมั่นใจของจ้าวสิงโตเพลิงจึงค่อยๆ หายไป และกำลังใจของมันถดถอย

สิงโตทั้งสองตัวสู้กันอย่างสุดกำลังไม่สามารถแยกกันได้

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป สองชั่วโมงผ่านไป ทั้งสองตัวก็ยังไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ

เย่ว์หยางไม่มีอารมณ์รอดูการต่อสู้ของพวกมันจนจบ ดังนั้นเขากลับเข้าไปพักในโลกคัมภีร์

เมื่อเย่ว์หยางพักเสร็จ ราชสีห์ทองเพลิงก็ชนะแล้ว  มันยืนอยู่บนศพศัตรูของมันอย่างภาคภูมิ ร่างโชกเลือดและคำรามขึ้นท้องฟ้า เต็มไปด้วยพลัง

ฮัวปันและเฟยหวงรับมอบกลุ่มโจรควายป่าอย่างเป็นทางการและมัดชาวเมือง บริวารเก่าแก่และองครักษ์ส่วนตัวของเหยี่ยหนิวไว้ข้างนอกหุบเขาราชสีห์ รอให้เย่ว์หยางตัดสินพิจารณา

“ความจริงเหตุผลที่ข้าขอให้เจ้ามาที่นี่ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก” เย่ว์หยางกระตือรือร้น “หัวหน้าเหยี่ยหนิวถูกเจ้าเมืองลมดำ ไป๋ซ่ง ผางหมัน จินฟงและปีศาจเฒ่าเว่ยล้อมเมื่อคืนก่อน และเขาตายอย่างโชคร้าย  วิญญาณของเขาออกจากร่างและเปลี่ยนไปเป็นหิน  ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าบางคนจะรู้จักเขาดี รู้ดีที่สุดว่าเขามีทักษะในการหลบหนี  ในฐานะเป็นสหายที่ดี ข้าตัดสินใจออกสู้ล้างแค้นให้เขาโดยไม่ลังเลใดๆ และจะต่อสู้กับเจ้าเมืองลมดำและพวก”

“แค่กๆ”  เมื่อเฟยหวงได้ยินเช่นนี้  เขาเกือบสำลักน้ำลายตาย

“ข้าสงสัยจริงว่าพวกท่านต้องการให้ข้าช่วยบริการแบบไหน?”  นูเจนจอมประจบยืนขึ้นคำนับแล้วถามด้วยความเคารพ

“มันยากจะบอกว่าเมื่อเหยี่ยหนิวตื่นขึ้นจากการเป็นก้อนหินหรือไม่ ต่อให้เขาต้องการ เขาก็ไม่สามารถฟื้นคืนสภาพเหมือนปัจจุบันได้ในทันที  ระหว่างเวลาที่เขาจำศีลนี้กิจการในกลุ่มจะให้เฟยหวงและฮัวปันรับจัดการไปก่อน เจ้าเป็นคนเก่าแก่ในกองโจรนี้ และเจ้าก็เป็นบริวารที่หัวหน้าเหยี่ยหนิวเชื่อถือที่สุด ดังนั้นรองหัวหน้าทั้งสองเฟยหวงและฮัวปันจะไม่ปฏิบัติกับเจ้าอย่างอยุติธรรม  ในมุมมองของคนที่มีคุณสมบัติโดดเด่นอย่างเจ้าต่อกลุ่มในอนาคต  หัวหน้าทั้งสองตัดสินใจแบ่งสมบัติหนึ่งในสิบให้เจ้า หลังจากเจ้าได้รับเงินไปแล้ว  ถ้าเจ้ายินดีทำงานต่อก็จะดีต่อกลุ่ม นั่นจะเป็นเรื่องดีกว่า  แต่ถ้าเจ้าจะกลับไปทำให้ครอบครัวร่ำรวยสุขสบายก็ไม่มีใครห้ามเจ้า”  เย่ว์หยางบอกนโยบายที่เปิดใจกว้าง  ถ้าใครรู้แนวทางจุดยืนของเขา อย่างนั้นจะเป็นเรื่องที่จัดการได้ง่าย

