ตอนที่แล้วตอนที่ 711 เถี่ยเซียคนโฉด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 713 ข้าต้องการเอาชนะท่าน

ตอนที่ 712 เถี่ยเซียขวัญผวา


เถี่ยเซียลืมตากว้างแสงงดงามแพรวพราวตัดผ่านความมืดสะท้อนรอยยิ้มที่ชะค้างทันที

หมัดมาถึงแล้ว

สายใยกฎธรรมชาติที่แพรวพราวเหมือนสายฟ้าคลุมรอบหมัดและเปล่งรัศมีเต็มที่

ก่อนหน้าที่ก็เป็นสำนึกกระบี่ที่คลุมรอบตัวขาทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่ามีกระบี่จ่อคอของเขาทำให้เขารู้สึกว่าไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยผลีผลาม

แต่ที่ปล่อยออกมาฉับพลันนี้ทำให้วิญญาณของเขาแทบหลุดลอยจากร่างรัศมีที่กว้างไกลดูเหมือนจะมีพลังแข็งแกร่งพอถล่มภูเขาและทำลายมหาสมุทรทำให้อากาศในคลังสินค้าดูเหมือนจะหยุดนิ่ง ไม่มีฝุ่นฟุ้ง ไม่มีระลอกเกิดขึ้นมาสายใยกฎธรรมชาติหลากหลายสีตัดขวางกันและผสานเข้าด้วยกัน!

การเป็นผู้อื้อฉาวชั้นสองเถี่ยเซียมีประสบการณ์มากมายและฆ่าคนมาหลายคนแล้ว มีน้อยคนนักที่จะสู้กับเขาได้

เขาไม่เคยเห็นหมัดที่น่าทึ่งและน่ากลัวเกินกว่าความรู้สึกสามัญสำนึกของเขา

ในเขตแดนระหว่างเป็นและตาย สัญชาตญาณเอาชีวิตรอดทำให้เขาทำสิ่งหนึ่งนั่นคือย่อตัวตามสัญชาตญาณ เขาไขว้มือและป้องกันไว้ข้างหน้า ไหล่ของเขาเป็นสีดำแปลกประหลาด สายใยธรรมชาติกฎสีดำปรากฏออกมาจากมือของเขาและพุ่งออกมาข้างหน้า รวมตัวขึ้นเหมือนหมอก

เกราะมือดำสนิทปรากฏที่มือของเขาป้องกันเขาไว้ข้างหน้า

สายใยกฎธรรมชาติที่ปนกันยุ่งเหยิงอยู่บนหมัดปะทะใส่เกราะดำโดยตรง

ปัง

เสียงไม่ดังเท่าใด แต่ในหูของเถี่ยเซีย เหมือนกับมีฟ้าผ่า

พลังผ่านการป้องกันของเขาไปทำให้ลำคอของเถี่ยเซียหวานวูบและเขากระอักโลหิตทันที

แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่เถี่ยเซียก็ไม่ยอมแพ้ใช้แรงเหวี่ยงถอยต่อเนื่อง เขาไม่มีความคิดเลยว่าจะสู้ต่อไปอย่างไร และมีเพียงความคิดเดียวอยู่ในใจนั่นคือหนี!

พลังของคู่ต่อสู้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถป้องกันได้

ผิวเกราะดำมีสายใยกฎหลากสีและประหลาดเกิดเป็นรูปใยแมงมุมที่มีสีแปลกประหลาด

เป๊าะ

เกราะดำร่วงกราว ราวกับว่าถูกโจมตีด้วยพลังรุนแรงและเขากระอักโลหิตออกมาอีก

แม้หลังจากกระอักโลหิตออกมาสองครั้ง  ความเร็วของเถี่ยเซียก็ยังไม่ตก  แต่กลับเร็วขึ้น เขาเหมือนเงาดำที่ผุดขึ้นและมุ่งหน้าไปที่หน้าต่าง

‘หนีไปเดี๋ยวนี้!’

ใจของเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความคิดนี้เท่านั้น มียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่ในคลังสินค้าตระกูลเซวียจริงๆ!

‘ใครวะ,บอกว่าบ้านตระกูลเซวียไม่มียอดฝีมืออยู่เลย?’

เถี่ยเซียไม่มีความตั้งใจใดๆ จะต่อสู้ต่อไป  เขารู้ว่าเขาพลาดท่าไปแล้วในเวลานี้และต้องรักษาชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยเสียก่อน เลือดในร่างกายของเขาถูกกระตุ้นในระดับสูงสุด  เขาไม่สนใจว่าร่างกายจะได้รับบาดเจ็บและใช้วิชารักษาชีวิตรอดขณะพยายามหลบหนี

หน้าของเขาซีดขาวราวกับกระดาษ  ตาของเขาซึมเซาผิวหม่นหมอง

แรงโลหิตทะลักเป็นเหมือนลาวาปะทุกึกก้องอยู่ในร่างกายของเขา  ขณะนั้นพลังของเขาบรรลุพลังในระดับที่เกินปกติ  และเขามีความแข็งแกร่งอย่างไม่เคยมีมาก่อน  แต่ เขาไม่กล้าลังเลขณะตรงไปที่หน้าต่าง

แสงส่องผ่านหน้าต่างดูหลอกล่อนัยน์ตาของเขา  ตราบใดที่เขาผ่านไปได้  เขาจะรอด

‘ตาของเขาหรี่แคบอีกครั้ง!’

ร่างดำปรากฏอยู่หน้าเขาโดยไม่มีคำเตือน และบดบังแสงไว้

แสงที่ลอดผ่านหน้าต่างส่งต้องหลังร่างสีดำนั้น  เถี่ยเซียเห็นแต่เพียงโครงร่างของคนที่อยู่ข้างหน้าเขา  หน้าของอีกฝ่ายหนึ่งปกคลุมไปด้วยเงา  เถี่ยเซียมองไม่ชัดเจนว่าเขาเหมือนอะไร

หัวใจของเถี่ยเซียเย็นเฉียบ

‘ข้าเป็นตัวตลกจริงๆ...’

เมื่อคิดถึงตอนที่เขาเข้ามา  อีกฝ่ายหนึ่งหลับและกรนเสียงดังจริงๆ  เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก  ‘เจ้าแข็งแกร่งมาก  แต่เจ้าก็ยังแกล้งหลับทำตัวเป็นหมูกินเสือเพื่ออะไร! เพื่ออะไรกัน! ทำไมเจ้าไม่ให้ข้าหนีไปเสียที!’  เขาอยากร้องไห้

เถี่ยเซียตาแดง

เขาพลิกตัวในกลางอากาศอย่างแปลกประหลาด  เขาพุ่งไปที่ประตูอีกครั้งราวกับธนูที่พุ่งออกไปอย่างเกรี้ยวกราดความเคลื่อนไหวของเขาราบรื่นมาก เหมือนเมื่อตอนเขาพุ่งไปที่หน้าต่อเขาเคลื่อนไหวเหมือนกับหอกที่ทำด้วยของเหลว

ทันใดนั้น มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอีกครั้งขวางทางเถี่ยเซียไว้

ครั้งนี้ ก่อนที่เถี่ยเซียจะสามารถหลบได้ อีกหมัดก็มาถึง

แสงหลากสีสันที่ทำให้ขวัญของเถี่ยเซียแทบกระเจิงจากร่างพุ่งออกมาอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ โล่ดำของเขาก็ถูกมันทำลายทันทีทำให้เถี่ยเซียรู้สึกขวัญกระเจิงและสิ้นหวัง สายใยกฎพลังทั้งหมดไม่ใช่ระดับสูง และมีเพียงหนึ่งในนั้นหรือสองสามสายใยยังไม่สามารถคุกคามโล่ราตรีของเขาได้

แต่นี่มีเกินกว่าร้อยสายใย!

‘เกิน กว่า ร้อย!’

เถี่ยเซียรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะบ้า เขาไม่เคยพบใครที่สามารถสร้างสายใยกฎธรรมชาติได้ถึงร้อยสายในคราวเดียวกัน!

และที่สำคัญยิ่งกว่า ไม่มีสายใยใดที่ซ้ำกันเลย!

ไม่! มีอยู่หนึ่ง! ที่เหมือนกัน!

สายใยกฎธรรมชาติแตกต่างกันเกินร้อยรูปแบบกัดกร่อนพร้อมกันใครจะป้องกันเจ้านั่นได้?  ใครจะทำได้! มดมากมายยังล้มช้างได้ ทหารมากมายย่อมผลักดันและฆ่าขุนพลได้กลุ่มก้อนของทหารสามารถผลักดันและฆ่าขุนพลได้ มันเป็นความโง่เขาที่เอาแต่ใจตน  ไม่มีทักษะจะพัฒนา ไม่มีกลยุทธไม่มีความร่วมมือ ไม่มีเหตุผลและไม่มีความยุติธรรม

‘เขา..เขาควรจะเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของทั่วทั้งแดนบาป!  นี่จะเป็นไปตามบรรทัดฐาน

‘หนี หนี หนี!’

โล่ราตรีปรากฏขึ้นอีกครั้งฝืนป้องกันการโจมตีและทำให้เขารู้สึกหวานวูบในลำคออีกครั้ง เถี่ยเซียไม่ใจในอย่างอื่นและกระอักโลหิตขณะที่บิดตัวในลักษณะประหลาดพยายามหลบหนีและเปลี่ยนเป็นหมอกเลือดพุ่งขึ้นอากาศ

ถังเทียนประหลาดใจ ศัตรูจอมโกงอย่างแท้จริง เห็นได้ชัดว่าโดนเขาทุบตีจนอยู่ในสภาพย่ำแย่  แต่ยังสามารถหลบหนีพ้นวิกฤติได้

ถังเทียนไม่ค่อยพอใจ

‘ถ้าข้าจำเป็นต้องทุ่มความสามารถมากมายสู้กับหัวขโมยคนหนึ่ง  แล้วข้าจะสู้กับเบนสันได้ยังไง?  ข้าควรใช้ท่าเดียวเพื่อรับมือขโมย’ แม้ว่าขโมยที่อยู่ต่อหน้าเขาจะแข็งแกร่งมากกว่าผิงเสี่ยวซาน  แต่สำหรับถังเทียนคนที่เลือกใช้ชีวิตขโมยจะเป็นคนโดดเด่นได้ยังไง?

ฮึ่ม!

ถังเทียนผู้รู้สึกไม่สบายใจเอาจริงทันที  เขามองดูเถี่ยเซียที่พุ่งไปที่หน้าต่าง  แต่ไม่มีความตั้งใจจะไล่ตามเขา

เขาก้าวเท้าซ้ายออกไปครึ่งก้าวย่อเอวต่ำและเหยียดมือซ้ายออกไปข้างหน้า นิ้วมือขวารวบแน่น เหมือนกับว่ากำลังเหนี่ยวธนู เขาค่อยๆ สะสมพลัง

เครื่องหมายวิชาหมัดนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในใจของถังเทียนเหมือนไฟกระพริบซี่.. ซี่...  ซี่... แม้แต่สายใยกฎธรรมชาติมากมายก็รวมอยู่ในหมัดขวาของถังเทียน

ด้วยท่าย่อตัวต่ำในท่านั่งม้า  พลังในหมัดของเขาเต็มเปี่ยม

บรรยากาศในคลังสินค้าหนาแน่นสุดขีด

เมื่อเห็นว่าหน้าต่างอยู่ห่างจากเขาสองเมตร เถี่ยเซียดีใจตราบใดที่เขาออกไปได้ เขาจะมีวิธีการหลบหนีเป็นพัน  ทันใดนั้นร่างกายของเขาเฉื่อยชาลง  เขาสีหน้าเปลี่ยนการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในบรรยากาศรอบตัวเขาทำให้เขารู้สึกกังวล ความหนาแน่นถึงระดับใหม่อากาศรอบตัวเขาเหมือนกับกาวเหนียว

แรงดึงดูดที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างเพิ่มขึ้นเหมือนกับมีพายุหมุนดึงดูดอยู่ด้านหลังของเขา

เถี่ยเซียผู้ใช้ชีวิตบนขอบเหวชีวิตมานับปีไม่ถ้วนมีความรู้สึกแหลมคมต่ออันตรายเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย

ในขณะนั้นนั่นเอง เขาตัดสินใจเรียบร้อย

เขาใช้พลังโลหิตที่ยังเหลือในตัวพลิกร่างของเขาและเขาเป็นเหมือนขนมปังแผ่นเหยียดแขนขาทั้งหมดแนบพื้น เขาซบหน้าลงกับพื้น

“ข้าน้อยขอยอมแพ้!”

ผิงเสี่ยวซานกลับมาที่ร้านเหล้าในโรงแรมกำลังดื่มเหล้า  สายตาของเขาเหลือบมองไปรอบๆ  เขาจำได้ถึงภารกิจของเขา แต่ไม่ง่ายเลยในการหาตำแหน่งของนักโทษจากตระกูลต่างๆ

นอกจากนี้ การกระทำที่สร้างความแตกตื่นของเจ้านายของเขาเมื่อสองวันที่ผ่านมาทำให้ตระกูลมัวร์โกรธแค้นและคุกคามตระกูลอื่นทั้งหมดในฐานะศัตรู การไล่ถามข้อมูลที่อ่อนไหวจะดึงดูดความสนใจของตระกูลอื่นได้  ผิงเสี่ยวซานรู้ความสามารถของตนเองดี ตระกูลยิ่งใหญ่เหล่านี้แค่ยื่นนิ้วออกมาก็สามารถบดขยี้เขาได้เหมือนมด  ดังนั้นการหาเรื่องลำบากให้ตัวเองจะนำความตายมาสู่เขาได้ง่ายๆ

นั่นคือเหตุผลให้ผิงเสี่ยวซานระมัดระวังสุดขีด

เขาไม่มีทางเลือก ต้องระมัดระวังอย่างหนัก

ขณะนั้นเสียงพูดคุยที่โต๊ะใกล้เคียงดึงดูดความสนใจของเขา

‘ตระกูลหลูแห่งเมืองม้าบิน?  บ้านตระกูลเซวีย?’

เมื่อคิดเรื่อที่เจ้านายหน้ากากผียังคงอยู่ในบ้านตระกูลเซวีย  เขาหูผึ่งทันที

“ครั้งนี้ผู้นำเจรจาพูดคุยก็คือหลูหลิงหนาน,  เป็นผู้เยาว์ที่มีชื่อเสียงที่รู้จักดีในตระกูลหลูรุ่นปัจจุบัน ตระกูลหลูแห่งเมืองม้าบินคือตระกูลที่แข็งแกร่งมากกว่าตระกูลฉินหลูหลิงหนานพยายามอย่างหนักจริงๆ จนสามารถรับเถี่ยเซียเข้ามาทำงานได้!”

“เถี่ยเซีย? ตายจริง! นี่เจ้ากำลังพูดถึง คนโฉดชั้นสองเถี่ยเซีย!”

‘คนโฉดชั้นสอง!  คำพูดนี้ทำให้แก้วเหล้าในมือของผิงเสี่ยวซานถึงกับสั่น

“เป็นเขา คนโฉดชั้นสองเขาเป็นคนน่ากลัวอย่างแท้จริง เมื่อเขาได้ร่วมเข้าทำงาน เขาจะต้องเป็นนักสู้ที่น่ากลัวแน่นอน  เขาไม่มีชื่อเสียงมาก่อนจะอายุสามสิบปี  หลังจากนั้นเขาได้รับตกทอดวิชากระแสราตรีและพลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก จำได้ว่าวิชากระแสราตรีเป็นวิชาของจั่วซือถูคนโฉดชั้นหนึ่ง!  เทียบกับกฎราตรีเหมาะกับนักฆ่าในยามราตรีและในเงามืดไม่มีใครรู้ว่าผู้ยิ่งใหญ่กี่คนแล้วที่ต้องตายในเงื้อมมือของเถี่ยเซีย...”

เมื่อได้ยินเรื่องกระแสราตรีมือของผิงเสี่ยวซานสั่นอีกครั้ง

เขาเคยได้ยินชื่อที่น่ากลัวของจั่วซือถูมาก่อน จะมีสมาชิกของผู้อื้อฉาวชั้นหนึ่งเพียงสิบสองคน  และทุกคนคือเสาหลักของโลกใต้ดิน สำหรับเถี่ยเซียเพียงแต่ได้รับตกทอดจากจั่วซือถูอย่างนั้นบ้านตระกูลเซวียตกอยู่ในความลำบากเสียแล้ว

*********************

“นี่คือกระแสราตรีหรือ?” ถังเทียนจ้องมองเถี่ยเซียผู้ถูกมัดจนดูเหมือนลูกซาลาเปาด้วยอารมณ์ไม่พอใจ  หน้าของเขาเต็มไปด้วยความผิดหวัง

เป็นการเปลืองทรัพยากรใช้ไหมทองมัดคนๆ หนึ่งแต่ก็น่าเชื่อถือแน่นอน

เถี่ยเซียพยักหน้าทันที เขาอ่อนน้อมเหมือนกับแพะเชื่อง เขาไม่มีความคิดจะหลบหนีอีกต่อไป เมื่อหานปิงหนิงปรากฏตัวจากเงามืด เขายิ่งตกใจหนักขึ้น  เขาจำข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองจื่อจวนทันทีบุรุษหน้ากากผีผู้ใช้ธงโลหิตชิงตัวสุภาพสตรีจากหน่วยสุญญตามาจากหน้าดำเบนสัน  ก่อนจะจากไป สตรีผู้นั้นใช้สำนึกกระบี่

หน้ากากผี!

บุรุษหนุ่มข้างหน้าเขาก็คือบุรุษหน้ากากผีแห่งหน่วยสุญญตา!

นางงามน้ำแข็งที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาก็คือสุภาพสตรีที่บุรุษหน้ากากผีช่วยไป  เถี่ยเซียจำชื่อนางได้ทันที  หานปิงหนิงแห่งหน่วยสุญญตา

เมื่อเขาเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริง  เขาเกือบร้องไห้

‘ตระกูลเซวียไม่มียอดฝีมือ?’

‘ใครก็ตามที่ให้ข้อมูลควรถูกสับให้เป็นชิ้นๆ! พวกเขามีคนที่สามารถชิงตัวคนจากเงื้อมมือเบนสันได้  ข้าเข้ามาตกอยู่ในเงื้อมมือคนผู้นั้นอย่างโง่ๆ บ้าจริงๆนี่มันไม่ยุติธรรมเลย’

คนฉลาดยอมรับสถานการณ์ คนจะมีความมั่งคั่งเพียงไหน ก็ขึ้นอยู่กับจะใช้ความมั่งคั่งยังไง  แต่พลังอำนาจจะไม่มีทางผิดพลาด

เถี่ยเซียปรับสภาพใจให้ถูก  เขาซื่อสัตย์และว่าง่ายขึ้นมาทันทีแม้ว่าถังเทียนจะมัดเขาหนาแน่นยังไงก็ตาม เขาเลิกใช้วิชากระแสราตรี  เถี่ยเซียไม่ลังใจ  ชีวิตของเขาอยู่ในเงื้อมมือคนอื่น  ถ้ามัวแต่เล่นลูกไม้ก็เท่ากับรนหาที่ตาย

ครั้งล่าสุดถังเทียนได้ประโยชน์จากผิงเสี่ยวซาน  ดังนั้นเขาตัดสินใจใช้วิธีเดิมกับเถี่ยเซีย  แต่หลังจากทำความเข้าใจวิชากระแสราตรีแล้ว  เขารู้ว่าไม่ใช่กฎธรรมชาติราตรีไม่เด่นชัด  แต่พลังของมันความจริงแข็งแกร่งกว่าวิชาพรางตัวของผิงเสี่ยวซาน  แต่สำหรับเขา มันมีข้อจำกัดหลายอย่างเกินไป วิชาอำพรางตระกูลผิงเป็นวิชาที่แตกแขนงมาจากกฎธรรมชาติอวกาศ  ดังนั้นจึงมีศักยภาพมากว่าและครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางและลึกกว่า

ตัวอย่างเช่นถังเทียนสามารถสร้างวิชาเพื่อพัฒนากฎจากการปรับแต่งวิชาอำพรางตระกูลผิงได้  ดังนั้นพลังของมันจะทรงพลังมาก และขณะที่เขารู้แจ้งและเข้าใจกฎธรรมชาติอวกาศมากความก้าวหน้าเกี่ยวกับพื้นที่อวกาศก็สูงล้ำมาก

นั่นคือเหตุผลที่ถังเทียนไม่มีความสนใจในวิชากระแสราตรี

ปกติหันปิงหนิงก็ไม่สนใจอยู่แล้ว

เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่สบายใจของถังเทียน  เขาใจตก เขาพูดขึ้นทันที  “นายท่านตระกูลหลูจะไม่ปล่อยเรื่องไว้อย่างนี้แน่นอน เราต้องเตรียมการ นับแต่นี้ผู้น้อยจะขอติดตามรับใช้นายท่าน ตราบใดนายท่านออกคำสั่งต่อให้ลุยไฟ ลำบากแค่ไหน..”

“ตระกูลหลู?” ถังเทียนสับสน แต่หลังจากได้ยินคำพูด ‘ยากลำบาก’ตาถังเทียนเป็นประกาย เขาตบไหล่เถี่ยเซียและพูดดังๆ “ดี!”

เถี่ยเซียสั่น เขายิ้มอย่างภักดีทันที

จากนั้นถังเทียนดึงเถี่ยเซียไปที่กองหินเหล็กดำแก้ไหมทองบนตัวออกแล้วสั่ง “มั่นใจได้ว่าเจ้าจะทุบหินกองนี้ได้หมด ทำให้ดีล่ะ”

เถี่ยเซียตะลึง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด