ตอนที่ 20-2 หายนะที่เลี่ยงไม่ได้
อสูรโลหะเดินทางด้วยความเร็วสูง และภายในนั้นมีเสียงหัวเราะเป็นระยะ
“พี่ใหญ่เยล!ไม่ต้องห่วง น้องสามรับปากเจ้าแล้ว โอดินจะต้องตายแน่นอน” จอร์จที่อยู่ใกล้ๆ หัวเราะ ความเกลียดที่เยลมีต่อโอดินฉุดรั้งวิญญาณของเยลไว้ เว้นแต่จนกว่าเขาจะฆ่าโอดินตายจริงๆ เยลคงรู้สึกเหมือนกับหนามทิ่มแทงใจไปทั้งชีวิต
เยลพยักหน้า จากนั้นหัวเราะให้ลินลี่ย์ “ขอโทษด้วยที่ต้องรบกวนน้องสาม”
“จากภูเขาสิ้นหวังไปภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์ยังต้องใช้เวลามาก” ลินลี่ย์พูดพลางหัวเราะ “ในระหว่างทางข้าใช้สำนึกเทพและควบคุมอสูรโลหะให้บินไปที่สำคัญเท่านั้นบางทีระหว่างเราเดินทา ข้าอาจพบกับโอดิน”
พลังจิตของลินลี่ย์ทรงพลังมากกว่าตอนใช้พลังมหาเทพเสียอีก
พันธนาการมิติควบคุมยมโลกยังอ่อนมากกว่าการควบคุมพื้นที่สมรภูมิมหาพิภพมาก ในยมโลกเขาสามารถใช้สำนึกเทพของเขาลินลี่ย์สามารถส่งสำนึกเทพได้ไกลถึงแปดล้านกิโลเมตร! อสูรโลหะที่ลินลี่ย์ควบคุมสามารถบินได้วันละสิบล้านกิโลเมตร ความเร็วระดับนี้ลินลี่ย์ต้องใช้สำนึกเทพตรวจสอบวันละครั้ง
การค้นหาด้วยตัวเอง และตั้งเป็นภารกิจ นี่คือสองวิธีที่ใช้
ถ้าการค้นหาล้มเหลว อย่างนั้นเขาคงจะมอบเป็นภารกิจ ด้วยศักดิ์ศรีและพลังของลินลี่ย์การค้นหาโอดินไม่ใช่เรื่องยาก
“ถ้าเราพบเขาในระหว่างเดินทาง ก็คงจะยอดเยี่ยม” เยลพูดพลางยิ้ม
ลินลี่ย์เมื่อเห็นเยลเป็นเช่นนี้ก็นึกโล่งใจ ในอดีตเยลมักจะเป็นตัวของตัวเอง อิสระและทำตัวง่ายๆ แต่บัดนี้ลินลี่ย์ตระหนักว่าเยลมีความรู้สึกกดดันทางจิตใจมากเพียงไหน ความเกลียดชังพยาบาทได้กลืนจิตวิญญาณของเยล และแม้ว่าเยลต้องการจะผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเองอีกครั้งเขากลับไม่สามารถทำได้
ภายใต้การควบคุมของลินลี่ย์อสูรโลหะบินด้วยความเร็วสูง ในเวลาสามปีก็ตามถึงชายแดนแคว้นนอร์ทบอน
“หลังจากผ่านแคว้นนี้ไปเราจะจะเข้าใกล้ภูเขาภูตศักดิ์สิทธิ์” จอร์จหัวเราะ
บีบีพึมพำ “แคว้นนอร์ทบอนเป็นภูมิภาคที่อยู่เหนือสุดของยมโลก เรายังหาโอดินไม่พบ ดูเหมือนว่าพี่ใหญ่คงต้องไปปราสาทภูตเพื่อมอบภารกิจเสียแล้ว ฮึ่ม.. เราแค่ปล่อยให้โอดินได้มีชีวิตยืนยาวขึ้นอีกเล็กน้อย”
ลินลี่ย์เห็นว่าตอนนี้เยลมีสีหน้าบูดบึ้ง
“ผลกระทบของการกระทำของโอดินที่มีต่อเยลนั้นรุนแรง” ลินลี่ย์ลอบถอนหายใจ
ลินลี่ย์เข้าใจได้ทั้งหมด ถ้าเมื่อลินลี่ย์เป็นเซียน เทพชั้นสูงสามารถควบคุมเขาให้ฆ่าภรรยา ฆ่าลูกฆ่าพี่น้อง ฆ่าสหาย... จากนั้นทรมานเขาจนตายล่ะ? เป็นไปได้ว่าลินลี่ย์คงจะเป็นบ้าต้องการล้างแค้น! เขาคงยอมตายถ้าไม่ได้ล้างแค้น
ลินลี่ย์ตบไหล่ของเยล “ไม่ต้องห่วง เขาจะไม่มีทางหนีพ้นแน่”
“ใช่แล้ว” เยลฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไร ข้ารอได้ อย่างน้อยตอนนี้ข้าก็ยังมีโอกาสแก้แค้น”
ทุ่งหญ้านอกเมืองไฮด์ แคว้นนอร์ทบอน ยมโลก
มีทหารหลายคนประจำการอยู่ที่นี่และมีปราสาทอยู่ค่อนข้างมาก ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแคว้นนอร์ทบอนนี้ก็คือเซยาท์ทูตมหาเทพและเป็นเจ้าแคว้นนอร์ทบอน เซยาท์มียอดฝีมือมากมายอยู่ในบังคับบัญชาของเขา หนึ่งในเป็นภูตเจ็ดดาวชื่อโอดิน
เงาดำชุดยาวบินลงมาจากท้องฟ้า
“ใต้เท้า!” พวกทหารคำนับทันที
“อืม...” บุรุษชุดดำยาวพยักหน้าแล้วเดินเข้ามาข้างในอย่างเยือกเย็น
ต่อมาคนชุดดำนั้นพบกับเซยาท์
“ท่านเจ้าแคว้น, ได้เรื่องแล้ว” คนชุดดำพูดกับเซยาท์ด้วยความเคารพ เซยาท์สวมชุดยาวสีขาวและนั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้มือถือหนังสือกำลังพลิกอ่าน เมื่อได้ยินรายงานจากคนชุดดำ เขายิ้มและพยักหน้า “อืมม ดีมาก ว่าไง โอดิน,เจ้าได้ทราบข่าวอะไรเกี่ยวกับสงครามมหาพิภพขณะที่เที่ยวอยู่ข้างนอกบ้างไหม? สงครามมหาพิภพน่าจะจบไปเกือบร้อยปีแล้ว
เซยาท์เองไม่ได้มีส่วนร่วมในสงครามมหาพิภพ เนื่องจากแคว้นนอร์ทบอนอยู่ห่างไกล กว่าข่าวจะมาถึงที่นี่ก็ช้ามาก
“ข้าน้อยได้พบเจอคนมาหลายคนส่วนใหญ่มีระดับพลังทั่วไป ข้าไม่พบเจอเจ้าแคว้นหรือยอดฝีมือระดับลอร์ดทาร์ทารัสสักคนเลย ไม่ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับสงครามมหาพิภพหรือบางทีข่าวคงต้องใช้เวลานานกว่าจะมาถึงที่นี่ แต่การเดินทางครั้งนี้ ข้าน้อยกลับพบเจออีกเรื่องหนึ่ง”
“เจ้าได้ข่าวอะไร?” เซยาท์เงยหน้าขึ้นมองโอดินด้วยความสงสัย
โอดินในชุดดำมีรอยยิ้ม “ท่านเจ้าแคว้น ข่าวที่ได้ทราบกันโดยทั่วไปจากภูเขาสิ้นหวังว่ามีคนที่ได้รับผลสิ้นหวังคนที่สี่! จากการตรวจสอบของข้าทราบว่าคนผู้นี้ชื่อบิลลี่ย์”
“บิลลี่ย์? ดูเหมือนว่าลินลี่ย์จะล้มเหลวสินะ” เซยาท์หัวเราะเช่นกัน
“ภูเขาสิ้นหวังมีอันตรายเหลือเชื่อ” โอดินหัวเราะย่ามใจ “บิลลี่ย์ประสบความสำเร็จ ดังนั้นข้าคาดได้ว่าลินลี่ย์คงตายอยู่ในภูเขาสิ้นหวัง ต่อให้เขาไม่ตายเนื่องจากผ่านไปนานพันปีแล้วบางทีเขาคงออกไปจากยมโลกแล้วในตอนนี้
“ถ้าลินลี่ย์รู้ว่าอะไรดีชั่วสำหรับเขาและยอมถอยกลับ เขาอาจจะยังรอดชีวิต แต่จากที่ข้าดู เขาคงจะไม่ยอมละทิ้งเป้าหมายต้องการพบมหาเทพแน่ มีโอกาสถึงเก้าในสิบที่เขาคงตายอยู่ในภูเขาสิ้นหวัง” เซยาท์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “พอเถอะ, โอดินตอนนี้เจ้าควรจะสบายใจได้แล้ว”
ความจริงลินลี่ย์คือฝันร้ายของโอดิน
“ข้ารู้สึกโล่งใจขึ้นมากแล้ว ข้าคงไม่รบกวนท่านอีกต่อไป ท่านเจ้าแคว้น” โอดินคำนับเล็กน้อยจากนั้นออกมา
ในอากาศเหนือแคว้นนอร์ทบอน
เหมือนอย่างเคยลินลี่ย์ใช้สำนึกเทพค้นหาขณะพูดคุยตามปกติ “เรากำลังจะไปถึงสถานที่พำนักของเซยาท์เจ้าแคว้นนอร์ทบอน เซยาท์คือคนที่บอกข้าให้ไปภูเขาสิ้นหวัง บอกตามตรงข้าต้องขอบคุณเขาที่มีส่วนช่วยให้ข้าพบความสำเร็จในปัจจุบันนี้ได้ เอ๊ะ?” หน้าของลินลี่ย์เปลี่ยนไปทันที
“มีอะไรพี่ใหญ่?” บีบีที่อยู่ใกล้ๆ ถามด้วยความสงสัย
“น้องสาม! เจ้าพบโอดินหรือ?” เยลถามทันที เมื่อใดก็ตามที่เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆบนใบหน้าของลินลี่ย์ขณะที่เขากำลังค้นหา เยลจะสงสัยไว้ก่อนว่าเป็นเพราะโอดิน แต่ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่เยลคาดเดา เขาจะคาดเดาผิด
ลินลี่ย์มองดูเยล เขาอดหัวเราะลั่นไม่ได้ “โอดิน,เป็นโอดินจริงๆ! ฮ่าฮ่า ในที่สุดโอดินก็เผยตัวเอง และเขาก็อยู่กับเซยาท์ที่นั่น...” ลินลี่ย์มีประกายตาเย็นชา “ดูเหมือนว่าเซยาท์และภรรยาของเขาตั้งใจหลอกข้าในตอนนั้น”
ลินลี่ย์ไม่โง่ เมื่อพบเจอโอดินเขาตระหนักได้ว่าเซยาท์โกหกและสามารถคาดการณ์เรื่องอื่นๆ จากนั้นได้
“โอดินอยู่ในที่ของเซยาท์หรือ?” บีบีเข้าใจเช่นกัน และเขาพูดด้วยความโมโห “พี่ใหญ่,ข้าบอกท่านแล้วว่าเซยาท์และภรรยาของเขาดูเหมือนจะแปลกไปเล็กน้อยเมื่อพวกเขาพูดกับเรา พวกเขาบอกท่านให้ไปภูเขาสิ้นหวังมีความเป็นไปได้ว่าตั้งใจจะให้ท่านไปตายที่นั่น”
“เจ้ายังจำเป็นต้องขอบคุณเขาอยู่ดี” จอร์จหัวเราะ “น้องสาม, เพราะพวกเขา, เจ้าจึงได้พบโชคที่สุดแสนวิเศษนี้ทำให้เจ้าได้กลายเป็นเทพพารากอน ถ้าโอดินและพวกเขารู้ พวกเขาคงเสียใจไม่เลิกแน่”
แต่ลินลี่ย์ไม่ได้เปิดเผยความจริงที่ว่าเขาเป็นพวกวิญญาณกลายสภาพเนื่องจากเมื่อหลายคนรู้ความลับนี้ ข้อมูลจะรั่วไหลได้ง่าย เขาเพียงแต่บอกว่าเขาเป็นเทพพารากอนคนหนึ่ง
“ใช่แล้ว ข้าจำเป็นต้องขอบคุณพวกเขาจริงๆ” ลินลี่ย์กวาดสายตาไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นแค่นเสียง “ไปกันเถอะ ไปเยี่ยมเซยาท์และโอดินกัน!”
“โอดิน!” เยลขบฟันดวงตาเป็นประกาย
ทันใดนั้นลินลี่ย์ควบคุมอสูรโลหะบินไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
ภูตเจ็ดดาวภายใต้การควบคุมของเจ้าแคว้นนอร์ทบอนทั้งหมดจะมีปราสาทเป็นของตนเอง
ปัจจุบันนี้โอดินอยู่ที่ระเบียงปราสาทของเขากำลังผ่อนคลายชื่นชมมองดูทุ่งหญ้ากว้างใหญ่
“หืม?” โอดินเลิกคิ้ว มีอสูรโลหะกำลังบินเข้ามาด้วยความเร็วสูง อสูรโลหะบินเร็วเสียจนโอดินประหลาดใจ “เร็วขนาดนั้น อสูรโลหะนี้ต้องเป็นของระดับสุดยอด คนที่ควบคุมมันได้ต้องเป็นสุดยอดฝีมือเช่นกัน”
“โอดิน!”
เสียงคำรามดังกึกก้องไปทั้งบริเวณหมื่นกิโลเมตร ทหารหลายคนของแคว้นนอร์ทบอนรวมทั้งเซยาท์เองก็สะดุ้งเช่นกัน
“ใครกัน?” โอดินสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ภายในสายตาของโอดินอสูรโลหะหายไปเผยให้เห็นกลุ่มคนมีลินลี่ย์เป็นผู้นำ
“ลินลี่ย์!” หน้าของโอดินกลายเป็นหวาดผวา “ละ..ลินลี่ย์ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ยังไง? ต่อให้เขายังมีชีวิต ทำไมเขาถึงกลับมาได้?”
“ควั่บ!” กลุ่มคนบินลงมาจากท้องฟ้า
“นั่นใคร”มีเสียงหนึ่งดังขึ้น ทันใดนั้นทหารทั้งหมดบินขึ้นมาในท้องฟ้าและทหารประจำแคว้นเกินกว่าร้อยขวางหน้ากลุ่มของลินลี่ย์ไว้
“ไสหัวไป” ลินลี่ย์คำราม
ระลอกพลังมองไม่เห็นแผ่ขยายและทันใดนั้นกลุ่มทหารถูกแรงปะทะจนกระเด็นถอยหลังออกไป โชคดีที่ลินลี่ย์ยังปราณี มิฉะนั้นทหารทั้งหมดคงตายในทันที
กลุ่มของลินลี่ย์ทำเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเข้าสู่พื้นที่ไม่มีคนขณะที่พวกเขาบินลงมาโดยไม่สนใจใครอื่น ทหารทั้งหมดที่ต้องการขัดขวางกระเด็นถอยหลังไปหมด
“นี่...นี่มันพลังอะไรกัน?” โอดินตะลึง
จะฆ่าเทพชั้นสูงเป็นเรื่องง่าย แต่วิชาที่ลินลี่ย์ใช้นับว่าประหลาดจริงๆ
กลุ่มของลินลี่ย์ลอยนิ่งอยู่ในอากาศจ้องมองโอดินอย่างเยือกเย็น
“โอดิน! เจ้าจำข้าได้หรือเปล่า?” เสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธเกลียดดังเค้นผ่านไรฟัน เยลถลึงตามองโอดิน
โอดินหันไปมองและเมื่อเห็นเยล เขาหัวเราะเย็นชา “ฮ่าฮ่า... ข้านึกว่าใคร ที่แท้ประธานหอการค้าดอว์สัน นึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากกลายเป็นภูตผีแล้วเจ้ายังกลายมาเป็นเทพได้ นี่นอกเหนือจากที่ข้าคาดไว้จริงๆ เจ้ายังสามารถพบกับน้องของเจ้าได้หลังจากกลายเป็นเทพแล้ว นับว่ายากจริงๆ”
โอดินดูเหมือนไม่กลัวแม้แต่น้อย
“ลินลี่ย์” เสียงสุภาพดังขึ้น
ลินลี่ย์หันไปมอง จากในที่ไกลมีห้าร่างกำลังบินเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง ผู้นำเป็นเจ้าแคว้นนอร์ทบอนเซยาท์พร้อมกับอานิตาภรรยาของเขา อีกสามคนเป็นบริวารของเขาที่ดูเหมือนจะเป็นนักสู้ระดับภูตเจ็ดดาว
“เซยาท์” ลินลี่ย์ทักทายเขา
“ลินลี่ย์ เจ้าควรบอกให้ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังมา ข้าจะได้ไปต้อนรับเจ้า” เซยาท์พูดพลางหัวเราะ ขณะที่เขาพูดกลุ่มของเซยาท์ทั้งห้าคนบินมาอยู่ข้างตัวโอดิน ขณะที่ลินลี่ย์ไม่ขัดขวางพวกเขาแต่อย่างใด
ทั้งสองฝ่ายจ้องมองกันนิ่งในกลางอากาศมีทหารประจำแคว้นหลายคนกำลังมองดู
เป็นไปได้ว่าเมื่อเซยาท์ออกคำสั่งทหารประจำแคว้นเหล่านี้จะบุกเข้าโจมตีพร้อมกัน
“แจ้งให้ท่านรู้ล่วงหน้าน่ะหรือ?” ลินลี่ย์หัวเราะอย่างเยือกเย็น “เซยาท์! ข้าคิดว่าถ้าข้าบอกให้ท่านรู้ก่อน ท่านก็คงเอาโอดินไปซ่อน.. ฮ่าฮ่า, ข้าไม่เคยคิดเลยว่าท่านเซยาท์เจ้าแคว้นคนหนึ่งจะเล่นบทหลอกลวงข้า นี่ช่างน่าขันเกินไปแล้ว”
เซยาท์หน้าถอดสี
คำพูดของลินลี่ย์ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจมาก!
“เฮอะ,เขาเป็นแค่เพียงผู้อาวุโสเผ่ามังกรฟ้า” เซยาท์แค่นเสียงในใจ “ก่อนหน้านี้ข้ากังวลว่าลินลี่ย์จะเป็นเทพพารากอน แต่ในเมื่อเขาไม่ได้รับผลสิ้นหวังที่ภูเขาสิ้นหวัง เขาก็ย่อมไม่ใช่เทพพารากอนแน่นอน” เซยาท์กังวลถึงระดับความแข็งแกร่งของลินลี่ย์เท่านั้นเนื่องจากหน่วยข่าวกรองได้รับรายงานจากแปดตระกูลใหญ่
แต่ผลของการเดินทางไปยังภูเขาสิ้นหวังของลินลี่ย์ทำให้เซยาท์ผ่อนคลาย
ความจริง...ถ้าลินลี่ย์เป็นเทพพารากอนไปแล้ว จะได้รับผลสิ้นหวังได้นั่นเป็นเรื่องง่ายมาก
“เซยาท์! หลบไป นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับท่าน” ลินลี่ย์พูดอย่างเยือกเย็น “เป้าหมายของข้าอยู่ที่คนเดียวเท่านั้น คือเขา โอดิน” ลินลี่ย์จ้องมองโอดิน
โอดินมองดูเซยาท์
เซยาท์หัวเราะเบาๆ ขณะที่เขามองดูลินลี่ย์ “ลินลี่ย์, ข้าปฏิบัติต่อเจ้าอย่างมีมารยาททำไมเจ้าต้องทำเรื่องโง่ๆ ด้วย? โอดินคือบริวารของข้า ถ้าข้าปล่อยให้เจ้าฆ่าเขาเพียงเพราะเจ้าขอข้าอย่างนั้นข้า เซยาท์จะรักษาตำแหน่งเจ้าแคว้นไว้ได้อย่างไร? เนื่องจากเขาเป็นบริวารของข้า ข้าไม่ยอมให้เจ้าเอาตัวเขาไปแน่นอน ลินลี่ย์...ถ้าเจ้าฉลาดจงจากไปเดี๋ยวนี้ดีกว่า มิฉะนั้นถ้าเราต่างคนต่างอ้าง ก็คงไม่ใช่เรื่องดี”
เซยาท์มีความมั่นใจในตนเอง
“เซยาท์” บีบีเริ่มสบถอย่างโมโห “ครั้งก่อนเจ้าตั้งใจโกหกเราหลอกให้เราไปภูเขาสิ้นหวัง เรายังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องนั้นกับเจ้า นี่เราเห็นแก่หน้าเจ้าแล้ว เจ้าเป็นเจ้าแคว้นคนหนึ่ง เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครถึงได้วางท่าต่อหน้าพี่ใหญ้ข้า เจ้ามีคุณสมบัติทำอย่างนี้หรือ?” หลังจากมีประสบการณ์การในสงครามมหาพิภพบีบีกล่าวกับเซยาท์อย่างไม่เยแส
บีบีมีความมั่นใจว่าสามารถฆ่าเซยาท์ได้
“บังอาจ!” หน้าของเซยาท์น่าเกลียดและเขาคำราม
ทันใดนั้นหอกยาวดำปรากฏอยู่ในมือของเซยาท์และรัศมีพลังที่น่ากลัวแผ่ออกมาจากหอกโอดินที่อยู่ใกล้เมื่อเห็นเช่นนี้หัวเราะทันที
“ควั่บ!” เซยาท์ปรี่เข้าหาบีบี เห็นได้ชัดว่าคำพูดของบีบีทำให้เขาโกรธ
เรื่องที่แปลกก็คือ...
ร่างของลินลี่ย์ไม่ทันได้ขยับแต่ร่างเลือนรางไปปรากฏอยู่หน้าเซยาท์
“ปัง!” พลังเตะหวดขวางเข้าที่หน้าอกของเซยาท์ เซยาท์เหมือนกับกระสอบกระเด็นกลับไปด้านหลัง “บึ้ม!” เขากระแทกกับมุมปราสาท แล้วร่วงตกลงกับพื้นขณะนั้นร่างของลินลี่ย์ค่อยๆ เลือนหาย ขณะที่ร่างเลือนรางกลายเป็นร่างจริงของลินลี่ย์
โอดิน ภูตเจ็ดดาวคนอื่นท่านหญิงอานิตาและทหารประจำแคว้นที่มองดูตกตะลึงกันหมด
“อั้ก” เซยาท์กระอักโลหิตเต็มปาก เขานอนนิ่งอยู่กับพื้นจ้องมองลินลี่ย์อย่างหวาดกลัว
นี่ความเร็วระดับไหนกัน?
ลินลี่ย์ยืนนิ่งกับที่ในกลางอากาศมองลงมาที่เซยาท์ที่อ่อนกำลัง เขาพูดอย่างเยือกเย็น “ทำตัวดีๆ และอยู่เฉยๆ ตรงนั้นดีกว่า ถ้าท่านผยองลำพองตัวเองอีก ข้าจะไม่เกรงใจอีกต่อไป” หลังจากพูดเสร็จ ลินลี่ย์หันไปจ้องมองโอดินด้วยสายตาเย็นชา
หน้าของโอดินซีดเผือด และร่างของเขาเริ่มสั่น