“เจ้าเมืองลมดำและหัวหน้าเหยี่ยหนิวเป็นสหายที่ดีต่อกันมาหลายปี  ครั้งนี้หัวหน้าเหยี่ยหนิวพาเรามาที่นี่เพื่อสนับสนุนเจ้าเมืองลมดำ  เขาเนรคุณอย่างนั้นได้ยังไง?  เขานำคนโจมตีหัวหน้าของพวกเรา!  เป็นเรื่องง่ายที่เจ้าจะฆ่าพวกเรา  พวกเจ้าพยายามหลอกเราให้เปิดเผยตำแหน่งที่ซ่อนสมบัติของหัวหน้าเรา อย่าแม้แต่จะคิด”  หนึ่งในบริวารผู้ซื่อสัตย์ของหัวหน้าเหยี่ยหนิวผู้เป็นองครักษ์ส่วนตัวสบถด่าลั่น

“ข้าไม่ต้องการคำอธิบาย!”  เย่ว์หยางส่ายศีรษะ

“โฮ่ง!”  ฮุยไท่หลางวิ่งออกมาข้างหน้า

“ต่อให้ข้าตาย ข้าจะไม่เปิดเผยที่ซ่อนสมบัติ...”   คนผู้นี้คิดว่าฮุยไท่หลางกำลังจะกินเขา

ฮุยไท่หลางตวัดกรงเล็บ ทำลายโซ่ที่มัดเขาและปล่อยเขาออกไป

เย่ว์หยางโบกมือ “ไปซะ ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า เจ้าไปถามเจ้าเมืองลมดำได้ ถามใครลับๆ ก็ได้ ถึงตอนนั้น ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเข้าใจความจริง”

คนผู้นั้นมึนงงเล็กน้อย  เขายอมปล่อยเขาจริงๆ หรือนี่?

เป็นไปไม่ได้?

ง่ายไปหรือเปล่า?

ความจริง ไม่ใช่เพียงเขาเท่านั้น  พวกที่ฮุยไท่หลางทำลายโซ่เหล็กพันธนาการปล่อยไปทุกคนมองหน้ากันเองอย่างหวาดๆ ไม่กล้าเชื่อว่าผลจะเป็นเช่นนี้

ไม่มีใครกล้าจากไป  พวกเขากลัวว่าเย่ว์หยางจะกลับคำและฆ่าเขา

มีแต่เพียงหัวหน้าองครักษ์ผู้กล้าหาญที่สุดผู้แสดงความห้าวหาญบนสีหน้า  เขาเป็นคนแรกที่ก้าวออกจากกลุ่มและมองดูหน้าเฟยหวงและฮัวปัน  เขารู้สึกว่าพวกเขาไม่มีความตั้งใจจะฆ่าแต่อย่างใด  หลังจากเห็นเขาหายไปเป็นเวลานาน ไม่มีใครกล้าตามเขาออกไป  จนกระทั่งเย่ว์หยางพูดขึ้น  “พวกเจ้าก็แยกย้ายกันไปได้แล้ว  ถ้าข้าต้องการฆ่าพวกเจ้า ข้าไม่จำเป็นต้องรอจนบัดนี้  ข้าสามารถลงมือได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าพวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ความจริงก็คือความจริง  ข้าคือคนที่พวกเจ้าไม่รู้หรอกว่าเป็นสหายที่ดีกับเหยี่ยหนิว และเจ้าเมืองลมดำที่พวกเจ้ารู้จักก็คือศัตรูที่ล้อมฆ่าเขา”

เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยาง เฟยหวงและฮัวปันไม่พยายามห้ามพวกเขา  คนพวกนี้มีแววกังวล

ทุกคนแยกย้ายกันหนีไปในทุกทิศทาง

หลายคนมองย้อนกลับมาดูว่ามีศัตรูไล่ตามหลังพวกเขามาหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางไม่มีปฏิกิริยาอะไร

คนที่หนีออกมาก็ออกจากหุบเขาไปอย่างปลอดภัย  หลังจากวิ่งหนีมาได้ร้อยกิโลเมตร ในที่สุดพวกเขาก็ถอนหายใจโล่งอก... อย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยอมปล่อยพวกเขาไปจริงๆ!

แปลก..ทำไมเขาจึงใจดียอมปล่อยข้าไป?  หรือว่าเขาเป็นสหายที่ดีของหัวหน้าเหยี่ยหนิว และเจ้าเมืองลมดำเป็นคนฆ่าหัวหน้าเหยี่ยหนิวจริงๆ  ถ้าเขาไม่ใช่สหายที่ดีแล้วรู้ว่าวิญญาณของหัวหน้าเหยี่ยหนิวสิงอยู่ในก้อนหิน เขาก็สามารถทำลายก้อนหินได้ด้วยหมัดเดียว  นอกจากนี้ เขายังจับคนไว้ได้ถึงร้อยคน  ถ้าเขาต้องการฆ่าพวกเขา  เขาคงไม่จำเป็นต้องตีฝุ่นให้ฟุ้ง เขาจะปล่อยทุกคนไปได้ยังไง?

ทุกคนจากไป

นั่นจะไม่เปิดเผยความลับหรอกหรือ?

ถ้าเขาไม่กลัวเปิดเผยความลับ อย่างนั้นเขาอาจจะเป็นของจริง!

หลังจากหลบหนีไปได้สองสามร้อยกิโลเมตร เกือบทุกคนรวมตัวกันตามปกติที่หมู่บ้านเล็กซึ่งพวกเขาได้ตกลงนัดแนะกันไว้ก่อนนั้น เพื่อหารือปัญหาใหญ่

มีหัวหน้าองครักษ์ของกลุ่มแรกที่ได้ออกไปก่อน พวกเขาตัดสินใจไม่ไปที่ขุมสมบัติลับเพื่อหลีกเลี่ยงการสะกดรอยตามระยะไกล  แต่ลอบสืบดูสถานการณ์ในเมืองลมดำเสียก่อน  ถ้าเป็นจริง อย่างนั้นพวกเขาจะขุดสมบัติทั้งหมดออกมาและเปลี่ยนสถานที่ตำแหน่ง ไม่ยอมให้ใครอื่นได้สมบัติไปครองแน่นอน

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นสหายที่ดีของหัวหน้าเหยี่ยหนิวหรือไม่ พวกเขาจะไม่เปิดเผยสมบัติ และเขาแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้นจะได้รับ

ถ้าหัวหน้าเหยี่ยหนิวไม่สามารถฟื้นฟูขึ้นมาได้  คนเหล่านี้จะออกเสียงตัดสินใจให้ใช้สมบัติแปดในสิบส่วนของกองทุนให้เจ้าเมืองลมดำและนักล่ารางวัล  อีกสองส่วนจะถูกใช้สำหรับกิจการทุกคน

พวกเขาถกเถียงอภิปรายกันอยู่นานก่อนจะแน่ใจ

ขณะเดียวกัน  เย่ว์หยางมุ่งหน้าไปที่ขุมสมบัติของหัวหน้าเหยี่ยหนิวภายใต้การนำทางของนูเจน

นูเจนเป็นคนฉลาด ช่างสังเกตและประจบประแจง  ก่อนนี้เขาต้องการยอมแพ้  แต่หลังจากเห็นการแสดงออกของเย่ว์หยาง  เขาลอบพยักหน้าไม่พูดอะไร  เขาออกไปพร้อมกับคนส่วนใหญ่ แต่ก็รีบกลับมาโดยเร็ว  ภายใต้สายตาที่ตะลึงของเฟยหวงและฮัวปัน เขาเสนอบอกตำแหน่งที่แท้จริงของสมบัติ

“ข้าเพียงแต่รู้ตำแหน่งของสมบัติของหัวหน้า เพราะข้าทำงานก่อสร้างทั้งหมดและจัดเก็บรายการในขุมสมบัติทั้งหมด  ในมือของหัวหน้ามีเพียงสมบัติดีๆ เพียงเล็กน้อยและสมบัติอื่นๆ ที่ดีที่สุดจำนวนมาก เป็นข้าจัดเก็บไว้ในที่นั้น  เพราะข้าเกิดมาความจำไม่ดีในเรื่องเส้นทาง  หัวหน้าจึงมั่นใจในตัวข้ามาก นอกจากนี้เขาจะปิดตาข้าทุกครั้งที่ใช้ม้วนเทเลพอร์ตนำข้าเข้าไปยังถ้ำลับ  เมื่อข้าเก็บกวาดทำความสะอาดหมดแล้ว  เขาจะพาข้าออกมาจากถ้ำและเรื่องภูมิประเทศข้าจะไม่รู้เรื่องอย่างสิ้นเชิง  เขายังคิดว่าข้าไม่รู้อะไร  ดังนั้นเขาจึงรวบรวมผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ของเขาและบอกพวกเขาเกี่ยวกับขุมทรัพย์ปลอม  เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจต่อพี่น้อง  มีแต่ข้าที่รู้ว่าสมบัติจริงรวบรวมไว้ในที่อื่น”  นูเจนรายงานเย่ว์หยาง

