ตอนที่ 48 หมู่บ้านฝั่งตรงข้าม
ตอนที่ 48 หมู่บ้านฝั่งตรงข้าม
ทั้งสามนั้นไม่ได้สวมเสื้อกันฝน เพราะเสื้อกันฝนที่พวกเขามีก่อนหน้านั้นได้ขาดเสียหายไปจนหมดแล้ว แต่ว่าพวกเขานั้นเป็นผู้ใช้วงแหวน ดังนั้นฝนที่ตกลงมานี้จึงไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้พวกเขา
พวกเขาวิ่งฝ่าสายฝนไปตรง ๆ เนื่องจากฝนที่ตกลงมาได้กลายเป็นม่านอำพรางตัวให้พวกเขาเป็นอย่างดี เพราะมันทำให้ผู้ติดเชื้อไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า หรือได้กินและแม้แต่การมองในฝนที่ตกลงมาก็ยังยากมาก โดยเฉพาะกับผู้ติดเชื้อที่สายตาไม่ดีอยู่แล้ว
เรนเป็นคนวิ่งนำไปก่อน ตามมาด้วยผู้กองเชนและหลินที่อยู่คนละฝั่งทางด้านหลังของเขา การเคลื่อนไหวของพวกเขารวดเร็วมาก ใช้เวลาไม่นานก็วิ่งไปยังหมู่บ้านฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเข้าไปทางสวนด้านหลังของบ้านที่ใกล้ที่สุด
เมื่อไปถึงเรนก็มองผ่านกระจกบนประตูของบ้านหลังนี้ ด้านในนั้นมีผู้ติดเชื้อชายชราคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้โยก
“มีหนึ่งตัว แต่อาจจะมีอีก ระวังกันด้วย” เรนหันมากล่าวกับทั้งสองคน ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเข้าไป
ผู้กองเชนและหลินนั้นพยักหน้า ในมือของหลินนั้นมีชะแลงเหล็กอยู่ ส่วนผู้กองเชนนั้นเป็นมีดพกของเขา เนื่องจากไม่ต้องการให้ผู้ติดเชื้อในหมู่บ้านตัวอื่น ๆ รู้ตัว พวกเขาจึงใช้อาวุธที่ไม่เกิดเสียงดัง
เรนเดินเข้าไปด้วยเท้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ ทุกก้าวของเขามีน้ำฝนหยดลงมาจากร่างกาย เรนยกมือขึ้นมาพร้อมกับรูนิกคันธนูที่ปรากฏขึ้นมา เขาเล็กไปที่ผู้ติดเชื้อชายชราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้และกำลังยิง
แต่ว่าในตอนนั้นเองเรนก็หันกลับไปทางด้านขวา ซึ่งเป็นห้องครัวก่อนจะยิงออกไปอย่างไม่ลังเล ลูกศรที่สร้างมาจากพลังงานปักเข้าไปที่หัวของผู้ติดเชื้อหญิงชราอีกคน เธอล้มลงตาในทันที
เสียงล้มลงของผู้ติดเชื้อหญิงชราทำให้ผู้ติดเชื้อชายชรารู้ตัว มันหันขวับมา กำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้โยก แต่ก็โดนหลินฟาดเข้าไปที่หัวจนตัวของผู้ติดเชื้อชราล้มลง
ผู้กองเชนกระโจนเข้าไปทางด้านหลัง ก่อนจะใช้มีดพกแทงใส่ที่ท้ายคอไปยังก้านสมองด้านหลัง ทำให้ผู้ติดเชื้อชราตาย
เรนเหลือบมองไปที่ศพของผู้ติดเชื้อหญิงชราด้วยแววตาสงบนิ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปเก็บเหรียญทองระบบ 2 เหรียญที่เด้งออกมาจากศพ
ศพของชายชราก็มีเหรียญทองออกมาด้วย 3 เหรียญและหินพลังงานอีกหนึ่ง
“เหรียญหรือหินพลังงาน” ผู้กองเชนถาม
“เหรียญ” หลินกล่าวออกไป ก่อนจะคว้าเอาเหรียญมา ส่วนผู้กองเชนก็เก็บหินพลังงานไป
การแบ่งที่เกี่ยวข้องกับระบบพวกเขาใช้วิธีการง่าย ๆ ใครฆ่าก็เก็บไป ใครช่วยก็แบ่งกัน ถ้าอยากจะได้พลังก็ต้องลงมือด้วยตัวเอง
“แยกกันไปสำรวจ จากที่ดูแล้วในบ้านไม่น่าจะมีตัวอื่น ๆ อยู่อีก” เรนกล่าวกับทั้งสองคน ก่อนจะเดินตรงไปโรงจอดรถ
หลินและผู้กองเชนก็แยกกันไปสำรวจห้องต่าง ๆ
ผู้กองเชนตรงไปที่ห้องนอนของบ้านก็กลับมาพร้อมกับปืนลูกซองกระบอกหนึ่ง ดูแล้วน่าจะเป็นของชายชรา นอกจากนั้นก็มีกระสุนปืนอยู่อีกครึ่งกล่องด้วย
ส่วนหลินนั้นไปที่ห้องครัว เธอเจออาหารกระป๋องอยู่จำนวนหนึ่งและน้ำไม่กี่ขวด
เรนปิดประตูโรงจอดรถของบ้าน และพบกับรถคันเก่า ๆ คันหนึ่ง
‘คงต้องเก็บไว้เป็นตัวเลือก’ เรนคิดในใจ ก่อนจะเดินไปดูของอื่น ๆ สุดท้ายก็ไปจบที่ตู้เก็บของ มันเป็นตู้ที่ใส่พวกเครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งจากที่เห็นคงเป็นของชายชราคนนั้น
เรนพบกับขวานด้ามยาวที่ใช้ผ่าฟื้น เขาหยิบมันขึ้นมาในทันที ขวานเล่มก่อนที่เป็นของธันวานั้นได้พังเสียหายไปตั้งแต่การต่อสู้กับงูยักษ์แล้ว ดังนั้นขวานเล่มนี้จึงมาได้จังหวะพอดี
ขวานในมือของเรนมันน้ำหนักมากพอสมควร แม้ด้ามจับจะเก่า แต่หัวขวานก็ได้รับการดูแลอย่างดี แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในเครื่องมือของเจ้าของบ้าน
นอกจากนั้นเขายังเจอค้อนปอนด์ด้ามยาวอีกหนึ่ง ซึ่งด้านจับของมันก็ยาวกว่าของที่รินดามี นอกจากนั้นเรนก็พบกับกล่องไม้ขีดไปอีกหนึ่งอัน
เขาหยิบของพวกนี้มาด้วย เพราะมันถือว่ามีประโยชน์ หลังจากนั้นก็กลับเข้าไปในบ้าน
“ใช้เจ้านี่ดู” เรนส่งค้อนปอนด์ให้กับผู้กองเชน
ผู้กองเชนที่สะพายปืนอยู่ด้านหลังรับมาและลองเหวี่ยงดู ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ
“มีรถไหม” ผู้กองเชนถาม
“มีแต่ว่าเก่าไปสักหน่อย” เรนพาผู้กองเชนไปดูสภาพรถ
“ลองไปดูคันอื่นก่อนแล้วกัน” ผู้กองเชนกล่าว เขากลัวว่าถ้าเอารถคันนี้ไปแล้วบังเอิญไปชนกับผู้ติดเชื้อเข้ามันคงจะพังในทันที อีกอย่างดูจากที่นั่งแล้วคงนั่งกันไปไม่หมด
เรนหันกลับมาก็เห็นว่าหลินนั้นเอาของจากในครัวใส่ลงไปกระเป๋าเป้หมดแล้วและเดินออกมารวมตัวกับพวกเขาแล้ว เรนก็เสนอว่าให้ไปดูบ้านหลังอื่นกันต่อ
บ้านอีกหลังเป็นบ้านที่ติดกับหลังนี้มีเพียงรั้วไม้สูงครึ่งเอวขวางไว้อยู่เท่านั้น ซึ่งมันไม่เป็นอุปสรรคต่อพวกเขาแม้แต่น้อย
พวกเขายังคงแอบเข้าไปทางหลังบ้าน แต่ในครั้งนี้เรนและพวกกลับไม่เจอกับผู้ติดเชื้ออยู่เลย ในบ้านยังมีร่องรอยของคนที่อยู่อาศัยเมื่อไม่นานมานี้ แถมที่พื้นก็ยังคงมีรอยเลือดที่แห้งอยู่ด้วย
“พวกมันไปไหนกันหมด” ผู้กองเชนถามด้วยความงุนงง
“อาจจะออกไปด้านนอกแล้ว ประตูมันเปิดอยู่” เรนกล่าวก่อนจะเดินไปที่ประตู เขาจับมันดูและพบว่ามีรอยมือเปลี่ยนเลือดติดอยู่ด้วย ซึ่งน่าจะเป็นอย่างที่พวกเขาคิดจริง ๆ
“ไปดูของในบ้านกันเถอะ” ผู้กองเชนพูดขึ้นมาก่อนจะแยกกันไปตรวจสอบ
บ้านหลังนี้ต่างจากบ้านพลังก่อนหน้า เพราะดูจากของในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโปสเตอร์ภาพสาวสวยที่ติดผนังประตู รูปวงร็อก และโดยเฉพาะขวดเบียร์จำนวนมาก คงเดาได้ว่าเจ้าของบ้านเป็นพวกวัยกลางคนลงมา
และสิ่งที่ยืนยันได้ดีคือรูปภาพจำนวนหนึ่งของเจ้าของบ้านที่ดูแล้วเขาคงเป็นนักตกปลา ตาเรนนั้นก็ไปสะดุดเข้ากับรูปที่ถ่ายคู่กับรถยนต์สีดำคันหนึ่ง
เรนไม่รอช้าไปดูที่โรงรถในทันที ทำให้เขาถึงกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างยินดี เขาเจอกับรถออฟโรดสีดำคันใหญ่ที่ของแต่งเต็มคัน ซึ่งมันเหมาะมากที่จะเอามาลุยในสถานการณ์แบบนี้
“พวกเรา เจอของดีแล้ว” เรนเรียกทั้งสองคนให้มาดู
ทั้งสองรีบมาดูของดีที่เรนพูดถึง พอผู้กองเชนเห็นก็เผยรอยยิ้มมุมปากในทันที
“สุดยอดเลย” หลินเองก็รู้สึกดีใจด้วยเช่นกัน เธอเดินไปสำรวจรอบ ๆ รถในทันที
“เจอกุญแจไหม” ผู้กองเชนถาม
“ยัง ผมยังไม่ได้หา” เรนตอบไป
“น่าจะอยู่ในบ้านนี่แหละ ช่วยกันหาเถอะ” ผู้กองเชนพูด ก่อนจะรีบเดินไปหากุญแจเริ่มจากผู้เก็บกุญแจก่อน แต่พวกเขาลองหากันแล้วกลับพบว่าไม่เจอ
“อาจจะอยู่ในบ้าน”
ทั้งสามกลับเข้าไปหาในบ้านก็ไม่พบ สุดท้ายจึงมารวมตัวกันที่ลองจอดรถและพากันขมวดคิ้วคิดด้วยสีหน้าหนักใจ
เรนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “บางทีกุญแจอาจจะอยู่กับศพเจ้าของบ้าน”
“แบบนั้นก็แย่ละ ถ้าเจ้าของเป็นผู้ติดเชื้อ ตอนนี้ไม่รู้ว่ามันวิ่งอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้” ผู้กองเชนกล่าวและอดจะมองไปที่รถข้าง ๆ อย่างเสียได้ไม่ได้
“ลองไปดูแถว ๆ นี้ก่อน บางทีอาจจะไปไม่ไกล”
เรนกล่าว ก่อนที่จะพากันเดินออกไปทางประตูหน้าบ้าน พวกเขาได้แต่ภาวนาให้เจอเจ้าของบ้านจะได้เอากุญแจรถมา แต่ว่าพอเดินออกไปหน้าบ้านและเลี้ยวไปทางซ้ายมือเรนก็ต้องรีบยกมือห้ามทุกคนในทันที
ทั้งสองมองเรนด้วยความตกใจ ก่อนจะมองไปที่เท้าของเรน เรนเกือบจะเหยียบขาของใครบางคนที่นอนอยู่ที่บ้าน
ไม่มีใครพูดออกมา พวกเขาพอเดาได้ว่าขานั้นอาจจะเป็นเจ้าของบ้าน แต่ว่าพอมองลงไปนอกจากขาของเจ้าของบ้านคนนั้นแล้วยังมีผู้ติดเชื้อตัวอื่น ๆ อยู่ด้วย
เรนก้าวถอยหลังออกมา ก่อนจะขยับออกไปทางด้านขวาและมองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ผู้กองเชนและหลินเองก็มาข้าง ๆ เรน ก่อนจะมองดูภาพเหตุการณ์สุดแปลกด้วยแววตาที่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้านี้
มีผู้ติดเชื้อนอนอยู่ที่พื้นไม่ต่ำกว่า 30 ตัวนอนซ้อนทับกันอยู่ จากการแต่งตัวของพวกนี้ดูแล้วคงเป็นคนในหมู่บ้าน แต่ผู้ติดเชื้อพวกนี้ไม่ปกติอย่างมาก ทั้งหมดนั้นนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงและตามร่างกายมีรากของไม้ปกคลุมอยู่ ซึ่งรากพวกนี้เหมือนกับกำลังดูดเอาสารอาหารจากร่างของผู้ติดเชื้อไป
โดยรากไม้นี้มาจากต้นไม้ประหลาดที่อยู่ขึ้นอยู่ใจกลางพื้นที่ซึ่งมีศพผู้ติดเชื้อนอนอยู่
ต้นไม้สูงประมาณ 1 เมตร กิ่งก้านและใบของต้นไม้เหมือนกับมีชั้นของผลึกแก้วเคลือบอยู่ด้านนอก และด้านในมีแสงเล็กสีเขียวเกิดขึ้นในทุกครั้งที่เม็ดฝนไปกระทบกับมัน ทำให้ต้นไม้นั้นดูสวยและน่าหลงใหลมากและนอกจากนั้นก็ยังมีผลไม้ที่แปลกไม่แพ้กันอยู่อีกจำนวน 6 ผลด้วย
“เคยเห็นอะไรแบบนี้ไหม” ผู้กองเชนพูดด้วยน้ำเสียงที่เบามาก ๆ
เรนและหลินต่างก็ส่ายหัวในทันที
ตอนนั้นเองหลินมองดูที่ศพผู้ติดเชื้อที่พื้น และพบกับกุญแจรถที่พวกเขาตามหากันอยู่ มันมีห่วงคล้องอยู่กับเข็มขัดของศพชายร่างใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งเป็นชายเจ้าของบ้านแน่นอน เพราะเหมือนกับรู้ในบ้าน
“ได้กุญแจมาแล้ว ไปกันเลยไหม” หลินถามอย่างไม่แน่ใจ เพราะดูจากท่าทีแล้วเรนและผู้กองเชนกำลังสนใจต้นไม้นี้อยู่
“ตรวจสอบต้นไม้นี่ก่อน ฉันรู้สึกว่าถ้าไม่ทำมันจะต้องเสียใจ” เรนกล่าว
“ฉันเห็นด้วยสิ่งนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน” ผู้กองเชนเห็นด้วยกับความคิดของเรน
ในตอนนี้ศพของผู้ติดเชื้อนั้นดูเหมือนจะตายไปแล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ยังไม่ประมาท เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใส่สถานการณ์ที่เคยเห็นมาก่อน