ตอนที่ 709 แก่นต้นกำเนิดชีวิต
กรวดเหล็กทองเป็นชิ้นกลมขนาดเท่ากรวดในแม่น้ำนอนสงบอยู่ในถุงถักมันมีสีทองเข้มทำให้ดูมีลักษณะธรรมดา ถังเทียนหยิบขึ้นมาดูอย่างระมัดระวังและใช้นิ้วลูบคลำดูเนื้อของมันมีความแข็งมาก แข็งยิ่งกว่าหินเหล็กดำ
แววสนใจเพิ่มขึ้นทันที
โดยปกติวัตถุที่แข็งทุกอย่างจะหนัก แต่กรวดเหล็กทองจะเบาเหมือนขนนก เขายกกรวดเหล็กทองขึ้นมาพินิจพิเคราะห์ใกล้ๆ ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นตัวกรวดเหล็กทองความจริงจะโปร่งใส แต่ภายในนั้นจะเป็นวังวนสีเทาเล็กมาก จึงทำให้มันดูเป็นสีเทาสิ่งที่ทำให้ถังเทียนรู้สึกตกใจมากขึ้นก็คือวังวนสีเทาบางนั้นหมุนอย่างช้ามาก
‘น่าสนใจ’
ถังเทียนเดาว่าลักษณะเฉพาะของกรวดเหล็กทองเป็นเพราะวังวนเทาบางนั้น เขาไม่เข้าใจถึงประโยชน์ของวังวนนั้น แต่ในฐานะของผู้ยิ่งใหญ่ผู้เคยเห็นรูปแบบสมบัติที่มีค่ามาก่อน เขาสามารถบอกได้ว่ากรวดเหล็กทองไม่ใช่วัตถุธรรมดา
“อย่างนั้นข้าจะรับไว้”
ถังเทียนเก็บกรวดเหล็กทองไว้ในถุงถักตามปกติ
เสี่ยวเหยาลอบถอนหายใจโล่งอก นางไม่แน่ใจจะรับมือถังเทียนยังไง ท่าทางของเขาในการกระทำหลายอย่างมักจะเกินคาดเสมอ เขาเป็นคนที่ยากจะเข้าใจได้ ดังนั้นเสี่ยวเหยาไม่กล้าประกันว่านางจะทำงานให้สำเร็จ
หลังจากทำงานสำเร็จนางสามารถกลับไปรายงานให้หมิงจูได้ และนางไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น ไม่ว่าถังเทียนจะสามารถทำสำเร็จได้หรือไม่ จะได้รับรางวัลหรือถูกลงโทษ และการตัดสินใจของหมิงจูนั้น
“อย่างนั้นข้าจะออกไปก่อน อีกสามวันจะมีคนมารวบรวมอาหารของหนอนไหม” เสี่ยวเหยายิ้มให้ถังเทียน
“ได้ ได้ ได้เลย” ถังทียนหมกมุ่นสนใจอยู่กับกรวดเหล็กทองไม่สนใจจะตอบตามมารยาทเสียแล้ว
หลังจากเสี่ยวเหยาพาคนจากไป ถังเทียนเอากรวดเหล็กทองออกมาและเริ่มตรวจสอบดูอีกครั้ง
ครั้งนี้ถังเทียนพินิจพิเคราะห์มากกว่าเดิมภายในกรวดโปร่งแสงวังวนสีเทาหมุนในอัตราที่ช้ามากและมีการกระพริบแสงสีเงินอย่างต่อเนื่อง
‘การค้นดูว่าวังวนสีเทาภายในคืออะไรกันแน่วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือทำลายและเปิดมันออกมา!
โดยไม่มีการพูดสักคมถังเทียนใช้พลังเรี่ยวแรงทั้งหมดของเขา กล้ามเนื้อทั้งหมดทุ่มกำลังทั้งหมดลงไปที่นิ้วทั้งสองและบีบกรวดเหล็กทอง แต่ไม่ว่าถังเทียนจะทำยังไง ก็ไม่มีบุบมียุบเลย
ถังเทียนตกใจ พลังในปัจจุบันของเขาทรงพลังมากเทียบกับครั้งก่อนก็เพิ่มมากขึ้นสองสามเท่า แม้ว่าจะเป็นสมบัติดวงดาวระดับเงินจากสวรรค์วิถีก็แตกทำลายในเงื้อมมือเขาได้
แต่แม้จะใช้พลังทั้งหมดของเขา เขายังไม่สามารถทำอะไรกับกรวดเหล็กทองชิ้นเล็กๆนี้ได้
ถังเทียนไม่ยอมเชื่อ เขาลองใช้หลากหลายวิธี แต่เขาไม่สามารถสร้างรอยในกรวดเหล็กทองชิ้นน้อยนี้ได้
‘ข้าจะเปิดมันได้ยังไง?’
ทันใดนั้นถังเทียนตระหนักว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้
ทันใดนั้นใจของเขาสั่นสะท้าน เขามีความคิดบางอย่าง กฎธรรมชาติ!
เขาคิดถึงกฎธรรมชาติอวกาศได้ทันที กฎที่ได้รับมาจากวิชาอำพรางของตระกูลผิงเป็นแค่หนึ่งในหลายแขนงของกฎธรรมชาติอวกาศ แต่กฎเหล่านั้นยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามกฎธรรมชาติใหญ่ แม้ว่าจะเป็นแค่แขนงหนึ่งแต่ก็มีพลังที่ไม่ธรรมดา
สำหรับถังเทียนแล้วด้านที่แข็งแกร่งที่สุดของวิชาพรางตัวตระกูลผิงก็คือความสามารถในการผ่ามิติ ในสวรรค์วิถีมีเพียงคนเดียวที่ถังเทียนเห็นว่าสามารถประสบความสำเร็จบ้างก็คือเสี่ยวเอ้อเมื่อเขาตอนที่เขาเรียกกระบี่เซียนปราบสมุทร
การผ่ามิติเป็นคุณลักษณะที่ทรงประสิทธิภาพมาก
ถังเทียนไม่ได้ทดสอบทันที แต่นั่งลงและเริ่มแผน
เวลาผ่านไปช้าๆ ทันใดนั้น ถังเทียนที่นั่งแข็งเป็นรูปปั้นก็เคลื่อนไหว
พลังของร่างกายหยาบเขาเริ่มขยับสายพลังกฎธรรมชาติประหลาดสายหนึ่งงอกออกมาตามเล็บของเขาอย่างรวดเร็ว ในพริบตาก็ยาวเกิน 30เซนติเมตรและเริ่มโบกพลิ้วในอากาศ
ร่างของเขาพลันพร่าเลือนทันที ดวงตาหมองคล้ายกับภาพสะท้อนดวงดาวในผิวน้ำ รังสีเป็นระลอกเลือนราง
สายใยกฎธรรมชาตินี้ไม่มีความหมายแม้แต่น้อย เป็นสายใยกฎธรรมชาติของวิชาอำพรางของตระกูลผิง หนึ่งในสายใยกฎอวกาศ ภายในมิติพร่าเลือน ตาของถังเทียนเปล่งแสง ใจของเขาผสานเข้ากับสายใยกฎนั้น
ถังเทียนมีความชื่นชมบรรพบุรุษตระกูลผิงคุณภาพของสายใยกฎธรรมชาติไม่นับว่าต่ำทราม และรัศมีของมันอ่อนมาก ถ้าไม่ใช่เพราะมันไหลออกมาจากนิ้วของถังเทียน เขาคงไม่สามารถรู้สึกถึงมันได้ แม้จนบัดนี้ ขณะที่ยังคงเต้นอยู่บนปลายนิ้วของถังเทียน เขาก็ยังรู้สึกถึงมันได้อย่างยาก ความรู้สึกเดียวที่มีก็คือ มันมีความรู้สึกที่เลือนรางมากและอีกอย่างหนึ่งสายใยกฎนั้นสามารถเคลื่อนไหวผ่านมิติอวกาศ ปลายด้านหนึ่งของมันติดตรึงกับปลายนิ้วของถังเทียน ขณะที่อีกด้านหนึ่งดูเหมือนจะกระพริบริบหรี่เดี๋ยวโผล่เดี๋ยวหาย คิดว่ามันกำลังแหวกว่ายในอากาศด้วยลักษณะแปลกจึงทำให้จับความรู้สึกได้ยากมาก
แต่น่าเสียดาย แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจสายใยกฎที่ทรงพลัง แต่พวกเขาเลือกเส้นทางผิด และไม่ได้ขยายศักยภาพของสายใยกฎธรรมชาติอย่างจริงจัง
ความเสียดายนี้วาดผ่านเข้ามาในใจของถังเทียนช่วงสั้นๆ
ถังเทียนสามารถรู้สึกได้ชัดและเห็นสายใยกฎธรรมชาติไม่คำนึงว่ามันจะหายไปหรือปรากฏก็ตาม มันมีสีดำเป็นหมึกและบางกว่าเส้นผมปรากฏอยู่ในอากาศ เมื่อมันปรากฏออกมาจะสร้างระลอกเลือนรางโดยมีมันเป็นศูนย์กลางสะท้อนออกไปข้างหน้า
ระลอกพลังนี้ทำให้ถังเทียนรู้สึกใจเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ได้ เขาสามารถรู้สึกได้ชัดถึงอากาศรอบตัวเขาเป็นระลอก
พื้นที่ไม่เสถียรคือระเบิดที่น่ากลัวที่สุด ความรู้สึกถึงอันตรายรุนแรงทำให้ผมขนในตัวถังเทียนลุกชูชัน
‘เอ่..วิธีนี้ไม่ถึงกับแย่แม้แต่น้อย!’
ถังเทียนตื่นเต้น แต่เขาไม่กล้าทดสอบ หานปิงหนิงยังคงหมกมุ่นอยู่กับการทำสมาธิในความมืด ถ้าเขาทำให้นางตกใจ อาจเป็นเรื่องน่ากลัว นอกจากนี้ ถังเทียนไม่แน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้ามิติระเบิดขึ้น
ถังเทียนลอบจำความคิดนี้ไว้หาโอกาสทดสอบในอนาคต
‘แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือทำลายกรวดเหล็กทองให้ได้’
กรวดเหล็กทองก้อนหนึ่งลอยอยู่ต่อหน้าเขา ถังเทียนเพ่งมองใช้ความระมัดระวังเต็มที่ควบคุมสายใยกฎธรรมชาติ กฎธรรมชาติที่ดำสนิทกลายเป็นตรงเหมือนกับใบมีดมันตัดกรวดเหล็กทองได้
เปลือกใสชั้นนอกแตกออกโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมาก
สายใยกฎสีดำตัดผ่านเปลือกชั้นผ่านเข้าวังสีเทา
ปัง!
ถังเทียนรู้สึกแต่เพียงว่ามีสายฟ้าผ่าอยู่ในใจ ร่างของเขาสั่นสะท้านพลังที่รุนแรงทะลักผ่านร่างของเขาเหมือนกับเขาถูกตี พลังงานนั่นกระจัดกระจายอยู่ภายในทำให้ถังเทียนร้องครางและเลือดหยดออกมาจากมุมปาก
ถังเทียนไม่ให้ความสนใจเรื่องเลือด เขาเพ่งมองข้างหน้าเขาอย่างหนัก
สายใยกฎธรรมชาติสลายไปทีละนิ้วๆและหายไปขณะที่วังวนสีเทากลายรูปเป็นหมอกบาง ภายในหมอกจะมีแสงสีเงินกระพริบต่อเนื่อง เหมือนกับมีดาวเงินนับไม่ถ้วนส่งเสียงกระหึ่มอยู่ในหมอก แต่หลังจากนั้นดาวเงินในหมอกก็สว่างมากขึ้นทุกคน และในเวลาอันรวดเร็วหมอกทั้งหมดก็กลายสภาพเป็นสีเงิน
หมอกเงินมีความหนาแน่นและงดงามแต่การเปลี่ยนแปลงของมันยังไม่ถึงที่สุด ขณะที่แสงสีทองเริ่มฉายอยู่ในหมอกสีเงิน ไม่นานต่อมาแสงสีทองเริ่มกระพริบอยู่ในหมอกสีเงิน เหมือนมีกรวดทองกระพริบอยู่ในหมอกนั้น
การเปลี่ยนแปลงนี้ไวและงดงาม มันคืองานฉลองต่อหน้าต่อตาถังเทียน
ดาวทองกับหมอกเงินลอยหมุนเป็นเกลียวในในอากาศเหมือนเหมือนดาวกับแม่น้ำ
หมอกปล่อยรัศมีแปลกประหลาดและความรู้สึกอิ่มเอมใจที่อธิบายไม่ได้ทะลักออกมาจากร่างของถังเทียน ถังเทียนตกใจ เหมือนกับว่ากล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายของเขากำลังร้องด้วยความยินดี
เป็นครั้งแรกของถังเทียนที่เห็นสิ่งเหล่านี้กับตา
‘นี่คือ...’
ใจของถังเทียนมีประกายความคิดอย่างหนึ่งและมีความรู้สึกยินดีปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา
‘กลิ่นอายแบบนี้คือพลังที่บริสุทธิ์!’
‘นี่คือแก่นต้นกำเนิดชีวิต!’
ปากของถังเทียนอ้าค้าง เขาจ้องมองภาพข้างหน้าเขาราวกับคนโง่
พลังกายของถังเทียนติดขัดเป็นคอขวดในการพัฒนาแล้ว วังวนพายุกระบี่ที่ทรงพลังได้ปรับแต่งขัดเกลาร่างกายของเขาจนอยู่ในระดับสูง และร่างพลังกายเป็นศูนย์ของเขาก็ทรงพลังในตัวเองมากอยู่แล้ว หลังจากสู้กับเบนสัน ความเหน็ดเหนื่อยหมดพลังกายสิ้นเชิงเป็นผลให้เขาใช้กฎปรับขัดเกลาร่างของเขา และร่างของเขาถูกขัดเกลาจนอยู่ในระดับที่คาดไม่ถึง
แค่ระดับความแข็งแกร่งของร่างกายที่เด็ดขาดของเขา แม้แต่เซียนพลังสายเลือดที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่สามารถเทียบกับเขาได้
ในแง่ของการฝึกฝนถังเทียนกำลังลำบากในการทำให้ก้าวหน้า ดังนั้นเขาทุ่มความสนใจทั้งหมดให้กับกฎธรรมชาติ เมื่อความเข้าใจในเรื่องกฎของเขาเข้าถึงระดับที่ลึกซึ้ง จะทำให้ความแข็งแกร่งของเขาพัฒนาขึ้น
แต่แก่นต้นกำเนิดชีวิตที่อยู่ต่อหน้าเขาทำให้ถังเทียนมองเห็นแสงใหม่ แก่นต้นกำเนิดแห่งชีวิตเป็นสารอาหารเข้มข้นของสิ่งมีชีวิตจะช่วยเพิ่มพลังให้กับร่างกาย
พลังชีวิตคือสิ่งที่ไม่สามารถเห็นได้แต่มีคงอยู่จริงๆ ในทุกชีวิตองค์ประกอบของร่างกายจะมีความมั่นคงอยู่ได้ยาวนาน ทั้งหมดนี้ต้องบอกว่าช่วยปรับแต่งร่ากายเอาสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย ทำให้สภาพร่างกายของคนผู้นั้นแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ไม่สามารถเพื่อยกระดับพลังชีวิตได้
เนื่องจากร่างกายของถังเทียนเหมือนกับเป็นตัวอย่างพลังกล้ามเนื้อของเขาแข็งแกร่งกว่าเหล็กกล้า กระดูกของเขาเทียบได้กับสมบัติดวงดาว แม้แต่ความสามารถในการสร้างเลือดของเขาออกมาจากไขกระดูกก็ทำได้ ความสามารถของการดึงดูดกล้ามเนื้อให้มากขึ้นของเขาแข็งแกร่งกว่าพวกเซียนมาก แต่การปรับขัดเกลาร่างกายอย่างนั้นไม่ใช่ว่าไม่ไร้ขีดจำกัด ร่างกายของเขาในปัจจุบันปรับขัดเกลาจนแทบจะสมบูรณ์แล้ว และทำให้ยากจะก้าวหน้าได้และนั่นเป็นสิ่งที่กำหนดไว้ตั้งแต่เขาเกิด มาถึงขั้นนี้เมื่อต้องการความก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก เขาทำได้แต่เพียงอาศัยแก่นต้นกำเนิดชีวิต
หมอกดำที่อยู่ภายในกรวดเหล็กดำคือแก่นต้นกำเนิดชีวิตจริงๆ
เมื่อทำลายเปิดกรวดเหล็กทองกระบวนการทั้งหมดของหมอกเทาเปลี่ยนไปเหมือนนกฟีนิกซ์ที่ผ่านเพลิงอมตะ มันสวยและงดงามเต็มไปด้วยชีพจรของชีวิต
แม้ว่าเส้นของแก่นต้นกำเนิดชีวิตจะอ่อน แต่ค่าของมันยากจะเปรียบปาน ถังเทียนที่ก่อนนั้นให้ความสนใจกับกฎธรรมชาติเพราะเทียบกับการรู้แจ้งกฎ การเพิ่มพลังชีวิตเหมือนกับจะเป็นไปไม่ได้
แก่นต้นกำเนิดชีวิตจะช่วยให้ถังเทียนก้าวหน้ามากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด ร่างของถังเทียนปรับขัดเกลาจนเกือบจะสมบูรณ์แล้วไม่มีพลังงานสกปรก และเขาสามารถดูดซับพลังชีวิตได้เป็นอย่างดี
หลังจากฟื้นความรู้สึกแล้วเขาเอื้อมมือไปหาแก่นต้นกำเนิดชีวิตโดยไม่พูดอะไร
ซี่...
กระแสอบอุ่นสายหนึ่งเข้าไปในร่างของถังเทียนซึ่งเหมือนกับแม่น้ำแห้งผากภายใต้ฝนหยดหนึ่งก็ดูดและซึมซับฝนไว้ทั้งหมด
ถังเทียนหลับตาและสังเกตความเปลี่ยนแปลงในร่างกายอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาลืมตาต้องการจะทำต่อไปสายแก่นต้นกำเนิดชีวิตเป็นของดีอย่างแน่นอน แต่มีน้อยเกินไปไม่สามารถจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงสำคัญสำหรับร่างกายเขา
เมื่อคิดถึงเรื่องกรวดเหล็กทองในถุง ถังเทียนตื่นเต้นทันที
เขาไม่พูดอะไรตั้งใจจะทำซ้ำอีกครั้ง แต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือเขาไม่สามารถเรียกสายใยกฎธรรมชาติให้ปรากฏออกมาได้อีก!
ถังเทียนตกใจตัว แต่ก็พบเหตุผลได้โดยเร็ว เขาฝืนยิ้ม การใช้สายใยกฎธรรมชาติตัดก่อนนั้นกินพลังงานในร่างกายเขาไปหมด และพลังงานที่เหลือไม่สามารถทำให้เขาเรียกสายใยกฎธรรมชาติออกมาได้
เส้นแก่นต้นกำเนิดชีวิตสามารถหล่อเลี้ยงร่างกายเขาได้ แต่ไม่สามารถช่วยให้เขาฟื้นฟูความเหนื่อยล้า
เมื่อคิดถึงแก่นต้นกำเนิดชีวิตทั้งหมดที่เขาไม่สามารถดูดซับได้หมดทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
ถังเทียนรู้สึกเสียใจจึงหันไปที่กองหินเหล็กดำแทน
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลายเป็นฝืนทนยิ่งขึ้น