“เจ้ารู้เรื่องขุมสมบัติลับของเหยี่ยหนิวได้ยังไง?”  เย่ว์หยางรู้ว่านูเจนนี้ต้องมีความสามารถพิเศษบางอย่าง  แต่เขายังสงสัยเล็กน้อย  หัวหน้าเหยี่ยหนิวเป็นคนช่างระแวงแน่นอน  สามารถซ่อนความจริงจากเขาและกลายเป็นคนเดียวที่รู้ความจริงได้เป็นเรื่องไม่ง่ายเลย

“ข้าไม่มีความสามารถพิเศษแต่อย่างใด  แต่เพราะข้ากลัวตาย  ข้ามีดีในเรื่องสังเกตการแสดงออกของคนอื่น  ข้าสังเกตว่าทุกครั้งที่ข้าไปยังสถานที่หนึ่ง หัวหน้าจะลอบสังเกตข้าอย่างลับๆ  เหมือนกับว่าเขาต้องการจะดูบางอย่างบนสีหน้าของข้า  หลายๆ ครั้งเข้าก็ยิ่งทำให้ข้าสงสัย  หรือว่าขุมสมบัติที่แท้จริงจะอยู่ในที่นั้น?  หลังจากนั้น ผ่านไปประมาณสิบปี  เมื่อความระมัดระวังของหัวหน้าเหยี่ยหนิวลดลงข้าลอบกลืน ‘น้ำตาเต่าอพยพ’ ลงไปขวดหนึ่ง  ข้ายืมความรู้สึกของน้ำตาเต่าอพยพชั่วคราวเพื่อตรวจสอบว่าขุมสมบัติที่ข้าจัดการคัดแยกอยู่ใต้จมูกข้าจริงๆ” นูเจนอธิบายอย่างซื่อสัตย์

“มันอยู่ที่ไหน?”  เฟยหวงและฮัวปันถามอย่างกระตือรือร้น

“ภายใต้ถนนใหญ่ระหว่างจวนเจ้าเมืองลมดำและตลาดมืด ขุมสมบัติอยู่ห่างจากจวนเจ้าเมืองลมดำไม่ถึงร้อยเมตร ลึกลงไปใต้โรงประมูลห่างจากตลาดมืดไม่ถึงห้าสิบเมตร”  เมื่อได้ยินคำพูดของนูเจน เฟยหวงและฮัวปันตะลึงกันหมด

นี่ช่างคาดไม่ถึงจริง  ขุมสมบัติลับของหัวหน้าเหยี่ยหนิวจะซ่อนอยู่ที่โรงประมูลเจ้าเมืองลมดำจริงๆ

พื้นที่อันตรายที่สุด ย่อมปลอดภัยที่สุด

ถ้าเจ้าเมืองลมดำพบว่าเขาเดินอยู่รอบขุมสมบัติของเหยี่ยหนิวโดยไม่รู้ตัวก็คงงามหน้าเป็นแน่

เย่ว์หยางถามทันที  “ถ้าเจ้าบอกความลับของเจ้ากับข้า  เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะฆ่าเจ้าหรือ?”

นูเจนตอบด้วยความเคารพ  “ผู้ยิ่งใหญ่ที่ใจกว้างอย่างท่านย่อมมีความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ จะมาทรมานมดแมลงเล็กน้อยอย่างข้าทำไม?  ที่สำคัญข้าไม่ได้กังวลห่วงใยชีวิตของข้า!  แน่นอนว่าถ้าเป็นเจ้านายอย่างท่านเหยี่ยหนิวหรือเฮยฟง ข้ายังมีทางเอาตัวรอดได้ ทำไมเหยี่ยหนิวผู้มีปัญญาจึงใช้ให้ข้าไปช่วยจัดของให้เขาและไม่ฆ่าข้าหลังจากนั้นเล่า?  เหตุผลง่ายๆ  เพราะข้าเป็นคนตระหนี่!”

ฮัวปันถามด้วยความประหลาดใจ  “ตระหนี่?”

นูเจนพยักหน้า  “ข้าตระหนี่มาตั้งแต่เกิด ไม่ว่าข้าจะมีเงินมากเท่าใด ข้าก็ใช้เงินกระเบียดกระเสียรมาก แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่  แต่เหยี่ยหนิวให้คุณค่ากับความตระหนี่ของข้า เพราะเขามีสมบัติที่เรียกว่า ‘สมบัติของคนตระหนี่’  ที่สำคัญเงินที่เก็บเอาไว้ใน ‘สมบัติของคนตระหนี่’ ไม่มีใครสามารถเอาไปได้เว้นแต่เจ้าจะตระหนี่เหมือนกับข้า!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด